อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา)

 อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ด้านจังหวัดพิษณุโลกประมาณ 6 กิโลเมตร จุดท่องเที่ยวหลักของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงด้านจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ ป่าสนธรรมชาติ และทุ่งหญ้าสะวันนา ซึ่งมีทิวทัศน์และพรรณไม้ดอกที่งดงามโดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝนถึงฤดูหนาว เหมาะแก่กิจกรรมเดินป่า กางเต็นท์พักแรม และปั่นจักรยานเสือภูเขา

    สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่
    ทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนา และทุ่งหญ้าสลับกับป่าสนสองใบ ด้านหน้าที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มองเห็นเป็นพื้นที่โล่งกว้างใหญ่ เนื้อที่ประมาณ ตารางกิโลเมตร ตามเส้นทางจะตัดผ่านป่าเบญจพรรณจะพบสัตว์ป่าออกมาหากินตามข้างทาง และมีพันธุ์ไม้ดอกมากมาย
    ทุ่งนางพญา อยู่ทางทิศใต้ของที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ หนองแม่นา ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้าที่แวดล้อมด้วยป่าสนสองใบสลับกับป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง ตามกิ่งสนจะพบกล้วยไม้ป่าที่สวยงาม เช่น เอื้องชะนีและเอื้องคำปากไก่ ซึ่งออกดอกในฤดูร้อน บริเวณป่าสนมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์พักแรม ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีสายหมอกลอยอ้อยอิ่งปกคลุมไปทั่วบริเวณ
    แก่งวังน้ำเย็น ห่างจากที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ หนองแม่นาประมาณ 7 กิโลเมตร เส้นทางเดียวกับทุ่งโนนสน และแยกเข้าไปอีก 500 เมตร ระหว่างเส้นทางเดินสภาพป่าจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปจากทุ่งหญ้าสู่ป่าเต็งรังสลับด้วยป่าสนและป่าเบญจพรรณ แก่งวังน้ำเย็นเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ยาวหลายร้อยเมตร ในระหว่างแก่งแต่ละแก่งเป็นวังน้ำลึกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ค้นพบแมงกะพรุนน้ำจืด และมีผีเสื้อให้ชม เช่น ผีเสื้อถุงทองป่าสูง ผีเสื้อหนอนคืบสไบแดง นอกจากนี้บริเวณป่าริมลำธารมีโอกาสพบนกมากมายหลายชนิด
    ทุ่งโนนสน เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนาสลับกับป่าสนเขา ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานฯ บนยอดเขาโคกสน ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีดอกไม้หลายชนิดผลัดใบ เช่น ดอกดุสิตา เอื้องม้าวิ่ง กระดุมเงิน ยี่โถปีนัง หม้อข้าวหม้อแกงลิง ทุ่งโนนสนห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ หนองแม่นาประมาณ 32 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถท้องถิ่นจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ประมาณ 7 กิโลเมตร แล้วเดินเท้าเข้าไปอีก 5 กิโลเมตร เหมาะแก่การเดินป่ากางเต็นท์พักแรม ใช้เวลาท่องเที่ยวรวม 3 วัน 2 คืน

     อัตราค่าเข้าอุทยานฯ นักท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท

    สถานที่พัก บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยาน สล.8 (หนองแม่นา) มีบริการบ้านพักไว้สำหรับนักท่องเที่ยว จำนวน 7 หลัง ราคา 2,000 – 5,000 บาท เต็นท์ให้เช่า ราคา 200-600 บาท
 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ตู้ ปณ. 64 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65200
 โทร. 0 5526 8019 หรือสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760
 ททท.สำนักงานพิษณุโลก โทร. 055 252 742-3, 055 259 907
 หรือ www.dnp.go.th

    การเดินทาง สามารถใช้เส้นทางได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางแรก จากจังหวัดเพชรบูรณ์ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 21 ไปทางอำเภอหล่มสัก ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงบ้านนางั่วแล้วเลี้ยวซ้าย ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2258 ขึ้นเขาค้อผ่านสี่แยกบ้านสะเดาพงษ์ผ่านพระตำหนักเขาค้อ ตรงไปจนถึงบ้านทานตะวันเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตรจะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยาน สล.8 (หนองแม่นา)

    เส้นที่สอง จากจังหวัดพิษณุโลกใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 12 เส้นพิษณุโลก-หล่มสัก ประมาณ 100 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่เขาค้อผ่านหน้าอำเภอเขาค้อ ถึงสี่แยกบ้านสะเดาพงษ์แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2258 ผ่านพระตำหนักเขาค้อตรงไปบ้านทานตะวัน เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยาน สล. 8 (หนองแม่นา)

    การเดินทาง โดยรถประจำทาง สามารถโดยสารรถประจำทางมาลงที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และต่อรถสองแถวรับจ้างมายังหน่วยพิทักษ์อุทยาน สล. 8 (หนองแม่นา) ค่าเหมารถประมาณ 700 บาท ในช่วงหน้าหนาวซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวทุ่งแสลงหลวง สามารถแจ้งให้ทางอุทยานฯติดต่อรถท้องถิ่นและลูกหาบได้

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.พิษณุโลก โทร.0 5525 2742-3, 0 5525 9907, 0 5523 1063
http://www.tourismthailand.org/phitsanulok

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ทางแยกเข้าทุ่งแสลงหลวง การเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) มาได้ 2 ทางครับ หากออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เลยก็จะเลือกไปทางเพชรบูรณ์-หล่มสัก หรือไปพิษณุโลก แล้วมาที่แคมป์สน-เขาค้อ สำหรับเราในทริปนี้เราเลือกทางที่ 2 จากจังหวัดพิษณุโลกใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 12 เส้นพิษณุโลก-หล่มสัก ประมาณ 100 กิโลเมตร ถึงแคมป์สนเลี้ยวขวาเข้าสู่เขาค้อผ่านหน้าอำเภอเขาค้อ ถึงสี่แยกบ้านสะเดาพงษ์แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2258 ผ่านพระตำหนักเขาค้อตรงไปบ้านทานตะวัน เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร (ทางแยกตรงนี้จะต้องสังเกตุป้ายให้ดีครับเพราะป้ายไม่ใหญ่เท่าไหร่ มีศาลาอยู่ปากทาง) จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยาน สล. 8 (หนองแม่นา)

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ในที่สุดเราก็มาถึง ป้ายที่ด้านหน้าทางเข้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา)

หากสงสัยว่าทำไมต้องเขียนวงเล็บหนองแม่นาตลอดก็เพราะว่าทุ่งแสลงหลวงมีพื้นที่กว้างขวางครอบคลุมหลายตำบล หลายอำเภอ และครอบคลุมพื้นที่ทั้งพิษณุโลก และเพชรบูรณ์ มีทางเข้าได้หลายทาง วิวทิวทัศน์บรรยากาศอาจจะแตกต่างกัน และมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงต่างกัน ส่วนตอนนี้เราเน้นข้อมูลที่หนองแม่นาเท่านั้น ก็เลยต้องเขียนกำกับบอกไว้บ่อยๆ ส่วนที่อื่นๆ เราก็จะหาโอกาสไปเก็บข้อมูลมาให้ในคราวต่อๆ ไปละกันครับ

ป้ายทางเข้านี้อยู่ห่างจากด่านเก็บค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติไม่ไกลครับ ที่ด่านจะมีเจ้าหน้าที่นั่งดูแลอยู่มีไม้กั้น มีเส้นทางลึกเข้าไปได้อีก แต่เป็นเส้นทางที่ลำบากซึ่งต้องเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้นในฤดูฝน เราก็อยากจะลองเข้าไปเหมือนกันแต่หลังจากที่ได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่แล้วเราก็ต้องเลี้ยวซ้ายมาตามทางไปยังลานกางเต็นท์ เพราะรถเก๋งเข้าไปอาจจะติดหล่มได้

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หลังการเดินทางตามเส้นทางถนนลูกรังอันยาวนานพอสมควรแล้วก็มาถึงลานจอดรถหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) ในที่สุด เนื่องจากการเดินทางในทริปนี้ของเราหวังว่าจะได้บรรยากาศการพักแรมแบบชิลๆ มากกว่าที่จะได้เดินป่าลุยหนักๆ จึงไม่ได้ติดต่อจองที่พักลวงหน้า เมื่อเดินทางมาถึงจึงได้รู้ว่าบ้านพักในอุทยานแห่งชาติเต็มทุกหลัง เหลือเพียงหลังใหญ่ๆ ที่นอนกันเกิน 10 คน ซึ่งคงจะไม่เหมาะกับขนาดของกลุ่มเรา เราติดต่อเช่าเต็นท์ที่นี่เพื่อนอนแบบง่ายๆ เอาบรรยากาศเท่านั้นพอ เมื่อได้เต็นท์เป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็ออกไปเก็บภาพทุ่งแสลงหลวงกัน

ทุ่งสะวันนาเมืองไทย ทุ่งหญ้าเขียวขจีที่กว้างใหญ่ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โดยเฉพาะพื้นที่หนองแม่นาแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม สะวันนาเมืองไทย จากภาพวิวทิวทัศน์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้าเป็นเครื่องบอกได้ว่าทุ่งหญ้าแห่งนี้กว้างขวางสุดลูกหูลูกตาจรดเชิงเขาซึ่งเป็นแนวกั้นกลางระหว่างขอบฟ้ากับทุ่งหญ้า แต่งแต้มด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ประปรายไม่มากนัก ไอหมอกจางๆ หลังฝนตกที่เห็นอยู่ตามแนวเขาเริ่มสะสมตัวกันหนามากขึ้นๆ สวยงามเหมือนดังภาพวาด

ทุ่งแสลงหลวง(หนองแม่นา) ต้นฤดูฝนที่นี่ หญ้าทั้งทุ่งกลายเป็นผืนพรมเขียวมรกตได้เหลือเชื่อทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญ้าสะวันนาที่สวยงามที่สุด เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูฝนราวเดือนมิถุนายน โดยจะเขียวขจีประดุจผืนพรมธรรมชาติ เป็นฤดูกาลแห่งสรรพชีวิตโดยเฉพาะดอกกระเจียวขาว (Curcuma parviflora) นับหมื่นดอกจะแทงช่อขึ้นรับกับหยาดฝน นอกจากนั้นทุ่งนางพญาก็เป็นเส้นทางขี่จักรยานที่มีสภาพธรรมชาติดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย อยู่ไม่ไกลทุ่งแสลงหลวงและในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ในลำน้ำเข็กยังมีแมงกะพรุนน้ำจืดให้ชมอีกด้วย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาเช้าราว 07.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ฤดูฝนเดือนมิถุนายนของทุกปี
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: จุดชมวิวเส้นทางเข้าทุ่งนางพญา และบริเวณรอบที่พัก
*ข้อมูลจาก หนังสือ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

รอชมพระอาทิตย์ตกที่ทุ่งแสลงหลวง สิ่งหนึ่งที่พอจะทำเป็นกิจกรรมสนุกๆ เล็กๆ น้อยๆ ในการเดินทางทริปเบาๆ เหมือนกับเราในทริปนี้ก็คือการรอชมพระอาทิตย์ตกที่ทุ่งหญ้าที่เขียวขจีแห่งนี้ก่อนที่จะอาบน้ำเข้านอนกับบรรยากาศของฤดูฝนที่สร้างความตื่นเต้นในการลุ้นว่าจะตกหรือไม่ จะหนักขนาดไหนจะได้ย้ายเต็นท์ที่กางไว้ได้ทันท่วงที หรือหากจำนวนนักท่องเที่ยวไม่มากจนเกินไปทางอุทยานแห่งชาติมีที่กางเต็นท์แบบในร่มให้ ช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องฝนที่จะเทลงมาในระหว่างกลางคืน หากในรุ่งเช้าอยากเปลี่ยนทริปพักผ่อนเบาๆ ท่ามกลางสายฝนให้เป็นทริปลุยๆ ก็ทำได้โดยง่าย เพียงออกเดินเท้าไปยังจุดชมวิวระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้น หากวันไหนฝนตกไม่หนักมากเส้นทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงยังพอที่จะเอาจักรยานเสือภูเขาไปลุยได้ก็จะดีมากๆ ครับ ที่อุทยานสามารถติดต่อเช่าจักรยานได้ทั้งแบบ 50 บาท /ชั่วโมง และเหมาวัน 200 บาท ครับ

ท้องฟ้าทะมึนเหนือหนองแม่นา ในระหว่างการรอคอยชมพระอาทิตย์ตก ทั้งๆ ที่เมฆหมอกหนาที่เห็นอยู่บนท้องฟ้าน่าจะทำให้หลายๆ คนสิ้นหวังที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ยามอัสดงและเดินทางกลับที่พัก แต่เราก็ยังรอที่จะได้เห็นภาพสวยๆ ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้านอน เมฆที่ค่อยๆ เลื่อนเข้ามาเหนือพื้นที่ทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) ก็ทำให้เราเริ่มหวั่นใจว่าฝนจะตกลงมาซะก่อนซึ่งนั่นคงจะนำมาซึ่งปัญหาหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะกล้องที่เตรียมกันมาจะต้องเก็บอย่างรวดเร็ว

พระอาทิตย์ตกกับทิวสน หลังจากที่ยืนรอมานานแสนนานในที่สุดนาทีสุดท้ายของวันนี้ของเราก็เดินทางมาถึง พระอาทิตย์ลับหายไปจากขอบฟ้าได้พักหนึ่งแล้ว เหลือเพียงแสงอ่อนๆ บนท้องฟ้า เม็ดฝนเล็กๆ เริ่มโปรยปรายลงมาทำให้เราขยับจากจุดที่ยืนชมพระอาทิตย์ตกกลางทุ่งกว้างมาอยู่ในทิวป่าสนแทน ภาพที่ออกมาจึงเป็นอย่างที่เห็น

ดอกกระเจียวทุ่งแสลงหลวง สิ่งหนึ่งที่จะได้เห็นในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) ก็คือดอกกระเจียว มีทั้งสีชมพูและสีขาว แม้ว่าจะไม่ได้เห็นเป็นทุ่งดอกกระเจียวกว้างใหญ่ก็ตามที แต่ก็เป็นสิ่งที่แต่งแต้มให้สีสันของการเดินทางเที่ยวทุ่งแสลงหลวงให้สดใสมากกว่าที่คิดไว้เป็นอย่างดี