ข้อมูลเพิ่มเติม:Tel : 032-772494
info@swisssheepfarm.com
http://swisssheepfarm.com
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ด้านหน้าของ Swiss Sheep Farm ขับรถจากเมืองเพชรมุ่งหน้าชะอำ ก็ตั้งใจว่าจะไปสวิวชีพฟาร์มนี่แหละ ขับไปขับมาไหงเลยไปได้ก็ไม่รู้ คงเป็นเพราะถนนเพชรเกษมมันกว้าง ขับชิดขวายาวๆ กว่าจะรู้ว่าถึงแล้วก็มาเห็นรถจอดเต็มไปหมดในลานจอดรถ ดูวุ่นวายดีจัง คนมาเที่ยวที่นี่กันเยอะครับ ส่วนใหญ่เป็นลักษณะของการแวะ ระหว่างการเดินทางยาวๆ ไม่ว่าจะมาเที่ยวชะอำ หรือว่าหัวหิน หรือไปยาวกว่านั้นคงลงใต้ พอมาถึงแยะชะอำ มีปั๊ม ปตท. อยู่ซ้ายมือ Swiss Sheep Farm จะอยู่ก่อนปั๊มนิดเดียวหรือว่าติดกันนั่นแหละ ทีนี้ถ้ากลัวว่าจะเลยเหมือนเรา ก็มองไปทางขวามือพอเห็นซานโตรินี่ ชะอำ ก็เตรียมเข้าทางซ้ายไว้ ไม่น่าจะพลาดแล้วครับ มองป้าย ปตท. สูงๆ อยู่ซ้ายมือ
การเปิดใหม่ของสถานที่ท่องเที่ยวสไตล์สวิสเซอร์แลนด์ ประสบความสำเร็จอย่างมากแล้วในอำเภอสวนผึ้ง ไม่ว่าใครไปก็ต้องเข้าไปเลี้ยงแกะ พอได้ย้ายมาอยู่ริมถนนเพชรเกษมเส้นทางสายหลักสู่ภาคใต้และสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่มีอยู่มากมายตามเส้นทาง ก็เป็นธรรมดาว่าฟาร์มแกะสวิสชีพฟาร์ม ก็จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามามากมายในทุกๆ วัน พอเราไปกว่าจะหาที่จอดได้ก็เล่นเอาหลายนาทีอยู่ ก็ต้องอาศัยว่ามีคนออกจากที่จอดเราจะได้เสียบเข้าช่องนั้นไป จากนั้นแล้วก็เดินสำรวจด้านหน้าไปก่อน ก่อนที่จะซื้อบัตรราคา 50 บาท เข้าไปด้านใน
ด้านหน้าของฟาร์มแบ่งเป็นด้านซ้ายกับขวา ด้านซ้ายเป็นร้านกาแฟ Coffee Hill of Love ส่วนด้านขวาเป็นร้านของที่ระลึก แต่จะผ่านเข้าไปซื้อของที่ระลึกทื่อๆ เลยไม่ได้เพราะทางเข้าต้องเข้าจากด้านในฟาร์ม (ก็คือเข้าไปเที่ยวฟาร์มก่อนถึงจะเข้าร้านของที่ระลึกได้ครับ) ส่วนพื้นที่ตรงกลางเป็นสนามหญ้ากว้างๆ ไม่มีอะไรบัง มองเห็นบริเวณฟาร์ได้กว้างลึกเข้าไปถึงเขานางพันธุรัตน์ ใกล้ๆ ร้านกาแฟ ก็จะเป็นห้องขายบัตรเข้าชมฟาร์ม บัตร 50 บาท จะใช้แลกกับหญ้าสำหรับเลี้ยงแกะด้านในได้ หน้าร้านขายบัตรกับร้านกาแฟ ก็มีมุมชาวฟาร์มให้ถ่ายรูปกันก่อนด้วย มีรถไถกับหุ่นฟางเป็นพระเอก
ป้ายบอกทางน่ารักๆ จุดเด่นอย่างหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ แห่งที่เราไปเที่ยว คงจะไม่พ้นเรื่องป้ายบอกทางไปยังจุดต่างๆ ถ้าออกแบบได้ดี ก็กลายเป็นจุดสนใจที่ใครหลายๆ คนจะเดินเข้าไปถ่ายรูปได้ ป้ายบอกทางของสวิสชีพฟาร์ม ก็ออกแบบได้ดีเข้ากับบรรยากาศของฟาร์มเป็นอย่างดี มีกระจายอยู่หลายจุด
ทางเข้า Swiss Sheep Farm เอาละสำรวจบริเวณภายนอกกันพอสมควรแล้ว ก็น่าจะได้เวลาเข้าไปด้านใน อากาศวันนี้แจ่มใส ถ่ายรูปง่ายเพราะฟ้าจะสวย แต่แดดร้อนไม่ใช่เล่น จนใครๆ หลายคนบ่นๆ ว่าไม่เห็นเหมือนสวิสเลย ก็แหมนะ เค้าเอาบรรยากาศการออกแบบให้เหมือน แต่อากาศก็ยังคงเป็นอากาศเมืองไทยนั่นแหละครับ
ตรงทางเข้าออกแบบในรูปร่างของฟาร์มในเมืองนอก มีมุมสำหรับเก็บภาพก่อนที่จะเดินถือบัตรเข้าไปข้างใน ในวันหยุดอย่างวันที่เรามากว่าด้านหน้าทางเข้าจะดูว่างๆ โล่งๆ ได้แบบนี้ นั่งรอกันแขนแทบไหม้เลยละ
ทางเข้า Swiss Sheep Farm เข้ามาในโรงนาที่สร้างเป็นประตูทางเข้า ก็ยังคงมีมุมให้เก็บภาพได้อีก ก่อนที่พนักงานสวยๆ ในชุดสไตล์สวิสจะบอกให้เราถือบัตรไปยื่นคนละใบ เดินผ่านเครื่องนับ แล้วก็ไปตามทางเดินที่มุงด้วยไม้สานห่างๆ แม้จะกันแดดไม่ได้แต่สวยครับ ถ้าอยากจะเดินแบบสบายใจหน่อยผมว่าเอาหมวกหรือร่มมาด้วยก็ดีนะ
มุมสวยๆ ในสวิสชีพฟาร์ม เข้ามาได้หน่อยเดียวก็ไม่ว่างเว้นไปจากการกดชัตเตอร์ ในฟาร์มที่กว้างใหญ่แห่งนี้บรรยากาศต่างกับที่สวนผึ้งไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะที่นี่ไม่ใช่ซื้อบัตรแล้วเดินเข้าคอกแกะ แต่มีอะไรมากมายเยอะแยะ ที่เราจะได้ถ่ายรูปเอามาอวดเพื่อนๆ ได้ ด้านซ้ายมือมีทางแยกไปห้องน้ำ มีโรงรถ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีคนเข้าไปเท่าไหร่ ส่วนทางขวามือเป็นสนามหญ้ากว้างๆ ที่เราเห็นตั้งแต่อยู่ข้างนอก มีลูกม้าเล็กๆ เดินเล็มหญ้าอย่างไม่กลัวร้อน ขอบรั้วเตี้ยๆ มีป้ายบอกให้ระวังแม่ม้าหวงลูก แต่เดินอยู่นานสองนานก็ไม่ยักกะเห็นแม่ม้า
วงเวียนชาวฟาร์ม สุดทางเดินช่วงแรกเราก็มาถึงวงเวียน มีทางแยกให้ตรงไปกับเลี้ยวขวา วงเวียนตกแต่งได้สวยดี มีรถกระบะแบบเก่าๆ สไตล์ยุโรป จอดอยู่กลางวงเวียน อาคารหลังเล็กๆ ที่เราเห็นใกล้ๆ วงเวียนมีคำว่า Welcome สำหรับแวะเข้าไปหาไอติมเย็นๆ กินดับร้อน แยกทางขวาเดินยาวไปได้ถึงอีกโซนหนึ่งของฟาร์มโดยไม่ต้องผ่านคอกแกะ นานๆ ก็จะเห็นคนเดินสักคน 2 คน ส่วนใหญ่ก็จะไปทางตรงกันหมด อย่างน้อยก็มาฟาร์มแกะ ไม่แวะคอกแกะคงจะไม่ดีมั้ง
วงเวียนคอกแกะ จากวงเวียนแรกเดินตรงเข้ามาเจอวงเวียนอีกแล้ว มีทางแยกเหมือนกับวงเวียนแรก ด้านซ้ายมือเป็นคอกแกะล้อมรั้วค่อนข้างกว้าง แกะทุกตัวยื้อแย่งกินหญ้า แต่มันก็พยายามที่จะไม่ออกจากเงาของต้นไม้ ส่วนทางแยกอีกทางไปจุดขี่ม้า แล้วก็กังหันสีขาว สัญลักษณ์ของสวิสชีพฟาร์ม
เลี้ยงแกะ Swiss Sheep Farm พอเราเดินมาถึงทางเข้าคอกแกะก็แค่ยื่นเอาบัตรที่เราซื้อตอนเข้ามาไปแลกกับหญ้าสำหรับเลี้ยงแกะ พนักงานจะฉีกเอาหางบัตรไป ส่วนตัวบัตรเราก็เก็บไว้ ได้หญ้ามากำนึงแล้วเดินเข้าคอกแกะ ตามประสาคนถ่ายรูป ผมคงไม่สามารถที่จะถ่ายรูปแกะกินหญ้าจากมือตัวเองได้ สู้ไปถ่ายคนอื่นดีกว่า พอดีเจอน้องแก้มยุ้ย เป็นชื่อที่เล่นในเฟส มากับเพื่อน 2 คน กำลังเอาหญ้าให้แกะกินแล้วก็สลับกันถ่ายรูป เลยขอให้น้องเค้ามาเป็นแบบในการประกอบเรื่องราววันนี้ แหม รอดตัวไป ฝูงแกะหลายสิบตัวที่นี่ได้หญ้ากินตั้งแต่เช้า คนมาเที่ยวกันเยอะเลยทำให้หลายตัวกินจนอิ่มไปแล้ว พวกมันก็จะแยกตัวออกไปนอนเคี้ยวเอื้องหน้าตายิ้มแย้ม มีเหลืออยู่ไม่มากที่ยังไม่รู้สึกอิ่มก็จะมายื่นหน้าขอหญ้ากิน แต่มันก็เลือกกินแต่ยอดหญ้า พอส่วนโคนๆ มันเข็งหน่อยแกะพวกนี้ก็ไม่กินซะแล้ว
แกะยิ้ม นี่ละครับพวกแกะที่อิ่มตื้อนอนเคี้ยวเอื้อง ใครจะเอาหญ้าไปไว้ตรงปากมันมันก็หันหน้าหนีแล้วครับ แกะที่สวิสชีพฟาร์มมีหลายเพศหลายวัย มีตั้งแต่ตัวเล็กๆ ไปยันโตเต็มที่ หลายตัวคุ้นกับคนมากๆ พอเห็นเราถือหญ้าอยู่ในมือ มันก็จะเดินมาถูๆ ไถๆ พออิ่มแล้วมันก็นอนรับลมเย็นๆ รวมกันอยู่ใต้ต้นไม้ ทำหน้าแป้นแล้นอย่างนี้ละ ในคอกเดียวกันก็มีลูกวัวนมลายสวยๆ น่ารักๆ รวมอยู่ด้วย ลูกวัวก็พยายามเดินขอหญ้าเหมือนกับแกะ ดูแล้วก็น่ารักดี พออิ่มแล้วทั้งแกะทั้งวัวนอนรวมกันเหมือนเป็นพวกเดียวกัน
กิจกรรมขี่ม้า ออกจากคอกแกะเพราะถ่ายรูปไปเยอะมากแล้ว ยังมีอีกหลายโซนที่ต้องไป ขอบคุณน้องแก้มยุ้ยและเพื่อนอีกครั้งหนึ่งด้วยครับที่ยอมมาเป็นแบบ บริเวณใกล้ๆ คอกแกะมีกิจกรรม 2 อย่าง ก็คือยิงธนู แต่ดูเหมือนจะไม่มีคนไปเล่นเท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่งก็คือขี่ม้า ใครสนใจก็เดินเข้าไปที่ Horse Station พนักงานยืนคอยอยู่แล้วละ
คล้องกุญแจแห่งรัก จากจุดขี่ม้า เดินมาตามทางขวามือ ถนนสายยาวๆ มองเห็นกังหันอยู่เชิงเขา มีสะพานข้ามลำธารเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยปลาคาร์พ ตรงนี้มีรูปหัวใจสีแดง 4 ดวง แต่ละดวงสร้างไว้ใกล้ๆ กัน เป็นที่สำหรับเอาแม่กุญแจมาคล้อง ตามความเชื่อว่าจะทำให้ความรักมั่นคงยาวนาน ล็อคกุญแจแล้วเอาลูกกุญแจโยนลงไปในลำธาร เป็นอันเสร็จพิธี กิจกรรมคล้องกุญแจลักษณะนี้ก็มีในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในสวนผึ้ง ก็คือ Swiss Valley Hip Resort
ไฮไลท์ Swiss Sheep Farm เอาละตอนนี้ก็มาถึงกังหันสีขาวกันแล้วครับ เรียกว่าเป็นครึ่งทางของการเดินเที่ยวสวิสชีพฟาร์ม ตรงนี้เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ กังหันสีขาวสูงใหญ่ตั้งอยู่เชิงเขามองเห็นได้จากทุกมุมของฟาร์ม ด้านหน้าก็จะมีป้าย Swiss Sheep Farm ใหญ่ๆ กับเก้าอี้ 2 ตัว จัดไว้ให็ ด้านหลังก็ยังมีรถแทรคเตอร์กับกองฟาง เติมบรรยากาศให้กับความเป็นฟาร์มได้มากขึ้น สักพักก็จะมีรถม้าวิ่งออกมาประดับฉากให้ด้วย เพราะหลายคนที่มาที่นี่ก็เลือกที่จะเที่ยวบนรถม้า มากกว่าที่จะเดินกลางแดดร้อนๆ
hill of love at swiss ก็เป็นมุมถ่ายรูปท้ายฟาร์ม อยู่ริมรั้วด้านหลังสุด หลังกังหันลมอีกที ใช้ฉากหลังที่เป็นเขานางพันธุรัตน์ ให้เป็นประโยชน์
จักรยานกลางลานกว้าง บริเวณด้านหน้าของกังหันลมเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ตกแต่งด้วยม้วนกองฟางม้วนโตๆ มีพรอพให้เลือกถ่ายรูปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ จักรยาน รถตู้เก่าๆ เลือกได้ตามใจชอบ
โซนสุดท้าย ออกแนวแฟนซีนิดๆ กับพื้นที่ที่เป็นโซนสุดท้ายก่อนจะถึงทางออก จะมีเครื่องเล่นหลายอย่างเหมาะสำหรับเด็กๆ (ก็เพราะมุมสำหรับผู้ใหญ่มีเยอะแล้ว) อย่างเช่นนั่งหุ่นยนต์ทรานสฟอรเมอร์ ถ่ายรูปคู่กับฮักเหล็ก ป้ายทะเบียนรถต่างประเทศมากมาย ร้านยิงปืน ปาโป่งอะไรทำนองนี้ มีอยู่หลายร้านติดกัน แล้วก็มีของกินเล่น เครื่องดื่ม ที่ต้องใช้คูปองในการซื้อ โต๊ะสำหรับแลกคูปองก็อยู่ใกล้ๆ พนักงานไม่ว่าจะประจำร้านไอติม เครื่องดื่ม ลูกชิ้น ยิงปืน ก็จะแต่งตัวเหมือนกันหมด จนรู้สึกว่าเราอยู่ในฟาร์มที่สวิสเซอร์แลนด์จริงๆ
ของที่ระลึก Swiss Sheep Farm ท้ายสุดๆ หลังจากที่นั่งกินไอติมลดความร้อนในตัวลงหน่อย มองไปรอบๆ ฟาร์ม ถ่ายรูปต่ออีกนิดหน่อยๆ ก็เดินมาที่ทางออก ใกล้ๆ กับทางออกก็มีห้องน้ำอีกจุดหนึ่ง จากนั้นก็เป็นร้านของที่ระลึกในชื่อ Swiss Sheep Farm Shop ภายในร้านก็มีของที่ระลึกมากมายหลายแบบให้เลือกซื้อ ที่เห็นมากกว่าอย่างอื่นก็จะเป็นตุ๊กตารูปแกะมีหลายสีให้เลือกรอบร้าน แล้วก็จะมีของใช้ที่ทำจากเซรามิค ที่ขาดไม่ได้ก็คือเสื้อยืด แล้วสุดท้ายก็คือประตูทางออก ก้าวพ้นประตูนี้ไปแล้วก็จะย้อนเข้ามาไม่ได้แล้ว ก่อนจะก้าวออกไปต้องมั่นใจว่าเที่ยวรอบจนจุใจแล้วจริงๆ
ภาพปิดท้ายของการเที่ยวในวันนี้ คือด้านข้างของร้านขายของที่ระลึก จากนั้นก็เดินไปที่รถสตาร์ทเครื่องสักพักเพื่อไล่ความร้อน แล้วก็เดินทางไปเที่ยวจุดต่อไป หรือจะกลับบ้านก็ตามอัธยาศัย จบทริปวันหยุดง่ายๆ เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว ถ้าใครมาเป็นคู่ก็จะเติมความโรแมนติกได้ไม่น้อยเลยละ เพราะธีมของฟาร์มเน้นไปทางแนวคู่รักครับ ว่างๆ มาเที่ยว Swiss Sheep Farm กันนะ ^-^
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ