ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ http://www.tourismthailand.org/bangkok
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทริปนี้เป็นการเดินทางด้วยการเดิน ด้วยจุดประสงค์จะเดินทางไหว้พระ 9 วัดรัตนโกสินทร์ เราเดินมาจากวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามซึ่งยังอยู่ในระหว่างการบูรณปฏิสังขรณ์ ข้ามคลองมายังราชบพิตรทางถนนราชบพิตร ทันทีที่ก้าวเดินเข้าประตูด้านทิศเหนือมาภายในวัดจะได้พบภาพที่งดงามของพระอุโบสถวัดราชบพิตรที่สร้างในรูปแบบไทยผสมตะวันตก ลักษณะของพระอุโบสถสร้างเป็นอาคารหนึ่งใน 4 อาคารที่ล้อมรอบพระมหาเจดีย์ทรงกลม อาคารทั้งสี่เชื่อมถึงกันด้วยพระวิหารคดรอบพระมหาเจดีย์ ทั้งหมดประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ตลอด จึงได้รับการขนานนามว่า "พระอารามเครื่องเบญจรงค์" อาคารอีกหลังหนึ่งคือพระวิหาร ส่วนอีก 2 หลังเป็นพระวิหารทิศ
ช่องประตูด้านหน้าพระอุโบสถ ด้านหน้าของพระอุโบสถมีช่องประตู 3 ช่อง โดยมีช่องกลางสูงที่สุดอีก 2 ช่องมีขนาดลดลงมาตามแบบอย่างการสร้างประตูอุโบสถทั่วไป จุดเด่นของวัดราชบพิตรอีกอย่างหนึ่งก็คือบานประตูและหน้าต่างประดับด้วยมุกเป็นรูปเครื่องหมายพระราชอิสริยาภรณ์ต่างๆ สวยงามมาก
เริ่มต้นเดินชมวัด ด้านข้างช่องประตูทางเข้าพระอุโบสถที่เห็นมีส่วนยื่นออกมาสั้นๆ เรียกว่า "มุกเด็จ" เป็นความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ที่ใช้เรียกส่วนต่างๆ ของอาคารครับ ก่อนที่จะเดินเข้าไปในพระอุโบสถ สักการะพระปฏิมาประธาน พระพุทธอังคีรส และพระพุทธรูปสำคัญ พระนิรันตราย (จำลอง) เราจะพาไปชมสถาปัตยกรรมการก่อสร้างวัดที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย เราเริ่มเดินเวียนขวารอบพระอุโบสถและรอบพระมหาเจดีย์เพื่อชมบริเวณวัดภายใน
หน้าต่างพระอุโบสถวัดราชบพิตร เพียงแค่ได้เห็นจากภายนอกก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ความสวยงามของวัดราชบพิตรนั้นสวยมากจริงๆ
อาคารอื่นๆ ในวัด ระหว่างที่เดินอยู่บนลานทักษินรูปวงกลมก็จะได้เห็นอาคารอื่นๆ ของวัด และอาคารที่ใช้เป็นที่พำนักจำวัดของสงฆ์ในเขตสังฆาวาส บนลานทักษินปูด้วยหินอ่อนทั้งหมด มีศาลาราย รอบนอกของลานทักษินทั้งสี่ทิศ
พระมหาเจดีย์วัดราชบพิตร พระมหาเจดีย์ เป็นแบบทรงกลมตั้งอยู่บนฐานทักษิณ ประดับกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์อัดพิมพ์นูนทั้งองค์ ฐานทักษิณเจาะเป็นซุ้ม 16 ซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ 14 ซุ้ม และพระรูปหล่อสมเด็จพระสังฆราชเจ้า และสมเด็จพระสังฆราช ในด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออก อีก 2 ซุ้ม เป็นประตูเข้าออกภายในพระเจดีย์ ภายในพระเจดีย์มีชุกชี ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาปางนาคปรกอยู่ เป็นศิลปะแบบลพบุรี เล่ากันว่า มีการขุดพบใต้ต้นตะเคียนริมคลองหลอด ซึ่งเชื่อกันว่าคนที่อยากมีลูกมาขอพรก็จะมีลูกสมใจ พระมหาเจดีย์เป็นเจดีย์ทรงระฆังหรือที่เรียกกันว่าทรงลังกา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯ ให้สร้างตามแบบวัดโบราณ คือยึดพระเจดีย์เป็นหลักของวัดแล้วสร้างผังของวัด ในส่วนที่เหลือ พระระเบียงคด หรือพระวิหารคด ล้อมรอบแบ่งเขตพุทธาวาส ออกจากเขตสังฆาวาส ยอดพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ข้างบานประตูเข้า-ออกพระมหาเจดีย์ ระหว่างพระมหาเจดีย์ พระอุโบสถ และพระวิหารจะมีประตูเข้าออก ด้านละ 3 ช่อง แต่ละช่องประตูจะมีเทพเฝ้าประตูที่เรียกกันว่า เซี่ยวกาง ประดับอย่างสวยงามทั้ง 2 ข้างของแต่ละช่องประตูรวมทั้งหมดมี 6 ข้าง เช่นเดียวกันกับด้านหน้าพระอุโบสถและด้านหน้าของพระวิหารก็มีเช่นเดียวกัน
ลวดลายบานประตูประดับมุก ช่องประตูด้านหลังพระอุโบสถซึ่งหันเข้าด้านในพระวิหารคดจึงมองเห็นบานประตูนี้ได้เมื่อเข้ามาในบริเวณพระมหาเจดีย์แล้ว บานประตูทั้งสองบานมีลักษณะแบบเดียวกัน คือลวดลายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 5 ดวงเรียงตามลำดับ ได้แก่ นพรัตน์ราชวราภรณ์ มหาจักรีบรมราชวงศ์ ปฐมจุลจอมเกล้า ประถมาภรณ์ช้างเผือก และ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย
บานหน้าต่างพระวิหาร นอกจากจะสร้างบานหน้าต่างและบานประตูด้วยลายประดับมุกที่พระอุโบสถ ส่วนพระวิหารก็มีลวดลายสีทองประดับกระจกสีที่สวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
ลวดลายเบญรงค์ตลอดพระวิหารคด จากภาพนี้จะเห็นได้ว่าพระวิหารคดที่เชื่อมถึงอาคารทั้ง 4 มีลวดลายที่สวยงามประดับอยู่โดยตลอดแลดูกลมกลืนกับลวดลายบนอาคาร
เขตสังฆาวาสในปัจจุบัน ด้านทิศใต้ของพระมหาเจดีย์เป็นเขตสังฆาวาส ประกอบด้วยอาคารหลายหลัง มีอยู่หลังหนึ่งที่เป็นตึก 3 ชั้น รูปแบบอาคารในสมัยก่อน
พระมหาเจดีย์จากมุมด้านทิศใต้ เมื่อเดินมาจนสุดเขตบริเวณนี้แล้วก็จะเดินกลับออกด้านหน้าที่เข้ามา สถานที่ที่น่าสนใจในวัดราชบพิตรยังมีสุสานหลวงด้วยครับแต่ในวันนี้คงยังไม่ได้เข้าไป เท่านี้ก็ได้เห็นสิ่งสวยงามมากแล้ว ไหว้พระสบายใจแล้วเดินทางกันต่อเพื่อให้ครบ 9 วัดครับ
หอกลองวัดราชบพิธฯ หอกลองและหอระฆังวัดราชบพิธสร้างในลักษณะเดียวกัน หอกลองอยู่ด้านทิศตะวันตก ส่วนหอระฆังอยู่ด้านทิศตะวันออก ตกแต่งอย่างสวยงาม
พระพุทธอังคีรส หลังจากที่เดินชมรอบๆ อาคารต่างๆ รอบพระมหาเจดีย์ พระอุโบสถ พระวิหาร พระวิหารทิศ จากนั้นก็ถึงเวลาเข้าสักการะพระปฏิมาประธานในพระอุโบสถ
พระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีหินอ่อนจากประเทศอิตาลี พระนาม "พระพุทธอังคีรส" แปลว่ามีรัศมีซ่านออกจากพระวรกาย หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ กระไหล่ทองคำเนื้อแปดหนัก 180 บาท เป็นท่องที่แต่งพระองค์รัชกาลที่ ๕ ที่ฐานบัลลังก์กระไหล่ทองเนื้อหกหนัก 48 บาท ภายในบรรจุ
- พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
- พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระบรมอัฐิพระศรีสุลาลัย สมเด็จพระบรมราชินีในรัชกาลที่ 3
- และพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร ผู้ทรงอภิบาลรัชกาลที่ 5 แต่ทรงพระเยาว์
ภายในพระอุโบสถ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นกว่าวัดแห่งอื่นๆ ของไทยหลายอย่างเช่น สถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน ภายนอกเป็นศิลปะแบบไทย ประดับกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ที่งามวิจิตรแห่งเดียวในประเทศไทย ภายในเป็นศิลปะแบบโกธิค บานประตูหน้าต่างด้านนอกประดับมุกลวดลายจำลองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ภายในปิดทองลายรดน้ำพุ่มข้าวบิณฑ์ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ แต่ภายหลังเมื่อปฏิสังขรณ์ในปี พ.ศ. 2472 มีการเขียนลายดอกไม้ร่วงสีทองแทนภาพพุทธประวัติเดิม
ด้านในพระอุโบสถตรงบานประตู ลวดลายบนบานประตูด้านในพระอุโบสถทั้ง 3 ช่องที่ปิดสนิทเพราะวันนี้เป็นวันที่ทางวัดต้องเตรียมทำความสะอาดเพื่อรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะเสด็จพระราชดำเนินเยือนในวันพรุ่งนี้ ทำให้เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นด้านหลังของบานประตูพระอุโบสถ
กระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ประดับพระวิหาร พระวิหารซึ่งอยู่ในทิศตรงกันข้ามกับพระอุโบสถซึ่งสร้างในลักษณะแบบเดียวกัน
กระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ ภาพขยายลวดลายที่สวยงามและการประดิษฐ์ลายด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์จำนวนนับไม่ถ้วนบนพระอุโบสถและพระวิหารรอบพระมหาเจดีย์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
เสาศิลาจำหลักใบเสมา เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของวัดแห่งนี้ที่ไม่มีให้เห็นที่ไหนก็คือเสาศิลาจำหลัก ยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร 8 เสา ตั้งประจำกำแพงทั้ง 8 ทิศ อันเป็นที่มาของสร้อยนาม "สถิตมหาสีมาราม" หมายถึงอารามที่มีมหาสีมาหรือมีเสมาขนาดใหญ่ สามารถทำสังฆกรรมใดๆ ก็ได้ในเขตเสมานี้ ปกติใบเสมาซึ่งเป็นสิ่งกำหนดเขตของพระอุโบสถหรือเขตพุทธาวาส จะอยู่รอบๆ พระอุโบสถห่างกันไม่มากนัก โดยมากอาจจะสร้างใบเสมาไว้บนลานทักษินรอบพระอุโบสถ แต่ใบเสมาของวัดราชบพิธฯ เป็นเสาที่ตั้งอยู่ที่กำแพงวัด ทำให้มีเขตพุทธาวาสที่กว้างใหญ่ เสาหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าพระอุโบสถพอดีเสานี้เป็นเพียงหนึ่งในทั้งหมด 8 เสา
สุสานหลวงวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม อยู่นอกเขตกำแพงรอบวัดด้านตะวันตกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้น เพื่ออุทิศพระราชกุศลแก่พระบรมราชเทวี พระราชเทวี เจ้าจอมมารดา ตลอดจนพระราชโอรสธิดา และมีบางส่วนที่พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในสมัยหลัง อนุสาวรีย์ที่สุสานหลวงนี้ทำเป็นรูปเจดีย์ ปรางค์ และอาคารศิลปะยุโรป เช่น
สุนันทานุสาวรีย์ บรรจุพระสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ บรมราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ โสภางคทัศนียลักษณ์ อัครวรราชกุมารี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รังษีวัฒนา บรรจุพระสรีรางคารพระราชโอรส พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประสูติแต่สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เช่น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร
เสาวภาประดิษฐาน บรรจุพระสรีรางคาร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
สุขุมาลย์นฤมิตร บรรจุพระสรีรางคาร สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
อนุสาวรีย์รูปปรางค์ 3 ยอด บรรจุพระสรีรางคารพระวิมาดาเธอ พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา และพระประยูรญาติ
อนุสาวรีย์พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
สำหรับภาพในสุสานหลวงคงไม่สามารถที่จะลงภาพได้ทั้งหมด ขอลงเพียงบางส่วนให้เห็นเป็นตัวอย่างเท่านั้นครับ
สุสานหลวงวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จบการแนะนำสถานที่สำคัญของไทยวัดประจำรัชกาลที่ ๕ และบริเวณต่างๆ รอบๆ วัดอย่างสมบูรณ์ไว้เพียงเท่านี้ครับ หากมีเวลาได้เดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร และมีโอกาสได้ไหว้พระในวัดสำคัญๆ ต่างๆ ซึ่งมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ให้เราได้ศึกษาเช่นวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม แห่งนี้ก็ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะรู้จักวัดแห่งนี้โดยละเอียดอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ