วัดบางแคน้อย

 วัดบางแคน้อย อำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม ตั้งอยู่ที่ตำบลแควอ้อม ริมแม่น้ำแม่กลอง คุณหญิงจุ้ย (น้อย) วงศาโรจน์ เป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2411 เดิมอุโบสถของวัดสร้างบนแพไม้ไผ่ผูกไว้กับต้นโพธิ์ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ปัจจุบันวัดนี้ได้รับการบูรณะอย่างดี สิ่งที่น่าชมภายในวัด ได้แก่ ผนังภายในพระอุโบสถทำจากไม้สักแกะสลักเป็นเรื่องราวในพุทธประวัติ การประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และเรื่องพระเจ้าสิบชาติ ลวดลายสวยงามชัดเจนโดยฝีมือช่างแกะสลักจังหวัดเพชรบุรีซึ่งมีชื่อเสียงด้านการแกะสลักไม้ นับเป็นอุโบสถที่มีความงดงามในศิลปะการแกะสลักไม้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3476 1222

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8
http://www.tourismthailand.org/samutsongkhram

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

การเดินทางสู่วัดบางแคน้อย จากตัวเมืองสมุทรสงครามใช้ทางหลวงหมายเลข 325 ทางไปตลาดน้ำอัมพวาและอุทยาน ร.๒ แต่ทางที่จะไปวัดบางแคน้อยจะถึงก่อนทางแยกไฟแดงอัมพวาไม่ถึง 500 เมตร สังเกตุแยกนั้นจะมีสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองมองเห็นได้ชัดตั้งแต่ปากทางแยก หรือเมื่อมองเห็นซุ้มประตูวัดแก้วฟ้าแล้วก็ชลอความเร็วเตรียมชิดซ้ายไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึงทางแยก และมีป้ายบอกว่าลานจอดรถตลาดน้ำ เพราะเมื่อขับข้ามสะพานแม่น้ำแม่กลองไปแล้วสามารถจดรถที่วัดบางนางลี่ใหญ่ได้แล้วข้ามเรือข้ามฟากไปตลาดน้ำอัมพวา เส้นทางไปวัดบางแคน้อย บางแคใหญ่ เป็นเส้นทางเดียวกันกับวัดบางนางลี่ใหญ่ ผ่านวัดภุมรินทร์กุฎีทอง แต่ตอนนี้กำลังมีการขยายสะพานอยู่ต้องระมัดระวังเพราะจะปล่อยให้รถผ่านด้วยสัญญาณไฟเขียวแดงดวงเล็กๆ สลับกันเพราะมีเหลือแค่ช่องทางเดียวแล้ว ผ่านวัดภุมรินทร์กุฎีทองแล้วก็ไปตามถนนมีโค้งมากมาย มีป้ายบอกทางตลอด เลยวัดบางแคใหญ่ ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยไปแล้วก็เป็นทางแยกเข้าวัดบางแคน้อยมีซุ้มประตูหินอ่อนอยู่ปากทาง เนื่องจากถนนแคบจอดถ่ายรูปซุ้มประตูด้านหน้าไม่ได้เลยเลี้ยวเข้ามาแล้วจอดถ่ายรูปนี้

พระบรมสารีริกธาตุวัดบางแคน้อย เข้ามาถึงลานจอดรถของวัดจะสะดุดตากับองค์พระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานบนบุษบก บริเวณฐานมีพระสาวกล้อมรอบ มีเทพรักษาทั้งสี่ทิศ หน้าพระอุโบสถมีศาลาสำหรับจุดธูปเทียนบูชาพระ โดยมีพระพุทธรูป และรูปเหมือนพระอริยสงฆ์หลายรูปให้ปิดทองขอพรเป็นสิริมงคล

บุษบกพระบรมสารีริกธาตุ ประดับตกแต่งอย่างงดงามมาก อยู่ลานกลางแจ้ง ริมแม่น้ำแม่กลองไม่ว่าใครไปคงต้องใช้เวลาเก็บภาพบริเวณนี้นานสักหน่อย

เทพประจำทั้งสี่ทิศ องค์ซ้ายทิศตะวันออกหันหน้าไปทางแม่น้ำแม่กลองพอดี ท้าวธตรัฎฐะเป็นผู้ปกครอง คันธัพพเทวดา ทั้งหมด องค์ขวาท้าววิรุฬหกะเป็นผู้ปกครอง กุมภัณฑ์เทวดา ทั้งหมด อยู่ทาง ทิศใต้

เทพประจำทั้งสี่ทิศ ภาพซ้าย ท้าววิรูปักษ์ เป็นผู้ปกครอง นาคะเทวดา ทั้งหมด อยู่ทาง ทิศตะวันตก ภาพขวา ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวรรณ เป็นผู้ปกครอง ยักขเทวดา ทั้งหมด อยู่ทาง ทิศเหนือ ท้าวมหาราช ทั้ง ๔ องค์นี้ เป็นผู้รักษาโลกมนุษย์ด้วย จึงชื่อว่า ท้าวจตุโลกบาล หรือ ท้าวโลกบาล ๔ พระเจ้าพิมพิสาร เองแม้จะเป็น พระโสดาบัน แต่ก็พอใจสวรรค์ชั้นนี้ได้เกิดเป็นบริวารของ ท้าวเวสสุวรรณมหาราช

บรรยากาศริมน้ำวัดบางแคน้อย ที่ลานจอดรถสร้างศาลาไว้ 2 หลัง เป็นทรงไทย มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ระหว่างกลาง ที่ต้นโพธิ์ยังมีดอกเฟื่องฟ้าเลื้อยขึ้นไปออกเอกเต็มต้นไปหมด ลมพัดเย็นๆ เข้ามาที่ศาลาน่าพักผ่อนก่อนที่จะเดินทางไปที่ไหนต่อ มีร้านค้าขายสินค้าจำพวกของกินของฝากเล็กๆ น้อยๆ ไม่มากนักแต่ก็มีซุ้มขายกาแฟสดทำให้สดชื่นขึ้นได้

พระพุทธสมุทร ศรีพิชัยวิสุทธิมุนี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระประธานในอุโบสถวัดบางแคน้อย คาถาบูชาพระพุทธสมุทร ศรีพิชัยวิสุทธิมุนี คือบวดสวทถวายพรพระ (พาหุงฯ) ด้านหน้าพระอุโบสถประดิษฐานพระพระพุทธสมุทร ศรีพิชัยวิสุทธิศาสดา (หลวงพ่อโชคดี) เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ห้ามปิดทององค์พระทั้งสอง เบื้องหลังพระพุทธสมุทร ศรีพิชัยวิสุทธิมุนีพระประธานในอุโบสถ มีภาพไม้แกะสลักที่สวยงามเรื่องการประสูติและปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เบื้องซ้ายและเบื้องขวาประดิษฐานพระรัตนธาตุในบุษบกขนาดเล็กที่สร้างไว้อย่างสวยงาม

พระรัตนธาตุวัดบางแคน้อย

ภาพเขียนฝาผนังไม้ ด้านนอกของพระอุโบสถเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน สีขาวมองผิวเผินดูธรรมดามาก หากไม่เข้ามาภายในก็จะไม่เห็นงานศิลปะเหล่านี้แน่นอน ผนังภายในพระอุโบสถวัดบางแคน้อยใต้ช่องหน้าต่างทั้ง 10 ช่องมีภาพเขียนบนแผ่นไม้ลวดลายสวยงามตลอดทั้งฝาผนังอุโบสถ

ภาพไม้แกะสลักทศชาติชาดก เหนือช่องหน้าต่างของอุโบสถทั้ง 10 ช่อง มีภาพไม้แกะสลักลวดลายสวยงามมาก เป็นภาพทศชาติชาดก 10 ชาติ ตามจำนวนข่องหน้าต่างพอดี ทั้ง 2 ด้าน

ฝ้าเพดานไม้แกะสลัก ฝ้าเพดานอุโบสถวัดบางแคน้อยเป็นไม้แกะสลักลวดลายเหมือนกันตลอดทั้งหลัง ปราณีตงดงาม เงยคอถ่ายจนเมื่อยไปเลยกว่าจะได้ภาพชัดๆ หลังจากเก็บภาพไหว้พระขอพรเป็นที่เรีบยร้อยแล้วก็ออกจากอุโบสถไปยังสถานที่ที่น่าสนใจของวัดบางแคน้อยคือกุฎิ 138 ปี

กุฎิ 138 ปี เป็นกุฎิไม้เก่าแก่ยังคงรูปแบบการสร้างไว้ได้อย่างดี มีการบูรณะดูแลจนมีสภาพที่ดีอย่างที่เห็นในปัจจุบัน บนกุฎมีหลายสิ่งที่น่าสนใจได้แก่ พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ทรงกษัตริย์ หรือที่เรียกกันว่าพระพุทธรูปทรงเครื่อง พระพุทธรูปแกะสลักจากหินพระธาตุ หลวงพ่อมงคลรัตนมุนี หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ทวด หุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เปิดให้เข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายสุภาพ ห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดขึ้นไป บนกุฎิมีพระสงฆ์อยู่ต้องใช้ความสงบด้วยในระหว่างเยี่ยมชม

พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องขนาดเล็ก เท่ากันทั้งหมด ประดิษฐานรอบๆ ฐานบนยอดสุดทำเป็นพระธาตุขนาดเล็ก พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ คือพระพุทธเจ้าที่ได้ประสูติในชาติภพต่างๆ รวมแล้ว 28 พระองค์ มีพระนามเขียนไว้ที่ฐานของแต่ละองค์ได้แก่ พระพุทธตัณหังกร พระพุทธเมธังกร พระพุทธสรณังกร พระพุทธทีปังกร พระพุทธโกณฑัญญะ พระพุทธสุมังคละ พระพุทธสุมนะ พระพุทธเรวตะ พระพุทธโสภิตะ พระพุทธอโน มทัสสี พระพุทธปทุมะ พระพุทธนารทะ พระพุทธปทุมุตตระ พระพุทธสุเมธะ พระพุทธสุชาตะ พระพุทธปิยทัสสี พระพุทธอัตถทัสสี พระพุทธธรรมทัสสี พระพุทธสิทธัตถะ พระพุทธติสสะ พระพุทธปุสสะ พระพุทธวิปัสสี พระพุทธสิขี พระพุทธเวสสภู พระพุทธกกุสันธะ พระพุทธโกนาคมนะ พระพุทธกัสสปะ และพระพุทธโคตมะซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ส่วนภาพขวาคือหลวงพ่อมงคลรัตนมุนีเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์พระพุทธศิลป์งดงามมาก

หุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) อยู่อีกด้านหนึ่งของกฎิ ที่จริงเดินขึ้นบันไดกุฎิมาจะถึงหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) และ หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ทวดก่อน แล้วจึงจะเดินไปตรงพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ และหลวงพ่อมงคลรัตนมุนีอยู่สุดกุฎิอีกด้านหนึ่ง แต่เพื่อการลำดับการไหว้พระควรไหว้พระบรมสารีริกธาตุ หรือพระธาตุ พระพุทธรูปก่อน แล้วจึงมาไหว้พระสงฆ์

หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่ทวด อยู่ด้านข้างใกล้ๆ กันกับหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) หุ่นขี้ผึ้งที่สร้างที่วัดบางแคน้อยรู้สึกเหมือนจริงมากครับ

พระพุทธรูปแกะสลักจากหินพระธาตุ พระพุทธรูปทั้งสี่องค์ นี้มองผิวเผินอาจจะไม่เหมือนพระพุทธรูปแกะสลักจากหินมองดูคล้ายงานหล่อเรซิน แต่ถ้าได้ดูใกล้ๆ ลายของหินชัดๆ แล้วจะรู้ว่าเป็นหินประกอบด้วยพระพุทธรูปปางนาคปรก พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรเหมือนหลวงพ่อบ้านแหลม พระสังกัจจายน และพระสิวลี

กุฎิ 138 ปี เนื่องจากการบูรณะและการดูแลรักษาสภาพให้เหมือนเดิมมากที่สุดทำให้กุฎิหลังนี้ดูไม่เก่าอย่างที่ควรจะเป็นแต่ยังคงรูปแบบเดิมไว้ทั้งหมดครับ เลยถ่ายออกมาให้เป็นภาพขาวดำแทน

พระพุทธรูปบนกุฎิ 138 ปี อยู่ตรงการกุฎิ ระหว่างพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ และหลวงพ่อมงคลรัตนมุนี สำหรับทำบุญ ถวายสังฆทานก็จะทำบนกุฎิก็ได้หรือในอุโบสถก็ได้ครับ

กุฎิหลวงพ่อแพร เป็นกุฎิที่สร้างเสร็จหลังจากหลวงพ่อแพร (พระครูสมุทร นันทคุณ) มรณภาพ ตามคำสั่งของท่าน เป็นที่ตั้งโลงบรรจุสังขารของท่าน ท่านสั่งไว้ก่อนสิ้นลม ดังนี้ 1. สวดศพหลวงปู่ 3 คืน 2.เอาศพหลวงปู่ไว้ที่กุฎิใหม่ 3. ขอไม่ให้ทุกคนที่เยี่ยมหลวงปู่ร้องไห้ (หลวงปู่อยากไปแบบสบายใจ) 4.ถึงหลวงปู่จะไม่อยู่ก็ขอให้ทำกุฎิให้เสร็จ (เมื่อเสร็จแล้วบอกท่านด้วย) 5.ขอให้พี่สุโขอยู่ช่วยงานที่วัดไปจนกว่าจะไม่ไหวแทนหลวงปู่ 6.ให้พระทำวัตรตามเวลา 7. คณะกรรมการที่ไม่ชอบพี่โข ก็ให้ลดทิฐิหันมาช่วยทำให้วัดเจริญ 8.ให้แต่งตั้งพี่โขเป็นไวยาวัจกรของวัด 9. เงินที่หาได้ทั้งหมดและเงินส่วนตัวทั้งหมดให้สร้างกุฎิ 10.ให้บวชอุทิศส่วนกุศลให้ด้วย *เป็นบันทึกจากคำบอกเล่าของสามเณร ภูวภัท ศิลาอุดมเดช ผู้อยู่ปฏิบัติหลวงปู่จนสิ้นลม

กุฎิหลวงพ่อแพร อีกด้านหนึ่งสร้างรูปเหมือนของท่านไว้ให้ศิษยานุศิษย์บูชา...