ถ้ำดาว วัดหนองพลับ

ถ้ำดาว เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในภูเขาเล็กๆ ด้านหลังของวัดหนองพลับ อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ขนาดของถ้ำที่กว้างใหญ่และมีทางเดินได้ยาวทำให้เราต้องทึ่งกับสิ่งที่ได้เห็นเพราะมองจากด้านนอกจะเห็นภูเขาที่ไม่ได้ใหญ่มากมายเลยจนไม่อยากเชื่อว่าจะมีถ้ำกว้างขนาดนี้ได้ ถ้ำดาวถูกพบเมื่อนานมาแล้วก่อนที่จะมีการสร้างวัดหนองพลับเสียอีกตามที่ชาวบ้านกันต่อๆมาว่า นายสุดใจ ศรีสุวรรณ เป็นผู้ค้นพบถ้ำและได้นิมนต์พระมาอยู่และตั้งเป็นสำนักสงฆ์ ภายในถ้ำมีรูปเจ้าแม่เขียวค่อมยืนอยู่ตรงปากถ้ำ และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 2 องค์ หนึ่งในสององค์นั้นคือหลวงพ่อดำ ชาวบ้านศรัทธาหลวงพ่อดำและเจ้าแม่เขียวค่อมมาก ว่ากันว่าถ้ามีของหายต้องการของนั้นคืนจะมาไหว้ขอเจ้าแม่เขียวค่อม ส่วนความพิเศษของถ้ำอันเป็นที่มาของชื่อถ้ำดาว คือบนผนังและเพดานของถ้ำจะมีจุดสีขาวบ้างสีทองบ้างขนาดใกล้เคียงกันทุกจุดประมาณผลมะนาว เรียงรายอยู่มากมายเหมือนดาวบนท้องฟ้า เป็นจุดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ยังมีเรื่องเล่าอีกว่าบริเวณวัดหนองพลับเป็นเมืองโบราณอายุหลายร้อยปี ชื่อเมืองลับแล มีเจ้าแม่เขียวเป็นผู้ครองเมืององค์สุดท้าย ไม่มีโอรสธิดาที่จะสืบทอดต่อจนทำให้เมืองล่มสลายไปในที่สุด บริเวณรอบๆ กลายเป็นป่าเสื่อมโทรมจนกระทั่งรัชกาลที่ ๙ มีโครงการพระราชดำริขึ้น ที่ดินป่าเสื่อมโทรมจึงได้มีการจัดสรรให้เป็นที่ทำกิน

ภายในวัดหนองพลับ นอกจากจะมาชมถ้ำดาวที่สวยงามตามธรรมชาติ ยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางประทานพร หน้าตัก 12 เมตร สูง 17 เมตร 39 เซนติเมตร ความสูงรวมฐาน 29 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองเหลืองทั้งองค์ ทางวัดยังได้บันทึกว่าเป็นพระพุทธรูปทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พระนามว่า พระพุทธโพธิเมตตา มีการบอกเล่ากันมาว่าระหว่างการเททองหล่อองค์พระมีหลายคนมาซื้อทองเพื่อร่วมหล่อพระ ขอพรให้โรคธาลัสซีเมียหาย อีกคนเป็นมะเร็งระยะที่ 4 ได้ซื้อทอง 50 ก้อน หล่อองค์พระอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรก็หายจากโรคมะเร็งได้อย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นมาก็มีคนมากราบไหว้ขอพรไม่ขาด

ด้านหน้าขององค์พระพุทธโพธิเมตตามีพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช และพระนเรศวรหลั่งน้ำทักษิโณทก

ค่าเข้า:ไม่มีค่าเข้าชม

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.ประจวบคีรีขันธ์ โทร.0 3251 3885, 0 3251 3871, 0 3251 3854
http://www.tourismthailand.org/prachuapkhirikhan

แก้ไขล่าสุด 2020-02-24 18:08:11 ผู้ชม 33773

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

พระพุทธโพธิเมตตา พระพุทธรูปปางประทานพรหล่อด้วยทองเหลืองทั้งองค์ ที่ทางวัดบันทึกว่าเป็นพระพุทธรูปทองเหลืองใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หน้าตัก 12 เมตร สูง 17 เมตร 39 เซนติเมตร ประดิษฐานอยู่กลางลานกว้างหน้าวัดมองเห็นแต่ไกล ส่วนเขาทางด้านหลังองค์พระเป็นที่ตั้งของถ้ำดาว ถ้ำขนาดใหญ่ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในเขาลูกเล็กแห่งนี้

พ่อขุนรามคำแหง เบื้องขวาพระพุทธโพธิเมตตา มีพระบรมราชานุสาวรีย์ พ่อขุนรามคำแหง ส่วนเบื้องซ้ายมีสมเด็จพระนเรศวร

วัดหนองพลับ เมื่อมองจากศาลาหน้าปากถ้ำดาว จะเห็นบริเวณวัดหนองพลับและป่าไม้เขียวขจีไปจนถึงเขาอีกด้านหนึ่ง ทางขึ้นถ้ำดาวอยู่ทางด้านหลังพระพุทธโพธิเมตตา มีบันไดปูด้วยศิลาแลงเดิน 2-3 นาทีก็ถึงปากถ้ำ

ถ้ำดาว จากปากถ้ำเดินเข้ามาจะเห็นพระพุทธรูป 2 องค์ กับรูปเจ้าแม่เขียวค่อมหันหน้าไปทางปากถ้ำ ภายในถ้ำดาวมีหลายคูหาแต่ละคูหากว้างและมีความสวยต่างกันไป เราจะเห็นจุดบนผนังถ้ำไปจนถึงเพดานถ้ำได้ตั้งแต่คูหาแรก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และที่มาของชื่อถ้ำดาว เหมือนกับเป็นจิตรกรรมฝาผนังเลยทีเดียว ระยะห่างของจุดและขนาดของจุดใกล้เคียงกันอย่างน่าอัศจรรย์

ถ้ำดาว วัดหนองพลับ จากคูหาแรกมีทางแยกให้เลือกเดิน ทางแรกอยู่ด้านหลังพระพุทธรูปมีทางเดินลึกเข้าไปได้ถ้าไม่ลองเดินไปหลังองค์พระก็จะไม่รู้เลยว่ามีทางเดิน ส่วนทางที่เราเริ่มเดินก่อนคือทางขวาของคูหาแรก พอเลี้ยวปุ๊บจะเห็นภาพนี้ปั๊บเลย ทางวัดติดไฟสว่างตลอดทางเดินแต่ก่อนจะขึ้นมาเที่ยวถ้ำให้แจ้งทางวัดก่อนเพราะไฟในถ้ำไม่ได้เปิดตลอด จะเปิดเฉพาะเวลามีคนมาเที่ยวและจะปิดไฟหลังจากที่คนเดินออกมาจากถ้ำแล้ว เพื่อเป็นการประหยัดไฟฟ้า และถ้าหลวงพ่อไม่ติดกิจอะไรท่านจะเมตตาพามาดูจุดที่น่าสนใจในถ้ำด้วยตัวเองเลย

ถ้ำดาว วัดหนองพลับ จากคูหาที่ 2 มองย้อนกลับไปที่คูหาแรก เราจะเห็นองค์พระพุทธรูปเล็กลงไปเลยเมื่อเทียบกับขนาดของถ้ำดาว

ภายในถ้ำมีจุดน่าสนใจและสวยหลายจุด ถ้ามีหลวงพ่อมาอธิบายทีละจุดจะสนุกมาก อย่างจุดนี้เค้าเรียกกันว่าแท่นประทับนาคราช หรือแท่นประทับพญานาค มีลักษณะเป็นทรงกลมๆ ด้านบนเรียบ มีประกายระยิบระยับเหมือนโรยด้วยกากเพชร ชาวบ้านจะนำของมาไหว้อยู่เป็นประจำ

พระครูสิริศุภกิจ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน (ถ่ายเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2563) ท่านเมตตาพามาชมถ้ำดาวทีละจุดๆ ด้วยตัวเอง

สำหรับวันนี้เราพาเที่ยวถ้ำดาว วัดหนองพลับเท่านี้ก่อน ไว้พบกันในรีวิวต่อไป

ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์