ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานครนายก (นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว) โทร. 0 3731 2282, 0 3731 2284
http://www.tourismthailand.org/nakhonnayok
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
จากตัวเมืองเดินทางไม่ถึง 5 นาที อะไรจะใกล้ขนาดนี้ พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าพิพิธภัณฑ์ตะเกียง บางคนเรียกว่า บ้านตะเกียง เลยก็มี สังเกตุป้ายแบบนี้อยู่ซ้ายมือตั้งอยู่หน้าประตูทางเข้า
ประตูพิพิธภัณฑ์แลดูเหมือนกำแพงเมือง มีบานประตูใหญ่สำหรับรถเข้า-ออก แล้วก็มีประตูบานเล็ก
ประตูแต่ละด้านเหมือนหอคอย ด้านบนก็มีตะเกียงแขวนอยู่มากมายทั้ง 2 ด้าน บ่งบอกว่ามาที่นี่จะได้ดูตะเกียงมากมายอย่างแน่นอน
พิพิธภัณฑ์บ้านผมเอง พอเข้ามาด้านในประตู วนเอารถไปจอดแล้วเดินมาอยู่ตรงทางเข้า สิ่งที่เราเห็นอยู่ซ้ายมือก่อนสิ่งอื่นคือบ้านไม้หลังเล็กๆ มีป้ายด้านบนว่าเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านผมเอง จากนั้นทางเดินตรงไปยังประตูอีกบานหนึ่งด้านบนเป็นหอคอยอีกเหมือนกับประตูชั้นนอก แล้วก็มีป้ายพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ
เข้ามาดูพิพิธภัณฑ์บ้านผมเองก่อน ด้านในมีเก้าอี้ไม้แบบโบราณ จำได้ว่าเคยเห็นสมัยเด็กๆ ตอนนี้รูปทรงแบบนี้ชักจะไม่ค่อยมีออกมาให้เห็น ลึกเข้าไปในบ้านมีข้าวของเครื่องใช้สมัยเดียวกันกับเก้าอี้ ได้แก่ทีมี ตู้โชว์ และอื่นๆ ด้านบนเพดานคือสิ่งที่สะดุดตาที่สุด แขวนตะเกียงเอาไว้จำนวนมาก ตะเกียงที่แขวนในบ้านหลังนี้ดูเหมือนเป็นของใหม่ ที่น่าสนใจก็คือถังข้าวสาร ที่ตั้งเรียงรายอยู่บนผนังด้านขวา เป็นถังตวงข้าวสารสมัยก่อน เวลาซื้อขาย เคยได้ยินคำว่าซื้อขายกันถังละเท่านั้นเท่านี้ ก็ใช้ถังใบนี้นี่เอง
ออกจากพิพิธภัณฑ์บ้านไม้หลังเล็ก เดินเข้ามาด้านใน จากนี้ไปจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างเป็นอาคารหลายหลัง จ่ายค่าเช้าชมแล้วเดินเข้าด้านในได้เลย
แผนผังจำลองพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ ก่อนที่จะเข้าไปดูด้านใน ลองมาดูผังที่สร้างจำลองไว้ว่ามีอาคารกี่หลัง แต่ละหลังตั้งอยู่ตรงไหน ถ้าไม่บอกก่อนคงคิดว่าเป็นแบบจำลองหมู่บ้านจัดสรร เพราะอาคารแต่หลังสร้างอย่างเป็นระเบียบในพื้นที่อันกว้างใหญ่
ภายในที่มีหลายอาคารแต่ละอาคารมีของให้ชมมากมายหลายอย่างด้วยกัน แต่วันนี้จะพาเข้าไปชมอาคารลีลาวดีเป็นหลัก ไว้มีโอกาสเราจะนำภาพในอาคารอื่นๆ มาให้ชมกันอีก แต่บอกก่อนเลยว่าใครจะไปที่นี่คงต้องเผื่อเวลาเอาไว้บ้าง เพราะเดินดูของในอาคารทั้งหมดคงใช้เวลานานมาก
นอกเหนือจากจุดเด่นที่เป็นตะเกียงที่โชว์อยู่ตามจุดต่างๆ ของอาคาร ยังมีข้าวของเครื่องใช้โบราณมากมายหลายชิ้น ที่ตั้งแสดงอยู่ด้านใน โดยเฉพาะนาฬิกาลูกตุ้มที่นับวันจะเริ่มหายากมากขึ้นทุกที สมัยก่อนคนมีฐานะดีก็จะใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สักแกะสลัก นอกจากความสวยงามแล้วเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะคงทนอยู่ได้นานมาก
โทรศัพท์แม็กนีโต พอเดินลึกเข้ามาในตัวอาคาร ก็หาสิ่งสำคัญๆ ภายในพิพิธภัณฑ์ที่พอจะบ่งบอกถึงความยากลำบากในการหาของสะสมของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ก็มาเจอเอาของที่รูปร่างๆ แปลกๆ เข้าให้ และอยากรู้มากว่ามันคืออะไร ก็ปรากฏว่าเป็นโทรศัพท์นั่นเอง โทรศัพท์ที่มีหลักการทำงานและการออกแบบเหมือนกันกับโทรศัพท์ที่คิดค้นขึ้นมาได้ครั้งแรกถ้าเอามือถือมาเรียงลงไปคงได้หลายร้อยเครื่องเป็นแน่
นับตั้งแต่อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ได้คิดค้นและผลิตโทรศัพท์ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1876 (พ.ศ. 2419) หรือ 139 ปีมาแล้ว โทรศัพท์แม็กนีโต คือโทรศัพท์รุ่นแรกที่ผลิดใช้งานตั้งแต่ปี 1876 ประเทศไทยเองก็มีการนำเอาโทรศัพท์แบบนี้เข้ามาใช้งานสมัยรัชกาลที่ ๕ และขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยก็ยังคงใช้อยู่ จึงนับว่า โทรศัพท์แม็กนีโต เป็นโทรศัพท์คลาสสิค มีการพัฒนารูปแบบให้มีความสวยงามมาขึ้นตามลำดับ เป็นสิ่งที่หายากเนื่องจากหมดความนิยมไปตามกาลเวลา และเทคโนโลยีที่ผลิตโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ มาทดแทน
ร้านกาแฟโบราณ เดินดูอะไรไปเรื่อย กำลังจะเดินขึ้นชั้น 2 ก็มาเห็นตู้กระจกใส่ของเรียงเต็มตู้หลังนี้เข้า ที่แท้ก็เป็นร้านกาแฟสมัยก่อน เจ้าของสรรหาเอาสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวกับร้านกาแฟร้านนี้มาตั้งเรียงกันให้เต็ม ตอนนี้ยังพอจะมีตู้แบบนี้เหลืออยู่บ้างตามร้านกาแฟโบราณ แต่ก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นกันนัก
พัดลมและตะเกียงโบราณ
ตะเกียงส่วนใหญ่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะแขวนเรียงไว้บนเพดาน แต่มีบางส่วนที่จะใส่ตู้เอาไว้ ตะเกียงที่อยู่ในตู้จะเป็นตะเกียงที่มีความพิเศษ ตรงที่เป็นตะเกียงหายากมาจากหลากหลายประเทศทั่วโลก
พิพิธภัณฑ์ตะเกียง พาดูโน่นนี่นั่นมาหลายอย่างแล้ว คราวนี้มาดูความโดดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือตะเกียงนี่แหละ อาคารทุกอาคารในพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณจะมีตะเกียงแขวนเรียงรายอยู่ตามเพดาน นับจำนวนทั้งหมดมีมากกว่า 13,000 ดวง ในจำนวนตะเกียงเหล่านี้มีมากถึง 90% ที่สามารถใช้งานได้จริง ใส่น้ำมันจุดไฟได้
นอกจากตะเกียงแล้วก็มีโคมไฟติดอยู่ประปรายบนเพดาน โคมไฟเหล่านี้ก็ไม่ธรรมดา เป็นโคมไฟที่มีรูปร่างแตกต่างกัน และมาจากหลายประเทศเหมือนกับตะเกียงด้วย
ตะเกียงในสมัยก่อนหลายคนจะเรียกกันว่าตะเกียงเจ้าพายุ ไม่ว่าจะผลิตใช้ในประเทศไหนก็มีรูปร่างคล้ายๆ กันตรงส่วนประกอบแทบจะมีจำนวนชิ้นเท่าๆ กันเลยก็ว่าได้ นอกจากที่เอามาให้ชม ภายในพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณยังมีอะไรอีกมากในหลายอาคาร ต้องลองไปชมกันด้วยตัวเอง แล้วจะทึ่ง...
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ