ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานแพร่ 0 5452 1118-9, 0 5452 1127
http://www.tourismthailand.org/phrae
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ด่านตรวจ เส้นทางท่องเที่ยวของผมวันนี้ ผมเดินทางด้วยทางหลวงหมายเลข 1047 จากบ้านน้ำพี้ ที่เพิ่งจะไปชมบ่อเหล็กน้ำพี้ มา ระหว่างทางยังได้แวะเที่ยวถ้ำจัน ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองตรอน กว่าจะมาถึงที่นี่ก็ปาเข้าไป 4 โมงเย็นแล้วครับ ที่จริงผมก็ยังคงลังเลอยู่ว่าจะค้างที่นี่ซะเลย หรือจะไปเขื่อนสิริกิติ์ แล้วค้างที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านดี แต่ก่อนที่จะตัดสินใจผมว่าเข้าไปดูข้างในก่อนดีกว่า ด่านตรวจที่นี่ยังไม่เก็บค่าเข้าชมเพราะอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ เป็นอุทยานเตรียมการครับ ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ เดิมทีเดียวเป็นวนอุทยานครับ หลายคนที่ยังไม่รู้จะหาว่าผมพิมพ์ผิด
บริเวณอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ หลังจากผ่านด่านตรวจเข้ามาแล้วก็มาถึงตรงนี้ละครับ เป็นลานจอดรถไม่ไกลจากต้นสักใหญ่ อยู่ตรงหน้าอาคารที่กำลังจะปรับปรุงให้เป็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ รอบๆ มีร้านค้าเล็กๆ อยู่ร้านเดียว ขายขนมกับเครื่องดื่มเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ที่นี่ไม่มีบ้านพัก แต่ถ้าประสงค์จะกางเต็นท์ก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ครับ
แผนผังที่เที่ยวในอุทยานฯ
ต้นสักใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่ดูแผนผังสถานที่ต่างๆ ในอุทยานแล้ว ตอนนี้ก็ต้องมาเริ่มต้นที่จุดไฮไลท์คือต้นสักใหญ่ต้นนี้ละครับ เล่าเรื่องย้อนไปสักหน่อยละกัน
ต้นสักใหญ่ พบเมื่อประมาณ พ.ศ.2470 ในพื้นที่บ้านปางเกลือหมู่ 4 ตำบลน้ำไคร้ อ.น้ำปาด ซึ่งเคยเป็นสัมปทานทำไม้ของบริษัทอิสต์เอเชียติค จำกัด ประเทศเดนมาร์ก ที่เข้ามาลงทุนทำไม้สักในประเทศไทย ตั้งแต่พ.ศ. 2437 มีผู้เห็นป้าย "ต้นสักใหญ่" บริเวณกิโลเมตรที่ 56-57 ลึกเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร บริษัททำไม้ได้ทำรั้วล้อมรอบไว้ พ.ศ. 2495-2497 ร.ต.ประเสริฐ พุทธพิทักษ์ ป่าไม้แขวงห้วยแมง สำนักงานป่าไม้เขตแพร่ วัดความโตที่ความสูงระดับอก 1.3 เมตรจากพื้นดิน ได้ 948 ซม. และได้ถ่ายภาพออกเผยแพร่ให้ประชาชนทราบก่อนที่จะถูกพายุพัดเรือนยอดหักเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2520 ต้นสักมีความสูง 47.8 เมตร
ปัจจุบันต้นสักใหญ่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 38.5 เมตร (โดยวัดแนวดิ่ง พ.ศ. 2538) อายุของต้นสักใหญ่ประมาณได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี (วัดโดยอาศัยเทียบเคียงขนาดและจำนวนวงปีจากตอไม้สักบริเวณใกล้เคียงที่ผ่านการทำไม้แล้ว) และเนื่องจากลักษณะที่ไม่สมบูรณ์ลำต้นเป็นโพรงไม่คุ้มค่าในการนำมาทำสินค้าจึงทำให้ต้นสักใหญ่ รอดพ้นจากการทำไม้ในอดีต เหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสชมและศึกษาจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2511 นายเวทย์ นิจถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ขอความเห็นชอบจัดตั้งเป็นวนอุทยานต้นสักใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ กรมป่าไม้ได้มีหนังสือฉบับแรกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2511 เห็นชอบความริเริ่มของจังหวัดอุตรดิตถ์
ต้นสักใหญ่ การบำรุงรักษาต้นสักใหญ่ ตามพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จทอดพระเนตรต้นสักใหญ่เมื่อวัน พุธ ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2541 ว่า " ให้บำรุงดูแลรักษาต้นสักใหญ่ ให้มีอายุยืนนานที่สุดเท่าที่จะทำได้" กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สนองพระราชเสาวนีย์ดังกล่าว แต่งตั้งคณะกรรมการบำรุงรักษาต้นสักใหญ่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2541 จนถึงปัจจุบัน พบว่าต้นสักใหญ่มีอัตรการเจริญเติบโตเส้นรอบลำต้นเฉลี่ย 1.2 เซนติเมตร ต่อปี (วัดที่ความสูง 1.3 เมตร จากพื้นดิน)
ในครั้งนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงปลูกต้นสัก 1 ต้น
วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จทอดพระเนตรต้นสักใหญ่ ต่อมา วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "มเหสักข์" เพื่อความเป็นสิริมงคลของชาวไทย
เมื่อก่อนทางวนอุทยานเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถไปยืนถ่ายรูปที่โคนต้นสักได้ แต่ในปัจจุบันได้สร้างทางเดินเป็นแบบสะพานไม้ยกพื้นสูง เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินบนผิวดินบริเวณโคนต้นสัก เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบให้ต้นสักตายได้ รอบๆ โคนต้นทำเป็นหลุมสำหรับให้ปุ๋ยต้นสักลงบนผิวดิน
นิทรรศการต้นสักใหญ่ จากต้นสัก ตอนนี้เราก็มาอยู่ที่ห้องแสดงนิทรรศการความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่
บ้านพักเจ้าหน้าที่ เห็นแบบนี้แล้วอยากจะค้างที่นี่สักคืนครับ แต่บ้านที่เห็นเป็นบ้านพักเจ้าหน้าที่ครับ ที่นี่ยังไม่มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ สามารถค้างแรมได้ด้วยการกางเต็นท์
ปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศบริเวณใกล้เคียงกับต้นสักใหญ่ในเวลาเย็นๆ ตอนนี้ผมต้องเดินทางไปยังเขื่อนสิริกิติ์แล้ว อยากชมพระอาทิตย์ตกครับ คลิกตามเข้าไปเลยครับรับรองว่าภาพสวยมาก
""
Lui Renu
2018-07-10 08:06:40
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ