ล่องแพ แนวชายแดน แม่น้ำกระบุรี

หน้าร้อนแบบนี้ คงต้องคิดหาวิธีคลายร้อน หลายคนคงอยากไปเที่ยวตามแหล่งน้ำ ทั้งน้ำจืดน้ำเค็มได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม น้ำตก หาดทราย หมู่เกาะต่างๆ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน การล่องแพและเล่นน้ำก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่หลายคนอยากจะไป ในหลายจังหวัดก็มีแพให้บริการหลายรูปแบบ พอมานึกถึงจังหวัดระนอง แต่ก่อนกาลนานมาไม่เคยคิดว่าทะเลระนองจะสวยนอกจากเกาะพยาม แต่พอเอาเข้าจริงก็ยังมีหมู่เกาะอีกมากมายหลายเกาะให้เราเลือกเที่ยวได้แบบสบายกระเป๋า เหมือนหมู่เกาะกำ ที่เราเพิ่งจะรีวิวไปไม่นานมานี้ พอมานึกถึงเรื่องล่องแพล่องแก่ง สำหรับจังหวัดระนองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าก็มีกับเค้าเหมือนกัน วันนี้ทัวร์ออนไทยก็เลยพามาดูว่าการล่องแพที่ระนองนี้ ไม่ธรรมดา น่าเที่ยวไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ เลยทีเดียว เพราะการล่องแพที่ระนองเป็นการล่องตามแม่น้ำกระบุรี ซึ่งถือว่าเป็นเส้นแบ่งเขตชายแดนไทยพม่า ตลอดลำน้ำสายนี้จนไหลไปออกทะเทอันดามัน

ล่องแพแม่น้ำกระบุรี มีคนให้บริการหลายเจ้า แต่ละเจ้าก็มีแพหลายลำ แพที่นี่เป็นแพขนาดเล็ก นั่งได้ 6 คนโดยประมาณ ล่องไปตามสายน้ำเขตพรมแดน ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร เริ่มต้นจากลำน้ำในสวนปาล์มของชาวบ้าน เราจะต้องเอารถจอดไว้ที่ค่ายตชด.บ้านน้ำทุ่น (แผนที่ ค่ายตชด.บ้านน้ำทุ่น) จากนั้นจะมีรถมารับไปส่งที่จุดเริ่มต้นการล่องแพ

ราคา 350 บาท/คน รวมอาหารและน้ำดื่ม

เวลาให้บริการ 2 รอบ 10.00-12.30 และ 14.00-16.00 น.

ช่วงเวลาที่เหมาะสม กุมภาพันธ์ - เมษายน

แพที่ให้บริการ

กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตำบลปากจั่น ติดต่อได้ที่ เฟสบุ๊ค การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตำบลปากจั่น

โทร.085-720-6266. ทราย. 087-269-7940 แบงค์

กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ล่องแพแลชายแดน ต.ปากจั่น ติดต่อได้ที่ เฟสบุ๊ค ล่องแพแลชายแดน ต.ปากจั่น

โทร.0883856766 0937398339

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานชุมพร 0 7750 1831-2 , 0 7750 2775-6
http://www.tourismthailand.org/chumphon

แก้ไขล่าสุด 2016-05-10 06:38:05 ผู้ชม 10666

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ต่อรถ ค่าย ตชด. บ้านน้ำทุ่น การเดินทางมาล่องแพในวันนี้ เท่าที่ได้รับฟังข้อมูลมาได้ความว่าเป็นเส้นทางล่องแพที่ค่อนข้างใหม่ เปิดบริการมาได้ประมาณ 6 เดือน พิกัดในการล่องแพไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำในช่วงนั้น เจ้าของแพจะเป็นคนกำหนดจุดเริ่มต้นให้เรา แต่จะไม่ต่างกันมาก แพให้บริการตอนนี้มี 2 เจ้า ก็แล้วแต่ว่าจะไปเจ้าไหน จุดนัดพบที่ง่ายที่สุดคงจะเป็นด่านตรวจของตำรวจตระเวนชายแดนบ้านน้ำทุ่น เราจะเอารถมาจอดไว้ที่นี่เจ้าของแพจะเอารถมารับไปที่จุดเริ่มล่องแพ รถเราก็มี ตชด. ดูแลความปลอดภัยไว้ให้ สบายใจได้ ค่าบริการล่องแพ 350 (ณ วันที่ 14/5/59) รวมอาหาร น้ำดื่ม และรถรับส่งเรียบร้อย

จุดเริ่มล่องแพในสวนปาล์ม หลังจากขึ้นรถรับส่งแล้วเค้าจะพาเราวิ่งมาตามถนนเส้นเลียบชายแดน จากนั้นก็ตัดเข้าสู่สวนยางและสวนปาล์ม ซึ่งเป็นทางดินเข้าสวนธรรมดา วิ่งมาสุดสวนปาล์มจะเห็นลำคลองสายเล็กๆ นี่แหละที่เรียกว่าแม่น้ำกระบุรี จากนั้นก็จะมีการอธิบายเส้นทาง และเวลาในการล่องแพ คร่าวๆ ก่อนจะเดินไปขึ้นแพและเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง

ล่องแพกระบุรี และเมื่อถึงเวลาที่เราเดินมาที่แพ สิ่งแรกที่เราเห็นคือแพหน้าตาแปลกกว่าที่อื่นจอดรอรับเราอยู่ เป็นแพที่มีหลังคา พอมองเข้าไปดีๆ ข้างในแพ ก็ยังเห็นมีแคร่เล็กๆ อยู่บนแพอีกต่างหาก แหมดูแล้วมันน่าสบายกว่า การล่องแพที่อื่นเป็นไหนๆ เห็นไอเดียแบบนี้แล้วอยากบอกให้แพจังหวัดอื่นลองเอาไอเดียไปใช้ คนมาเที่ยวก็จะได้สบายขึ้นอีกหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ร้อนแดด จะกินอะไรบนแพก็ง่าย วางของไว้ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเปียกเพราะแคร่สูงพอสมควร ขอบแพตีแผ่นไม้สูงขึ้นกว่าพื้นแพให้นั่งสำหรับคนไม่อยากจะเปียก คนถ่อแพก็รอเราอยู่ที่แพอยู่แล้วตอนนี้ก็แค่เดินไปนั่งบนแพและพร้อมสำหรับการออกเดินทาง

แคร่อาหารในแพ นี่ละพอมาใกล้ๆ เราก็จะเห็นภายในแพละเอียดขึ้น ในแพแต่ละลำประกอบด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือ และเสื้อชูชีพพร้อมสรรพ แค่อาหารมีอาหารเรียงอยู่เรียบร้อย ภายในยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร จนกว่าจะถึงเวลาหิว (อาหารที่จัดไว้สำหรับคนล่องแพรอบเช้า เป็นข้าวกลางวันระหว่างทางในการล่องแพ ส่วนคนล่องรอบบ่ายจะได้อะไรบ้างก็ไม่รู้สินะ เดี๋ยวถามให้) สำหรับกล้องที่พกกันมาถ่ายรูปถ้าไม่กันน้ำก็วางบนแคร่ สบายใจกว่าไม่มีที่จะวาง เอาละพร้อมแล้วออกแพได้ อ้อมาถึงตรงนี้บอกก่อนว่าสัญญาณโทรศัพท์ไม่ว่าจะค่ายไหนจะเริ่มขาดๆ หายๆ มาเป็นระยะๆ มาบ้างไม่มาบ้างละนะ

อาหารห่อใบตอง ด้วยความรักที่มีต่อธรรมชาติ กิจกรรมล่องแพของที่นี่เลยเลือกใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ ในการบรรจุอาหารไม่ว่าจะเป็นข้าวและผัดหมี่ ซึ่งเป็นของแห้ง ส่วนของที่ไม่สามารถห่อใบตองได้ก็ใช้จานชามที่นำกลับไปล้างใหม่ ในกรณีที่เจอนักท่องเที่ยวมักง่ายชอบโยนขยะลงน้ำใบตองก็จะย่อยสลายไปเองได้

อาหารกลางวันระหว่างลองแพ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เราใช้บริการล่องแพวันนี้ เตรียมผัดหมี่ใส่หมู ข้าวน้ำพริกปลาทู ผัดเหลียงใส่ใข่ ตบท้ายด้วยยำมะม่วง น้ำดื่มแช่ถังน้ำแข็งเย็นๆ พร้อมให้บริการ

หมาตักน้ำ คำว่า "หมา" นี่แหละ ถูกแล้ว สำหรับชาวใต้จังหวัดสุราษฏร์ธานี เรียกว่าหมา ส่วนจังหวัดอื่นๆ มีเรียกว่าหมาบ้าง แต่ไม่มากเท่าสุราษฎร์ หมาตักน้ำเป็นภาชนะที่สานขึ้นมาจากใบไม้ อย่างที่ระนองไม่ต้องสานเอากาบหมากใบเดียวมาพับแล้วมัด ส่วนที่สุราษฎร์ ใช้ใบจากอ่อน (ต้องใบอ่อนนะ) หลายๆ ใบมาสานกันแปลกมากที่เค้าสานจนตักน้ำได้โดยน้ำไม่รั่ว คนไปเที่ยวสุราษฎร์อยากรู้เรื่องหมาตักน้ำ ต้องไปอ่านรีวิวล่องเรือเที่ยววิถีชุมชนคลองร้อยสาย

ถ่ายรูปแพเก๋ๆ กระบุรี ทุกๆ คนพอเดินมาถึงที่แพสิ่งแรกที่ทำก็คือการถ่ายรูปแพเพราะแพที่นี่ดูเหมือนว่าจะไม่เหมือนที่อื่นๆ เท่าที่เคยล่องแพกันมา มีทั้งหลังคามีทั้งแคร่ แถมยกพื้นที่นั่งให้สูงกว่าพื้น บางคนจึงล่องแพกระบุรีแล้วกลับได้โดยไม่เปียกน้ำ ส่วนคนที่ตั้งใจมาเล่นน้ำก็กระโดดลงน้ำกันอย่างสนุกสนานในช่วงที่จอดให้เล่น ในหน้าแล้งโดยเฉพาะปี 59 แล้งจัดน้ำบางช่วงตื้นก็ต้องลงจากแพกันบ้าง สนุกสนานกันไป

ล่องแพกระบุรี เอาละ ได้เวลาออกเดินทางกันได้แล้ว คนถ่อแพพาเราออกเดินทางตรงจุดที่ขึ้นแพน้ำตื้นมากท่วมตาตุ่มมาหน่อยเดียวไม่นึกว่าให้เราขึ้นไปนั่งแล้วแพมันจะเคลื่อนออกไปได้แต่มันก็ทำได้ พอแพเดินทางไปในช่วงแรกน้ำยังตื้นอยู่คนถ่อแพจะลากแพไปตามแม่น้ำกระบุรี ฝั่งขวามือของเราจะเป็นประเทศเมียนมาร์ หรือพม่า นั่นแหละ ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นประเทศไทย แม่น้ำกระบุรีเป็นเส้นแบ่งเขตแดนสองประเทศที่สามารถเดินถึงกันได้สบายๆ เลย ทั้งฝั่งไทยและฝั่งพม่าจะไม่ค่อยเห็นบ้านเรือนมาปลูกอยู่ริมน้ำ คงเพราะอดีตกาลนานมามันไม่ค่อยปลอดภัยเหมือนทุกวันนี้ ตอนนี้แม้ว่าสถานการณ์ในพม่าจะยังมีปัญหาอยู่บ้างเป็นระยะๆ แต่ก็นานๆ ที ถ้าเห็นว่าไม่ปลอดภัย แพจะงดให้บริการ

ช้างออกมาต้อนรับ ชาวบ้านแถวนี้บางบ้านจะเลี้ยงช้างเอาไว้ คงมีมานานแล้วและเลี้ยงไว้สำหรับทำงานบ้างไม่ได้เอาไว้แร่หาเงินตามถนน แต่การที่เรามาเห็นช้างกำลังกินใบไม้อยู่ตามแนวชายแดนแบบนี้ทีแรกนึกว่าช้างป่า เอาแล้วไงจะไหวมั้ยเนี่ย แต่พอช้างมันเห็นแพล่องมาตามน้ำเหมือนมันอยากจะมาเล่นกับคนบนแพ มันวิ่งออกมาจากพุ่มไม้แต่ติดที่โซ่ที่ล่ามมันอยู่มันเลยลงมาได้แค่ตลิ่ง แต่หลายคนเห็นภาพนั้นแล้วทีแรกจะกระโดดลงจากแพแล้ววิ่งเหมือนกันแหละ กลัวโซ่มันหลุด พอช้างมันเห็นว่ามันเข้ามาหาแพไม่ได้มันก็ดูดน้ำพ่นใส่แพแทนกลายเป็นภาพที่น่ารักหายตกใจเลย

จุดพักกินข้าว เล่นน้ำ สำหรับรอบเช้า ที่ออกเดินทางเวลาประมาณ 10-11.00 น. จะมาถึงบริเวณจุดพักกินข้าวช่วงประมาณเที่ยงพอดี จุดที่เตรียมไว้เป็นจุดพัก ระดับน้ำจะลึกลงเล่นได้ ขึ้นไปบนต้นไม้กระโดดน้ำเล่นได้สบายๆ เลยละ

หลังจากกินข้าวเล่นน้ำอย่างสนุกสนานพอได้ที่แล้วแพก็ออกเดินทางต่อไปชมวิวกันแบบชิลๆ ดีนะที่ว่าแพมีหลังคาอย่างน้อยก็ไม่ร้อนแดด ไม่งั้นความสุขในการล่องแพคงหายไปเยอะเหมือนกัน อยู่บนแพก็ถ่ายรูปเซลฟี่กันไปตามสมควร ไม่นานก็ถึงจุดสิ้นสุดเส้นทางการล่องแพเลียบเส้นแบ่งพรมแดน กระบุรี

สวนปาล์มน้ำมัน จบทริปการล่องแพที่สนุกสนานไปอีกทริปหนึ่ง ขึ้นจากแพมาก็มาที่สวนปาล์มที่รถจอดรออยู่ ออกเดินทางด้วยรถกลับไปที่ด่าน ตชด.บ้านน้ำทุ่น เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำ ขึ้นรถตัวเองเดินทางเที่ยวชุมพร ระนอง กันต่อไป...