เวลาเปิด-ปิด:08:00 - 18:00
โทร:088 484 3038, 054 829 322
ค่าเข้า:ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานลำปาง โทร. 054-222-214
https://www.facebook.com/lampang.tourism/
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ริมทางหลวงหมายเลข 11 ลำปางลำพูน มีสถานที่แห่งหนึ่งที่มีป้ายด้านหน้าใหญ่และยาวมากส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินทางเที่ยวภาคเหนือคงต้องเคยเห็นกันบ้าง อยู่ห่างจากกาดทุ่งเกวียนเพียงไม่กี่กิโลเมตร ทางเข้าศูนย์อนุรกษ์ช้างไทยอยู่ตรงทางโค้ง บริเวณนี้จะมีการสร้างทางขยายไหล่ทางและเป็นจุดกลับรถ การจะเลี้ยวเข้าศูนย์อนุรักษ์ช้างขอบอกว่าให้เปิดไฟเลี้ยวแต่เนิ่นๆ เพราะทางลงเขาช่วงนี้อันตรายพอสมควร ขนาดผมเปิดไฟล่วงหน้าเป็น 100 เมตร ยังเกือบโดนรถทัวร์ชนท้ายเลย
พอเข้าไปในศูนย์อนุรักษ์ช้างจะมีป้ายบอกทางให้เราเอารถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถที่อยู่ใกล้ๆ พลับพลาที่ประทับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เข้าไปสักการะกันก่อนแล้วค่อยเดินไปที่ห้องจำหน่ายบัตรเข้าชม สนนราคาคนละ 100 บาท ราคานี้รวมการแสดงช้างและรถนำเที่ยวแบบวนรอบตลอดวันเรียบร้อยแล้ว จากนั้นไปนั่งรอบนรถสักพักรถนำเที่ยวก็จะพาเราเดินทางเที่ยวบริเวณศูนย์ฯ ทั้งหมด
ในวันธรรมดา มีการแสดงช้าง 2 รอบ คือ 10.00 และ 11.00 ส่วนเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดมีการเพิ่มรอบ 13.30 น. ถ้าจะให้ดีควรจะมาก่อน 10.00 น. นั่นแหละครับ เผื่อว่ามาถึงช้าไปหน่อยจะได้ชมรอบ 11.00 ถ้าไม่ทันจริงๆ แล้วก็มาในวันหยุดก็ยังมีรอบ 13.30 น. รอรับเราอยู่ แต่ถ้าเรากะเวลาจะมารอบบ่าย แต่มาถึงช้าเพียงนิดเดียวก็จะพลาดไปเลยครับ หลังจากนั้นก็คงมีแต่กิจกรรมนั่งช้างเที่ยวเท่านั้น ขาดรสชาดการเที่ยวศูนย์อนุรักษ์ช้างไปเยอะเลย แล้วถ้ามาถึงก่อนเวลาแสดงมากๆ ก็นั่งรถไปชมโรงพยาบาลช้าง และอนุบาลช้าง คือเที่ยวเล่นกับช้างเด็กแม่ลูกอ่อน น่ารักมากๆ ทีเดียว รอบๆ บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีร้านอาหารเครื่องดื่มมากมายให้เลือก ของที่ระลึกก็เยอะ เป็นกิจกรรมการฆ่าเวลารอรอบการแสดงได้ดีทีเดียว
พิพิธภัณฑ์แห่งแผ่นดิน จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวรถนำเที่ยวจะพาเรามาที่นี่เป็นป้ายแรก ก่อนถึงที่นี่นิดหน่อยจะมีทางแยกไปโรงช้างต้น ช้างสำคัญคู่พระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่บุคคลทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปชมได้ รถจะพาเราแยกมาอีกทางถึงที่นี่จะลงหรือไม่ลงก็ให้เหมาะกับเวลาและการวางแผน ถ้าใกล้ถึงเวลาการแสดงช้างแล้วก็ลงป้ายนี้ แล้วไปชมช้างอาบน้ำ ช้างจะอาบน้ำวันละ 2 รอบ เวลา 9.45 แล้วก็ 13.15 ก่อนการแสดงรอบแรกและรอบที่ 3 (ในกรณีวันหยุด) แต่ถ้ามาถึงก่อนเวลามากๆ เดินเข้าไปชมนิทรรศการช้างสำคัญของไทย คำว่าช้างสำคัญก็คือช้างต้นเป็นช้างคู่พระบารมีพระมหากษัตริย์ เริ่มมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์โดยมีช้างต้นคู่พระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ศึกษาหาความรู้กันด้วย
สงสัยมั้ยละครับว่าทำไมช้างสำคัญจึงมาอยู่ที่ลำปาง หรือทำไมจึงมีการก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยไว้ที่นี่แทนที่จะเป็นจังหวัดอื่นๆ ผมจะเล่าเรื่องลำปางกับช้างเผือกให้สักหน่อยพอสังเขปก็แล้วกัน
นครลำปาง...เมืองช้างเผือก ในยุคการปกครองนครลำปาง เมื่อพ.ศ. 2440 (ร.ศ.116) ที่มีเจ้าบุญวาทวงษ์มานิต เป็นเจ้านครปกครองได้นำรี้พลโยธา พร้อมด้วยข้าทาสบริวาร มาจัดสร้างพลับพลาที่ประทับที่บ้านทุ่งฝาย ประกอบด้วยช้างประมาณ 100 เชือก และม้าจำนวนหนึ่ง ชุมชนบ้านทุ่งฝายอยู่ใกล้ลำน้ำวัง จึงได้นำช้างทั้งหมดไปเลี้ยงและฝึกตลอดแนวลำน้ำวังทั้งสองฝั่ง ต่อมาเมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคม 2448 (ร.ศ.124) ปีมะเส็ง ช้างพังชื่อ แม่กองคำ อายุ 50 ปี ได้ตกลูกริมน้ำวัง ห่างจากวัดทุ่งฝายประมาณ 20 เส้น (800 เมตร) เป็นช้างพลายสีประหลาด มีลักษณะผิดกว่าช้างธรรมดา คือ ตาขาวทั้ง 2 ข้าง เล็บขาวทั้ง 18 เล็บ ขนขาว ผิวเนื้อเป็นสีหม้อใหม่ และมีกระดำบ้างเล็กน้อย เจ้าบูญวาทย์ฯ ได้มอบให้ควาญช้างชื่อผาย เป็นผู้ดูแลช้างพลายสีประหลาดนี้ และได้มีใบบอกถึงเสนาบดี กระทรวงมหาไทย เพื่อกราบบังคมทูลต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ส่งเจ้าพนักงานกรมพระคชบาล ประกอบด้วย พระกำแพงภักดี เจ้ากรมพระคชบาลขวา ขุนศรีสงคราม เจ้ากรมเพนียดขวา ขุนหมื่นหมอฝึก 2 คน พร้อมด้วยหลวงพรหมปกาสิทธิ ช่างเขียน ขุนสนิท บรรจง ช่างปั้น
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ประกอบพระราชพิธีรัก และขึ้นระวางสมโภชช้างสำคัญเมื่อวันศุกร์ ที่ 8 มีนาคม 2449 เช้า 5 โมง 24 นาที 34 วินาที เป็นปฐมฤกษ์ ทรงพระราชทานนามช้างสำคัญว่า "พระเศวตอุดมวารณ์ บรมคชาธารประเสิรฐศักดิ์ ศุภเนตรนัชโครวรรณ โลมพรรณเลื่อนประภัสสร ตามกุญชรดิลกชาติพงษ์ กมลราชนรังสฤษดิ์ อดุลยฤทธิ์เดชาดิเรก พาหนะเอกอิศราธิบดินทร์ ปรมินทรมหาราชาธิราช ประกาศเกษตรสิทธิสถาพร มโหฬารพรรษคุณวิบูลยลักษณ์เลิศฟ้า"
นี่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติอันยาวนานของลำปาง นครแห่งช้างเผือก หลังจากนั้นก็มีช้างสำคัญที่พบในลำปางอีก อย่างเช่นช้างพลายทองสุก เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2517 ผ่านการตรวจสอบช้างสำคัญหลายขั้นตอนและใช้เวลานานนับปี จนถึงปี 2536 จึงได้รับรองว่าเป็นช้างสำคัญในตระกูล พิษณุพงศ์ จำพวก อัฐคช ชื่อ ชมลบ สีกายชมพูอ่อน ตาแมว อัณฑโกศสีม่วงอ่อน หางเขิน ช่องแมงภู่ลึก 4.6 ซ.ม. ขุมขนกระจายเส้น เสียงร้องดังเสียงโค เสียงกรนดั่งลมพัดในปล้องไม่ไผ่ สูง 2.25 เมตร ฯ
ข้อมูลความรู้มากมายเกี่ยวกับช้างสำคัญคู่ประวัติศาสตร์ไทยให้เราได้ศึกษา ช้างต้นในพระมหากษัตริย์สมัยต่างๆ ก็มีบันทึกเป็นนิทรรศการที่น่าสนใจมากครับ เราคงไม่สามารถนำมาบรรยายไว้ได้ทั้งหมด คงจะต้องไปดูกันเอง
รอบๆ บริเวณพิพิธภัณฑ์แห่งแผ่นดิน ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจใกล้ๆ บริเวณเดียวกันอีกมากครับ อย่างไปรษณีย์ช้างไทย มีตู้ไปรษณีย์บนหลังช้าง ซื้อไปรษณียบัตรแล้วส่งได้เลย อีกด้านหนึ่งเป็นโรงเลี้ยงช้าง มีช้างยืนกินอ้อยอยู่มากมายหลายเชือกเข้าไปชมกันได้ เมื่อถึงเวลาช้างทั้งหมดก็จะลงอาบน้ำพร้อมๆ กัน จากนั้นก็จะเดินไปลานแสดงช้าง อีกด้านก็จะมีร้านของที่ระลึก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อลายช้าง มีมากมายหลายแบบด้วยกัน ร้านกาแฟสำหรับนั่งพักผ่อนก็มี บริการกาแฟสดจริงๆ
วิวัฒนาการช้างไทย ในพิพิธภัณฑ์แห่งแผ่นดิน มีห้องเล็กๆ แบ่งออกเป็นห้องแยกต่างหากออกไป ทางเดินเข้ามีลูกศรให้เดินตามลูกศร จะเป็นรูปปั้นช้างในยุคต่างๆ เริ่มเมื่อหลายสิบล้านปีก่อน มาจนถึงช้างในปัจจุบัน ในห้องนี้จะมีความรู้เกี่ยวกับช้างมากมายหลายแบบ เราจะได้เรียนรู้ว่าทำไมช้างในประเทศไทยกับช้างในประเทศอื่นๆ จึงมีลักษณะไม่ค่อยจะเหมือนกัน
วิวัฒนาการช้างไทย การค้นพบฟอสซิลของสัตว์สายพันธุ์เดียวกับช้างในประเทศต่างๆ มีอายุต่างๆ กัน แล้วได้นำมาสร้างเป็นรูปปั้นประกอบข้อมูลการเรียนรู้เรื่องราววิวัฒนาการของช้าง เท่าที่เห็นหน้าตาของช้างเมื่อหลายสิบล้านปีก่อนไม่ค่อยจะเหมือนช้างปัจจุบันเท่าไหร่ หนึ่งในนี้เป็นบรรพบุรุษของช้างไทย แต่เป็นที่น่าแปลกเหมือนกันว่าเจ้าตัวที่หน้าตาใกล้เคียงช้างปัจจุบันที่สุดกับไม่ใช่บรรพบุรุษของช้างปัจจุบัน อยากรู้ว่าตัวไหน ให้เข้าไปศึกษาดูครับแล้วจะพบว่ามันแปลกจริงๆ
จุดพักช้าง จากพิพิธภัณฑ์ และนิทรรศการช้างสำคัญ เดินไปเรื่อยๆ ถึงร้านอาหารและกาแฟ เดินตรงไปอีกมีจุดพักช้าง ช้างที่จะแสดงจะมารออยู่ที่นี่เฉพาะเวลาที่จะอาบน้ำ คือช่วง 9.45 น. กับ 13.15 น. ก่อนที่จะถึงเวลาอาบน้ำช้างเหล่านี้จะใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปกับการกิน ควาญช้างบอกว่าตราบใดที่มีของกินช้างก็กินได้ตลอดเวลาโดยไม่รู้ปริมาณที่แน่นอน การใช้งวงหยิบอ้อยใส่ปากทีละลำดูช่างเป็นกิจกรรมที่มันชื่นชอบมันค่อยๆ กินไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบเหมือนเราเอาป๊อกกี้ใส่ปากทีละแท่ง
ช้างอาบน้ำ พอถึงเวลาที่กำหนด ควาญช้างจะนำเอาช้างทั้งหมดลงน้ำ เนื่องจากศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเป็นสถานที่สอนควาญช้างรับคนที่สนใจจะเรียนรู้วิธีการฝึกช้างมีทั้งคอร์สระยะสั้นและระยะยาว ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคนที่มาเรียน สนใจข้อมูลเพิ่มเติมลองโทร. ไปสอบถามดูครับ ในภาพนี้เราจะเห็นทั้งควาญช้างที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติที่มาเรียนโรงเรียนสอนควาญช้าง พอพาช้างลงน้ำควาญจะนั่งอยู่บนหลังช้าง เจ้าช้างก็ขี้เล่นแกล้งควาญช้างด้วยการดำน้ำมุดลงไปทั้งตัว จนควาญช้างชาวต่างชาติก็เลยลงไปลอยคออยู่ในน้ำ พอโผล่ขึ้นมามันก็เอางวงดูดน้ำมาพ่นคนไปทั่ว สร้างความสนุกสนานทั้งควาญช้างและคนที่มานั่งดูตลอดเวลา
เดินทางสู่ลานแสดงช้าง หลังจากที่ได้อาบน้ำและเล่นน้ำอย่างสนุกสนานของหมู่ช้างและควาญช้าง จากนั้นอีกพักใหญ่ๆ ช้างทั้งหมดจะจัดแถวสำหรับการเดินจากสระน้ำไปยังลานแสดงช้าง โดยการเรียงลำดับความอาวุโสของช้าง ภาพช้างเล็กเอางวงเหนี่ยวหางช้างใหญ่เหมือนๆ กับช้างป่าที่เดินทางในป่า เป็นภาพที่น่ารักและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่พยายามจะเดินถ่ายรูปช้างเรียงแถวแบบนี้ไปพร้อมๆ กับช้าง
แนะนำตัวช้าง เมื่อเข้ามาถึงลานแสดงช้าง ก็จะมีช้างตัวเล็กสุดออกมาตีระฆัง แนะนำตัวช้างทุกเชือก ช้างแต่ละเชือกทำท่าสวัสดี จากนั้นก็จะแสดงการนั่ง การนอน
แสดงความสามารถช้าง ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างมีการแสดงช้างโดยการแสดงอาจจะไม่เหมือนกับการแสดงในปางช้างเอกชน อย่างเช่นช้างเตะบอล ช้างใต่สลิง อะไรทำนองนั้น แต่ที่นี่เน้นการแสดงความสามารถของช้าง งานที่ช้างไทยจะต้องทำในอดีตโดยเกี่ยวกับการชักลากไม้ การทำไม้ เรียงไม้ การลากเดี่ยวลากคู่การใช้งวงและงาในการยกท่อนไม้ การใช้งวงดุนท่อนซุง ฯลฯ ส่วนเจ้าช้างเด็กอายุยังน้อยใช้งวงดุนไม้ไม่ได้ก็เอาขาเตะเอา สร้างเสียงหัวเราะให้คนดูทั้งอัฒจรรย์
ช้างชู้ตบอล เป็นการแสดงสนุกๆ เล็กๆ น้อยๆ ของเหล่าช้างที่จะหยิบลูกบอลลูกเล็กๆ มาโยนลงตะกร้า บางเชือกฉลาดกว่านั้นไม่ยอมโยน หยิบเอาบอลมาแล้วเดินมาใส่ตะกร้าเลย
ช้างวาดภาพ อีกการแสดงหนึ่งของเหล่าช้างที่สร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวหลังจากที่ช้างวาดภาพสวยๆ เสร็จแล้วถ้าอยากจะได้กลับไว้มาดูที่บ้านก็ซื้อได้ในราคา 500 บาท เงินที่ได้ก็จะนำเข้ามาใช้ประโยชน์ในการอนุรักษ์ช้างต่อไป
วงดนตรีช้าง ท้ายที่สุดคือการแสดงที่ยากที่สุดที่ยังไม่เคยมีมาก่อนก็คือการฝึกให้ช้างเล่นดนตรี มีโปงลางขนาดใหญ่สำหรับช้างด้วย แต่ยังเล่นติดๆ ขัดๆ อยู่ระหว่างการฝึกฝนและดูท่าทางว่าถ้าเล่นได้คล่องเมื่อไหร่จะได้ดังกันแน่ๆ พอจบการแสดงช้างก็กลับไปที่พิพิธภัณฑ์แห่งแผ่นดิน เพื่อรอรถนำเที่ยวมารับ เดินทางต่อไปยังโรงอนุบาลช้าง เล่นกับช้างเด็กแม่ลูกอ่อน ผ่านโรงพยาบาลช้าง แล้ววกกลับไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ทั้งหมดนี้ราคาแค่ 100 เดียว ถ้าอยากนั่งช้างก็จะมีค่าบริการเพิ่ม หลังจบการแสดงช้างมีอ้อยขายเอามาให้ช้างที่เราชอบได้เลยครับมัดละ 20 บาท โดยมากคนดูก็จะแห่เอาไปให้ช้างเด็ก วันนี้ผมยังได้ความประทับใจเพิ่มอีกเรื่องก็ตอนเห็นช้างเด็กเอาอ้อยส่งให้คนเลี้ยงแทนที่จะเอาใส่ปากทั้งหมด คงเพราะอิ่มอยู่ แต่ยังมีใจเอื้อเฟื้อ ส่งให้เชือกอื่น ก็นักท่องเที่ยวเอาส่งให้ช้างเด็กหมด ช้างโตก็อดสิครับ
จบเรื่องราวการเที่ยวศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยอย่างภาคภูมิใจครับ ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ช้างผู้มีพระคุณต่อแผ่นดินแล้ว แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนน้อยนิดแต่ก็ยังดี แล้วคุณละครับไปอนุรักษ์ช้างกันหรือยัง...
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ