ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. พัทยา โทร. 0 3842 7667, 0 3842 8750 Call Center 1337
http://www.tourismthailand.org/pattaya
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ศูนย์การค้ารอยัลการ์เด้นพลาซ่า สถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์ พัทยา ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ หลายส่วน ปกติเมื่อเดินทางมาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้จะมาได้ 2 ทาง คือถนนชายหาดพัทยา กับถนนพัทยาสายสอง ถ้ามาทางที่ 2 จะเห็นวิวนี้เป็นหน้าห้าง จุดเด่นคือเครื่องบินที่พุ่งเข้าชนตึกของห้างที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นที่ริบลี่ส์อยู่ แต่ถ้ามาถนนเลียบหาดพัทยาจะมองไม่เห็นเครื่องบินนี้ ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มีลานจอดรถชั้นใต้ดินซึ่งเป็นที่สะดวกที่สุด แต่ถ้ามารถโดยสารก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถ
รูปปั้นมนุษย์ เมื่อเข้ามาในห้างสิ่งหนึ่งที่เห็นคือรูปปั้นตั้งอยู่กลางทางเดิน แต่มองไปมองมารูปปั้นนี้กลับขยับตัวได้ เลยถึงบางอ้อ ที่เห็นอยู่นี้เป็นคนนั่นเอง นานๆ ทีแกจะขยับตัวบ้างบางทีป้องกันเหน็บกิน แต่หลังจากนั้นแกก็นั่งนิ่งอยู่นานจนคนผ่านไปผ่านมาคิดว่าเป็นรูปปั้นบางทีแกก็ขยับตัวให้คนที่มามุงตกใจเล่น เด็กๆ ชอบกันใหญ่
ริบลี่ส์ฮอนเต็ดแอดเวนเจอร์ Ripley s Huanted Adventure เป็นโกดังผีสิง ตามความเป็นมาแล้วโกดังผีสิงนี้มีอยู่จริงมีเรื่องเล่าลือกันว่าคนที่เข้าไปในโกดังแห่งนี้จะไม่ได้ออกมาอีก หลังจากนั้นก็มีการรื้อถอนลง แต่ริบลี่ส์เอามาจำลองเป็นบ้านผีสิง ซึ่งเต็มไปด้วยความน่ากลัวและสยองขวัญ แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมกันมาก โกดังผีสิงเป็นสิ่งแรกที่จะได้เห็นอยู่ด้านซ้ายมือของบริเวณริบลี่ส์ทั้งหมดซึ่งมีอยู่ 5 โซนด้วยกัน พนักงานที่นี่ล้วนแต่งตัวเป็นผีรอลูกค้าอยู่ที่เคาน์เตอร์ ส่วนบริเวณรอบๆ มีโลงศพกับรถม้าเก่าๆ ที่บรรทุกโลงศพเอาไว้ บางทีพอเดินไปใกล้ๆ ฝาโลงศพก็เปิดออกมา ทำเอาตกใจได้ไม่น้อยเหมือนกัน
ความสยองที่มาต้อนรับถึงที่ ผีเหล่านี้จะยืนเรียกความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาและชักชวนเข้าโกดังผีสิง ซึ่งเราสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับบรรดาผีๆ เหล่านี้ได้ด้วย
ถ่ายรูปกับผีที่ริบลี่ส์ ภาพตัวอย่างการถ่ายรูปที่ระลึกในการมาเยือนโกดังผีสิง Ripley s Huanted Adventure ของเราเมื่อหลายปีก่อน หลังจากที่ผมได้เดินทางไปที่นี่อีกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้รูปมาเรียบเรียงใหม่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
พิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์เชื่อหรือไม่ เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ต้นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกา หนึ่งเดียวที่รวบรวมความมหัศจรรย์จากทั่วทุกมุมโลก ที่มีทั้งความลี้ลับพิศดาร ความงดงามที่น่าประทับใจ สิ่งที่เราเห็นอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ถูกรวบรวมไว้โดย Mr.Robert Ripleys
ประวัติของ Mr.Robert Ripleys
ตลอดชั่วชีวิตโรเบิร์ต ริบลีส์ หลงใหลอยู่กับการเดินทาง ตลอดอาชีพอยู่เขาเหยียบมาแล้วถึง 198 ประเทศเป็นระยะทางเท่ากับการเดินทางรอบโลกถึง 18 รอบ ในปี ค.ศ. 1920 ริบลีส์ก็เริ่มต้นการเดินทางอันยากลำบากข้ามทวีปยุโรป, สองปีต่อมาเขาท่องอเมริกากลางและอเมริกาใต้แล้วบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้พบเห็นลงในคอลัมน์ประจำให้กับหนังสือต่างๆ ชื่อคอลัมน์ท่องทั่วอเมริกาใต้ (Rambles Around South America) เขาเยือนโลกตะวันออกในปี ค.ศ. 1925 โดยเดินทางผ่านญี่ปุ่น มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เมื่อครั้งอยู่ในประเทศจีน ริบลีส์รู้สึกราวกับว่าอยู่ที่บ้านตัวเอง เขาพบว่าประเพณีจีนนั้นชวนหลงไหล เขาจึงซึมซับเอาประเพณีจีนเหล่านั้นไว้ เมื่อเขาต้องรับรองแขก เขามักจะต้อนรับแขกของเขาในชุดพื้นเมืองตะวันออกเสมอ ริบลีส์นั้นยังมักจัดงานเลี้ยงอันพิถีพิถัน ซึ่งเขาจะอธิบายถึงรายละเอียดของอาหารทุกๆจานในแต่ละชุดโดยละเอียดมิหนำซ้ำมีอยู่ช่วงหนึ่งเขาถึงกับเซ็นชื่อในภาพการ์ตูนของเขาให้ดูคล้ายภาษาจีนว่า “ริบ หลี” (Rip Li) อีกด้วย!
ริบลีส์ได้รับสมญานามว่าเป็น “มาร์โคโปโลยุคใหม่” การเดินทางของเขานั้นนำพาเขาไปยังอาฟริกาเหนือ โมร็อคโค นิวซีแลนด์ ทิเบต นิวกินี และรัสเซีย ในการเดินทางครั้งหนึ่งเขาสามารถไปได้ถึงสองทวีป ซึ่งเป็นระยะทางทั้งหมดมากกว่า 24,000 ไมล์ จากนิวยอร์กถึงไคโรแล้วย้อนกลับมา ทั้งนี้เพื่อเสาะหาสิ่งเหลือเชื่อนานาการ เดินทางทั้งหมดรวมจาก 15,000 ไมล์ทางอากาศ 8,000 ไมล์ทางเรือ และกว่า 1,000 ไมล์ทางอูฐ ลา และม้า
ในปี ค.ศ. 1929 สำนักพิมพ์ไซม่อนและชูสเตอร์รวมเล่มการ์ตูนในยุดแรกๆ ของริบลีส์ที่เป็นเรื่องแปลกประหลาดต่างๆ ที่เขาพบเจอระหว่างการเดินทางของเขา และหนังสือ “เชื่อหรือไม่! โดยริบลีส์” (Believe It or Not! by Ripley) นี้ก็ขายได้มากกว่าห้าแสนเล่มและติดอันดับหนังสือขายดีนานหลายเดือนอีกด้วย ในปัจจุบัน ถ้าหากนำหนังสือเชื่อหรือไม่! ที่เคยตีพิมพ์มาแล้วทั้งหมดวางซ้อนกันแล้วล่ะก็จำนวนหนังสือที่ขายได้ทั้งหมดคงสูงกว่าตึกเอมไพร์สเตทกว่าร้อยเท่าเป็นแน่!
ในปี ค.ศ. 1929 หลังจากที่เซ็นสัญญาเป็นนักเขียนการ์ตูนอิสระให้กับหนังสือคิง ฟีเซอร์สในเครือหนังสือพิมพ์ของเฮิร์ส (เจ้าของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่งในอเมริกา) เงินเดือนของริบลีส์ก็พุ่งขึ้นจาก 10,000 ดอลล่าร์เป็น 100,000 ดอลล่าร์ต่อปี ตำนานได้กำเนิดขึ้นแล้ว! ในด้านความนิยมอย่างสูงนั้น “เชื่อหรือไม่!” ปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์กว่า 300 ฉบับทั่วโลก ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆถึง 17 ภาษาและมีผู้อ่านมากถึง 80 ล้านคน!
http://www.ripleysthailand.com/
บางส่วนของพิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า พิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์นั้นได้แบ่งเอาสิ่งของที่มีอยู่มาจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์หลายแห่งทั่วโลกและเป็นความโชคดีที่มีพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ในเมืองไทย แม้ว่าจะแบ่งสิ่งของไปตามเมืองต่างๆ แต่สิ่งของที่นำมาแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์ที่พัทยานั้นก็ยังมีจำนวนมากเกินกว่าที่จะเอามาให้ดูได้หมดในหน้าเดียว เมื่อเข้ามาในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แล้วก็เดินชมสิ่งของต่างๆ ที่แต่ละคนสนใจ วัตถุที่แสดงอยู่ในนี้จะมีข้อมูลความเป็นมาให้เราได้อ่านประกอบเป็นการหาความรู้ วัตถุบางอย่างที่แสดงอยู่นี้แทบไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงในโลก หรือแม้แต่ประวัติของ Mr.Robert Ripleys เองก็เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าเป็นความจริง ที่นี่จึงถูกตั้งชื่อว่า ริบลี่ส์ เชื่อหรือไม่ (Ripleys Believe it or not)
ของที่เราเห็นอยู่ในภาพนี้เป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นจากส่วนของอาวุธที่ใช้ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1
ริบลี่ส์วัตถุจิ๋ว บางสิ่งบางอย่างในพิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์ เป็นวัตถุที่ถูกสร้างขึ้นมามีขนาดเล็กที่สุดในโลก ของเหล่านี้จะถูกแสดงไว้ในตู้กระจก โดยจะมีแว่นขยายติดไว้ให้ดูกันชัดๆ นอกจากนี้ยังมีหนังสือจิ๋ว ที่เล็กขนาดไข่ของจิ้งจก ต้องใช้แว่นขยายในการอ่านตัวหนังสือ จนไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถเขียนตัวหนังสือลงบนวัตถุที่เล็กขนาดนั้นได้
ไข่นกฮัมมิ่งเบิร์ดผึ้งของคิวบา สิ่งที่เราเห็นอยู่นี้เป็นไข่นกชนิดหนึ่ง หากไม่ได้ไปเห็นด้วยตัวเองว่ามันมีขนาดประมาณหัวเข็มหมุดก็คงยากที่จะเชื่อว่ามันคือไข่นก และมีอยู่จริงในโลกของเรา ที่เห็นกลมๆ นี้เป็นขนาดเทียบกับรังของมันซึ่งเล็กกว่าช้อนชา
ปลามีขน ปลาตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเราที่มีให้ดูได้เฉพาะที่ริบลี่ส์ (ผมว่าจะไปหาดูตัวจริงแบบเป็นๆ มันคงยากมากนะครับ)
มนุษย์ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่เห็นยืนอยู่นี้เป็นหุ่นจำลองของมนุษย์ผู้หนึ่งที่ถูกบันทึกลงในเรื่องราวของ Mr.Robert Ripleys ชายผู้นี้มีความสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยผมให้สมาชิกคนหนึ่งเดินเข้าไปอ่านข้อมูลเทียบส่วนสูงกับหุ่นมาให้ดูว่าสูงขนาดไหน
เรื่องราวมหัศจรรย์ในพิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์ ต่อด้วยสิ่งแปลกๆ อีกนิดหน่อย เรื่องเกี่ยวกับฟาโรห์ มีวัตถุมากมายหลายอย่างแสดงอยู่ในตู้นี้ สิ่งหนึ่งคือพระศอจำลองของฟาโรห์องค์หนึ่ง อีกภาพหนึ่งเป็นม้า 3 ขา มีขาหน้าข้างเดียวตั้งแต่เกิด เมื่อตายลง Mr.Robert Ripleys ได้ซื้อมาสตั๊ฟไว้
เก้าอี้ยักษ์กับตราชั่งน้ำหนักบนดวงจันทร์ ภาพของแปลกๆ อีกบางส่วนที่พอจะนำมาลงให้ดูกันได้จากทั้งหมดร่วมๆ 1,000 ชิ้น ได้แก่เก้าอี้ยักษ์ที่ขนาดคนปกตินั่งได้ 3 คน อีกภาพหนึ่งเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักซึ่งจะแสดงน้ำหนักของเราถ้าหากว่าเราไปยืนชั่งน้ำหนักบนดวงจันทร์ ตัวอย่างเช่นคนหนัก 45 กิโลกรัม ถ้าไปชั่งน้ำหนักบนดวงจันทร์อาจจะเหลือน้ำหนักไม่กี่ขีด ซึ่งเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงของผิวดวงจันทร์มีค่าน้อยกว่าโลกมากนั่นเอง
สะพานข้ามโซน ภาพซ้าย เป็นสะพานสำหรับเดินข้ามโซนจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งยังมีของแปลกๆ ให้เราได้ดูได้เรียนรู้ศึกษาอีกมากมาย ส่วนภาพขวากะโหลกอันน่ากลัวแบบนี้ก็มีเรื่องราวความเป็นมาให้อ่าน แต่ดูน่ากลัวไปหน่อยสำหรับพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ เพราะความเชื่อบางอย่างที่ Mr.Robert Ripleys ได้ผ่านไปเห็นด้วยตัวเองนั้นค่อนข้างน่ากลัว อย่างเช่นการย่อส่วนศรีษะมนุษย์เก็บเอาไว้ เป็นต้น
หัวเครื่องบินริบลี่ส์ ส่วนหางของเครื่องบินที่เราเห็นอยู่ด้านนอกของศูนย์การค้า รอยัล การ์เด้น พลาซ่า เมื่อเข้ามาด้านในก็จะเห็นส่วนหัวของเครื่องบินลำเดียวกัน นอกจากจะทำให้ดูเหมือนพุ่งชนตึกแล้ว ข้างในก็มีหัวเครื่องทะลุเข้ามาจริงๆ อย่างที่เห็น
สิ่งเหลือเชื่อในพิพิธภัณฑ์ริบลี่ส์ ยังมีสิ่งของ สัตว์ และอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่อาจกล่าวบรรยายได้หมด เพราะของที่ ริบลี่ส์ได้สะสมไว้ตลอดชีวิตมีจำนวนมากมายเหลือเกิน อย่างภาพบนซ้ายก็เป็นหน้ากากที่ใช้ในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์เผ่าหนึ่ง อีกภาพเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์กระป๋อง ที่ทำมาจากกระป๋องหลากหลายชนิดหลายขนาดเรียงกันอยู่เป็นจำนวนมาก อีกภาพเป็นรถโบราณที่สร้างขึ้นจากไม้ทั้งคันอย่างสวยงาม
ไททานิคก้านไม้ขีด อีกภาพที่แสดงความมหัศจรรย์ของมนุษย์คือการสร้างเรือจำลองลักษณะคล้ายเรื่อไททานิค ทำจากก้านไม้ขีดจำนวนมาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเกิน 1,000,000 (หนึ่งล้านก้าน) แล้วยังทำออกมาได้อย่างสวยงาม เห็นรายละเอียดหลายๆ ส่วนของเรืออย่างไม่น่าเชื่อ
สุดท้ายจากริบลี่ส์ ภาพสุดท้ายนี้เป็นภาพที่มองลงมาจากชั้น 2 ของห้าง จะเห็นชั้นล่างมีลานน้ำพุของห้าง มีโลโกของริบรีส์ มีเด็กๆ ไปวิ่งเล่นลอดสายน้ำพุที่พุ่งเป็นเส้นโค้งไปลงในรูอีกด้านหนึ่งอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ ริบลี่ส์ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกได้แก่ เขาวงกต ซึ่งเป็นห้องที่ล้อมรอบด้วยกระจก เปิดไฟสลัวๆ ให้เราเข้าไปแล้วหาทางออก จับเวลาแข่งกันอย่างสนุกสนาน ภายในเปิดไฟแสงสีสวยงามสะท้อนไปสะท้อนมาในห้องกระจก เป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจมากๆ กว่าจะหาทางออกมากันได้ก็ใช้เวลาพอสมควร ภายในห้องนั้นห้ามถ่ายรูปเลยไม่มีรูปมาให้ดู อีกอย่างหนึ่งคือโรงหนัง 4 มิติ เก้าอี้โยกเคลื่อนไหวไปตามเรื่องราวของหนังที่เป็นภาพ 3 มิติ อันจะต้องใช้แว่น 3 มิติด้วย ในนั้นเองก็ห้ามถ่ายรูป แต่มีความสนุกตื่นเต้นมาก จบการนำเที่ยวริบลี่ส์ เวิลด์ ออฟ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ไว้เท่านี้ สรุปว่าสนุกมันฮาได้สาระดีๆ เพียบคุ้มกับค่าบัตรแน่นอน หากสนใจซื้อบัตรรวมเข้าได้ทั้งหมด จะได้ส่วนลดด้วยประหยัดได้หลายบาททีเดียว
""
Preechaya Parijchat
2017-10-07 14:17:39
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ