วัดบางกุ้งหรือวัดค่ายบางกุ้ง

 ตั้งอยู่บริเวณค่ายบางกุ้ง อำเภอบางคนที เดิมเคยเป็นค่ายทหารเรือ สมัยพระเจ้าเอกทัศน์แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ ที่มีเรื่องราวของวีรกรรมชาวแม่กลอง ในช่วงปลายสมัยอยุธยาและตอนต้นกรุงธนบุรี ทหารไทย-จีน โดยการนำของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระมหามนตรี (บุญมา) พระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) สู้รบขับไล่กองทัพพม่าจนแตกพ่ายไป ในบริเวณ มีกำแพงจำลองของค่าย อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สระน้ำโบราณอายุประมาณ 400 ปี และพบสิ่งมหัศจรรย์หนึ่งอย่าง ได้แก่ โบสถ์ปรกโพธิ์ เป็นอารามเก่าแก่ คาดว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ราวปี พ.ศ. 2250-2300 ซึ่งมีต้นไม้ 4 ชนิด คือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง ค้ำยันแผ่กิ่งก้านคลุมโบสถ์ไว้จนไม่เห็นรูปทรง ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี (หลวงพ่อดำ) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8
http://www.tourismthailand.org/samutsongkhram

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ทางเข้าวัดค่ายบางกุ้งหรือโบสถ์ในต้นไม้ อยู่ติดถนนมองเห็นได้เด่นชัดวัดบางกุ้งยังมีสภาพคล้ายกันกับค่ายทหารอยู่มาก โดยส่วนรั้วมีช่องทางให้รถเข้าได้ 2 ทาง ทางที่เห็นนี้จะตรงไปโบสถ์ปรกโพธิ์หรือโบสถ์ในต้นไม้ ส่วนประตูอีกด้านหนึ่งจะเข้าไปยังรูปปั้นมวยไทย เมื่อเข้าไปก็เป็นลานจอดรถเลยครับ เดินหน่อยเดียวก็ถึงโบสถ์
ฝั่งตรงข้ามของถนนสายนี้มีการเปิดร้านค้าขายอาหาร ขนม ของฝากต่างๆ ให้เลือก และตรงไปหน่อยจะมีทางเลี้ยวขวามือเพื่อไปเลี้ยงอาหารปลา ที่ท่าน้ำของวัดด้วย

หน้าโบสถ์ปรกโพธิ์วัดค่ายบางกุ้ง เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้ามาในวัดสิ่งแรกที่เราจะมองเห็นก็จะเป็นต้นไม้ใหญ่ขึ้นหนาแน่นอยู่ตรงกลาง รอบๆ เป็นลานกว้างๆ โดยเฉพาะด้านหน้าจัดเป็นลานจอดรถที่สามารถรองรับรถได้จำนวนมากมายหลายคัน จนถึงรถใหญ่ๆ อย่างรถบัสก็มีที่จอดได้อย่างสบาย ใกล้ๆ ต้นไม้ใหญ่ที่เราเห็นมีเต็นท์มากางเป็นพื้นที่สำหรับทำบุญจุดเทียนธูปไหว้พระก่อนที่จะเข้าไปปิดทองหลวงพ่อนิลมณีในโบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งตอนนี้มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมอยู่จนมองแทบไม่เห็นอาคารด้านในใจกลางของต้นไม้

ทำบุญวันสงกรานต์ บรรยากาศการทำบุญในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาสรงน้ำหลวงพ่อนิลมณี ทางวัดจัดพระพุทธรูปองค์เล็กๆ มาตั้งไว้บนโต๊ะหน้าโบสถ์เพื่อให้สรงน้ำกันสะดวกๆ

มุม Unseen วัดค่ายบางกุ้ง เดินอ้อมมาทางด้านขวามือ จะมองเห็นคนมามุงดูช่องหน้าต่างของโบสถ์ปรกโพธิ์ มีป้ายบอกไว้ว่าเป็นมุมถ่ายรูป Unseen Thailand แน่นอนว่าทุกคนที่มาวัดนี้ก็จะต้องถ่ายมุมนี้กลับไปด้วยอย่างน้อย 1 รูป เราเองก็ไปยืนรอคิวอยู่ตรงนี้นานพอสมควรกว่าจะได้เข้าไปถ่ายรูปหลวงพ่อนิลมณีในโบสถ์ต้นไม้

Unseen Thailand วัดค่ายบางกุ้ง ในที่สุดก็ถึงคิวเรา ทุกคนกรูเข้าไปรอถ่ายรูปตามลำดับทีละคนๆ จนได้รูปที่พอใจกันแล้วก็เปลี่ยนให้คนต่อไปได้เข้าไปถ่ายรูปอย่างตื่นเต้น ภาพที่เห็นพระพุทธรูปที่เดิมเป็นสีดำ เรียกกันว่าหลวงพ่อนิลมณี มีประชาชนมาปิดทองจนเป็นสีทองทั่วทั้งองค์อย่างงดงาม ภายในโบสถ์ต้นไม้เปิดไฟไว้จะทำให้เราเห็นองค์พระส่องสว่างสะท้อนกับแสงไฟงดงามมาก

Unseen Thailand วัดค่ายบางกุ้ง อีกภาพหนึ่งในเวลาช่วงเย็น แสงภายนอกเริ่มจะมืดลงไปทุกขณะก็จะยิ่งเห็นองค์พระในโบสถ์ต้นไม้สีทองชัดเจนมากขึ้นๆ

พระภควัมบดี (พระปิดตา ปิดทวาร) มุมด้านหลังของโบสถ์ต้นไม้มีพระองค์นี้อยู่ใกล้ๆ กับใบเสมาและลูกนิมิตมุมโบสถ์
พระคาถาที่ใช้สวดบูชานั้นท่านว่าดังนี้
ฉิมพะลีจะมหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโตโสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหังวันทามิ สัพพะทา ฉิมพลีจะมหาตุเม ฉิมพะลี เถรัสสะ เอตังคุนัง สัพพะธะนัง เถโร เทวะตา นะราปูชิตา โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง กะโรนตุเม ลาเภนะ อุตตะโมโหติ โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง สะถาโสตถี ภวันตุเม ราชะปุตโต ฉิมพลี อิติลาเภนะอุตตะโมยังยังชะนะปะทัง ยาติคะเม ราชะนิโยสัพพัตภะปูชิโตโฆติ เถรัสสาปาเทวันทามิ เถรัสสาอานุภาเวนะ สัพพะลาโภถวันตุเม ฉิมพลี เถรัสสะ เอตะคุณนัง สัพพะธะนัง สุปัตติถินัง สาริกธาตุ พุทธรูปัง อะหังวันทามิ สัพพะทา
ธัมมะจักกัง ปะทังสุตวา อัตตังปะทัง สันติเกระหาโลเก โลกานังหิตะการะนาภันเต คะวัมปะติ นามะติ สุโลเกสุปากะโต พรหมะปุตโต มะหาเถโร อะระโหเชฎชะโก มุนิ พัตภิสะโมคันทัพพา อะสุราเทวาสักโก พรหมาภิปูชิโต
นะโมพุทธธัสสะ คะวัมปะติสสะ
นะโมธรรมมัสสะ คะวัมปะติสสะ
นะโมสังฆัสสะ คะวัมปะติสสะ
สุกขา สุกขะ สุกขัง วะรัง ธัมมัง ธัมมะ จักกัง ปะวะรัง วะรัง

หากท่านใดภาวนาได้ติดต่อต่อเนื่องกันทุกวัน เบื้องหน้าพระภวัมบดี ท่านว่าจะเจริญด้วยลาภผลพูนทวีไม่มีตกต่ำ อุปเท่ห์การใช้พิเศษท่านว่าไว้ดังนี้
" ถ้าจะเข้าสงคราม ให้เอาพระห่อผ้าโพกหัวไป ถึงปืนเป็นห่าฝนก็มิถูกตัวเรา"
" ถ้ามีศัตรูคิดร้ายให้เขียนชื่อเขาลงในกระดาษแล้วเอาพระภควัมบดีตั้งทับไว้ จะคิดร้ายเรามิได้เลย"
" ถ้าโทษถึงตาย ถึงริบก็ดี ให้เอาพระภควัมบดีลงสรงน้ำ เอาน้ำนั้นมาอาบกินโทษร้ายหายสิ้นแล"
" ถ้าจะป้องกันโจร ให้จุดเทียนตามถวายพระเมื่อค่ำ จงทำทุกวันกันอันตรายโภยภัย ๓ ประการ คือโจรภัย อัคคีภัย และอุทกภัย"

ตำราที่ว่า .. บุชาพระควัมบดีไม้โพธิ์แกะ วิธีการสร้างพระควัมบดี ตำราโบราณ ตามพิธีการสร้างที่โบรณาจารย์บัญญัติ เกิดดั่งนี้จึงจะศักดิ์และทรงอิทธิฤทธิ์เป็นล้นพ้น
http://www.pantown.com/board.php?id=23691&area=3&name=board4&topic=127&action=view

โบสถ์ปรกโพธิ์หรือโบสถ์ในต้นไม้ เป็นมุมที่เรามองจากด้านหลังในขณะที่เราเดินชมโบสถ์ในต้นไม้ไปรอบๆ มุมด้านหลังเป็นมุมที่เราจะได้เห็นภาพโบสถ์ที่มีต้นไม้ 4 ชนิดห่อหุ้มอยู่ได้ชัดเจนกว่ามุมอื่นๆ ซึ่งต้นไม้ 4 ชนิด คือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง คาดว่าโบสถ์หลังนี้จะมีอายุราว 200 ปี แล้ว

เจ้าแม่ตะเคียนทองวัดค่ายบางกุ้ง หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีประชาชนศรัทธาอย่างแพร่หลาย พากันมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสายเช่นกัน หลายคนได้นำชุดไทยมาถวาย ข้างๆ ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองวัดบางกุ้งซึ่งอยู่หลังโบสถ์ในต้นไม้ มีเครื่องดื่มสมุนไพรให้ดื่มด้วยครับ

หลวงพ่อนิลมณีวัดค่ายบางกุ้ง คราวนี้เดินรอบโบสถ์ต้นไม้จนมาถึงอีกข้างหนึ่งของโบสถ์ มองเข้าไปในช่องหน้าต่างก็ยังคงเห็นหลวงพ่อนิลมณี รอบๆ กรอบช่องหน้าต่างก็จะมีลำต้นของต้นไม้ที่ห่อหุ้มโบสถ์หลังนี้เอาไว้เหมือนกันแต่ไม่หนาแน่นเท่ากับทางด้านซ้ายขององค์พระที่เป็นมุมมหาชนที่ใครๆ ก็ไปถ่ายรูปกันจนแน่นไปหมด
จากนั้นเดินมาจนถึงด้านหน้าทางเข้าประตูโบสถ์ เข้าไปกราบขอพรหลวงพ่อนิลมณี ไหว้พระปิดทองกันได้ เพราะที่ฐานของหลวงพ่อมีบันไดทางขึ้นไปได้ครับ

หลวงพ่อนิลมณีภายในโบสถ์ต้นไม้

พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากโบสถ์ปรกโพธิ์หรือโบสถ์ในต้นไม้ เดินออกไปทางขวามือของเรา จะเห็นลานกว้างมากๆ มีอาคารหลังใหญ่อยู่ด้านหลัง กลางลานกว้างมีพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พร้อมทหาร พุ่มไม้รูปม้า ตุ๊กตาไก่ เป็นสถานที่รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในการกอบกู้เอกราช และในครั้งนั้นยังยกทัพมาตั้งค่ายอยู่ ณ ที่วัดค่ายบางกุ้งแห่งนี้

รูปปั้นแม่ไม้มวยไทย เอกลักษณ์ของวัดค่ายบางกุ้ง อยู่ถัดจากพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาทางอุโบสถหลังใหม่ รูปปั้นมวยไทยเหล่านี้มองเห็นได้แต่ไกลเพราะมีจำนวนมาก แต่ละคู่จะเป็นท่ามวยไทยต่างๆ ให้เราได้ศึกษา

รูปปั้นแม่ไม้มวยไทย

ร้านค้ารอบๆ วัดค่ายบางกุ้ง บริเวณหน้าโบสถ์หลังใหม่ มีพื้นที่ว่างที่มีแม่ค้ามาเปิดร้าน ได้แก่ร้านกาแฟสด อันเป็นเจ้าประจำของผมเอง มาที่วัดค่ายบางกุ้งทีไรก็จะกินกาแฟร้านนี้เสมอ ข้างๆ กันก็จะมีของฝากที่ทำจากมะพร้าว มีมากมายหลายแบบ อีกฟากหนึ่งของถนนตรงข้ามกับโบสถ์ในต้นไม้ก็มีร้านค้ามากมายมาเปิดร้านเป็นแถวเรียงรายกันหลายร้าน ส่วนมากก็จะมีร้านผลไม้ซึ่งเป็นผลไม้ที่ปลูกกันในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม หรือที่เรามักจะเรียกว่า แม่กลอง ได้แก่ ส้มโอ ลิ้นจี่ มะพร้าว แล้วแต่ฤดูกาล ถ้ามาในช่วงเทศกาลกินลิ้นจี่ ลองขับรถลึกเข้าไปตามถนนหน้าวัดค่ายบางกุ้งก็จะมีสวนมากมายเปิดให้เราเข้าชม ชิมผลไม้ มีผลไม้ขายหน้าสวนโดยเจ้าของสวนขายเอง

ศาลวีรชน ถัดจากบริเวณร้านของฝาก ร้านกาแฟสด ไปไม่ไกลก็จะเป็นอาคารเล็กๆ หลังหนึ่ง มีรูปปั้นทหารโบราณทั้งแบบไทย และจีน ยืนล้อมรอบ ที่นี่เรียกว่าศาลวีรชน

ศาลวีรชนค่ายบางกุ้ง ภายในศาลมีรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จารึกหน้าศาลว่า ศาลวีรชนไทย จีน ค่ายบางกุ้ง พ.ศ.2311

สวนสัตว์วัดค่ายบางกุ้ง จากบริเวณศาลวีรชน เดินข้ามถนนไปอีกฟากหนึ่งของวัดค่ายบางกุ้ง จะมีทางไปยังท่าน้ำหน้าวัด ก่อนถึงท่าน้ำก็จะมีสวนสัตว์เล็กๆ ประกอบด้วยสัตว์หลายชนิด มีอาหารสำหรับป้อนสัตว์เหล่านี้ขาย เป็นที่สนใจของเด็กๆ จำนวนมาก ถือเป็นสวนสัตว์ของสมุทรสงครามเลยทีเดียว สำหรับในภาพแรกก็จะมีแพะ ชะนี

กระต่ายน่ารักในค่ายบางกุ้ง เดินถัดเข้าไปในพื้นที่สวนสัตว์ จะมีกรงหลายกรง มีนกกระจอกเทศ เป็นต้น แต่กรงหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากจากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็คือกรงกระต่าย มีกระต่ายหลายตัวอยู่ในนี้ บางตัวมีลูกน้อยกระโดดไปมาในกรง ตัวกระต่ายน้อยมันเล็กจนสามารถลอดตาข่ายกรงได้บางทีมันก็ออกมาจนต้องจับมันเข้าไปใหม่

นางอาย เป็นสัตว์ขี้อายสมชื่อ วันๆ เอาแต่นอนอยู่ในโถ ไม่ค่อยออกมาให้เราเห็นตัวได้ง่ายๆ

นกสวยงาม สัตว์ตัวเล็กๆ ที่มีความสวยงามรอบตัวไม่ได้มีตัวเดียวเท่านี้แต่ยังมีอีกมากที่ต้องไปชมกันด้วยตัวเอง

หมีควาย สัตว์ตัวใหญ่ที่ค่อนข้างดุร้าย เมื่อมันโตขึ้นไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าใกล้ บางทีหมีควายจะถูกจับมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กจนเชื่อง แต่เวลามันหยอกเราเล่นๆ เราจะได้รับบาดเจ็บหนักได้ง่ายๆ สุดท้ายก็ต้องอยู่ในกรงแบบที่เห็น ดูเหมือนว่ามันจะยิ้มให้กล้องด้วยนะเนี่ย

ท่าน้ำหน้าวัดค่ายบางกุ้ง เป็นสถานที่สำหรับเลี้ยงปลา ฝูงปลาขนาดใหญ่จะมารออาหารเวียนว่ายอยู่ใต้โป๊ะไม่ออกไปนอกบริเวณ คนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้จะไม่จับปลาใกล้ๆ บริเวณวัด ปลาพวกนี้จึงมีขนาดใหญ่มากๆ โป๊ะที่ท่าน้ำหน้าวัดค่ายบางกุ้งยังเป็นสถานที่พักผ่อนรับลมเย็นๆ ริมแม่น้ำแม่กลองที่ได้รับความนิยมมากด้วย

ปืนใหญ่หน้าวัดค่ายบางกุ้ง ครั้งหนึ่งในอดีต วัดค่ายบางกุ้งเป็นค่ายทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีช่องกระบอกปืนใหญ่อยู่ที่กำแพงท่าน้ำหน้าวัด ที่ยังคงรักษาสภาพให้คงลักษณะเดิมไว้ให้เรายังคงได้เห็น

งานฝีมือจากธรรมชาติ สินค้าอย่างหนึ่งที่เราจะได้เห็นวางขายอยู่มากมายในตลาดอัมพวา และก็มีเอามาวางขายในตลาดหน้าวัดค่ายบางกุ้งด้วย สินค้าเหล่านี้ทำมาจากธรรมชาตินำมาเพิ่มคุณค่าเป็นของตกแต่งบ้านน่ารักๆ ให้เลือก
จบการนำเที่ยววัดค่ายบางกุ้งกันเท่านี้ครับ ว่างๆ ลองแวะไปชมมหัศจรรย์เมืองไทย Unseen Thailand กันครับ