อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ (ทุ่งหันตรา) จุดกึ่งกลางประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องปางประทานพร สร้างขึ้นในวาระพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ผู้ชนะกิเลสและหมู่มาร เบื้องหลังองค์พระสร้างพระบรมรูปลักษณะนูนสูง เมื่อครั้งทรงถือเคียวเกี่ยวข้าว ประกอบด้วยตราสัญลักษณ์ในวโรกาสต่างๆ 9 สัญลักษณ์ ได้แก่
สัญลักษณ์ครบรอบ 25 ปี แห่งการครองราชย์ (พ.ศ.2514)
สัญลักษณ์มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ (พ.ศ.2530)
สัญลักษณ์ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย (พ.ศ.2531)
สัญลักษณ์ครบรอบ 50 ปี แห่งการครองราชย์ (พ.ศ.2539)
พระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ ๙
สัญลักษณ์มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ (พ.ศ.2542)
สัญลักษณ์ครบรอบ 60 ปี แห่งการครองราชย์ (พ.ศ.2549)
สัญลักษณ์มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา (พ.ศ.2550)
สัญลักษณ์มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ (พ.ศ.2554)
รอบบริเวณมีการจำลองสถานที่สำคัญต่างๆ ในพระนครศรีอยุธยา เช่นวัดพระศรีสรรเพชญ์ สถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี ฯลฯ บรรยากาศหนองน้ำ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะชาวหันตรา จะมาวิ่งออกกำลังกายทุกเช้าเย็น ปัจจุบันถนนทางเข้าอยู่ในระหว่างการปรับปรุง
ประวัติหันตรา
"หันตรา" เป็นชื่อทุ่งนาหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในเอกสารทางประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า เป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและพระราชโอรสสมเด็จเจ้าสามพระยา คราวไปทำศึกเขมร พระมเหสีออกส่งเสร็จไปทัพเกิดประชวรพระครรภ์ จึงประสูติกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ณ พลับพลาที่ทุ่งนาแห่งนี้
อีกทั้ง ทุ่งหันตราในแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักพรรดิ์ พระเจ้าหงสาวดียกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาจักพรรดิ์ทรงโปรดเกล้าให้สมเด็จพระมหาจักพรรดิ์ พระเจ้าหงสาวดียกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาจักพรรดิ์ทรงโปรดเกล้าให้สมเด็จเจ้าพระยามหาเสนาถือพลหมื่นหนึ่ง พลใส่เสื้อเขียวหมวกเขียวไปตั้งค่ายรักษาพระนครที่บ้านดอกไม้ป้อมท้องนาหันตรา เพื่อสกัดทัพหงสาวดีของพระมหาอุปราช (บุเรงนอง) ที่ยกทัพมาทางแม่น้ำป่าสัก ได้เข้าตีค่ายเจ้าพระยามหาเสนาที่ทุ่งหันตรา เมื่อวันอังคาร เดือนสี่ แรมสามค่ำ ทัพเจ้าพระยามหาเสนาแตกร่นหนีลงคลองหันตราข้ามไปฟากวัดมเหยงคณ์ กรุงศรีอยุธยาเพลี้ยงพล้ำเพราะพม่า จับพระมหาธรรมราชาได้โดยฝ่ายไทยขอเจรจาสงบศีก ซึ่งต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้ใช้ทุ่งนาดังกล่าวเป็นที่ซ้อมรบของทหารมาโดยตลอดจนเรียกขานว่าทุ่งหาญกล้า นอกจากนั้นยังใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของราชการสมัยกรุงศรีอยุธยา เช่น เป็นสถานที่ประกอบพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญและนวดข้าวของหลวง พระมหากษัตริย์เสด็จมาเป็นประธานและประกอบพระราชพิธีด้วยพระองค์เอง ดังเอกสารว่า
"...ครั้นถึงหน้านวดข้าวก็เสด็จไปนวดข้าวที่หันตรานาหลวง ก็เล่นเป็นการสนุกหนักหนา ทั่งวิ่งวัววิ่งควายและพายเรือ เสือกับช้างให้สู้กันเล่นสนุกทั่วกันทุกฤดู ครั้นนวดข้าวแล้วล้อบ้าง จึงเหล่าพระราชบุตรและธิดาพระสนมกำนัลพร้อมกันเข้าก็ชันรันแทะเข้ามาในวัง เอาพวนข้าวทำฉัตรใหญ่ แลยาคูไปถวายพระราชาคณะที่อยู่อารามหลวงเป็นนิจศีลทุกปีมิได้ขาด..."
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุ่งหันตราในอดีตเป็นสถานที่สำคัญและเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของกรุงศรีอยุธยามาตั้งแต่โบราณซึ่งในสมัยต่อมาทางการได้มีการแบ่งเขตการปกครอง แยกหมู่บ้าน ตำบล และเป็นชื่อตำบลหันตรามาจนถึงสมัยปัจจุบันนี้ สำหรับองค์การบริหารส่วนตำบลหันตรา ได้รับการยกฐานะจากสภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2540
การเดินทาง
อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ (ทุ่งหันตรา) มีทางแยกจากถนนสายเอเซีย เลี้ยวซ้ายมือ (3053) ตรงปากทางแยกมีซุ้มขนาดใหญ่สังเกตุได้ชัดเจน ทางแยกห่างจากทางต่างระดับเข้าเมืองอยุธยาประมาณ 6.5 กิโลเมตร เข้าไปเจอสี่แยกเลี้ยวซ้าย (3061) ตรงไปถึงหน้าประตูทางเข้าทุ่งหันตรา
ข้อมูลเพิ่มเติม:สายตรง อบต.หันตรา 035-321050, 035-322693
แก้ไขล่าสุด 2018-10-25 16:24:08 ผู้ชม 20064
การเดินทาง
แผนที่
ที่เที่ยว/ที่พัก
กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ
พระบรมฉายาลักษณ์ จากถนนสายเอเซียเลี้ยวเข้ามาตามทางแยก อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี เรียกกันสั้นๆ ว่าทุ่งหันตรา ถนนหนทางแม้ว่ายังไม่เสร็จเรียบร้อยแต่สถานที่แห่งนี้ก็มีชาวบ้านทั้งใกล้และไกลเข้ามาเยี่ยมชมพักผ่อน ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ลานจอดรถอยู่ด้านหนึ่ง มองเข้ามาจะเห็นบริเวณกว้างขวางมีพระพุทธรูปประทับยืนอยู่บนฐานวงกลมมีบันไดสูงไล่ระดับกันขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ก่อนที่จะเดินไปตรงนั้นเราจะเห็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บริเวณลานกว้างนี้มักจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการ เดิน หรือวิ่ง ออกกำลังกาย
อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา) บริเวณทั้งหมดกว้างมาก มีพื้นที่อีกมากอยู่ด้านหลังพระพุทธรูป จากมุมนี้เราเห็นพระพุทธรูปอยู่ตรงกลาง มีศาลาราย 4 หลัง
มีศาลา 2 หลังด้านหน้าองค์พระเป็นศาลาปิดกระจก ใช้เป็นสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP แต่ในช่วงนี้คงจะยังไม่มีการเปิดขายอะไร จนกว่าการก่อสร้างทั้งหมดแล้วเสร็จ รวมทั้งถนนทางเข้า ต่อไปคงจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันมากขึ้น
เบื้องหลังองค์พระ จัดสร้างงานนูนสูงพระบรมรูปพระเจ้าอยู่หัวทรงถือเคียวเกี่ยวข้าวอันเป็นสัญลักษณ์ถึง เหตุการณ์ทรงเกี่ยวข้าวในแปลงนา ตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ ณ บริเวณหน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย พระนครศรีอยุธยา ในวันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2539 รายล้อมด้วยตราสัญลักษณ์ในวโรกาสต่างๆ และพระราชลัญจกรพระจำพระองค์ บริเวณฐานมีพระบรมฉายาลักษณ์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจำนวน 9 เรื่อง ที่ได้พระราชทานแก่พสกนิกรชาวพระนครศรีอยุธยา คนไทยในรุ่นหลังทั้งวัยรุ่นและเด็กๆ จะได้ใช้เป็นที่ศึกษาพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงงานหนักเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทยเสมอมา
พระพุทธไสยาสน์ พื้นที่ส่วนหลังลึกเข้าไปก็จะมีการสร้างสิ่งจำลองหลายอย่างที่สำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ชุมทางบ้านภาชี เป็นหัวรถจักรที่จำลองไว้คู่กับสถานีรถไฟ ตรงนี้จะมีเรือจักรยาน หรือเรือถีบ เอาลงไปในน้ำได้
ปิดท้ายกันด้วยภาพสุดท้ายของวันนี้ เพราะหลังจากถ่ายรูปนี้แล้วแบตเตอรี่ก็หมดพอดี ว่างๆ แวะไปเที่ยวพักผ่อนกันได้นะครับ