เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร

 เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ตั้งอยู่ที่ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า "จักรีนฤเบศร" หมายถึง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี เป็นเรือที่ต่อในประเทศสเปน เมื่อปี 2537 เรือลำนี้มีทั้งหมด 11 ชั้น มีความยาว 182 เมตร กว้าง 30.5 เมตร เป็นเรือที่มียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย มีระบบเรด้าห์ตรวจการณ์ระยะไกล ภารกิจที่สำคัญในยามสงคราม ทำหน้าที่เป็นเรือธง ควบคุมและบังคับบัญชากองเรือในทะเลทั้งหมด และยังเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันภัยทางอากาศอีกด้วย เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.00-16.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศต้องทำหนังสือถึง ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ สัตหีบ ชลบุรี 20180 สอบถามรายละเอียด โทร. 0 3843 8457-62

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. พัทยา โทร. 0 3842 7667, 0 3842 8750 Call Center 1337
http://www.tourismthailand.org/pattaya

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

การท่าเรือสัตหีบ-ฐานทัพเรือสัตหีบ ออกจากหาดนางรำมาถึงทางแยกที่มีด่านตรวจสำหรับรถที่เจ้าผ่านเข้า-ออกของพื้นที่ของทหาร (ทางหลวงหมายเลข 3126) และการท่าเรือสัตหีบซึ่งเป็นท่าเทียบเรือน้ำลึก

กองบังคับการท่าเรือจุกเสม็ด อีกสถานที่หนึ่งที่เราต้องผ่านบนทางหลวงหมายเลข 3126 ระหว่างทางครับ เรียกว่าการเดินทางไปยังเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร จะต้องใช้เส้นทางสายนี้จนไปสุดที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกนั่นเอง

กองเรือยามฝั่ง เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผ่านไปยังท่าเทียบเรือ เป็นอันว่าเราเข้าใกล้เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร์เข้าไปทุกทีๆ แล้วครับ

เรือรบหลวงสิมิลัน เมื่อมาถึงบริเวณที่เรือรบหลวงจักรีนฤเบศรจอดเทียบท่าอยู่ เจ้าหน้าที่จะให้เราไปจอดรถที่ลานจอดรถซึ่งมีอาคารขนาดใหญ่คล้ายโกดังแต่แบ่งเปิดเป็นร้านค้าครับ จากนั้นเดินมาที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกริมทะเลวันนี้เห็นเรือรบหลวงสิมิลันจอดอยู่ต่อกับเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรเรือรบหลวงสิมิลันมีหลายเลขหัวเรือ 871 ซึ่งตัวเลขเหล่านี้มีความหมายครับ ผมก็หามาให้ได้ความหมายดังนี้

หมายเลขตัวเรือ (hull number) จะถูกเขียนไว้ที่หัวเรือ (ในเรือดำน้ำ หมายเลขตัวเรือจะเขียนไว้บริเวณหอกล้องตาเรือ) เหตุที่เขียนไว้ตรงจุดนั้น เพราะชนิดของเรือโดยทั่วไปจะเห็นเด่นชัดอยู่แล้ว หมายเลขตัวเรือจะช่วยยืนยันรูปพรรณของเรือ คำนี้ใช้อีกอย่างหนึ่งได้ว่า bow number

การกำหนดหมายเลขเรือ (assigning bow/hull number) การกำหนดหมายเลขเรือ ของเรือรบราชนาวีไทย มีดังนี้:

หมายเลขตัวที่ 1 (เลขแรกสุด หรือเลขหลักร้อย): แสดงประเภทเรือ (Types of Warship) ซึ่งกำหนดไว้ 9 ประเภทดังนี้

1. เรือบัญชาการและสนับสนุนการยกพลขึ้นบก (amphibious command and support ship): กำหนดด้วยหมายเลข 1
2. เรือดำน้ำ (submarine): กำหนดด้วยหมายเลข 2
3. เรือเร็วโจมตี(fast attack craft): กำหนดด้วยหมาย 3
4. เรือพิฆาต (destroyer), เรือฟริเกต (frigate), เรือคอร์เวต (corvette): กำหนดด้วยหมายเลข 4
5. เรือตรวจการณ์ (patrol vessel): กำหนดด้วยหมายเลข 5
6. เรือทุ่นระเบิด (mine ship): กำหนดด้วยหมายเลข 6
7. เรือยกพลขึ้นบก (landing ship): กำหนดด้วยหมายเลข 7
8. เรืออุทกศาสตร์ เรือช่วยรบ และเรือประเภทอื่นๆ กำหนดด้วยหมายเลข 8
9. เรือบรรทุกเครื่องบิน/เฮลิคอปเตอร์ (aircraft/helicopter carrier): กำหนดด้วยหมายเลข 9

หมายเลขตัวที่ 2 (เลขหลักสิบ ตัวกลาง): แสดงชั้นหรือชุดของเรือ (Class) โดยเรือที่มีคุณลักษณะใกล้เคียงกัน จะมีการจัดรวมไว้ชุดเดียวกัน

หมายเลขตัวที่ 3 (เลขหลักหน่วย ตัวท้ายสุด): แสดงลำดับที่ของเรือในชุดนั้นๆ โดยเรียงจากลำดับที่หนึ่ง เรียงต่อกันไปตามลำดับ หากเรือชุดนั้นมีเกิน 9 ลำ ลำที่สิบจะเพิ่มหมายเลขเป็น 4 ตัว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลขเหล่านี้หาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.rtna.ac.th/article/article05.pdf

เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร คราวนี้มาถึง เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร กันบ้างครับ จอดอยู่ด้านหน้าของเรือรบหลวงสิมิลัน (ในวันนี้) เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่มากครับเด่นตระหง่านแต่ไกลสำหรับชาวไทยการเข้าชมเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรไม่เสียค่าเข้าชม ส่วนชาวต่างชาติต้องทำหนังสือยื่นก่อนที่จะเข้าชมได้ เดี๋ยวผมจะพาเข้าไปเดินภายในกันให้ทั่วๆ เลยครับ

ท้ายเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ตรงป้อมจะมีการตรวจนิดหน่อยครับไม่ให้นำเอากล้องวีดีโอเข้าไปครับห้ามถ่ายวีดีโอ ผ่านช่องตรวจมาแล้วก็จะเป็นสะพานเดินข้ามไปในเรือ แต่ตอนนี้ชมภาพเรือรบหลวง 2 ลำ ที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย

สะพานเข้าเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร เอาละได้เวลาเดินเข้าไปข้างในแล้วครับตอนนี้ก็ต้องถอด CPL ฟิลเตอร์สำหรับปรับให้ท้องฟ้าแจ่มใสออกเพราะภายในเรือจะมีแสงน้อยถ้าไม่ถอดก็คงถ่ายภาพลำบากมากแน่ๆ

ท้ายเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ภาพนี้ก็เป็นส่วนท้ายเรือของชั้นแรกที่ก้าวเข้ามา ภายในเรือกว้างขวางมากครับมองเห็นข้างนอกคือเรือรบหลวงสิมิลันเลย

ภายในท้องเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ด้านในมีเรือลำเล็ก 2 ลำ อยู่ส่วนท้ายเรือ 1 ลำ ส่วนหัวเรือ 1 ลำแต่ในยามปฏิบัติการอาจจะมีมากกว่านี้มากก็ได้ครับ

ห้องเรียนเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ระหว่างเรือรบลำเล็กทั้งสองคือส่วนกลางของเรือจัดเก้าอี้ไว้จำนวนมากมีการฉายวีดีโอสำหรับข้อมูลของเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรให้ศึกษา แต่ในวันที่มีนักท่องเที่ยวมาน้อยอย่างในวันนี้ก็จะไม่ได้ดูครับ เรือรบหลวงจักรีนฤเบศรเปิดให้เข้าชมฟรีทุกวันดังนั้นวันธรรมดาก็ไปดูได้คนจะมาบ้างแต่น้อยกว่าวันหยุดครับ

เส้นทางชมเรือ หลังจากที่เดินชมภายในเรือกันสักพักก็ได้เวลาขึ้นดาดฟ้าเรือ มีทางที่กำหนดไว้ด้วยลูกศรและเชือกกั้นตามทางแยกต่างๆ ที่ไม่อนุญาตให้เราเข้าไปเพื่อความปลอดภัยเพราะบางห้องเป็นห้องที่เกี่ยวกับอาวุธครับ ทางเดินขึ้นบันไดนี้จะอยู่ส่วนท้ายเรือสุดเลยครับขึ้นไปแล้วจะมีทางลงอีกทาง ไปดูเลยดีกว่า

ท้องทะเลข้างเรือรบ เมื่อเดินขึ้นบันไดมาเรื่อยๆ (มีหลายชั้นครับ) จะมาทะลุที่ประตูแห่งนี้มีทางเดินด้านข้างนอกตัวเรือเห็นทิวทัศน์สวยๆ รอบท่าเรือสัตหีบครับ

ทางเดินข้างเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร เอาละครับจากตรงนี้ก็เดินตามทางเดินต่อไปเรื่อยๆ ทั้งบันไดและทางเดินเหล่านี้ค่อนข้างแคบครับ ระหว่างการปฏิบัติการจริงทหารเรือต้องมีความสามารถในการวิ่งเรียงแถวเดียวให้เร็วแน่ๆ ถึงจะไปยังจุดต่างๆ ของเรือได้ทันท่วงที

วิวสวยๆ ข้างเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร มีที่ให้พักชมวิวเป็นช่วงๆ ครับ ตรงนี้ช่องเล็กๆ ให้พอยืนได้วิวของท่าเรือสัตหีบมองออกไปเห็นเกาะน้อยใหญ่กลางทะเลก็สวยไม่ใช่น้อย ท้องฟ้าใสกับท้องทะเลสีครามเป็นเรื่องที่ลงตัวอย่างมาก

บันไดดาดฟ้าเรือ ในที่สุดเมื่อเดินมาจนสุดทางเดินเราก็จะเห็นบันไดสำหรับขึ้นดาดฟ้าครับเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นดาดฟ้าเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร เป็นครั้งแรก ประจวบกับท้องฟ้าใสทะเลสวย คิดแต่เพียงว่าวันนี้ต้องได้ภาพดีๆ หลายภาพอย่างแน่นอน

ดาดฟ้าเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ในที่สุดก็มาถึง บนดาดฟ้าเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรมีเพียงลานยาวๆ ซึ่งเป็นที่สำหรับเครื่องบินใช้เป็นลานบินนำเครื่องขึ้นและลงจอด มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับขนาดของเรือรบทั้งหมดสร้างเป็นหอขึ้นไปแต่สำหรับนักท่องเที่ยวจะขึ้นมาชมได้ถึงบนดาดฟ้าเท่านั้นขึ้นไปอีกไม่ได้แล้ว

เรือรบหลวงสิมิลัน บนดาดฟ้าเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรส่วนท้ายเรือกั้นเชือกไว้เดินต่อจากจุดนี้ไปไม่ได้เพราะไม่มีอะไรรองรับอาจจะพลัดตกลงไปได้ แต่เท่านี้ก็สวยแล้วครับมองไปยังเรือรบหลวงสิมิลันจากมุมนี้สวยมาก

ภาพมุมกว้างบนดาดฟ้าเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร หลังจากที่เดินไปท้ายเรือสุดคราวนี้จะเดินไปตรงส่วนหัวเรือสุดครับ ระยะทางที่เห็นไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่ใกล้ก็คือการเดินพอเดินได้ก็ไม่ใกล้นัก แต่ไม่ไกลก็คือไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นที่สำหรับนำเครื่องบินบินขึ้นได้ด้วยระยะทางแค่นี้

รันเวย์เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร เดินไปตามเส้นกำกับระยะของรันเวย์เพื่อไปชมส่วนหัวเรือให้สุดกันเลยครับ

ดาดฟ้าเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรด้านหน้า

วิวหัวเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ด้านหน้าของเรือตรงยอดสุดของรันเวย์มองเห็นทิวทัศน์กว้างไกลสุดสายตา เห็นเกาะกลางทะเลและเรือรบหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่จอดอยู่ถัดไปเป็นภาพที่สวยงาม

เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ส่วนปลายสุดของรันเวย์จะเชิดขึ้นเล็กน้อยสำหรับการส่งเครื่องบินรบให้เหิรขึ้นฟ้า แต่เมื่อมองกลับไปส่วนท้ายเรือก็จะได้มุมมองที่แตกต่างจากพื้นเรียบแบบนี้ละครับ

ชมวิวสวยรอบท่าเรือสัตหีบ ในระหว่างการเดินชมเรือรบก็ชมวิวไปด้วย

เรือรบหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย เรือรบหลวงอีกลำหนึ่งที่จอดเทียบท่าอยู่ในวันนี้หน้าเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร กับลานจอดรถที่บุคคลทั่วไปเข้ามาจอดไม่ได้ครับไกลออกไปมีเพียงท้องฟ้าและท้องทะเลได้ภาพสวยๆ มาอีกภาพหนึ่งแล้วครับวันนี้

ปืนกลข้างเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของอาวุธประจำเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรและเรือรบลำอื่นๆ เป็นปืนกลที่เราสามารถชมแบบใกล้ๆ แต่ห้ามจับนะครับ รอบๆ ปืนจะมีเชือกั้นไว้ไม่ให้เราเข้าไปใกล้เกินไปหรือจับเล่น จบการนำเที่ยวชมเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ไว้เท่านี้ครับเดี๋ยวต้องออกเดินทางกันต่อแล้ว สำหรับวันนี้เที่ยวสัตหีบได้คุ้มค่ามากๆ ได้ไปตั้งหลายที่ภายในวันเดียว สถานที่ต่อไปของทริปนี้ก็คือหาดทรายแก้วครับ

รีวิว เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ชลบุรี

---

 ""

อริสา แซ่ลีแสนดี
2018-09-21 11:42:16

---