หาดนางรำ

หาดนางรำ อยู่ใกล้กับท่าเรือจุกเสม็ดหรือท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ เป็นหาดยาวประมาณ 200 เมตร เหมาะสำหรับเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ บริเวณมีร้านอาหารและที่พักของสโมรสรทหารเรือ สุดปลายหาดคือแหลมปู่เจ้าประดิษฐานศาลเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ มีบริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3843 1350 ต่อ 73790, 08 5285 5135

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. พัทยา โทร. 0 3842 7667, 0 3842 8750 Call Center 1337
http://www.tourismthailand.org/pattaya

แก้ไขล่าสุด 2016-04-20 18:01:28 ผู้ชม 117143

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

การเดินทางสู่หาดนางรำ สำหรับทริปนี้เราออกเดินทางมายังหมู่บ้านช่องแสมสาร แวะชมเพอคูล่าฟาร์ม จากนั้นก็มาต่อกันที่หาดนางรำโดยออกจากเพอคูล่าฟาร์มกลับออกมาที่ทางหลวงหมายเลข 3126 เลี้ยวซ้ายแล้วตรงอย่างเดียวครับ สองข้างทางของเส้นทางสายนี้เมื่อวันที่ฟ้าใส มีต้นไม้สีเขียวตลอดทาง บางช่วงเป็นเนินเขาเล็กๆ ทำให้ิวิวทิวทัศน์ในระหว่างการขับรถไม่น่าเบื่อ

แยกหาดนางรำ ขับเข้ามาเรื่อยๆ ตามทางหลวงหมายเลข 3126 จนมาถึงทางแยกแห่งนี้มีด่าานตรวจ ป้ายบอกทางไปหาดนางรำเลี้ยวซ้าย ตรงไปผ่านด่านตรวจเป็นทางเข้าไปชมท่าเรือน้ำลึกซึ่งมีเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรจอดเทียบอยู่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต่อไปของทริปแต่ตอนนี้เลี้ยวซ้ายเข้าหาดนางรำก่อนครับ

ป้ายหาดนางรำ ขับตามทางเข้ามาเรื่อยๆ เราก็จะเห็นป้ายหาดนางรำอยู่ตรงทางแยกออกไปท่าเรือ ส่วนทางซ้ายไปหาดนางรำและสโมสรทหารเรือ ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้จะมีด่านเล็กๆ เก็บค่าบำรุงสถานที่หาดนางรำ คันละ 20 บาท (เพราะมีนักท่องเที่ยวมากันเยอะแล้วทิ้งขยะไว้เป็นภาระของทหาร) ตรงไปตามทางกันต่อเลยครับ

สโมสรหาดนางรำ เข้ามาถึงลานจอดรถหาดนางรำ ลานจอดรถจะมี 2 ลานใหญ่ๆ ลานนี้เป็นลานแรกมีร้านอาหารสโมสรการท่าเรือสัตหีบซึ่งเป็นร้านที่มีนายทหารมาใช้บริการกันเป็นประจำ สำหรับนักท่องเที่ยวก็เข้าได้ครับถัดไปจากร้านอาหารก็เป็นหาดทรายเลยถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบริการครบวงจร ทั้งอาหารเครื่องดื่มและห้องน้ำ ซึ่งมีอยู่หลายจุดใกล้บ้างไกลบ้างแต่เพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากๆ ครับ

บริเวณหาดนางรำ ใกล้ๆ กับร้านอาหารสโมสรทหารเรือ มีโต๊ะนั่งกลางแจ้งใต้ร่มสนจำนวนมากทำให้บรรยากาศร่มรื่น กินข้าวไปชมวิวสวยๆ ของหาดทรายที่ละเอียดและสะอาด กับท้องทะเลสีครามเสียงคลื่นซัดซาดตลอดเวลา ช่างเป็นที่ที่เหมาะในการพักผ่อนของครอบครัวจริงๆ ครับ ถัดออกไปอีกหน่อยจะมีร้านที่มีบริการเปลนั่งชายหาด และเสื่อปูครับแบบครบวงจรจริงๆ

หาดนางรำ เมื่อมาถึงหาดนางรำแล้วก็เป็นอันต้องพาเดินสำรวจรอบๆ หาดกันซักหน่อย หาดทรายของหาดนางรำค่อนข้างละเอียดอย่างที่เห็นเลยครับ เป็นหาดกว้างและยาวค่อยๆ ลาดลงไปในทะเล เด็กๆ สามารถเล่นน้ำได้ หลายครอบครัวเลือกที่จะลงเล่นน้ำและพักผ่อนใกล้ๆ กับเกาะเล็กๆ ที่เห็นอยู่ในรูป เพราะคลื่นจะไม่แรงเนื่องจากมีเกาะบังอยู่ ส่วนบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบการนั่งโต๊ะมากกว่านอนเปล ในวันธรรมดาๆ อย่างวันพฤหัสบดี ที่ผมไปเก็บภาพก็ยังมีนักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ทั้งๆ ที่ไม่ใช่วันหยุด ท้องฟ้าวันนี้สวยมากน้ำทะเลก็ใสหาดก็สวยครับ

หาดนางรำ ถ่ายภาพด้านซ้ายของหาดแล้วก็ต้องมีภาพด้านขวาจะได้เห็นว่าหาดยาวขนาดไหน ด้านขวาของหาดนางรำมีสะพานท่าเทียบเรือยื่นออกไป ท่าเรือแห่งนี้ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปครับ ถัดออกไปไกลหน่อยก็มีสะพานที่สร้างยื่นออกมาจากเกาะเข้ามาใกล้ฝั่งแต่ก็มีช่องว่างที่กว้างพอสำหรับเรือผ่านเข้าออก

วิวสวยๆ หาดนางรำ เอาละเมื่อถ่ายรูปด้านซ้ายกับด้านขวาให้เห็นกันแบบไกลๆ แล้วคราวนี้ก็เป็นเวลาของการมาสัมผัสหาดนางรำกันแบบใกล้ชิด ที่หาดเล็กๆ แห่งนี้มีเรือบริการนักท่องเที่ยวหลายแบบครับ คยัค หรือ คายัค หรือ แคนนู แล้วแต่จะเรียกกัน เรือลำนี้มีอยู่ลำเดียวคงเพราะนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่แม้จะมากในวันหยุดแต่ก็ไม่ทุกวัน ที่จอดอยู่ในทะเลไกลออกไปก็เป็นเรือสำหรับนำเที่ยวเกาะต่างๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ไม่กี่นาทีก็ถึง ตอนนี้ผมเดินมาเกือบสุดหาดด้านซ้ายมือซึ่งห่างจากจุดแรกที่ผมถ่ายรูปข้างบนประมาณ 200 เมตรครับ

วิวสวยหาดนางรำ ภาพสวยๆ มาฝากจากหาดนางรำอีกภาพหนึ่งครับ เกาะที่เราเห็นอยู่ในภาพดูเหมือนเล็กๆ แต่ความจริงก็ไม่เล็กเท่าไหร่ครับ คลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งบริเวณนี้จะเบาลงมากเนื่องจากมีเกาะกันอยู่นั่นเอง หลายๆ คนที่ลงไปเล่นน้ำที่บริเวณนี้จะชอบมากครับ หลายคนคงคิดว่าทะเลภาคใต้ของไทยสวยงามเพราะน้ำใส ส่วนภาคตะวันออกสู้ไม่ได้ แต่เห็นภาพนี้คงต้องทำความเข้าใจกันใหม่แล้วละครับ เพราะรู้สึกว่าจะสวยใสไม่แพ้กันเลย

หาดนางรำสวยๆ ต่ออีกหน่อย เมื่อเจอสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยๆ ถ่ายรูปไม่เบื่อจริงๆ ครับ การได้เที่ยวทะเลในวันฟ้าเปิดนี่เหมือนสวรรค์จริงๆ ตอนเช้าที่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ผ่านเมืองชลบุรีมามีฝนตกฟ้ามืดครึ้ม นึกกังวลในใจเหมือนกันว่าทริปนี้จะไม่ได้ภาพหาดสวยๆ ติดมือกลับมาฝากเพื่อนๆ ชาวทัวร์ออนไทย แต่ในที่สุดเจอภาพแบบนี้ก็เลยอยากจะลงให้เห็นกันหลายๆ มุม แบบมากที่สุดกันเลยทีเดียวครับ

ถนนสู่บ้านพัก หาดนางรำมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ จากชายหาดขับเข้าไปตามถนนสายนี้เลย ส่วนตอนนี้ผมกำลังเดินไปที่โขดหินของหาดนางรำ ที่ๆ มองเห็นรูปปั้นสีดำหลายๆ จุด จนเป็นที่น่าสนใจว่ารูปปั้นนั้นคืออะไร เห็นไกลๆ มองไม่ถนัดแต่ก็พอเดาได้ว่าเป็นรูปปั้นนางยักษ์ในพระอภัยมณี

โขดหินสุดหาดนางรำ จากจุดที่ถ่ายรูปเกาะเดินมาที่โขดหินนี้ระยะทางร่วม 100 เมตร กลางแดดจ้าไม่มีร่มเงาไม้ให้อาศัยแต่รู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้เดินมา จากมุมนี้ไปมองเห็นหาดนางรำได้สวยมากอีกมุมหนึ่งครับ

ชีเปลือย หาดนางรำ เอาละครับเมื่อเดินมาถึงตรงนี้ก็รู้เลยว่ารูปปั้นที่เราเห็นเป็นตัวละครในวรรณกรรมพระอภัยมณีจริงๆ เริ่มต้นจากชีเปลือยเลย นั่งหันหน้ามองหาดนางรำที่เราเล่นน้ำกันอยู่

นางยักษ์ หาดนางรำ นางยักษ์ที่ตามจับพระอภัยมณีและลูกที่หนีไปอยู่ที่เกาะกับนางเงือก ขนาดของนางยักษ์ที่ปั้นไว้ที่หาดนางรำไม่ใหญ่โตมากนักแต่ก็ดูดุดันน่ากลัว นางยักษ์จะอยู่ห่างจากชีเปลือยนิดหน่อยหันหน้าไปทางรูปปั้นพระอภัยมณี จากหากนางรำจะมองเห็นนางยักษ์ได้ชัดที่สุด

สินสมุทร รูปปั้นบุตรพระอภัยมณีกับนางผี้เสื้อสมุทร ที่หาดนางรำ สินสมุทรเป็นลูกครึ่งคนครึ่งยักษ์จึงมีกำลังมาก กล้าหาญ มุทะลุ เข้มแข็ง อารมณ์ร้อน ดื้อรั้น พูดจาโผงผาง

พระอภัยมณี หาดนางรำ มนต์ขลังของเสียงปี่ที่เป่าโดยพระอภัยมณีเป็นอันรู้จักกันดีของเราชาวไทยที่ต้องได้ยินเรื่องราวเหล่านี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย เพื่อให้สมกับเสียงบรรเลงที่กล่อมให้นางยักษ์หลับไหลได้นั้นจึงอาศัยมุมกล้องกับกลุ่มเมฆที่บังเอิญเป็นรูปนี้พอดีในวันนี้ ด้านหลังของพระอภัญมณีคือท้องทะเลสีครามกับเกาะน้อยใหญ่ที่ดูสวยงามน่าไปเที่ยวชมรอบๆ เกาะเหมือนกันนะครับ

พระอภัยมณีและนางเงือก ภาพบนที่ผ่านมาเป็นพระอภัยมณีเป่าปี่ขนาดเล็กๆ อยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่ง ส่วนตรงนี้เป็นพระอภัยมณีกับนางเงือกและลูกที่ยืนโบกไม้โบกมืออยู่ริมทะเล

ม้านิลมังกร อยู่ถัดออกไปจากพระอภัยมณีกับนางเงือกเล็กน้อย เป็นอันว่าตัวละครในวรรคดีของกวีเอกสุนทรภู่อยู่ครบที่หาดนางรำ ท่ามกลางท้องทะเลสีครามกับฟ้าใสๆ ครับ

สุดสาคร ลูกชายพระอภัยมณีและนางเงือก ยืนเด่นตระหง่านอยู่ที่หาดนางรำ

ร้านค้าหาดนางรำ หลังจากที่ได้เดินชมหาดนางรำจนสุดหาดไปจนถึงโขดหินที่มีรูปปั้นพระอภัยมณีท่ามกลางแดดจ้าของเวลากลางวัน ตอนนี้ก็ไ้ด้เวลาเดินทางต่อไปที่เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร แต่ก่อนหน้านั้นต้องหาน้ำเกลือแร่ก่อนเพราะเสียเหงื่อไปมาก นี่ถ้าหากไม่ได้มาเพื่อเก็บภาพคงจะขอนั่งพักผ่อนบนเปลที่หาดนางรำไปจนกว่าจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกเลยทีเดียว หาดสวยน้ำใส ฟ้างาม จริงๆ ครับ