ล่องแพอ่างเก็บน้ำเลย

ชื่อว่าล่องแพ ตอนนี้ก็มีกันหลายจังหวัด ทั้งเขื่อนเล็กเขื่อนใหญ่พอกักเก็บน้ำได้ก็จะมีบริการล่องแพเกิดขึ้น มีทั้งแพเล็กแพใหญ่ ล่องไปไกล หรือลอยอยู่กลางน้ำไม่ต้องห่างฝั่งมาก เอาบรรยากาศฟินๆ ชิลๆ กินข้าว เล่นน้ำ ก็ว่ากันไปต่างๆ นานา เพราะบ้านเราเมืองร้อนกิจกรรมเล่นน้ำกับคนไทยแยกกันไม่ออก เราเองก็ไปล่องแพมานักต่อนัก ทั้งล่องแก่งน้ำเชี่ยวๆ ล่องอ่างเก็บน้ำ ล่องในแม่น้ำ ล่องชั่วคราว ล่องค้างคืน ล่องแนวตะเข็บชายแดนก็มี พอมาล่องแพที่อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย อันเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำเลยทำเอาอึ้งไปอีกแล้วเพราะที่นี่ยังอุตส่าห์คิดหากิจกรรมพ่วงการล่องแพให้เราแปลกใจเพราะไม่เหมือนใครขึ้นมาได้อีกแฮะ กิจกรรมล่องแพที่อ่างเก็บน้ำเลยจะมีการพ่วงเอากิจกรรมแอดแวนเจอร์เข้ามาเล็กๆ ให้เราไม่เบื่อไม่เซ็งไม่ซ้ำซาก ด้วยการเดินเลาะแนวแก่งหินขึ้นไปยังต้นน้ำเลย ชมธรรมชาติของขุนเขาและสายน้ำ และหินก้อนเล็กก้อนใหญ่ที่กองระเกะระกะอยู่ตามสายน้ำโดยยากที่จะอธิบายว่าหินเหล่านี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

กิจกรรมล่องเรือชมต้นน้ำเลยเป็นกิจกรรมเสริมซึ่งเราเลือกได้ว่าจะไปหรือจะนั่งกินข้าวเล่นน้ำอยู่ที่แพเหมือนล่องแพที่อื่นๆ ตอนนี้มีคนมาเปิดให้บริการแพกลางน้ำกันมากให้เราได้เลือกตามความชอบ แต่ถ้าจะให้แนะนำเราของเสนอ แพวิถีชุมชนคนอ่างน้ำเลย ที่เราไปใช้บริการมา ราคาเป็นกันเองมาตรฐานไม่มีหน้าไฮหน้าโลว์ ติดต่อสอบถามได้ที่

โทร. 0898406364, 0610420968, 0833567305

*หมายเหตุ บริเวณแพและอ่างเก็บน้ำไม่มีสัญญาณโทรศัพท์อาจจะติดต่อยากบ้างในบางเวลา

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 0898406364, 0610420968, 0833567305

แก้ไขล่าสุด 2016-05-31 16:38:45 ผู้ชม 12893

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

แพวิถีชุมชนคนอ่างน้ำเลย ขับรถเข้ามาในอ่างเก็บน้ำเลย อำเภอภูหลวง เส้นทางสายนี้ยาวไกลนะ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงแหละสำหรับคนที่พักในอำเภอด่านซ้าย หรือจะมาจากทางเพชรบูรณ์ก็ได้ ถ้าดูจากพิกัดแผนที่อ่างเก็บน้ำเลยและแม่น้ำเลยแล้วจะเห็นว่า แม่น้ำสายนี้คือเส้นแบ่งเขตระหว่างจังหวัดเลยกับจังหวัดเพชรบูรณ์นั่นเอง เข้ามาในเขตอ่างเก็บน้ำเราจะเห็นแพลอยอยู่ใกล้ๆ ฝั่งหลายแพเลยแต่ถ้าจะใช้บริการแพวิถีชุมชนคนอ่างน้ำเลยเหมือนที่เราแนะนำให้ขับต่อไปเรื่อยๆ เพราะแพนี้เค้าอยู่ในสุดเลย

บรรยากาศแพในอ่างเก็บน้ำ ตอนนี้เราลงจากรถแล้ว รถเราจอดอยู่บนฝั่งทางด้านนี้ แพที่เราจะนั่งจะอยู่อีกฟากที่รถไปไม่ถึงต้องนั่งเรือไป ห้องน้ำมีบริการอยู่บนยอดเนินแตี้ยๆ ที่เราเห็นอยู่นี้ แพแต่ละหลังนั่งได้เป็น 10 คน อาหารบริการจากซุ้มที่อยู่ฟากนี้ส่งเดลิเวอร์รี่ด้วยเรือหางยาว สนุกสนานกันจริงๆ เวลาจะสั่งอาหารต้องรอให้เรือเข้ามา เรือของชาวบ้านจะคอยวนเวียนอยู่รอบๆ แพของเรานอกจากเวลาไปรับอาหารมาเสิรฟ โทรศัพท์ติดบ้างไม่ติดบ้างด้วยเหตุว่าสัญญาณมาๆ หายๆ แต่ก็สนุกดีไปอีกแบบเพื่อนๆ จะได้ไม่ต้องนั่งก้มหน้าก้มตามีเวลาคุยกันมากขึ้น

ลงเรือไปแพ หลังจากที่เราฟังชาวบ้านชาวแพบอกเล่าขั้นตอนระเบียบปฏิบัติต่างๆ ของการเที่ยวแพและล่องเรือชมต้นน้ำเลยเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก็ถึงเวลาของการลงมือปฏิบัติไปเที่ยวจริงๆ ได้แล้ว ปกติถ้าเป็นแพอื่นจอดรถแล้วก็ลงไปที่แพได้ไม่ยาก สำหรับแพเราเค้าไม่จอดใกล้ฝั่งเราต้องออกเรือไปหาแพอีกฟากหนึ่ง ถ้ามากันกลุ่มใหญ่ๆ นั่งหลายๆ แพจะรู้สึกเป็นส่วนตัวมากๆ ขอบอก แต่ก็เหมือนติดเกาะเหมือนกันนะสำหรับคนที่ติดโซเชียลเพราะสัญญาณจะไม่มีเอาซะเลย โทรศัพท์ยังยากว่างั้นเหอะ

ออกเดินทางสู่แพกันเถอะ เอาละได้เวลากันแล้ว ทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพถ้าไม่สวมเสื้อชูชีพจะไม่พาไปที่แพ แล้วถ้าลงเล่นน้ำโดยไม่สวมชูชีพจะถูกไล่ขึ้นฝั่งเลยนะ นี่เป็นกติกาที่คนมาเที่ยวต้องทำตาม

ชมภูหอจากกลางน้ำ ใส่ชูชีพกระโดดขึ้นเรือมาแล้วเรือพาเราไปที่ฟากที่แพจอดให้พวกเราเข้าห้องน้ำห้องท่าหลังจากที่นั่งรถมาซะไกล เสร็จธุระเรียบร้อยแล้วเรือก็พาพวกเราเดินทางย้อนไปตามลำน้ำเลยเราเลือกที่จะลองกิจกรรมผจญภัยเล็กๆ มากกว่าที่จะนั่งชิลอยู่บนแพ เพราะเดี๋ยวเรากลับมาที่แพก็มีเวลาได้นั่งได้นอนกันยาวๆ อยู่แล้ว แม่น้ำเลยเป็นแม่น้ำที่และดูไม่กว้างมากเท่าไหร่ โดยเฉพาะช่วงต้นน้ำก่อนที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำเลย หลังจากที่สร้างเขื่อนแล้วมีอ่างเก็บน้ำทำให้ดูว่าเป็นแม่น้ำสายใหญ่ขึ้นเยอะ ออกห่างจากฝั่งมากขึ้นเรื่อยๆ จะสามารถมองเห็นภูหอหรือฟูจิเมืองเลยได้ด้วย

ชาวบ้านหาปลาในแม่น้ำเลย

ต้นแม่น้ำเลย เรือแล่นมาตามสายน้ำที่ค่อยๆ บีบตัวแคบลงๆ มีป่าไม้ขึ้นริมน้ำเขียวขจีดี จากนั้นดูเหมือนว่าทางจะตันซะแล้ว ต้นสายแม่น้ำเลยเต็มไปด้วยแก่งหินที่ระเกะระกะอยู่เต็มไปหมดเรือพาเรามาได้แค่นี้จากจุดนี้ไปต้องเดินป่าแล้วละ

เดินลัดเลาะมาตามแก่งหินเรื่อยๆ สายน้ำที่ไหลลงมาจากเขาเป็นสีส้มเข้มเชียว พอไหลพ้นแก่งหินนี้ไปไปรวมกับน้ำที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำสีส้มนี้ก็จะจมลงด้านล่างจนมองเห็นแต่น้ำสีเขียวใสอยู่ด้านบนอย่างแปลกประหลาด ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าช่วงหน้าฝนนี้น้ำที่ไหลลงจากเขาก็จะเป็นสีส้มแต่ถ้าปกติมาฤดูอื่นจะเห็นสายน้ำใสไหลเย็นลงมาตามแก่งหินน่าเล่นน้ำมาก แก่งหินเหล่านี้เกิดขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติถ้ามองตามสายตาคนธรรมดาก็จะเห็นเป็นความแปลกเพราะนอกจากในสายน้ำนี้แล้วบนเขาแทบไม่เห็นมีหินแบบนี้อยู่เลย

ชมผีเสื้อต้นแม่น้ำเลย ระหว่างการเดินทางจากจุดที่เราลงจากเรือ เส้นทางก็พาเราเดินมาตามร่มไม้ป่าเขาอันร่มรื่น มีเวลามองนกชมไม้ แลผีเสื้อไปตามอัธยาศัย

จุดพักกลางป่า เดินชมป่าเขาลำเนาไพรและแก่งหินเป็นระยะทางประมาณ 500-700 เมตร เราก็มาถึงที่หมาย เป็นจุดพักกลางป่าที่ชาวบ้านเข้ามาหาของป่า เค้าพักกันเป็นประจำ พักผ่อนให้หายเหนื่อยท่ามกลางสายลมของธรรมชาติป่าเขา แล้วเราก็เดินกลับ เป็นกิจกรรมผจญภัยเล็กๆ ที่ทำให้เราได้ออกกำลังกายก่อนจะกลับไปเล่นน้ำกินข้าวบนแพกลางน้ำอย่างสบายอุรา

ภูหอ เป็นวิวที่เราจะได้เห็นภูหอในมุมที่แปลกตากว่าการไปเที่ยวทางรถ

เย้ มาถึงแพของเราแล้ว ล่องเรือไปต้นน้ำเลยใช้เวลาพอสมควร แถมตอนไปเดินป่าชมแก่งหินอีกแล้วก็นั่งเรือกลับมาที่แพ รวมๆ แล้วกิจกรรมนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พอมาถึงแพอาหารที่เราสั่งไว้ก็เริ่มทะยอยมาในเวลาที่ไม่นานนัก อย่างที่บอกไปแล้วว่าเรานั่งกินบนแพการเสริฟอาหารจึงไม่ธรรมดาใช้เรือมาส่งให้ทีละชุดๆ เรามาเป็นกลุ่มใหญ่ ใช้ 3 แพ ของใครมาก่อนเราก็แกล้งโวยวายไปพอสนุกสนาน แต่ไม่นานทุกแพก็ได้อาหารครบตามที่สั่ง

ปลาทอด เมนูง่ายๆ มาเป็นอันดับแรก ภาคอีสานมีปลาหลายชนิดบางชนิดตัวใหญ่มาก บางชนิดพอโตเต็มที่ก็ตัวไม่ใหญ่แต่ทอดกรอบทั้งตัวอร่อยฝุดๆ

ปลาราดพริก เมนูนี้นิยมใช้ปลานิล ตัวเกือบ 1 กิโล เป็นมาตรฐาน อ้วนกำลังดี เนื้อกำลังมัน

ปลานึ่ง เมนูนี้มีดีตรงที่แถมมาพร้อมกับแจ่วอีสานเป็นน้ำจิ้มปลารสชาติแซบอีหลี สูตรนี้ภาคอื่นไม่ค่อยจะทำ และบอกเลยว่าข้าวเหนียวจิ้มลงไปละก็อร่อยจนหยุดไม่ได้ เราจึงต้องสั่งน้ำจิ้มแจ่วเพิ่มมาอีก 1 ถ้วย

ส้มตำปูปลาร้า มาอีสานพลาดได้ไงละเมนูนี้

สภาพอาหารหลังเวลาผ่านไป ก็อย่างที่บอกเรามากลุ่มใหญ่ แบ่งนั่ง 3 แพๆ ละ 4 คน เราแพใหญ่สุดนั่ง 6 คน แพที่นั่ง 4 คนกินกับข้าวไม่หมดเราก็รับสัมปทานต่อแถมสั่งเพิ่มไปบ้างบางรายการ ดูสภาพของการกินแบบ 6 คนของเราสิ 555 บางคนคงไม่เชื่อว่ามากัน 6 คน

รูปหมู่ที่ระลึก จบทริปมันส์ๆ แบบเที่ยวง่ายไปเช้าเย็นกลับ สนุกสนานกันพอสังเขป พิดีว่าวันนี้มีงานต้องไปต่อตอนเย็นไม่งั้นเราคงกระโดดลงน้ำไปแล้ว แต่เอาแบบนี้แหละพอได้มาเล่าสู่กันฟัง ว่าที่ เลย มี ที่เที่ยวใหม่ อีกแล้วนะเออ รีบไปซะเดี๋ยวจะตกเทรนด์ ขอขอบคุณทีมงานล่องแพวิถีชุมชนคนอ่างน้ำเลย อีกครั้งสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น โอกาสหน้าเราจะกลับไปเยี่ยมใหม่

ห้องครัว ที่มาของอาหารจานเด็ด ลากันเอาไว้เท่านี้ก่อนจ้า แล้วพบกันใหม่....

แผนที่ดูกันให้ดีที่ลิงค์นี้คร้าบ http://www.share-d.com/place.php?place=19474