Santorini Park ชะอำ

Santorini Park สวนเครื่องเล่นและศูนย์ช้อปปิ้ง ใกล้ชะอำ ขับรถผ่านไปผ่านมาแถวๆ ชะอำวันนี้เห็นชิงช้าสวรรค์สูงๆ สีสวยๆ อยู่ไกลๆ หลายๆ ครั้งก็ได้แต่ขับไปขับมาไม่เคยได้แวะ ขอสักครั้งละกัน ตั้งใจไปที่นี่ซะเลย จะได้ไม่มีข้ออ้างว่าเวลาไม่พอ มืดแล้ว ฯลฯ ไม่งั้นก็คงไม่ได้เข้าไปชมด้านในกันซะที

นอกเหนือจากชิงช้าสวรรค์สูงๆ ที่เห็นได้แต่ไกลแล้ว พอขับรถมาใกล้ๆ เราก็จะได้เห็นสถาปัตยกรรมแปลกตา อาคารสีขาวๆ ที่สร้างไม่เป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมเหมือนที่เห็นกันทั่วไป แต่สร้างแบบโค้งมน ทาด้วยสีพื้นสีขาวล้วนทั้งหมด แต่ตกแต่งด้วยสีโทนอ่อนๆ หลายสี (อาคารแต่ละห้องใช้สีเดียวกัน แต่ต่างห้องกันใช้สีต่างกันอยู่ในแถวเดียวกัน) ทำให้ดูเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างสดใส เหมาะกับวัยเด็ก และวัยรุ่น และดูสบายตาสำหรับวัยผู้ใหญ่ ในหมู่อาคารที่สร้างคล้ายๆ กับเมืองเล็กๆ มีซอยให้เดินทะลุถึงกันได้ทั่ว แต่ละห้องของอาคารเปิดเป็นร้านขายของ

วันจันทร์-พฤหัสบดี เปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. โดยไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู
เฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดถึงเวลา 22.00 น. ค่าบัตรผ่านประตูเพียงท่านละ 50 บาท เด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. เข้าฟรี

ค่าเครื่องเล่น ใช้คูปองใบละ 120 บาท เครื่องเล่นแต่ละชนิดจะใช้จำนวนคูปองต่างกัน ได้แก่
กำแพงตัวหนอน (สำหรับเด็กเท่านั้น) ฟรี
Merry Go Round - ม้าหมุน 2 ชั้น 1 ใบ / 5 นาที
Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ 1 ใบ / 3 รอบ (ชิงช้าจะหมุน 3 รอบ)
ลูกบอลน้ำ 1 ใบ
ม้าโยก 1 ใบ
G-Max Giant Swing กับ G-Max Giant Bungy ใช้ 4 คูปอง หรือ 480 บาท
โรงภาพยนตร์ 7 มิติ คูปอง 2 ใบ / 7 นาที สุ่มเรื่องไม่สามารถเลือกได้
โรงภาพยนตร์ 4 มิติ คูปอง 1 ใบ / 10 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม
บริษัท ธีม พลาซ่า ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด
967 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 46 ถนนจรัญสนิทวงศ์
แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. 10700
โทร. 0 2434 6921-8

หรือที่เว็บไซต์ http://www.santoriniparkchaam.com/
อีเมล์ info@santoriniparkchaam.com

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 0 2434 6921-8
http://www.santoriniparkchaam.com/

แก้ไขล่าสุด 2016-04-26 14:51:17 ผู้ชม 42815

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ยินดีต้อนรับสู่ประตู Santorini การเดินทางมายังสวนสนุกและแหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ที่ชะอำ Santorini Park นั้นแทบจะไม่ต้องบรรยายอะไรมาก มุ่งหน้าสู่ชะอำตามเส้นทางถนนเพชรเกษม ก่อนจะถึงแยกลงหาดชะอำรับรองว่าจะเห็น Santorini Park แห่งนี้อยู่ขวามือแบบไม่ยากเย็น ด้วยเครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์หรือ Ferris Wheel วงล้อกลมๆ ที่มีคนขึ้นไปนั่งชมวิวจนต้องต่อคิวกันยาวๆ ทีนี้เราก็เตรียมหาที่กลับรถ หรืออีกนัยหนึ่งถ้าวางแผนจะมาเที่ยวหาดชะอำ จะมาแวะ Santorini Park ระหว่างทางตอนขากลับก็ได้เหมือนกัน
ถึง Santorini Park เราก็เข้าลานจอดรถ มีลานจอดรถทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทางด้านหน้า(ติดถนนเพชรเกษม) เป็นบริเวณที่มีคนมาแย่งชิงที่ว่างสำหรับจอดรถกันมากมายค่อนข้างจะหายาก ส่วนด้านหลังเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ที่สร้างไว้อย่างเหมาะสมเพราะคงจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาชมกันจำนวนมากตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ที่ผ่านมา แม้ว่า Santorini Park จะยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ (Grand Openning 5 พฤษภาคม 2555) ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก
เมื่อจอดรถในลานจอดรถด้านหลัง ก็จะมีประตูทางเข้าไม่ต้องเดินวนไปจนถึงด้านหน้า ข้างประตูทางเข้าก็จะมีกำแพงสีขาวล้อมรอบกับโลโก้ของ Santorini Park เป็นบริเวณที่มีคนมาเข้าคิวถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแบบไม่เคยเว้นว่าง ซื้อบัตรแล้วเดินเข้าประตูกันดีกว่า

ประตูเข้า-ออก Santorini Park เพื่อความสะดวกและความเป็นระเบียบทางเข้าจะมีน้ำพุเล็กๆ คั่นกลาง ซื้อบัตรผ่านประตูแล้วก็ถือบัตรกันคนละใบเพื่อความรวดเร็ว แล้วเดินเข้าช่องประตูไป ราคาบัตร 50 บาท เฉพาะ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สำหรับวันอื่นๆ จะไม่เสียค่าเข้าชม

แผนผัง Santorini Park ผ่านประตูเข้ามาได้แล้ว จะเห็นมีอาคารสีพื้นสีขาวเรียงกันเป็นแนวยาวๆ ช่องว่างระหว่างอาคารก็เหมือนกับเป็นซอยในหมู่บ้านเล็กๆ อาคารเหล่านี้จะใช้การตกแต่งให้ต่างกันด้วยสีของวงกบ บานประตู หน้าต่าง ก็จะมีสีน้ำเงิน สีฟ้า สีเขียว สีแดง สีส้ม เป็นสถาปัตยกรรมที่จำลองมาจากเกาะซานโตรินี ในประเทศกรีซ แผนผังจะมีติดไว้ให้ดูว่าต้องการจะไปทางไหนก่อน แต่พอเอาเข้าจริงส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีการเดินไปเรื่อยๆ จากซอยนั้นไปทะลุซอยนี้ ก็จะได้ชมเมืองซานโตรินีของไทยได้ทั่วๆ

ซานโตรินีชะอำ เอาละทีนี้ก็ได้เวลาการเดินชมเมืองกันแล้ว บรรยายไว้ซะเยอะคราวนี้มาดูของจริงจากภาพกันดีกว่าว่า เมืองซานโตรินีที่ว่าหน้าตาเป็นยังงี้นี่เอง ปกติในวันหยุดก็จะมีนักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่ จะหาโอกาสถ่ายเมืองเมืองนี้แบบไร้ผู้คนคงต้องใช้เวลาทั้งวันในการรอจังหวะเป็นแน่ ส่วนเรื่องราวของสินค้าที่วางขายในอาคารเหล่านี้ก็จะมีสินค้าแบรนด์เนม ของแฮนด์เมด ของที่ระลึกประทับใจมากมายหลายอย่าง

ม้าหมุนกลางเมืองซานโตรินี เดินไปเดินมาก็มาทะลุลานกว้างกลางเมืองเข้าครับ แต่แทนที่จะเป็นลานว่างเปล่าๆ มีน้ำพุกับม้านั่ง ก็กลายเป็นลานกว้างที่วางม้าหมุน 2 ชั้น แทรกกลางหมู่อาคาร เรียกกันว่าเวลาเดินมากันเป็นครอบครัวจะได้ไม่เบื่อ เพราะวางผังเมืองแห่งนี้ไม่ได้มุ่งเน้นหนักอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าหากมีแต่ร้านค้าก็จะทำให้เด็กๆ เกิดความเบื่อเพราะต้องรอผู้ใหญ่ซื้อของ พอมีม้าหมุนมาอยู่กลางเมืองแบบนี้เด็กๆ ก็จะมีอะไรทำระหว่างรอ

สถาปัตยกรรมซานโตรินี นี่ก็เป็นอาคารหนึ่งที่เลือกใช้สีที่โดดเด่นออกไปจากอาคารหลังอื่นๆ ที่มักจะเป็นสีฟ้ากับสีน้ำเงิน อาคารสีส้มหวานนี้อยู่ข้างม้าหมุน 2 ชั้น มีโต๊ะเก้าอี้จัดเป็นกลุ่มๆ ไว้ให้ ก็คงจะเป็นผู้ใหญ่ที่จะมานั่งรอเด็กๆ เล่นม้าหมุน ร้านสีส้มนี้ก็ขายวาฟเฟิล นั่นเองครับ

ม้าหมุนซานโตรินี นอกเหนือจากการเดินชมเมืองตามแนวพื้นราบแล้ว Santorini Park ยังมีบันไดให้เดินขึ้นมาชมวิวมุมสูงของเมืองเป็นจุดๆ ไปครับ เดินๆ ไปก็จะเห็นบันไดเหล่านี้อยู่ตามอาคารต่างๆ

สวน Santorini Park เอาละชมเมืองมาพอสมควรแล้ว เราก็จะไปอีกด้านหนึ่งของเมืองแห่งนี้ นั่นก็คือสวนสนุกครับ มีเครื่องเล่นมากมายสำหรับทุกวัยจริงๆ กลางสวนใกล้ๆ กับร้านอาหารก็จะมีดนตรีมาบรรเลงให้เราฟังตลอดวัน รอบๆ สวนแห่งนี้จะเน้นไปทางด้านเครื่องเล่น ประกอบด้วย ชิงช้าสวรรค์ Ferris Wheel , ลูกบอลน้ำ , กำแพงตัวหนอน เล่นฟรี (เฉพาะเด็ก ห้ามผู้ใหญ่เล่น) , G-Max Giant Swing กับ G-Max Giant Bungy และ ม้าโยก นอกจากนี้ก็จะมีน้ำพุอยู่ตรงกลาง เป็นที่นั่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย เราจะได้เห็นคนมานั่งเรียงตามขอบน้ำพุจำนวนมาก

บรรยากาศในสวน นักท่องเที่ยวจะเยอะมากบริเวณนี้เพราะมีของกินด้วยนั่นเอง ร้านยอดนิยมก็จะขายแฮมเบอร์เกอร์ San Francisco ด้านหลังของผมตอนนี้ก็จะเป็นที่เล่นลูกบอลน้ำ มีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่เข้าไปอยู่ในลูกบอลในสระกลิ้งไปกลิ้งมา

ชิงช้าสวรรค์ Ferris Wheel มาถึงจุดเด่นหรือว่าไฮไลท์อย่างหนึ่งของซานโตรินีกันแล้วครับ นั่นก็คือชิงช้าสวรรค์สูงใหญ่ ถ้าขึ้นไปนั่งจะเห็นวิวสวยๆ รอบๆ บริเวณโดยเฉพาะวิวภูเขาที่อยู่ตรงข้ามกับ Santorini Park และมองเห็นวิวเมืองซานโตรินีแห่งนี้ได้ทั้งหมดด้วย ชิงช้าสวรรค์นี้ยังมองเห็นได้แต่ไกลบนถนนเพชรเกษม ระหว่างการเดินทางลงใต้ หรือจากทางใต้กลับเข้ากรุงเทพฯ เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่จะชะลอความเร็วรถแล้วแวะเลี้ยวเข้ามาใน Santorini Park

อาคารแถวหน้า Santorini Park เป็นชุดอาคารที่อยู่ติดกับถนนเพชรเกษม เป็นอาคารแถวยาว มีบันไดเดินขึ้นเป็นระยะๆ นอกจากนั้นทำเป็นน้ำตกยาวตลอดแนว ในวันสงกรานต์มีเด็กๆ ลงเล่นน้ำที่นี่กันอย่างสนุกสนาน

สระน้ำพุกลางสวน น้ำพุแห่งนี้ออกแบบให้มีตัวการ์ตูนหลากสีดูสดใส มีนักท่องเที่ยวมายืนถ่ายรูปกันมากรอบๆ ขอบสระ หรือไม่ก็นั่งเล่นโดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นจะเห็นคนนั่งเรียงกันเต็มทุกด้าน

แฮมเบอร์เกอร์ ร้านเล็กๆ แบบ San Francisco มีลูกค้านั่งกันแน่นขนัดร้านจนไม่มีที่ว่างเลย สำหรับเมนูนี้ก็เหมาะสมแล้วที่จะตั้งอยู่ริมสวนเครื่องเล่น เพราะใช้รองท้องได้ดีทีเดียว

เครื่องเล่น Santorini Park G-Max Giant Bungy เป็นเครื่องเล่นที่มีชื่อเล่นแบบไทยๆ ว่า หนังสะติ๊ก ด้วยรูปลักษณ์ที่เหมือนกับหนังสะติ๊กที่ใช้ยิงเป็นอย่างมาก ต่างกันเพียงให้เราไปนั่งเหมือนกระสุนของหนังสะติ๊ก แล้วดีดขึ้นไปด้วยความเร็ว ตกลงมาก็ด้วยความเร็วอิสระ หวาดเสียวดีแท้ G-Max Giant Bungy ตั้งอยู่ข้างกับ G-Max Giant Swing เครื่องเล่นที่สร้างความหวาดเสียวได้ไม่แพ้กัน ทั้ง 2 อย่างอยู่คนละด้านกันกับชิงช้าสวรรค์ แต่ก็ไม่ได้ไกลกันมาก ในแต่ละรอบที่เครื่องเล่นนี้ทำงานจะได้ยินเสียงกรีดร้องดังลั่นสวน Santorini Park

บรรยากาศในเมืองซานโตรินี ตอนนี้ก็ได้เวลาการเดินกลับครับ หลังจากนี้ก็จะมีภาพปิดท้ายมาฝากระหว่างการเดินกลับไปยังลานจอดรถ ผนังด้านข้างของตึกเราก็จะเห็นการตกแต่งแบบต่างๆ กัน บ้างก็ทำเป็นรูปมือถือกระถางดอกไม้ บ้างก็เป็นร่ม กับลวดลายเก๋ๆ บ้างก็เป็นลายภาพเขียน เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะเข้าไปยืนพิงผนังถ่ายรูปกันได้รูปสวยๆ กลับบ้านเป็นที่ระลึก