ข้อมูลเพิ่มเติม:ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0 5448 1704, 0 5441 1428
http://www.tourismthailand.org/chiangrai
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
เรานัดพบกับผู้นำทางกันที่บ้านปงถ้ำ ซึ่งเป็นชาวบ้านผู้ชำนาญทางในพื้นที่
ค่าแรงของผู้นำทางและลูกหาบสำภาระ อยู่ที่วันละ 400-500 บาท ต่อคน สำภาระที่แบกคนละไม่เกิน 15 กิโล
ช่วงแรกเรานั่งรถอีแต๊ก ระยะทาง 8 กิโล
ค่ารถไปและกลับอยู่ที่ 1600 บาท เริ่มต้นจากหมู่บ้านซึ่งเป็นถนนคอนกรีต พอสิ้นสุดถนนของหมู่บ้านก็เป็นถนนลูกรัง นั่งโยกไปโยกมาตามสภาพของถนนล่ะครับ
วิวสองข้างทางก็สวยดีนะครับ เป็นเนินสูงบ้างต่ำบ้าง เป็นไร่ นา ของชาวบ้าน จำพวกไร่ข้าวโพด ไร่มันสำปะหลัง ไร่กล้วย ผ่านป่าหญ้าเป็นบางช่วง
จุดจอดรถอีแต๊ก นั่งรถกันมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง จะถึงจุดที่จะต้องลงจากรถแล้วเดินเท้าขึ้นดอยกัน เป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรครับ ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมง
ตลอดเส้นทางการเดินขึ้นดอยหนอกจะพบเห็นสภาพป่า 5 ชนิดคือ ป่าดิบชื้น ป่าดิบแห้ง ป่าเต็งรังป่าเบญจพรรณและป่าสนเขา ทางเดินก็มีร่มไม้ แดดไม่ร้อนนะ มีแต่จะเหนื่อยบ้างตรงช่วงที่เป็นเนินเท่านั้นแหละครับ
เส้นทางเดินเท้าช่วงแรกๆ ตรงตีนดอย เป็นป่ากล้วย ทางเดินในช่วงแรกๆ ถือว่ายังไม่ชันมาก ยังพอไหว แต่ยังไม่ได้กินข้าว อิอิ แรงเริ่มจะถอยแล้วครับ
จากนั้นจะเข้าสู่ป่าเต็งรังป่าเบญจพรรณ
ต่อมาก็จะเข้าสู่ป่าไผ่ ทางเดินก็มีร่มไม้ และยังไม่ชันมากนัก
เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ดี ดูสดชื่น ไม่แห้งแล้ง
เวลาเดิน ลูกหาบจะเดินคอยๆ เรา ดูแลห่างๆ ให้เราอุ่นใจ เผื่อว่ามีอะไรจะได้รีบเข้าช่วยเหลือได้ทันนะครับ
พอเดินมาสักครึ่ง ทางก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ สองข้างทางมีแต่ทางเดินหาที่กางเต้นท์ไม่ได้เลย นอกจากจุดพัก 4 จุด แนะนำพักจุดที่ 4 เลยครับ น่าจะดีที่สุดครับ มีทั้งเพิงพักเล็กๆ และแหล่งน้ำ ที่สะอาดพอจะใช้ดื่มกินได้เลยครับ สำหรับกลุ่มของผมใช้เป็นจุดพักกินข้าวกลางวัน เพื่อเติมพลังก่อนปีนดอยหนอกกันครับ
กินข้าวแล้วพักเอาแรงกันสักนิด ก็พิชิตดอยกันต่อ ซึ่งช่วงนี้จะเป็นการเดินขึ้นอย่างเดียวอีกเช่นกันครับ ทางเริ่มยากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
จนพวกเราก็มาถึงลานพระทันใจ ซึ่งจะอยู่ดอยข้างๆ ดอยหนอก
ยอดดอยหนอก นี่แหละครับ เรามากันเพื่อสิ่งนี้ และต้องพิชิตให้ได้ครับ นึกสภาพไม่ออก ถ้าตกลงไปจะไปอยู่ตรงไหนเนี่ย แค่เห็นก็เสียวแล้วครับ
เราพักเก็บภาพรอบๆ กันสักพัก พักขากันนิดนึง นั่งให้ลมพัดเย็นสบาย บางคนแอบทำใจ พอให้หายเหนื่อยกันสักหน่อยนะครับ
คนนำทางของทริปเราครับ ยิ้มเป็นนัยนัย ฮั่นแน่กำลังเยาะเราหรือเปล่าน๊า ว่าเราจะกล้าขึ้นดอยหนอกอ๊ะเปล่า
ไหว้พระขอพรกันก่อน ขอให้ลูกช้างปีนขึ้นดอยหนอกอย่างปลอดภัยนะเจ้าคะ
ณ จุดนี้เห็นคนยืนกางแขนบนยอดดอยหนอกมั๊ยครับ เท่จริงๆ เลย
ข้างบนดอยหนอก เราก็จะพบกับองค์พระและเจดีย์ คนนำทางเล่าว่า อาจารย์สุวัฒน์ฯ ท่านเป็นผู้มาบูรณะพระธาตุบนยอดดอยหนอกเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ด้วยแรงศรัทธาโดยบูรณะจากของเดิม จากคำบอกเล่าว่าท่านชีปะขาวได้สร้างไว้ ซึ่งปรากฏภาพในนิมิตขณะนั่งสมาธิ ซึ่งในทุกๆ ปีจะนำอาจารย์จะนำลูกศิษย์ลูกหา ชาวบ้านที่ศรัทธา ขึ้นดอยไปสักการะพระธาตุในช่วงเดือนเมษายน
จากบริเวณลานพระทันใจ จะอยู่ห่างจากดอยหนอกที่ต้องปีนเขาขึ้นไปประมาณ 1 กิโลเมตร ดูจากป้ายบอกว่า
“อีก 1 เจ้น จะขึ้นยอดดอยหนอก” แล้วการปีนดอยหนอกก็มาถึง ช่วงแรกเดินเลาะไปเรื่อยๆ ไม่ชันมาก
ช่วงที่ยากที่สุดของการไต่ดอย ยังมีเชือกเอาไว้ให้เราได้จับยึดระหว่างเดินขึ้น และก็ยังพอมีซอกหินให้เราเอาเท้าค่อยๆ เหยียบไต่ขึ้นไป แบบสบายๆ รองเท้าที่ใส่มาเดินป่าและไต่ดอยแบบนี้ ควรจะมีดอกยางลึกๆ ยึดเกาะได้ดีครับ เพราะมันช่วยได้มากจริงๆ ในระหว่างเดินขึ้นดอย
จากนั้นพอผ่านไปครึ่งทาง คือเข้าสู่รูปทรงดอยหนอก ก็จะสับเกียร์เปลี่ยนโหมดสูงชันกันมาก ประมาณ 70 องศา และสภาพพื้นที่ปีนเป็นหิน จะมีจุดที่อันตรายมากหลายจุดด้วยกันนะครับ สำหรับผมแล้วได้พี่ๆ ชาวบ้านที่คอยนำทางช่วยในการขึ้นและลง ผมว่าเป็นอะไรที่จำเป็นมาก การที่มีชาวบ้านในพื้นที่ คอยนำทางและพาเราปีนขึ้นดอยหนอก
ถ้าเราอยู่บนดอยหนอก เราจะเห็นได้ทั้งหมด 4 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย เห็นกว๊านพะเยา จัดได้ว่าวิวสวยมากเลยครับ นี่ถ้าได้ถ่ายภาพแสงเช้าและแสงเย็นคงสวยน่าดู
เราถ่ายภาพวิวโดยรอบกันอย่างจุใจ และผลัดกันถ่ายภาพเพื่อเก็บเป็นที่ระลึก ว่า ครั้งหนึ่งเราเคยพิชิตยอดดอยหนอกมาแล้ว
ชมวิวกันให้ชื่นใจ หายเหนื่ยกันให้คุ้มกับที่เสี่ยงชีวิตกันขึ้นมา เวลาที่มีความสุขเช่นนี้มักจะหมดไปอย่างรวดเร็ว จะบ่ายสองแล้วครับ เราลงจากยอดดอยหนอกและเริ่มทางเดินทางกลับ เพราะเราควรลงมาให้ถึงจุดที่รถอีแต๊กก่อนที่จะค่ำ แล้วใช้เวลานั่งรถกลับหมู่บ้านอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
ข้อมูลการขึ้นดอยหนอก
สิ่งอำนวยความสะดวก
- ไม่มีห้องอาบน้ำ ไม่มีน้ำ ควรเตรียมทิชชูเปียกไปทำความสะอาดร่างกายจ้า
- ไม่มีน้ำใช้และน้ำกิน ต้องเตรียมขึ้นไป ให้ลูกหาบแบก คำนวณให้ดี ถ้ามากไปจะหนักโดยใช่เหตุ
- ไม่มีร้านอาหาร กรณีไปค้างคืนต้องนำอาหารที่นำขึ้นไปปรุงบนเขา ควรเป็นอาหารไม่ใช้น้ำมาก และเหลือขยะน้อยที่สุด เพราะต้องให้ลูกหาบแบกขยะกลับลงมาด้วย
ค่าใช้จ่ายในการเดินขึ้นดอยหนอก
1 ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่นำทาง วันละ 400 บาท ต่อคน
2 ค่าลูกหาบวันละ 400 บาท ต่อคน ลูกหาบ 1 คน แบกของได้ 15 กิโลกรัม
3 ค่ารถอีแต๊กไปและกลับอยู่ที่ 1600 บาท นั่งได้มากสุด 10 คน
ติดต่อได้ที่ พ่อหลวงเสน่ห์ 086-080-2452
สิ่งที่ต้องเตรียม เมื่อเดินดอยหนอก
- ควรมีเป้เล็ก ติดตัวเอาไว้ใส่น้ำ ข้าวกลางวัน ของใช้ส่วนตัว
- ควรมาถึงบ้านปงถ้ำ แต่เช้า กินอาหารเช้าและเตรียมอาหารกลางวันกินระหว่างทาง เตรียมของให้ลูกหาบแบก
- เตรียมน้ำดื่มระหว่างทาง 1-2 ขวด ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
- เสื้อผ้าที่ใส่ขึ้นเขาต้องเป็นผ้าที่ยืดหยุ่น คล่องตัว แต่ไม่รุ่มร่าม ไม่ควรใส่ยีนส์เพราะไม่คล่องตัว ปีนป่ายไม่สะดวก
- รองเท้า ควรใส่ผ้าใบ หรือรองเท้ายาง มีสายรัดข้อเท้า พื้นดอกยางลึกๆ
- อุปกรณ์กันแดด แว่นกันแดด หมวก เสื้อแขนยาว ปลอกแขน เพราะบางช่วงต้องเดินท่ามกลางหญ้าคา อาจโดนบาด
- ถุงมือ ใช้ช่วงขึ้นยอดดอยหนอก มีบางช่วงต้องปีนโดยต้องจับเชือก ยาดม ยาหม่อง ยาประจำตัว
- ถุงกันทาก สเปรย์กันทาก เดือน ตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน อาจยังมีทากอยู่
- ห้ามทิ้งขยะระหว่างทางเดิน เท่าที่ผ่านมามีเปลือกท้อฟฟี่และถุงขนมเยอะมาก สัตว์ป่าจะกินเข้าไปนะอันตราย
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคเหนือ
ช่างภาพใจกล้าท้าความเสียว
- Mr.Phasit Kittomatasub
- คุณวิรัตน์ เซาะเก็บยิ้ม ไชยชนะ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ