หมู่บ้านรักไทย (แม่ออ)

 หมู่บ้านรักไทย (แม่ออ) ตั้งอยู่ ตำบลหมอกจำแป่ ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวกับพระตำหนักปางตอง เลยพระตำหนักปางตองไปพอสมควร บ้านรักไทหรือบ้านแม่ออเป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงชายแดนไทย-พม่า ประชาการในหมู่บ้านส่วนใหญ่อพยพหนีภัยมาจากทางตอนใต้ของจีนในช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบคอมมิวนิสต์ บริเวณหมู่บ้านมีทะเลสาบสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมวิถีชีวิตวัฒนธรรมจีนฮ่อซึ่งยังคงสืบทอดประเพณีไว้หลายอย่างทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน ลักษณะบ้านบางส่วนเป็นบ้านแบบเก่าทำจากดินเหนียวผสมฟางข้าว และมีร้านอาหารตำรับจีนยูนนานนอกจากนี้ยังสามารถซื้อชาหรือชิมชาเลิศรสจากชาพันธุ์ดีซึ่งมีจำหน่ายในหมู่บ้าน เช่น ชาชิง ชิง ชาอู่หลง

ข้อมูลเพิ่มเติม:ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 2982-3
http://www.tourismthailand.org/maehongson

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

บ้านรักไทย ขอเริ่มต้นเรื่องราวการเดินทางสู่หมู่บ้านรักไทยฉบับไตรภาคของเราด้วยภาพวิวสวยๆ ของทะเลสาบกลางหมู่บ้านที่เป็นบ้านดินอันลือชื่อที่สุดในประเทศไทย ภาพของบ้านที่สร้างจากดินเหนียวผสมฟางเป็นสิ่งที่พบเห็นกันบ่อยมากขึ้นจนเชื่อได้ว่าชาวโลกออนไลน์ที่สนใจเรื่องราวการท่องเที่ยวคงจะเหลือน้อยแล้วที่ไม่รู้จักหมู่บ้านนี้ การมาเที่ยวหมู่บ้านรักไทยก็จะใช้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของทริปต่างๆ ส่วนใหญ่คือการมาเที่ยว ปางอุ๋ง ใครมาปางอุ๋งไม่มาหมู่บ้านรักไทยเหมือนขาดอะไรไปครึ่งหนึ่งของทริป แม้แต่ทีมงานทัวร์ออนไทยเองที่เคยมาแล้ว 2 ครั้ง ยังต้องมีครั้งที่ 3เพื่อความสมบูรณ์ของภาพและเนื้อหา

ถ้าอยากรู้ว่าหมู่บ้านรักไทยมีอะไรดีนักหนาคนถึงได้มากันเป็นหมื่นๆ คนในช่วงปีใหม่ ก็อย่างที่เห็นว่าวิวสวยๆ แบบนี้จะหาที่อื่นคงจะยาก บ้านที่เรามองเห็นแต่ละหลังที่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบเป็นบ้านที่สร้างจากดินเหนียว และกลายมาเป็นร้านค้ามากมายในปัจจุบัน เพื่อการดึงดูดลูกค้า

เก๋งจีนดิน อีกหนึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมที่นำเอาการสร้างเก๋งจีนมาผสมกับบ้านดิน กลายเป็นแบบนี้ออกมา ก็เป็นเทคนิคการจูงใจให้ลูกค้าเข้าร้าน ร้านอาหารร้านนี้ชื่อร้านวิไล บริการอาหารจีนยูนนานหรือบางทีก็เขียนว่า ยูนาน ผมชอบสไตล์การสร้างร้านก็จริงแต่ไม่เคยเข้าไปนั่ง เพราะแต่ละครั้งที่ผมมาผมก็เลือกร้านลีไวน์รักไทยเสมอ ซึ่งก็คงจะเหมือนกับนักท่องเที่ยวอีกเกือบ 80% ที่มาหมู่บ้านรักไทย น้อยนักที่จะไม่เลือกนั่งร้านลี ดังนั้นผมคงไม่สามารถที่จะบอกรายละเอียดของอาหารและรสชาดได้ ถ้าอยากลองก็ติดต่อล่วงหน้าได้ที่หมายเลข 081-6262681, 081-4137129, 081-6144016

รอบๆ ร้านลีไวน์รักไทย จากปางอุ๋งพอเราลงมาจะมีเส้นทางถนนคอนกรีตต่อมายังหมู่บ้านรักไทย ระยะทางก็ไม่ไกลมาก มีป้ายบอกเป็นระยะๆ พอเข้าหมู่บ้านรักไทยก็จะมาเจอร้านลีไวน์รักไทยพอดี อีกอย่างเท่าที่ขับรถสำรวจรอบๆ หมู่บ้าน เห็นว่ามีเพียงร้านลีไวน์รักไทยเท่านั้นที่อยู่ติดทะเลสาบและวิวสวยของบ้านรักไทย ก็เลยทำให้เป็นทางเลือกอันดับแรกของการหาร้านอาหาร หน้าร้านจะมีรถจอดเป็นแถวยาวมากๆ แม้ว่าจะจอดไกลแล้วเดินมาก็ยังมีคนมากมายเข้าร้านนี้ พอมาถึงร้านถ้าจองล่วงหน้าไว้แล้วก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ได้จองปกติก็จะไม่มีโต๊ะว่าง เพราะหลายคนก็ลงจากปางอุ๋งมาบ้านรักไทยในเวลาใกล้เคียงกัน ถ้าอยากนั่งร้านลีไวน์รักไทยก็ติดต่อไปจองก่อนได้ที่หมายเลข 089-9500955, 084-3653229, 089-2621335 นอกเหนือจากการจองโต๊ะและสั่งอาหารล่วงหน้า ลีไวน์รักไทยยังมีที่พักบริการ ด้วยนะครับ ในระหว่างการรอโต๊ะหรือรออาหารก็สามารถเดินสำรวจรอบๆ ใกล้ๆ ร้านได้ ภาพชุดนี้เป็นร้านชาและไวน์ที่สร้างจากดินเหนียวเหมือนกันเป็นของลีไวน์รักไทย ที่เราเห็นคล้ายจะเป็นห้องแถว ก็จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวยูนาน มีข้าวซอย ขนมเส้น เต้าฟ่อนทอด เต้าฟ่อนยำ มีร้านชาชื่อร้านชาสา เพราะชาเป็นสินค้า OTOP ของหมู่บ้านรักไทย จึงมีร้านชามากกว่าอย่างอื่น

ส่วนภาพล่างซ้ายเป็นที่พักที่สร้างจากดินเหมือนกัน อยู่บนเนินเขามีชาปลูกมากมายด้านหน้า ที่พักนี้บรรยากาศดีมาก อยู่ตรงข้ามร้านลีไวน์รักไทยพอดี ติดต่อลีไวน์รักไทยรีสอร์ทได้ที่ 089-9500955, 089-2621335, 081-9991889 หรือ leewinerukthai@hotmail.com นอกเหนือไปจาการเลือกซื้อชากลับบ้าน ที่นี่ยังมีอุปกรณ์ชงชาลวดลายสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นกา หรือว่าถ้วยชา มีให้เลือกหลายสีหลายขนาด หลายราคาตามอัธยาศัย

โต๊ะชมวิวร้านลีไวน์รักไทย หลังจากรอเพียงครู่เดียวลูกค้าที่นั่งอยู่โต๊ะนี้ก็ลุกออกไป พนักงานถามเราว่าโต๊ะนี้โอเคมั้ยเดี๋ยวจะเก็บโต๊ะให้ ก็ดูสิครับอยู่ริมระเบียงชมวิวด้านหน้าสุด ติดกับมุมถ่ายรูปที่ทางร้านสร้างสรรขึ้นมา ประดับด้วยดอกบ๊วยขาวและชมพู จะตอบพนักงานร้านว่าไงดีละ พอได้มั๊ง ก็มันมุมดีที่สุดแล้วนี่

ลีไวน์รักไทย ก็อย่าเพิ่งว่ากันนะครับว่ามารีวิวหมู่บ้านรักไทยเห็นถ่ายแต่รูปร้านลีไวน์ เดี๋ยวเราพาไปชมทั่วหมู่บ้านแน่ๆ ใจเย็นๆ ก็ร้านนี้เค้าสวยนี่ก็ต้องถ่ายกันเยอะเป็นพิเศษ สำหรับนางแบบคือคุณ Anastasia Km คนไทยนี่แหละ แต่ชื่อในเฟสของน้องเค้าเป็นแบบนี้เอง น้องคนนี้เพิ่งเคยขึ้นเหนือเป็นทริปแรก การได้มาเที่ยวแม่ฮ่องสอนแบบครบเครื่องกับทีมของเราก็น่าจะสร้างความประทับได้มาก เพราะคงมีไม่กี่คนที่ขึ้นภาคเหนือปุ๊บเที่ยวปาย ปางอุ๋ง รักไทย แม่ฮ่องสอน ซะทั่วเลยแบบนี้ สมัยผมขึ้นเหนือใหม่ๆ ก็ได้ไปพระธาตุดอยสุเทพ อะไรทำนองนี้ กว่าจะได้มาแม่ฮ่องสอนก็ใช้เวลาหลายปี

วิวสวยๆ ระหว่างการรออาหาร พนักงานเก็บโต๊ะให้เราเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เรามานั่งล้อมในโต๊ะวงกลมสีฟ้ารออาหารที่จะมาเสิร์ฟ หลังจากที่พนักงานเอาเมนูมาให้เราเลือกอาหาร มีคนหนึ่งเสนอว่าสั่งเป็นชุดไปเลยได้เร็วดี ก็เลยเลือกชุดใหญ่ หรือ Big Set คนอื่นๆ ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าชุดใหญ่มันมีอะไรบ้าง แต่คิดว่าคงพอสำหรับ 5 คนกิน จากนั้นเราก็ถ่ายรูปเล่นกันไปเรื่อยๆ ทั้งวิวบ้างถ่ายคนบ้าง

ชุดใหญ่ร้านลีไวน์รักไทย ในที่สุดอาหารก็มาถึง ประกอบไปด้วยอาหารทั้งหมด 7 รายการ ได้แก่ ขาหมูยูนาน หมั่นโถว หรือเรียกรวมกันว่าขาหมูหมั่นโถว โปรโมชั่นสั่งชุดใหญ่แถมหมั่นโถวอีก 5 ลูก ไก่ดำตุ๋นยาจีน ผัดซาโยเต้ (เหมือนผัดฟักแม้ว) ก้านเห็ดปรุงรส ซุปจงเปา ยำใบชา พอเห็นอาหารมาตั้งเท่านั้นแหละ ทุกคนต่างตกใจกันหมดเลยครับ ฉันสั่งอะไรไปเนี่ย แล้วจะกินยังไงกันหมดละครับนั่น แต่ทุกคนก็พยายามจะกินๆ เข้าไปครับ เมนูขายดีคือขาหมู ส่วนหมั่นโถวไม่ค่อยจะกล้าหยิบ ต่างคนต่างกินแบบเหนียมๆ เพราะมันยังมีข้าวสวยอีกตั้งโถนึง เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ทุกคนคงเริ่มจะอิ่มแล้วละ ก็เลยเอาจานหมั่นโถไปวางไว้ที่ชั้นวางเครื่องดื่มข้างโต๊ะ เพราะมันมีอาหารอีก 2 จานเข้ามาเพิ่ม โอ้ววว เป็น 9 รายการ อาหารที่มาทีหลังก็คือ ซี่โครงหมูตุ๋นยูนาน ปลาสามรสยูนาน ตัวเบ่อเริ่มเลย อาหารมื้อนี้ 10 กินก็คงจะพอ แต่เรามากัน 5 คน ก็ต้องใช้ความสามารถของแต่ละคนละครับ สุดท้ายอิ่มขึ้นมาถึงคอหอยเลย สนนราคาชุดใหญ่นี้ 1400 บาทครับผม

เปรียบเทียบอาหาร เนื่องจากเรามากินร้านนี้เป็นครั้งที่สอง เวลาต่างกันหลายปี ผมก็ไปคุ้ยๆ ดูรูปเก่าๆ ปรากฏว่าถ่ายรูปอาหารร้านลีไวน์รักไทยไว้เหมือนกัน 2 รูปบนเป็นเมื่อหลายปีก่อน เรามากัน 6 คน กินอาหาร 5 อย่าง โดยไม่พลาดที่จะมีขาหมูหมั่นโถวเป็นหนึ่งในรายการที่เราสั่ง มาวันนี้ไปกัน 5 คน กินไป 9 เมนู โห ต่างกันเท่าตัวเลย แต่ดูรูปล่างขวา ว่า 5 คนกิน 9 อย่าง มันไม่ใช่ปัญหา แต่ละอย่างเหลือแต่จานครับ ร้านลีไวน์รักไทยมีเมนูอาหารจีนยูนานกว่า 70 เมนูด้วยกันครับ เดี๋ยวคราวหน้าจะลองสั่งอย่างอื่นหมุนเวียนไปเรื่อยๆ

วิวสวยๆ จากบ้านรักไทย ในระหว่างมื้ออาหารอันทรหดและยาวนานหลังจากที่ทุกอย่างผ่านไปเราก็เก็บภาพต่ออีกนิดเพื่อให้อาหารลำเลียงลงสู่กระเพาะก่อนที่จะออกเดินชมรอบหมู่บ้านกัน ความสวยงามและเงียบสงบของหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบยังรอเราอยู่ แต่ดูแบบนี้แล้วก็ไม่น่าเชื่อเลยว่าความสวยงามเหล่านี้หลับไหลซ่อนอยู่ในที่ห่างไกลมุมหนึ่งของเมืองไทยนี่เอง

ของที่ระลึกรักไทย ออกจากโต๊ะอาหาร เราเดินไปทางด้านร้านของฝาก ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของร้านลีไวน์นั่นเอง จะมีโซนของที่ระลึก ชิมชา ไวน์ผลไม้ต่างๆ อุปกรณ์ชงชาหลากสีหลายลายจนเลือกไม่ถูก

ร้านชา เหลียง แยว้ ออกจากร้านลี ต่อจากนี้ก็จะขับรถรอบหมู่บ้าน ในวันปกติถ้าแวะมากินข้าวถ่ายรูปวิวอย่างเดียวเราก็จะกลับรถออกทางเดิมได้เลย ในช่วงเทศกาลนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามาก ทางหมู่บ้านรักไทยก็เลยทำถนนในหมู่บ้านให้เป็นทางวันเวย์ เข้าทางหนึ่งออกทางหนึ่ง ซึ่งก็ดีเหมือนกันบังคับให้นักท่องเที่ยวได้ลองไปชมส่วนอื่นๆ ในหมู่บ้านกันบ้าง เพราะในบ้านรักไทยเค้ามีบ้านดินมากมาย มีร้านชา กาแฟ อาหารจีนยูนาน ก๋วยเตี๋ยวยูนาน ของฝากชนิดอื่นๆ นอกเหนือจากชา อาทิเช่น บ๊วยแปรรูป เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เกาลัด ฯลฯ

ทีมงานของเราก็เดินสำรวจไปตามจุดต่างๆ พอสมควรถูกใจร้านไหนก็แวะซื้อร้านนั้น พอมาเจอร้านเหลียงแยว้ ก็ลองเข้าไปชมชา เจ้าของร้านอัธยาศัยดีมาก ร้านนี้อยู่ติดกับทะเลสาบอยู่ตรงใกล้ๆ ทางโค้งรอบทะเลสาบ คุยไปคุยมาก็เลยอุดหนุนชามาอีกหลายรายการ หมดไปเฉียดๆ พันบาทเลยทีเดียวเดี๋ยวเข้าไปดูกันครับ

ชิมชาริมทะเลสาบรักไทย ความประทับใจที่มีต่อร้านเหลียงแยว้ก็คือเวลาที่เราสงสัยเรื่องชา ขอชิมชาที่ร้านมีอยู่มากมายหลายชนิด เจ้าของร้านไม่เคยจะบ่น จะค่อยๆ ชงชาให้เราชิมทีละรส แต่ละรสจะให้มาเป็นกาใสๆ นั่งจิบได้ประมาณ 4-5 ถ้วย วันนั้นจำได้ว่ามีชาอู่หลง(เบอร์ 12) ชากุหลาบ ชามะลิ รวมๆ แล้วชิมชากันไป เกือบ 20 ถ้วย ไม่ซื้อไม่หาไม่ว่ากันด้วยครับ ร้านเหลียงแยว้มีศาลานั่งชิมชาหลังร้านติดทะเลสาบ บรรยากาศการชิมชาคล้ายสำนวนจีนว่าบรรยากาศการร่ำสุรา ยังไงยังงั้น ลมพัดเย็นๆ เข้ามาในศาลา ชมวิวทะเลสาบของหมู่บ้านรักไทยสวยๆ ชิชาเสร็จแล้วเราก็ไปเดินเลือกซื้อชา บางคนได้ชามาจากร้านอื่นแล้วพอมาเจอร้านชาเหลียงแยว้ ก็ซื้อเพิ่มอีก ด้วยอัธยาศัยไมตรี เจ้าของร้านเอาตุ๊กตาชินจังมาโชว์ยืนฉี่ เจ้าตุ๊กตานี่ก็แปลกเอาน้ำร้อนราดลงไปมันก็ฉี่ออกมาพุ่งเป็นสายยาวเชียว

ทัวร์รอบหมู่บ้านรักไทย จากร้านชาเหลียงแยว้ เราขับรถมาตามทางที่ลูกศรบอกไว้ว่าเป็นทางออก อย่างที่บอกทีแรกว่าเป็นวันเวย์ ทำให้เราได้ชมร้านรวงต่างๆ รอบหมู่บ้าน มาถึงบริเวณฝั่งตรงข้ามกับร้านลีไวน์รักไทย ตรงนี้มีลักษณะเหมือนเป็นตลาดร้านค้ามากมายเรียงรายติดๆ กัน 2 ข้างทางเหมาะแก่การจอดรถแล้วเดินซื้อของฝาก

จิตรกรรมบ้านดิน ความแปลกตาของการสร้างบ้านด้วยดินที่ว่ากันว่ายามหนาวไม่หนาว ยามร้อนไม่ร้อน สร้างความประทับใจให้กับคนที่มาเที่ยวที่นี่ แต่ก็มีหลายร้านที่เพิ่มความพิเศษมากกว่านั้นด้วยการวาดภาพศิลปะแบบจีนไว้บนผนังของบ้านดิน สวยงามสะดุดตาดึงดูดความสนใจของเราให้เข้าไปในร้าน

ร้านอาหารจูจู เป็นอีกร้านหนึ่งที่บริการอาหารจีนยูนาน ภายในร้านกว้างขวางมีโต๊ะมากมายรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก ร้านจูจูอยู่ตรงหัวมุมสุดถนน มองเห็นทะเลสาบในด้านตรงข้ามกับร้านลีไวน์รักไทย เพียงแต่ไม่ติดทะเลสาบเท่านั้น สำหรับคนที่มาเที่ยวแล้วสงสัยว่า หน้าต่างรูปหัวใจถ่ายกันมาจากที่ไหน บอกได้เลยว่าที่ร้านจูจูนี่เอง เดี๋ยวเราเข้าไปดูบรรยกาศในร้านกันครับ

ร้านอาหารจีนยูนานจูจู ครั้งหนึ่งที่ผมมาหมู่บ้านรักไทย ได้ลองเข้ามาชิมอาหารจีนยูนานของร้านนี้ (เดี๋ยวจะหาว่าเรากินแต่ร้านลี) เมนูอาหารจีนยูนานก็คล้ายๆ กัน บานหน้าต่างช่องหนึ่งในร้านเป็นรูปหัวใจ นี่เป็นจุดขายของร้าน มองออกไปเป็นวิวสวยๆ ของเนินเขา พอเราเข้ามานั่งจะได้รับชาก่อนเป็นอันดับแรกเหมือนที่ลีไวน์รักไทยนั่นเอง ใส่ถ้วยกินน้ำชาให้หมดแล้วเอาถ้วยอังขอบตา ว่ากันว่าบำรุงสายตาและป้องกันการเป็นขอบตาดำได้ เมนูที่สั่งอย่างหนึ่งจะไม่พ้นขาหมูกับหมั่นโถว ความพิเศษอยู่ที่หมั่นโถวร้านจูจูทำเป็นรูปหัวใจครับ นี่ทำให้สมาชิกของเราประทับใจเหมือนกัน ไก่ดำตุ๋นยาจีนก็เป็นเมนูที่เราไม่พลาด

อาหารจีนยูนาน อีก 4 รายการที่เราสั่งมาในร้านจูจู ได้แก่ก้านเห็ดปรุงรส(บนซ้าย) ยำใบชา(ล่างซ้าย) หมูพันปี(ล่างขวา) ส่วนอีกหนึ่งเมนูจำชื่อไม่ได้ ทั้งหมดรสชาดอร่อย ถ้าให้เทียบกับร้านลีไวน์รักไทย ขาหมูรสชาดสูสีกัน ก้านเห็ดรสเหมือนกัน ยำใบชาอร่อยทั้ง 2 ร้าน แต่ร้านลีไวน์จะให้ใบชาตกแต่งขอบจานเพิ่มมาด้วย ส่วนหมูพันปี ไม่เคยสั่งในร้านลีไวน์รักไทย แต่ที่ร้านจูจู ขอใช้คำว่าไม่ถูกปากคนไทยเท่าไหร่ (ผมใช้คำว่าไม่ถูกปากไม่ได้หมายความว่ามันไม่อร่อย เพราะผมถือว่าอาหารเหล่านี้คือของที่อร่อยถูกปากคนท้องถิ่นแต่เราไม่คุ้นกับเค้าเท่านั้นเอง ผมจะไม่บอกว่าอาหารอะไรที่ผมไม่เคยกินมันไม่อร่อยด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมานี่ละครับ) หมูพันปีเป็นหมูที่คล้ายๆ เบคอน เอามาหมักกับเหล้าสูตรประจำของแต่ละร้าน เหล้าที่ว่านี้จะต้องใช้เวลาในการบ่มนานมาก กลิ่นแรกที่เอาหมูพันปีเข้าปากคือกลิ่นเหล้าที่ค่อนข้างแรง สำหรับคนถือศิลอย่าสั่งเมนูนี้นะครับ ถ้าเปรียบเทียบทางด้านราคา ร้านจูจูจะถูกกว่านิดหน่อย ถัวกันกับวิวที่ไม่สวยเท่ากับร้านลีที่ริมทะเลสาบก็โอเค ข้อดีอีกอย่างของร้านจูจู ก็คือคนไม่แน่นเพราะร้านนี้เค้าอยู่ลึกในหมู่บ้านจะเทียบกับร้านที่อยู่ร้านแรกหน้าหมู่บ้านได้ยังไง แต่กรุ๊ปทัวร์นิยมพาลูกทัวร์มาลงที่ร้านจูจูก็มี ดังนั้นถ้าตรงกับวันที่เราไปพอดีร้านก็เต็มครับ

บ้านรักไทย จากร้านอาหารจูจูเดินออกมานิดหน่อยเราก็จะมาถึงทะเลสาบ เดินชมวิวทิวทัศน์ บ้านเรือนที่สร้างจากดิน ปกติแล้วการเข้ามาเที่ยวบ้านรักไทยแบบไม่ลงรายละเอียดมากก็จะจบประมาณนี้ จากจุดนี้ก็เหลือเพียงการขับรถกลับออกจากหมู่บ้านเพื่อไปเที่ยวยังที่อื่นกันต่อ แต่ถ้าเราพอจะมีเวลาผมจะแนะนำว่าให้ลองไปเที่ยวชมความสำคัญศึกษาความเป็นมาของบ้านรักไทยให้มากกว่านี้ สถานที่น่าสนใจในหมู่บ้านรักไทยได้แก่ จุดชมวิวบ้านนาป่าแปกชมวิวประเทศเพื่อนบ้าน เพราะบ้านรักไทยเป็นหมู่บ้านสุดท้ายติดชายแดน ประวัติความเป็นมาของการก่อตั้งหมู่บ้านของชาวจีนยูนนานอดีตทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) "ก๊กมินตั๊ง" หมู่บ้านนี้สูงจากระดับน้ำทะเล 1776 เมตร ก็เลยเหมาะแก่การปลูกชา กิจกรรมขี่ม้าขี่ฬ่อเลาะชายแดนไทย-พม่า ชมคุกดินสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ ถ้ามีเวลาค้างในหมู่บ้านรักไทย ศึกษาวิถีชีวิตการเก็บใบชา ว่ากันว่า นอนบ้านรักไทยหนึ่งคืนอายุยืนหมื่นๆ ปี

ทะเลสาบบ้านรักไทย เป็นอีกฟากหนึ่งของทะเลสาบจากด้านนี้เราจะมองเห็นร้านลีไวน์รักไทย กับรีสอร์ทและไร่ชาบนเนินเขาความสวยงามอีกมุมหนึ่งของหมู่บ้านรักไทย

ลาก่อนรักไทย จากขอบทะเลสาบมีถนนพาเราวกกลับออกมายังถนนใกล้ๆ ร้านลีไวน์รักไทย แล้วก็เลี้ยวซ้ายออกจากหมู่บ้าน เป็นการขับรถเที่ยวแบบครบ 1 รอบ ระหว่างทางในหมู่บ้านผ่านร้านชากับอุปกรณ์ชงชา รวมทั้งของกินของฝากถูกใจหลายอย่าง บ๊วยกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ แล้วยังมีเกาลัดจะเป็นของกินเล่นของเราระหว่างการเดินทางอีกไกลกว่าจะกลับถึงกรุงเทพฯ หมู่บ้านแสนสงบและทิวทิศน์ที่สวยงาม อากาศดีๆ ในหมู่บ้านจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป...