ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 035 723 127
https://www.facebook.com/thungbuachom
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ถนนพหลโยธิน กม. 78 สถานที่ตั้งของตลาดน้ำทุ่งบัวชม ผมขับชิดซ้ายออกทางคู่ขนานตรงป้ายบอกที่ กม. 77 ตอนนี้มาจอดรถอยู่ที่ลานจอดรถแรก เวลาตอนนี้ประมาณ 9.30 น. ตลาดยังคงค่อนข้างเงียบ ร้านค้ามากมายหลายร้านยังไม่มาเปิดร้าน เพราะเป็นวันธรรมดาที่คนผ่านไปมายังไม่มากนัก สิ่งแรกที่เห็นแล้วสะดุดตาที่หน้าตลาดน้ำแห่งนี้มาหลายอย่าง ได้แก่ รูปหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ยืนอยู่หน้าตลาด รองลงมาเป็นหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์สีเหลือง ยืนจังก้าชูนิ้วโป้งอยู่ที่ลานจอดรถ ฝีมือการสร้างหุ่นตัวนี้ไม่ธรรมดาเลยครับ กลายเป็นว่าหุ่นตัวนี้จะเป็นจุดแรกๆ สำหรับการถ่ายรูปของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว
ตลาดน้ำทุ่งบัวชมเท่าที่เห็นอยู่ตรงหน้า ออกแบบผังของตลาดแบ่งออกเป็นอาคารหลังคาเชื่อมถึงกันยาวๆ มีแถวซ้ายและขวา ส่วนตรงกลางมีอาคารอีกหลายหลังมีสะพานเชื่อมถึงกัน ไปดูกันเลยดีกว่า
ด้านหน้าตลาดน้ำทุ่งบัวชม ตอนนี้ผมยังไม่เข้าไปในตลาด ด้วยเหตุที่มาวันธรรมดาและเช้ามากผมมีเวลามากที่จะเดินชมรอบๆ ระหว่างที่ร้านค้ายังไม่มาเปิดร้านมากมาย เดินอ้อมมาตรงหน้าตลาด จะเห็นรูปหลวงปู่ทวด แบกกลดยืนอยู่ เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั้งประเทศ รวมไปจนถึงนอกประเทศต่างก็มีประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวด พระรอดแห่งแดนใต้ การเดินทางที่ยาวไกล มีหลวงปู่ทวดไว้อุ่นใจขึ้นมาก
บรรยากาศของตลาดน้ำทุ่งบัวชม ด้านหลังของหลวงปู่ทวด เราจะมองเห็นตลาดน้ำแห่งนี้ได้ในมุมกว้าง อาคารแถวขวาและซ้าย รวมทั้งโซนที่เป็นตรงกลางตลาดจะมองเห็นได้ทั้งหมด จุดหนึ่งที่ใครหลายๆ คนจะไปถ่ายรูปกันก็คือกลางสะพานสีขาวที่เชื่อมระหว่างอาคารแถวซ้ายและขวา ชื่อสะพานปรีดี-ธำรง ตรงกลางของพื้นที่อาคาร 2 แถว เป็นน้ำ มีบริการเรือเที่ยวตลาดเพื่อให้ถึงบรรยากาศของตลาดน้ำอย่างแท้จริง เนื่องจากอากาศบ้านเรามันร้อนตลาดแห่งนี้จะคึกคักได้ในเวลาเย็น
ควายเหล็ก ตลาดน้ำทุ่งบัวชม ก่อนที่จะเดินเขาไปในตลาด ด้านหลังหลวงปู่ทวดมีหุ่นประดิษฐ์จากเศษเหล็กอีกอย่าง แล้วก็ดูเหมือนว่ามันจะทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือการดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว เจ้าสิ่งนี้ก็คือ หุ่นควายเหล็ก เป็นหุ่นที่สร้างจากเหล็กได้เหมือนรูปควายได้เป็นอย่างมาก (หรือบางทีมันจะเป็นวัวก็ไม่รู้เหมือนกันนะ) หลายคนมาชมเจ้าควายตัวนี้ ก่อนที่จะเดินเข้าตลาดด้านใน คงเพราะว่าร้านค้ายังเปิดน้อยอยู่มั้ง
ท่าเรือโดยสาร ตลาดน้ำทุ่งบัวชม เอาละครับตอนนี้ก็เดินเข้าตลาดกันได้แล้วมั้ง เพราะเราก็ดูอะไรต่อมิอะไรมาพอสมควรแล้วนี่ สิ่งแรกที่เห็นคือท่าเรือโดยสาร ใครสนใจจะนั่งเรือแทนการเดินรอบตลาดก็มาลงเรือที่นี่ ไม่ได้มีท่าเรืออยู่แห่งเดียว เห็นด้านตรงข้ามก็มีอีกท่าหนึ่ง แต่ตอนนี้ขอเดินดีกว่านะ
เริ่มจากอาคารแถวแรกของตลาด ถ้าเราหันหน้าเข้าตลาด แถวแรกก็หมายถึงแถวด้านซ้ายมือ ร้านแรกที่เปิดอยู่หัวมุมสุด เรียกว่าใกล้ลานจอดรถและก็เห็นกันได้ง่ายสุดก็คือ ร้าน ฅ.หัวโบราณ เป็นแหล่งรวบรวมสินค้าประเภทของเก่าแต่มีมากมายหลายอย่าง คนที่ชื่นชอบการสะสมไม่ควรพลาด ต่อจากนั้นเป็นร้านกาแฟสด ติดกับร้านขนมปัง มีขนมปังทุกอย่างก็ว่าได้ อย่างเช่น พายสับปะรด ขนมปังลูกเกด ขนมปังไส้กรอก ขนมปังสังขยาใบเตย ขนมปังครัวซอง ขนมปังหมูหยอง ฯลฯ บรรยายไม่หมด อ้อมต่อไปด้านหน้า เป็นร้านทุกอย่าง 20 บาท เป็นอันครบอาคารชุดแรกของแถวซ้ายมือ จากนั้นก็จะพาข้ามไปอีกด้านหนึ่งของตลาดน้ำทุ่งบัวชม โดยใช้สะพานปรีดี-ธำรง
วิวบนสะพานมองเห็นตลาดได้กว้างๆ อย่างที่เห็นละครับว่ามีร้านค้ามากมายที่เปิดเรียงกันบนอาคารแบบแถวเดียวขนาบสองข้างของน้ำมีเกาะตรงกลางมีชิงช้าสวรรค์อยู่ด้วย
หลักกิโลยักษ์ทุ่งบัวชม หลังจากที่ข้ามสะพานกลางตลาดมาอีกฟาก สิ่งที่เราเห็นจะเป็นลานจอดรถลานที่ 2 ด้านหน้าเป็นจุดสังเกตุตำแหน่งของตลาดน้ำทุ่งบัวชมได้เป็นอย่างดี หลักกิโลเมตรหลักนี้น่าจะสูงเท่าๆ กับตึก 4 ชั้น หรือสูงยิ่งกว่านั้น ทางเข้าลานจอดรถลานแรกก็มีหลักกิโลใหญ่เหมือนกัน แต่สูงประมาณ 3 เมตร ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีหุ่นยอดฮิตนกโกรธแองกรี้เบิร์ด อีกด้วย
ทรานส์ฟอร์เมอร์ตัวที่สอง ถ่ายรูปหลักกิโลเสร็จเข้าตลาดแถวขวากันดีกว่า แต่ก่อนเข้าเห็นหุ่นรบอีกตัวแล้ว สร้างได้เหมือนในหนังขนาดไหนก็เชิญทัศนาเอาเองละกันครับคนไทยถ้าคิดจะทำอะไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก
เริ่มเดินตลาดแถวขวา เริ่มจากร้านไอติมผัด มีหลากหลายเมนูให้เลือก อย่างโกโก้ครัชอัลมอนด์ ชอคโกแลตอัลมอนด์ ชอคโกแลตบราวนี่ พีชสตรอเบอรี่ สตอเบอรี่กล้วย เสาวรสพีช ฯลฯ บรรยายไม่หมดอีกแล้วครับ ไปร้านต่อไปเลยดีกว่า ของตกแต่งบ้านที่ประดิษฐ์จากไอเดียเก๋ไก๋ ริมทางเดินมีป้ายระวังตกน้ำบอกเป็นระยะๆ ผมก็ลืมถามไปว่าน้ำลึกขนาดไหน มองไปด้านหน้าตามทางเดินของตลาดทุ่งบัวชมแถวขวาเป็นร้านแฟชั่นซะส่วนใหญ่ ตอนท้ายๆ จะมีของกิน
วิวจากร้านกาแฟสดที่ชื่อว่า Gazebo Kaffee กาซีโบ คาเฟ่ เป็นร้านกาแฟอีกร้านหนึ่งที่มีกระจายอยู่ในตลาด แต่ร้านนี้เป็นร้านเดียวที่อยู่กลางน้ำ หลายคนเลือกมานั่งพักที่นี่ระหว่างช้อปปิ้ง เพราะวิวสวยมองเห็นชิงช้าสวรรค์อยู่ข้างหน้าแล้ว
พิพิธภัณฑ์เมืองจิ๋ววิถีไทย ตอนนี้ผมเดินข้ามสะพานจากตลาดโซนขวามือมาอยู่ตรงกลางระหว่างตลาดทั้งสองด้าน อาคารที่เรามองเห็นอยู่กลางน้ำตอนที่อยู่ร้านกาแฟสด ที่จริงก็คือพิพิธภัณฑ์เมืองจิ๋วแห่งนี้นี่เอง สนนราคาค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 ส่วนเด็ก 10 บาท รอบผนังด้านนอกของอาคารติดรูปสำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ไทยหลายรูป ผมบอกให้เลยว่ามาตลาดน้ำทุ่งบัวชมต้องเข้าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เพราะถ้าคุณไม่เข้าไป คุณจะคุยกับเค้า..ไม่..รู้..เรื่อง (ขอยืมมาจากน้าต๋อยนะครับ)
ไม่ได้พูดเล่นมุกอะไรมากมาย แต่อยากจะบอกว่าในนี้มีทีเด็ดที่หาชมยากมาก เดี๋ยวลองตามผมเข้าไปดูกัน เลื่อนลงมาเลยครับ
สงครามไทย-พม่า จำลอง หลังจากที่ซื้อบัตรเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมืองจิ๋ววิถีไทยแล้วผมก็เปิดประตูเข้ามา ในห้องนี้มีผมมาเป็นคนแรกของวันนี้ สิ่งแรกที่ผมเห็นก็สร้างความประทับใจให้ผมได้มากแบบสุดๆ แล้วครับ ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ชอบหุ่นปั้นดินไทยมาก โดยเฉพาะที่เคยเห็นผลงานการปั้นร้านขายของแบบรถเข็นที่มีผลไม้ ผัก ปลา ก๋วยเตี๋ยว เครื่องดื่ม แล้วก็พัฒนามาปั้นการซื้อขายจากบนเรือ ก็คือตลาดน้ำ ต้องปั้นทั้งรูปคน รูปสิ่งของต่างๆ ทั้งของกิน และของใช้ แต่ต้องทำให้ขนาดเล็กลงอย่างสัมพันธ์กัน การปั้นลูกชิ้นก็ต้องมีไม้เสียบ ทั้ง 2 อย่างต้องมีสัดส่วนที่พอเหมาะ ซึ่งเป็นตัวบ่งชื้ฝีมือการปั้นของคนๆ นั้นด้วย หลังจากนั้นก็มีการประยุกต์มากมายหลายแบบ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นหุ่นดินไทยในเหตุการณ์สงครามจำลอง สมกับเป็นลูกกรุงเก่าจริงๆ ที่ได้จำลองเอาสงครามไทย-พม่า มาให้เราได้ชม โดยมีฉากหลังเป็นรูปสถานที่สำคัญๆ ของกรุงศรีอยุธยา อย่างวิหารพระมงคลบพิตร นอกเหนือจากหุ่นดินไทยที่ทำเป็นรูปทหาร ก็ยังมีการสร้างกำแพงเมืองจำลองอย่างสมจริง
ผมอาจจะเขียนเชียร์พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จนออกนอกหน้า แต่เพราะว่าผมชอบงานปั้นดินไทยจริงๆ ยังคิดว่าสักวันจะต้องไปเรียนให้ได้ทีเดียวละ แต่สำหรับคนทั่วไปลองคิดดูซิครับว่า สิ่งที่เราเห็นอยู่ตรงหน้ามีความสำคัญกับลูกหลานเรามากแค่ไหน หลายๆ คนควรจะได้เรียนรู้ว่ากว่าจะมีเมืองไทยอยู่ทุกวันนี้เราผ่านอะไรมาบ้าง แล้วถ้าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีแต่รูป จะสร้างความสนใจได้มากเท่ากับงานจำลองหุ่นปั้นที่เป็น 3 มิติแบบนี้ได้หรือเปล่า
พิพิธภัณฑ์เมืองจิ๋ววิถีไทย ตลาดน้ำทุ่งบัวชม เมื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จะแสดงวิถีชีวิตของชาวไทย เรื่องสงครามไทย-พม่าก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่คงไม่มากพอที่จะใช้คำว่า พิพิธภัณฑ์เมืองจิ๋ววิถีไทย ก็คงต้องเอาเรื่องราววัฒนธรรมประเพณีมาแสดงด้วย พอพูดคำว่า ประเพณีไทย ก็แหมนะ มันช่างมีมากมายเสียเหลือเกินคงจะนับกันไม่ไหว การเลือกเอาประเพณีหนึ่งขึ้นมา ที่คนทุกคนจะรู้จักเห็นจะไม่พ้นกับงานแห่เทียนอุบลราชธานี ทีนี้หัวใจสำคัญก็คือการย่อส่วนให้เล็กจิ๋ว จากนั้นก็เอามาแสดง แล้วประกอบด้วยรูปหุ่นชาวบ้านที่มาร่วมงาน การจำลองขบวนแห่เทียนพรรษาที่ทำได้ละเอียดปราณีตอย่างยิ่ง เหมือนของจริงไม่มีผิด
ภาพรวมของการจัดแสดงเมืองจิ๋ว เป็นเรื่องของการดำเนินชีวิต รวมทั้ง ประเพณี วัฒนธรรมไทย หลายสิ่งหลายอย่างจากหลายๆ จังหวัดมารวมกัน ดูทีแรกอาจจะดูขัดกันไปนิด อย่างเช่น งานแห่เทียนอุบลราชธานี จากนั้นถัดไปเป็นหนังกลางแปลง (พอจะเข้ากันได้อยู่) ถัดไปจะเป็นตลาดน้ำที่ดูเหมือนกับที่อัมพวา ในวัดก็มีงานวัด มียิงเป้า มีลิเก งิ้ว งานไหว้เจ้า ถือศีลกินเจ มวยวัด ฯลฯ มารวมอยู่ใกล้ๆ กันหมดไปดูของจริงดีกว่าครับ
หนังกลางแปลง ที่เห็นอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มันย่อจำลองลงมา ก็ต้องบอกว่าเป็นหนังกลางแปลงจิ๋วที่อาจจะไม่มีที่อื่น ไม่ใช่ว่าปั้นรูปคนมานั่งอยู่หน้าจอหนังอย่างเดียว เครื่องฉายหนังก็ทำเป็นมีแสงออกมาเหมือนกำลังฉายหนังอยู่ บนจอหนังก็มีภาพเคลื่อนไหวเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนหนังกลางแปลงจริงๆ ไม่เท่านั้น ยังมีร้านค้าขายของแบบรถเข็นอีกมากมายหลายร้านอยู่ในบริเวณรอบๆ จอหนังกลางแปลง ไม่ว่าจะเป็นร้านลูกชิ้นปิ้ง ร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ย่อออกมาได้เหมือนสุดๆ ขวดน้ำบนโต๊ะ ถ้วยชาม อะไรต่างๆ สุดยอดของงานปั้นเลยครับ
ร้านโชห่วยจิ๋ว โชห่วย มีที่มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน ในภาษาไทยคือร้านของชำ ขายของสารพัดสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีอยู่มากมายในหมู่บ้านแต่ปัจจุบันมีร้านสะดวกซื้อติดแอร์เข้ามาแทรกแซงตลาดจนทำให้โชห่วยหายไปมาก แต่ถ้าเราไปเดินตลาดน้ำที่เน้นการอนุรักษ์วิถีชีวิตเก่าๆ จะมีร้านแบบนี้อยู่ แต่สำหรับตลาดน้ำทุ่งบัวชมนำเอาจุดเด่นของร้านโชห่วยมาจัดทำเป็นหุ่นจำลองปั้นจิ๋ว นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้ผมได้มาก ข้าวของที่วางขายในร้านโชห่วยเป็นของที่ทำจิ๋ว แม้แต่ลังขวดน้ำอัดลม ยิ่งไปกว่านั้นคือป้ายโฆษณาต่างๆ รวมถึงพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ย่อส่วนลงมาติดอยู่บนขื่อหน้าร้าน สุดยอดผลงานจริงๆ ครับ
เมืองจิ๋ววิถีไทย ตลาดน้ำทุ่งบัวชม อีกสักชุดครับกับบรรยากาศของงานปั้นจิ๋วที่มีอยู่มากมายหลายมุม ทำให้ผมค่อยๆ ถ่ายภาพชุดนี้ไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ เพื่อให้ทุกคนเห็นฝีมืองานปั้นชุดนี้อย่างทั่วถึง ลานกว้างหน้าจอหนังกลางแปลงที่มีรถเย็นตาโฟจอดขายพร้อมกับเครื่องทำเย็นตาโฟที่ปั้นให้เล็กจัดวางอยู่ในตู้ ภาพบนขวาร้านขายของรถเข็นอีกมากมายหลายร้านที่ขายอยู่หน้าโบสถ์ที่กำลังมีงานวัด ภาพล่างซ้ายเป็นดนตรีสุนทราภรณ์ เวลาเราเดินเข้าไปใกล้ๆ เซนเซอร์ทำงานเสียงเพลงก็บรรเลงออกมา ทั้งน่าทึ่งและน่าตกใจไปพร้อมๆ กันเลย จากนั้นอ้อมไปอีกด้าน เป็นโรงลิเก การดำเนินเรื่องของลิเกก็เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ถ้าเราอยู่ในห้องพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นานหน่อยจะจับใจความได้ว่าเป็นลิเกเรื่องอะไรด้วยนะครับ
เทศกาลถือศิลกินผัก หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กินเจ ก็ใช้การปั้นหุ่นดินไทยจิ๋วในการถ่ายทอดงานนี้ออกมาได้อย่างสมจริง ประกอบไปด้วยหุ่นมากมายหลายตัว ในอากัปกิริยาที่แตกต่างกัน รวมถึงการแสดงงิ้ว ศิลปะแบบจีนที่เริ่มจะหาชมได้ยากขึ้นทุกวันๆ ใกล้ๆ กันก็มีมวยวัดศิลปะมวยไทยด้วยครับ
ตลาดน้ำจิ๋ว อีกส่วนหนึ่งของเมืองจิ๋ววิถีไทยที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องราวของวิถีชีวิตของชาวไทยที่พึ่งพาอาศัยสายน้ำเป็นเส้นทางการคมนาคมหลัก เป็นตลาด ไปจนถึงการสร้างวัดก็ต้องคำนึงว่าจะต้องอยู่ติดกับน้ำ การพายเรือออกบิณฑบาตร พ่อค้าแม่ค้าเอาสินค้าลงเรือ พายออกมารวมกันที่ตลาด มีทางเดินแบบสะพานทอดเชื่อมระหว่างบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำ งานปั้นตลาดน้ำที่นี่เป็นผลงานที่ค่อนข้างสมบูรณ์ อีกด้านหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ตรงผนังห้อง เป็นการแสดงเรือแบบต่างๆ ของไทยที่ใช้กันมาในอดีต จำลองมาได้อย่างละเอียดเหมือนจริงให้ศึกษาหาความรู้กันด้วย
บ้านเรือนความเป็นอยู่แบบไทยๆ คราวนี้มาดูอีกด้านหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ เป็นผนังห้อง มีแบบจำลองบ้านเรือนทรงไทย 4 ภาค เอาไว้ให้เราได้ชม ผสมกับภาพฉากหลังที่เป็นผลงานการเพนท์ภาพ บอกให้รู้ว่าเป็นภาคอะไรได้อย่างชัดเจน ความเป็นอยู่ของคนไทยแต่ละภาคก็แตกต่างกันไปตามลักษณะของภูมิประเทศ ด้านบนของผนังเป็นหุ่นขี้ผึ้งของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูปด้วยกัน ใครได้มาชมก็น่าจะประทับใจไม่ต่างกับผมเลยทีเดียว
โซนอาหาร ออกจากพิพิธภัณฑ์เมืองจิ๋ววิถีไทย เดินตรงมาจะเป็นโซนอาหาร มีร้านอาหารหลายร้านเปิดขายของกินต่างกันไป แต่เน้นหนักไปทางก๋วยเตี๋ยวเรือ เพราะเป็นของขึ้นชื่อของพระนครศรีอยุธยา กรุงเก่าของเรา ก๋วยเตี๋ยวเรือที่นี่เป็นก๋วยเตี๋ยวขายอยู่บนเรือจริงๆ แต่โต๊ะนั่งอยู่ด้านบนชอบลำไหนก็ไปสั่งลำนั้น แต่ตอนนี้ผมยังไม่หิวเดินข้ามสะพานกลับไปทางตลาดฝั่งซ้ายมือ (ด้านขวาเดินสุดแล้ว) พอข้ามมาด้านซ้าย ก็จะเห็นร้านขายเสื้อลายเอกลักษณ์ตลาดน้ำทุ่งบัวชม จากนั้นเดินต่อไปก็จะมีของฝากหลากหลายให้เราเลือก อย่างปลาตะเพียนต้มเค็มที่มีรูปคุณยายยิ้มน้ำหมากจะไหล เป็นพรีเซ็นเตอร์ ต่อมาเป็นขนมของฝากเอกชัย
โซนอาหารท้ายตลาดฝั่งซ้าย นอกจากโซนอาหารที่อยู่กลางน้ำติดพิพิธภัณฑ์แล้ว ข้ามมาฝั่งซ้ายก็มีร้านอาหารมากมายให้เลือกอีกโซนหนึ่งด้วยครับ รูปบนซ้ายยังเป็นของฝาก คือปลาแดดเดียว ต่อจากนั้นจะเป็นหวานเย็น เครื่องดื่ม โอเลี้ยง ฯลฯ ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นอร่อยดี (ฮ่อเจี๊ยะ) ร้านข้าวแกง ร้านตัวโต เมนูแนวญี่ปุ่น ติดกันต่อมาเป็นร้าน 4 แผ่นเดินไก่ทอดชาชัก เลือกได้ตามใจชอบเลยทีเดียว
ตลาดน้ำทุ่งบัวชมฝั่งซ้าย ตอนนี้เลยโซนของกินมาแล้วเดินวนกลับลานจอดรถ บริเวณท้ายตลาดมีห้องน้ำบริการด้วยครับ ใกล้กับโซนอาหาร ตลาดฝั่งซ้ายยังมีร้านค้ามากมายหลายอย่าง หากมองภาพรวมๆ แล้วฝั่งซ้ายของกินเยอะกว่า ฝั่งขวามีแฟชั่นเยอะ แต่นี่ยังมาเปิดร้านไม่ครบเลยนะ ทั้งยังเช้าอยู่ทั้งเป็นวันธรรมดาด้วย บางทีถ้ามาวันหยุดคงเดินเบียดกันตลอดแน่เลย ระหว่างทางเดินกลับมายังรถที่จอดอยู่ใกล้หุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ ผ่านร้านของฝากของกินเล่นหรือของหวาน ได้แก่ เจ๊หมวย กะหรี่พั๊ฟ เครปญี่ปุ่น วุ้นคุณหนู นมสดเอ็มมิลค์ ไอศกรีมปั่น ปิดท้ายด้วยไอศกรีมกะทิชื่อดังมหาชัยไอศกรีม
การแสดงในตลาดน้ำทุ่งบัวชม สำหรับการมาเที่ยวตลาดน้ำแห่งนี้ ถ้ามาในวันหยุดนอกจากจะมีร้านค้ามาเปิดมากกว่าวันธรรมดามีของให้เลือกกินเลือกซื้อมากกว่าแล้ว ที่นี่ยังมีการแสดงให้ชมกัน กันละหลายๆ รอบ อย่างในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาเป็นภาพบรรยากาศการเล่นน้ำอย่างสนุกสนานของนักแสดงกับนักท่องเที่ยว ภาพชุดนี้มาจากหน้าแฟนเพจของตลาดน้ำทุ่งบัวชมครับ
ทรานส์ฟอร์เมอร์ยกนิ้ว เรียกว่าขนาดหุ่นยัง like เลยว่างั้นเหอะ เป็นภาพปิดท้ายของการนำเที่ยวตลาดน้ำทุ่งบัวชมในวันนี้ครับ น่าเสียดายจริงๆ ที่มาเดินเอาช่วงเช้า ยังไม่หิวเลย ไม่สามารถที่จะชิมอาหารแล้วมาบอกเล่ารสชาตได้ ผมวางแผนว่าจะไปอีกครั้งเพื่อชิมโดยเฉพาะเลยละ ยังไงรอติดตามชมกันได้ใหม่นะครับ
แผนที่ตลาดน้ำทุ่งบัวชม ทัวร์ออนไทยได้จัดทำแผนที่แบบปักหมุดลงใน Google Map ไว้ให้แล้วละ แต่เผื่อว่าใครดูไม่ออกเลยเอารูปแผนที่จากแฟนเพจตลาดน้ำทุ่งบัวชมมาให้อีกจะได้ดูง่ายหน่อย แต่ผมว่าถ้ารู้จักถนนพหลโยธินขับจากกรุงเทพฯ ไปสระบุรี ละก็ ไม่มีทางหลงครับ ตลาดใหญ่มากๆ
แล้วพบกันใหม่กับการรีวิวรสชาตอาหารในตลาดน้ำทุ่งบัวชม ตอนนี้จบเท่านี้ครับ...
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ