สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองเลย)

สวนหินผางามหรือคุนหมิงเมืองเลย อยู่ที่บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ จากอำเภอหนองหินเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร ภายในสวนหินผางามมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ นอกจากนี้ ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายากและต้นไม้ยักษ์อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี สวนหินแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "คุนหมิงเมืองเลย" นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำชมสวนหินผางามที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ค่านำชม 100 บาท สอบถามเพิ่มเติมที่ อบต.หนองหิน โทร. 08 1462 1719

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานเลย โทร. 0 4281 2812,0 4281 1405
http://www.tourismthailand.org/loei

แก้ไขล่าสุด 2016-04-20 06:59:18 ผู้ชม 107201

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

คุนหมิงเมืองเลย หลังจากตื่นตาตระการใจกับงานแห่ผีตาโขน กันมาแล้ว เราเลือกที่จะใช้เวลาที่เหลือของทริปนี้ปิดทริปด้วยสถานที่ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดเลย นั่นก็คือสวนหินผางาม หรือที่เรียกกันว่า คุนหมิงเมืองเลย นั่นเอง จากอำเภอด่านซ้ายสถานที่จัดงานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน ใช้ทางหลวงหมายเลข 203 มุ่งหน้าหล่มเก่า ก่อนที่จะถึงหล่มเก่า จะมีทางแยกซ้ายทางหลวงหมายเลข 2016 หรือหากไม่ถนัดเส้นทางคดเคี้ยว แนะนำให้เข้าตัวเมืองเลยก่อนจากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 201 มาที่กิ่งอำเภอหนองหิน จะมีทางแยกเข้าสวนหินผางาม เมื่อมาถึงที่นี่แล้วเราได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แนวผาหินสลับซับซ้อน กับเทือกเขาและทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าไม้อุดมสมบูรณ์ในหุบเขา บรรยายไปก็คงจะนึกภาพไม่ออกเดี๋ยวไปชมกันเลยดีกว่า เริ่มจากตรงที่เราเห็นอยู่นี้ เป็นเหมือนกำแพงรอบนอกของคุนหมิงเมืองเลย มีโพรงเล็กๆ แห่งหนึ่งเป็นเหมือนซุ้มประตู ถ้าจะเดินเข้าไปชมภายในแนะนำอย่างยิ่งว่าควรจะมีไกด์ท้องถิ่นพาไป กันหลงทางและยังได้ความรู้เกี่ยวกับป่าแห่งนี้ได้ดีอีกด้วย

บริเวณรอบสวนหินผางาม เพียงแค่ได้เห็นแนวผาหิน แห่งนี้เท่านั้นก็ว่าสวยงามมากแล้ว ตอนนี้เราขลุกอยู่กับการเก็บภาพมุมต่างๆ โดยเฉพาะสวนหย่อมหน้าผาหินที่จัดไว้ได้สวยงาม อาณาบริเวณนี้กว้างขวางท่ามกลางแดดร้อนๆ แต่ความสวยงามของธรรมชาติทำให้เราลืมความร้อนเดินถ่ายรูปอย่างสบายใจ

คุนหมิงเมืองเลยฉากกำแพงหินอันยิ่งใหญ่ ด้านซ้ายของแนวผายาวๆ มีลักษณะเป็นหินที่ดูไม่ค่อยจะเหมือนกับด้านขวาสักเท่าไหร่ ทางด้านซ้ายลักษณะของหินกับเป็นหินที่ดูไม่ค่อยมีเหลี่ยมคม แต่อีกด้านหนึ่งดูตะปุ่มตะป่ำ เป็นเหลี่ยมเล็กๆ มากมาย นี่ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราได้เห็นในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างที่ยากจะเข้าใจ

สวนหินผางาม นี่ก็เป็นสวนหย่อมที่สร้างเป็นทางเดินให้นักท่องเที่ยวได้หามุมประทับใจของตัวเองถ่ายรูปเป็นที่ระลึกโดยเฉพาะกับป้ายที่เขียนว่า สวนหินผางาม ใหญ่ๆ แบบนี้ก็กลายเป็นมุมมหาชน หรือมุมนิยมกันไปครับ

ช่องประตูสุดแนวผาหิน โพรงที่เราเห็นในรูปนี้เป็นช่องทะลุเข้าไปนั้นเป็นช่องเดินเข้าไปในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของสวนหินผางาม แต่ก่อนหน้านั้นจะบอกก่อนว่าเรายังมีทางเลือกอีกทางหนึ่ง แทนที่เราจะเดินเข้าไปตามทางเดินที่จุดนี้ เราสามารถเหมารถเข้าไปด้านในแล้วเดินมาออกด้านนี้แทน ซึ่งดีกว่าการเดินไปแล้วก็เดินกลับ เพราะระยะทางประมาณ เกือบ 3 กิโลเมตรที่นี่ เดินไปกลับก็ 6 กิโลเมตรแล้ว น่าจะดีกว่าถ้าจะเดินแค่รอบเดียว

เริ่มสำรวจสวนหินผางาม เอาละครับคราวนี้ก็ว่าจะลองเดินชิมลางเข้าไปดูสักหน่อย ตอนนี้กำลังติดต่อไกด์ท้องถิ่นกับรถที่เราจะเหมาไปเริ่มต้นการเดินที่ด้านในออกมาด้านนอก

ประตูสวนหินผางาม เอาเฉพาะส่วนปากโพรงทางเข้า ดูไกลๆ เหมือนเล็กๆ ที่แนวผาหินพอเดินเข้ามาใกล้ๆ จึงได้เห็นขนาดที่แท้จริง ภายในโพรงนี้มีที่นั่งพักผ่อน ลมเย็นๆ จากธรรมชาติอันบริสุทธิ์ พัดผ่านเข้าออกจากภายนอกสู่ภายใน และจากภายในสู่ภายนอก ท้องฟ้าที่สดใสที่เห็นจากด้านในโพรงหินขนาดใหญ่สวยงามมากจริงๆ

ห้องนั่งเล่นสวนหินผางามหรือคุนหมิงเมืองเลย ขอภาพบรรยากาศของโพรงนี้อีกภาพครับ ได้มานั่งหลบแดดในตอนกลางวันแบบนี้ชักอยากจะนอนสักตื่นจริงๆ

เดินทางสู่คุนหมิงเมืองเลย เอาละครับ หลังจากชมด้านหน้ากันแล้ว อย่างที่บอกไว้จะเดินเข้าไปเอง 3 กิโลเมตร แล้วเดินย้อนกลับออกมา ก็ดูจะเสียเวลาเปล่าๆ เราเลือกที่จะลดเวลาลงด้วยการเหมารถเข้าไปทั้งคณะ ไปเริ่มต้นเดินเท้าที่ด้านในเดินออกมาให้ถึงด้านหน้าแล้วก็กลับ เป็นแผนที่เข้าท่ากว่า เดี๋ยวจะถึงกรุงเทพฯ ดึกเกินไป

วิวสวยระหว่างทาง นี่ละครับสภาพท้องที่รอบๆ สวนหินผางาม ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ทำอาชีพเกษตรกรรม หลายคนปลูกข้าวโพด ระหว่างทางที่รถแล่นผ่านทางลูกรัง ซึ่งเป็นทางเดียวที่จะเข้าไปด้านในของสวนหินผางามที่เราจะต้องเดินออกมา ไกด์ท้องถิ่นบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ได้อย่างน่าประทับใจ

ทางเดินในคุนหมิง หลังจากที่รถพาเรามาส่ง รถจะกลับออกไปด้านหน้าเพื่อรับนักท่องเที่ยวกลุ่มต่อไป หลังจากนี้เราต้องเดินไปจนถึงด้านหน้ากันเองด้วยระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยประมาณ ผ่านป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์กับภูมิประเทศที่เป็นผาหินสลับซับซ้อน มีทางราบบ้างทางชันบ้างเป็นช่วงๆ และมีการสร้างบันไดให้ความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวได้เดินอย่างสบายๆ ร่มไม้ให้เงาบังแสงแดดตลอดระยะทาง สบายตาสบายใจ

ระเบียงชมวิวสวนหินผางาม หลังจากที่ได้ไต่มาตามบันไดเรื่อยๆ จะว่าไม่ไกลก็คงพูดไม่ได้เต็มปาก กว่าจะมายืนกันที่นี่เล่นเอาหอบเหมือนกัน แต่หลังจากที่ได้เห็นวิวสวยๆ แบบนี้แล้วความเหนื่อยก็ดูเหมือนจะจางหายไปหมด ระเบียงแห่งนี้สร้างอย่างมั่นคงแข็งแรง เป็นลานกว้างพอสมควร นักท่องเที่ยวจึงไม่ต้องเบียดกันชมวิว ที่เราจะได้เห็นกันที่นี่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ไม่กว้างขวางมากนักหากจะเทียบกันกับภูเขาใหญ่ๆ ที่เคยไปมาในที่อื่นๆ วิวที่นี่จะเห็น 180 องศา จุดที่น่าสนใจก็คือป่าในหุบเขาเบื้องล่างที่เขียวขจี อนุรักษ์โดยชาวบ้านในพื้นที่ที่จะคอยช่วยกันดูแลรักษาคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี

วิวสวยสวนหินผางาม ลักษณะทางภูมิประเทศแบบนี้นี่เองที่ได้รับฉายาเรียกกันว่าคุนหมิงเมืองเลย เดี๋ยวเราจะได้เขาไปสัมผัสกันใกล้ๆ แต่ตอนนี้ขอถ่ายรูปวิวสวยๆ เบื้องหน้ากันให้เต็มที่ก่อน

ภาพนี้เป็นอีกมุมหนึ่งของระเบียงชมวิวที่เรายืนอยู่ ภาพนี้กับภาพก่อนหน้าถ้าเอามาต่อในลักษณะพานอรามาก็จะภาพวิวกว้างๆ สวยๆ 180 องศาเลยทีเดียว

ต้นปรงตัวผู้ ขอเนื้อคู่โดยการลูบเบาๆ น้องนุ่นไกด์ท้องถิ่นที่พาเราเดินชมบริเวณคุนหมิงเมืองเลยได้อธิบายเรื่องราวของความเชื่อเกี่ยวกับต้นปรง โดยต้นปรงที่กล่าวถึงนี้จะมีการแบ่งเป็นปรงตัวผู้กับปรงตัวเมีย ซึ่งมีความแตกต่างกันเล็กน้อยที่บริเวณลำต้น ความเชื่อของคนที่นี่ว่ากันว่า หากใครต้องการมีคู่หรือขอเนื้อคู่ เพียงแค่มาลูบที่ต้นปรงนี้เบาๆ 1 ครั้ง เมื่อได้คู่ที่คบหากันถูกใจแล้วให้กลับมาลูบที่ต้นปรง 1 ครั้ง ก็จะได้ครองคู่กันยืนยาว ภาพขวา บรรยากาศในหุบเขาสวนหินผางาม แนวป่าที่มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม ทำให้แสงแดดส่องลงมาที่พื้นดินได้น้อย รู้สึกสดชื่นเย็นสบายในระหว่างการเดิน นอกจากต้นไม้ใหญ่ๆ แล้ว ที่นี่จะมีผาหินสูงสลับกันไปมาระหว่างทางที่เราเดินไปเรื่อยๆ เหมือนเดินอยู่ท่ามกลางป่าหินสูงตระหง่านตลอดทาง

ประตูโขง ส่วนหนึ่งของทางเดินที่เราต้องเดินผ่านไปเป็นซอกหินซอกซอนไปเรื่อยๆ ลอดช่องนั้นไปโผล่ช่องนี้ บางทีก็ต้องขึ้นบันไดบางทีก็ต้องปีนลงข้างล่าง โพรงหินเหล่านี้บางแห่งก็มีชื่อเรียกอย่างเช่น ประตูโขง หัวใจสลาย เป็นต้น โพรงที่ชื่อว่าหัวใจสลายนั้นก็เนื่องมาจากรูปร่างของโพรงเหมือนรูปหัวใจแต่ตะแคงข้างอยู่นั่นเอง

ทางเดินสวนหินผางาม อย่างที่บอกไว้เลยครับ บางช่วงทางเดินก็ต้องปีนบันไดกันขึ้นไป บางทีก็ต้องปีนตามซอกหินลงข้างล่าง สวนหินเหล่านี้สูงท่วมหัว รอบตัวเรา จึงเป็นที่มาว่าทำไมจึงแนะนำให้มีไกด์ท้องถิ่นมานำทางจะดีกว่าเดินสุ่มๆ ไปในป่าหินเดี๋ยวไม่ได้ดูทั่วบริเวณจะเป็นที่น่าเสียดายที่อุตส่าห์เดินเข้าไป

น้ำชาสมุนไพรชาวหนองหิน กลับมาที่จุดเริ่มต้นที่เราเดินเข้าไปครับ เหตุผลก็เพราะว่าจู่ๆ ฝนก็ตกลงมากลางสวนหินผางาม เป็นที่น่าแปลกใจมากพอเดินกลับออกมาจากตรงกลางสวนผาหิน ก็ไม่มีฝนแม้แต่นิดเดียว ทำให้แผนของเราที่วางไว้จะเดินจากด้านหลังไปด้านหน้าก็ไม่สำเร็จ เพราะเดินย้อนหนีฝนกลับมาทางด้านหลัง แล้วขึ้นรถกลับไปด้านหน้าดีกว่า ระหว่างรอรถอยู่น้องนุ่นก็เอาน้ำชาสมุนไพรรสหวานรับประทานง่ายนี้มาแจก เป็นชาที่ดีต่อสุขภาพดื่มร้อนๆ หายเหนื่อยได้ดีเหมือนกัน เป็นที่น่าเสียดายที่เราเดินไม่ทันได้ทั่วบริเวณทั้งหมดในวันนี้ แต่ภาพเท่าที่เอามาให้ได้ชมกันก็แสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีแล้วว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดหาโอกาสไปให้ได้สักครั้ง นอกจากความสวยงามแล้วยังไม่รู้จักกับธรรมชาติและวิถีชีวิตชุมชนของคนที่นี่ได้เป็นอย่างดี

น้องนุ่นแห่งสวนหินผางาม ไกด์ท้องถิ่นอารมณ์ดีคนนี้ซึ่งทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการพาเราเข้าไปชมสวนหินผางาม หรือคุนหมิงเมืองเลย และก็พาเรากลับออกมาที่ด้านหน้าอย่างปลอดภัยสร้างความประทับใจให้กับทีมงานของเราครับ

เก็บตกสวนหินผางาม บริเวณรอบๆ สถานที่แห่งนี้เอามาฝากในช่วงเก็บตกปิดท้ายของการเดินทาง เริ่มจากภาพบนซ้าย ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ภาพบนขวา ร้านอาหารอิสาน ส้มตำ ลาบ น้ำตก หาได้จากร้านนี้ อร่อยถึงรสชาดอิสานแท้แน่นอน ภาพล่างซ้าย พาหนะนำเที่ยวคุนหมิงเมืองเลย ภาพล่างขวาร้านของที่ระลึกต่างๆ ที่ได้มาที่สวนหินผางามแห่งนี้ ขอขอบคุณประเทศไทย ที่มีอะไรดีๆ ให้เราได้ไปชมไม่รู้จบ ...

ผานกเค้า วิวสวยๆ ระหว่างทางกลับกรุงเทพฯ ข้างทางอีกสักภาพเป็นภาพปิดท้ายสุดของการเดินทางมาเที่ยวที่นี่ เหมือนกับว่าการขอฝนด้วยการแห่ผีตาโขนจะได้ผลเป็นอย่างดี เย็นวันเดียวกันก็มีฝนตกลงมา มีหมอกสวยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้มตลอดทาง