เขื่อนกระเสียว

เขื่อนกระเสียว อยู่ที่ตำบลด่านช้าง ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยกระเสียว ของกรมชลประทาน เดิมพื้นที่อำเภอสองพี่น้องมีน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี จนเมื่อปี พ.ศ.2523 สมัย ฯพณฯบรรหาร ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้พิจารณาเห็นว่า เขื่อนกระเสียว รับน้ำไม่ได้มาก จึงให้กรมชลประทานสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เขื่อนกระเสียว เพื่อป้องกันน้ำท่วม เขื่อนกระเสียว เป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำสร้างกั้นลำห้วยกระเสียว ยาว 4,250 เมตร สูง 32.50 เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้สูงสุด 240 ล้านลูกบาศก์เมตร นับเป็นเขื่อนดินที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทยและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปชมทิวทัศน์บริเวณสันเขื่อนต้องเดินขึ้นบันไดจากลานจอดรถด้านล่าง เมื่อขึ้นไปถึงจะมองเห็นทิวทัศน์กว้างไกลสุดสายตาถึงเขาพุเตย มีร้านอาหารบริการใกล้ลานจอดรถ ในปี 2558 เป็นปีครบรอบ 40 ปี ของการเสด็จพระราชดำเนินเยือน กิ่งอำเภอด่านช้าง เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2518 เพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจประกอบพิธีเปิดป้ายอาคารเรียนโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๓ พระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน และเสด็จทอดพระเนตรโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรีร่วมกับอำเภอด่านช้างองค์การบริหารส่วนจขังหวัดสุพรรณบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสุพรรณบุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่ววยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดงานเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อ "งาน ตามรอยเสด็จด่านช้าง ๔๐ ปี พระบารมีแผ่ไพศาล"

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เขื่อนกระเสียว โทร. 0 3559 5120

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สุพรรณบุรี โทร.035 525 880
Facebook tat_suphanburi

แก้ไขล่าสุด 0000-00-00 00:00:00 ผู้ชม 57877

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

จากตัวเมืองด่านช้าง เดินทางไม่กี่นาทีในการที่จะมายืนอยู่ที่สันเขื่อนกระเสียว บริเวณนี้จะเปิด ปิดเป็นเวลา คือประมาณ 6 โมงเย็น เท่านั้น พอให้มีเวลาสำหรับคนมาออกกำลังกายยามเย็น เช่นการวิ่ง การเดิน การปั่นจักรยาน แล้วชมพระอาทิตย์ตกก่อนที่จะปิด

พลับพลาที่ประทับ เป็นพลับพลาที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเยือนที่นี่แต่ภายหลังได้มีการปรับปรุงขึ้นใหม่ มอกจากสันเขื่อนจะเห็นพลับพลาเด่นตระหง่านบนเขา สามารถขึ้นไปชมได้

พลับพลาที่ประทับ เดิมทีสร้างด้วยไม้ไผ่แบบเรียบง่าย ต่อมาปรับปรุงเป็นอาคารถาวรเมื่อปี 2554

ภายในจัดเป็นห้องสำหรับถวายเครื่องราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ภาพประวัติศาสตร์ เสด็จเยือนเขื่อนกระเสียว

มองจากพลับพลาที่ประทับ บนยอดเขาลงไปจะเห็นแนวสันเขื่อนที่ยาว 4.25 กิโลเมตร ในช่วงฤดูแล้งระดับน้ำลดลงไปมาก แต่ถ้าเทียบกับเขื่อนอื่นๆ ในปีนี้ นับว่าเขื่อนกระเสียวยังมีน้ำมากกว่าเขื่อนอื่นๆ ที่เป็นข่าว

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆ บริเวณเขื่อนจะใช้ประโยชน์ของน้ำในอ่างเก็บน้ำในการประกอบอาชีพ เลี้ยงปลาในกระชัง จับปลา อุปกรณ์ที่ชาวบ้านที่นี่ใช้กันก็คือยอ เป็นยอที่ติดตั้งบนเรือออกหาปลาในช่วงเช้าๆ การยกยอบนเรือเป็นการหาปลาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้านด่านช้าง โดยเฉพาะที่อาศัยในตำบลห้วยขมิ้น ภาพที่แตกต่างจากการหาปลาของที่อื่นๆ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ช่างภาพหลายคนเดินทางมาที่นี่ เดี๋ยวเราจะพาไปชมกัน

แนวสันเขื่อนและรอบๆ อ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว มีเส้นทางปั่นจักรยาน เพิ่งจะมีการจัดโครงการจักรยานเพื่อสุขภาพไปเมื่อไม่นานมานี้ จากสันเขื่อนขับรถข้ามไปอีกด้านหนึ่งแล้วไปตามเส้นทางสู่หาดทรายท้ายเขื่อนกระเสียว ผ่านทางวัดทับกระดาษ ไปไม่ไกลมากแต่ทางเป็นลูกรัง ค่อยๆ ไป

ใช้เวลา 25 นาที ขับรถกระดืบๆ ตอนเจอถนนลูกรัง พอพ้นลูกรังก็จะมีทางราดยางสลับกันไป มาถึงบริเวณหาดท้ายเขื่อนกระเสียว จะมีร้านค้ามาเปิดขายอาหารของกิน เครื่องดื่มเรียงเป็นแถว ยาวเป็นกิโล รวมทั้งหมด 127 ร้านค้า ส่วนริมหาดทรายจะมีรถกระบะของคนมาเที่ยวจอดเรียงเป็นแถวเหมือนกัน ส่วนมากปูเสื่อนั่งกินกันอยู่ท้ายรถ เด็กๆ ลงไปเล่นน้ำได้อย่างสบายใจเพราะหาดมันลาดลงไปไม่ลึกมาก มีร้านห่วงยางเสื้อชูชีพให้เช่า ควบคุมดูแลโดยกองอำนวยการที่สร้างเป็นกระท่อมง่ายๆ อยู่ตรงกลาง สำหรับประกาศข่าวสารและดูแลคนมาเที่ยว ดูแลคนมาขายของให้เป็นไปตามระเบียบที่ตกลงกัน รักษาความสะอาดเรียบร้อยของหาดเป็นอย่างดี

หาดกระเสียว ค้นพบโดยบังเอิญตอนที่ชาวบ้านมาใช้พื้นที่ดินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาในหน้าแล้งเพื่อปลูกข้าวโพด พอลงไปตักน้ำเห็นว่าดินตรงนี้เป็นหาดทรายไม่ใช่โคลนหรือเลนเหมือนกับจุดอื่นๆ รอบเขื่อนกระเสียว จากนั้นมาก็เริ่มมีคนมาลงเล่นน้ำข่าวหาดกระเสียวค่อยๆ กระจายออกไปคนก็มาเล่นน้ำกันมากขึ้นๆ ตอนนี้มีคนมาเที่ยวประมาณ 3000 คนต่อวันในช่วงเสาร์-อาทิตย์ เลยทำให้มีคนมาเปิดร้านขายของมากเป็นร้อยร้านเหมือนที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ โดยเฉพาะโครงการจักรยานเพื่อสุขภาพรอบเขื่อนกระเสียวเมื่อไม่นานมานี้ของ อาจารย์วิเชียร กัณหรัตนชัย เลยทำให้คนรู้จักหาดแห่งนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เด็กเล่นน้ำ

นอกเหนือจากการใช้ประโยชน์เป็นที่เที่ยว และเป็นสายน้ำหล่อเลี้ยงพืชผักของคนแถวนี้แล้ว เขื่อนกระเสียวยังเป็นแหล่งจับปลาของชาวบ้านด้วยการยกยอ ยอที่ใช้เป็นยอที่ประยุกต์ผสมผสานยอขนาดใหญ่ของทางใต้ เข้ากับเรือหางยาว ยอแบบนี้มีคนทำมาขายส่วนใหญ่มาจากพิจิตร ประกอบเข้ากับเรือที่ดัดแปลงเพิ่มถังด้านข้างเรือเพื่อป้องกันเรือพลิกเวลาโดนลมหรือเวลายกยอ การยกยอของที่นี่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่อื่น เป็นของแปลกที่หาดูได้ที่นี่เท่านั้น ชาวบ้านจะออกเรือไปยกยอช่วงเวลาเช้าจนถึงเที่ยง วันไหนที่ลมแรงจะยกยอไม่ได้ เป็นวิถีชีวิตที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน

ยกยอเขื่อนกระเสียว หนึ่งเดียวของไทย ปลาที่อาศัยอยู่ในเขื่อนกระเสียวมีหลายชนิด ปลาที่ถูกจับได้โดยการยกยอส่วนมากเป็นปลานิล มีตั้งแต่ตัวเท่าฝ่ามือไปจนถึงขนาดเกือบ 2 กิโลกรัม ถือว่าเป็นปลาขนาดใหญ่มาก ยอของชาวบ้านจะใช้ขนาดตาข่ายประมาณ 8 เซนติเมตร ไม่ติดปลาเล็ก ชาวบ้านเล่าว่าแต่ละวันที่มายกยอบางวันได้ปลามากถึง 30 กิโลกรัม บางวันที่ไม่ได้ก็ไม่ได้เลย แต่ก็เป็นการเลี้ยงชีพในช่วงระหว่างไม่มีฝนเพาะปลูกทำนาอะไรไม่ได้ รายได้อยู่ในเกณฑ์ดี และมีการปล่อยปลาลงในอ่างเก็บน้ำทุกปี จึงทำให้ชีวิตไม่ลำบากมากมายอะไร

วิวสวย เขื่อนกระเสียว ในตอนเย็นๆ ที่ท้ายเขื่อนเป็นจุดที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ตก ทุ่งหญ้าท้ายเขื่อน และแนวภูเขาของอุทยานแห่งชาติพุเตยเป็นฉากที่สวยมาก พื้นที่ที่โล่งทำให้มีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา เหมาะสำหรับการพักผ่อนหาดท้ายเขื่อนกระเสียวยังมีภาพมากมายและเรื่องราวอีกเยอะที่เราต้องขอแยกเขียนไว้อีกหน้าหนึ่ง ตามไปอ่านกันได้ที่ หาดกระเสียว

วิวสวย เขื่อนกระเสียว ภาพยามเย็นของพระอาทิตย์ตกจากบนสันเขื่อนกระเสียว ที่เราขับรถออกจากหาดกลับมาที่สันเขื่อนเพื่อให้ทันเก็บภาพนี้พอดี ช่วงเวลานี้บนสันเขื่อนตรงป้ายเขื่อนจะมีคนมาเยอะมากมารอถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก มาออกกำลังกาย มาเดินเล่นพักผ่อน แต่ช่วงกลางๆ สันเขื่อนคนไม่ค่อยมี หามุมถ่ายรูปได้สะดวกกว่า

พอถ่ายพระอาทิตย์ตกเสร็จแล้ว ก็เลยเดินทางมาหาอะไรกินก่อนที่จะเดินทางเข้าที่พัก ร้านอาหารแนะนำใกล้ๆ เขื่อนกระเสียว คงเป็นร้านไหนไปไม่ได้นอกจากร้านสวัสดิการเขื่อนกระเสียว Coffee 47 ที่อยู่ใกล้ๆ สันเขื่อนขับรถมาแป๊บเดียวถึง ถ้าไม่เข้าร้านนี้จะเจอร้านอาหารอีกทีก็คงใกล้ๆ ตัวเมืองด่านช้างโน่นเลย ที่สำคัญ หลังร้านมองลงไปวิวก็สวยไม่เบา อาหารอร่อยมีเพลงฟังเบาๆ มีทั้งโต๊ะในห้องแอร์และโต๊ะสำหรับอากาศบริสุทธิ์ของธรรมชาติ จะว่าไปแล้ว พระอาทิตย์ตกที่เขื่อนกระเสียวคราวหน้าเราคงจะมารอที่จุดนี้มากกว่าบนสันเขื่อนเพราะมีกระชังและเทือกเขาสลับซับซ้อนสวยดี

Hug มนุษย์ตัวเขียว เป็นนายแบบยืนจังก้ารอแฟนๆ มาถ่ายรูปอยู่ด้านหลังของร้านสวัสดิการเขื่อนกระเสียวระหว่างรออาหาร

ปิดท้ายด้วยบรรยากาศของร้าน ตอนนี้ขอเวลาไปจัดการกับอาหารเย็นอร่อยๆ กันก่อน ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ตามไปที่รีวิวร้านสวัสดีการเขื่อนกระเสียว ร้านอาหารแนะนำที่ทัวร์ออนคอนเฟิร์มกันต่อที่ลิงค์นี้เลย ร้านสวัสดิการเขื่อนกระเสียว Coffee 47

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี มา ณ โอกาสนี้ครับ

เล่ามาตั้งนาน ปิดท้ายด้วยแผนที่จากสุพรรณบุรีไปเขื่อนกระเสียวสักหน่อยครับ 105 กิโลเมตร คุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอนสำหรับคนชอบพักผ่อนริมน้ำ โดยเฉพาะน้ำจืด

แผนที่เขื่อนกระเสียว