พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก ตำบลห้วยทรายเหนือ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 216 เลยหาดชะอำมา 8 กิโลเมตร เป็นพระตำหนักที่ประทับริมทะเล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2466 ได้รับขนานนามว่า "พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง" ลักษณะเป็นพระตำหนักแบบไทยผสมยุโรป เป็นอาคารไม้ใต้ถุนสูง สร้างด้วยไม้สักทอง พระตำหนักฝ่ายในอยู่ปีกขวา ทางปีกซ้ายเป็นส่วนของฝ่ายหน้า ประกอบด้วยพระที่นั่งสามองค์เชื่อมต่อถึงกันโดยตลอด พระที่นั่งสมุทรพิมาน เป็นที่ประทับของพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรชายา พระที่นั่งพิศาลสาครเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีอาคารข้าราชบริพารฝ่ายหน้าเป็นบริวารหลายหลัง และมีแนวระเบียงยื่นลงสู่ทะเลเป็นที่ลงสรงน้ำ และพระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ เป็นอาคารโถงสองชั้นเปิดโล่งใช้เป็นที่ประชุมในโอกาสต่าง ๆ และเป็นโรงละครซึ่งเคยจัดแสดงละครครั้งสำคัญ 2 ครั้ง คือ เรื่องพระร่วง และวิวาห์พระสมุทร

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธ

นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีจุดที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกได้แก่ ได้แก่ บ้านพักข้าราชบริพาร อนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว บ้านเจ้าพระยารามราฆพ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 032 508 443-5 เฟสบุ๊ค พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน / Mrigadayavan Palace

สิ่งอำนวยความสะดวก - ลานจอดรถ - ร้านอาหาร - ร้านขายของที่ระลึก - รถเข็นสำหรับผู้พิการ - จักรยานให้เช่า

หมายเหตุ - ผู้เข้าชมพระตำหนักต้องแต่งกายสุภาพ ผู้ที่ใส่กางเกงขาสั้นมีบริการผ้านุ่งให้สวมใส่ ภายในห้ามทำการบันทึกภาพ

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 032 508 443-5
เฟสบุีค https://www.facebook.com/mrigadayavanofficialpage/

แก้ไขล่าสุด 2017-08-20 21:04:22 ผู้ชม 41651

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นสถานที่ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเพชรบุรี แล้วยังมีทำเลที่สวยงามมากคือติดกับทะเล แต่ละวันไม่เคยขาดนักท่องเที่ยว ภาพที่จะได้เห็นเป็นภาพที่เราถ่ายไว้เมื่อก่อนจะมีการประกาศห้ามถ่ายภาพ เลยพอมีภาพสวยๆ ให้ได้ชมกัน ในพระราชนิเวศน์มีหลายโซน ได้แก่ เขตพระราชฐานฝ่ายใน เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทยที่อยู่ในพระราชมณเฑียรสถาน เหมือนพระบรมมหาราชวัง พระที่นั่งสมุทพิมาน ศาลาลงสรงฝ่ายใน หมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร ฯลฯ แต่ละส่วนมีทางเดินเชื่อมถึงกันหมด ที่นี่เลยเป็นพระราชนิเวศน์ที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลังที่ยาวมากๆ

จุดหนึ่งที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันมากที่สุดนอกจากด้านหน้าแล้วก็จะมี ศาลาลงสรงฝ่ายในเป็นศาลาที่เชื่อมต่อกับหมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร บริเวณศาลาลงสรงมีห้องเปลี่ยนฉลองพระองค์ของพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน ห้องเก็บของ และเฉลียงสำหรับประทับหรือนั่งรับลมทะเล ถ้าเดินชมภายในพระราชนิเวศน์จะเป็นทางเดินตรงมายังที่นี่เป็นทางเดินที่ยาวมากๆ และเป็นมุมที่หลายคนชอบถ่ายรูปเหมือนกันแต่ห้ามไม่ให้เดินตามทางเดินมาที่ศาลาลงทรง

มุมสวยๆ หลายมุมที่เมื่อก่อนจะถ่ายรูปกันได้ แต่ตอนนี้ต้องถามเจ้าหน้าที่ว่าจะให้ถ่ายได้มากน้อยแค่ไหน ใช้กล้องยังไงได้บ้าง หรือห้ามทั้งหมด เจ้าหน้าที่จะบอกเราตั้งแต่ตอนซื้อบัตรเข้าชม

ส่วนพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประดิษฐานอยู่นั้นคือพระบรมรูปส่วน "พระเจ้า" (เป็นราชาศัพท์แปลว่าศรีษะของพระราชา) ของรัชกาลที่ ๖ องค์นี้เป็นผลงานของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ประติมากรชาวอิตาเลียนที่มีชื่อเสียง และมีบทบาทในวงการศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยของประเทศโดยด้านหลังของพระบรมรูปมีอักษรสลักว่า เฟโรซี 1926

โต๊ะเสวย เป็นส่วนสำหรับพระราชทานเลี้ยง

ทางเดินไปศาลาลงทรง

นิทรรศการบทพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ห้องเจ้าพนักงานพระภูษาฝ่ายหน้า จัดเตรียมฉลองพระองค์เพื่อถวายงานพระเจ้าอยู่หัว โดยมีพระยาอนิรุทธเทวา อธิบดีกรมมหาดเล็กเป็นผู้ควบคุมดูแล ต่อมาใน พ.ศ.๒๔๖๘ เจ้าพนักงานฝ่ายหน้าย้ายจากหมู่พระที่นั่ง อาคารหลังนี้จึงเป็นที่พักของข้าราชบริพารฝ่ายใน เพื่อใกล้ชิดกับเจ้าจอมสุวัทนา ปัจจุบันใช้เป็นห้องนิทรรศการบทพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ภาพทางเดินที่มีมากมายมาบรรจบกันแล้วก็แยกกันไปยังห้องต่างๆ เป็นสุดยอดของงานสถาปัตยกรรมชิ้นสำคัญของเมืองไทยเลย

หอเสวยฝ่ายใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดที่จะเสด็จฯ มาเสวยพระกระยาหารกลางวันแบบไทย พร้อมพระบรมราชินี ณ หอเสวยฝ่ายใน โดยตั้งเครื่องบนโต๊ะเงินที่มีผ้าลินิสีขาวปูรองรับ และตั้งพระเขนยอิงที่เย็บติดกับพระยี่ภู่

บ้านเจ้าพระยารามราฆพ บ้านหลังที่เห็นสวยงามหลังนี้อยู่นอกหมู่พระที่นั่งมฤคทายวัน จึงสามารถถ่ายรูปกันได้ เล่าถึงความเป็นมาของบ้านหลังนี้สักนิด..

เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริสร้างพระราชนิเวศน์เพื่อแปรพระราชฐานมาประทับในฤดูร้อน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างเรือนพักของเจ้าพระยารามราฆพ ซึ่งดำรงตำแหน่งสมุหราชองครักษ์ และเป็นมหาดเล็กหัวหน้าห้องพระบรรทม โดยสร้างเป็นอาคารยกพื้นสูงด้วยเสาคอนกรีต ผนังก่อด้วยซีเมนต์บล็อกประกอบด้วยพื้นประตูและหน้าต่างไม้สัก มีระเบียงกว้างติดต่อกับห้องต่างๆ อันเป็นแบบบ้านพักตากอากาศที่นิยมในสมัยนั้น แม้จะสร้างเป็นส่วนสัดแยกต่างหากจากหมู่พระที่นั่งแต่สามารถมองเห็นกัน และติดต่อกันโดยใช้สัญญาณโคมไฟสี ซึ่งชักบนเสาเหนือศาลาลงสรงของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ถ้าเป็นไฟสีเหลืองหมายความว่ากำลังแต่งพระองค์ เมื่อเป็นสีเขียวหมายความว่าเสด็จเข้าโต๊ะเสวยพระกระยาหารค่ำแล้ว

พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

เอาละสำหรับที่นี่เราก็มีภาพให้ดูอย่างจุใจกันแล้ว วันนี้ก็หมดเวลาเท่านี้ ที่นี่ปิด 16.30 น. หยุดขายบัตร 16.00 น. นะครับ ยังไงถ้าจะมาก็ดูเวลากันด้วย หลังจากปิดแล้วทางเดินก็จะโล่งแบบนี้ต่างกับตอนที่เดินเข้ามาลิบลับเลย ไว้พบกันใหม่กับรีวิวต่อไปของเรานะครับ

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มา ณ โอกาสนี้ครับ