ข้อมูลเพิ่มเติม:ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 2982-3
http://www.tourismthailand.org/maehongson
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ร้านสวัสดิการอุทยานถ้ำปลา-ผาเสื่อ ที่ถ้ำปลามีร้านอาหารบริการหลายร้านติดๆ กันอยู่ภายนอก ตรงข้ามกับลานจอดรถ จากจำนวนร้านค้าทำให้เห็นว่าถ้ำปลาเป็นสถานพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะที่มากันเป็นครอบครัวพร้อมเด็กๆ เพราะเด็กจะสนุกสนานอยู่กับการให้อาหารปลา และดูปลาว่ายน้ำเข้าถ้ำ
ก่อนที่เราจะเดินลึกเข้าไปด้านในถ้ายังไม่ได้กินอะไรมาก็จัดการให้เรียบร้อยทางเดินไปถ้ำปลานั้นถึงแม้ว่าจะไม่ไกลก็ตาม แต่พอเห็นปลามากๆ อยู่ในถ้ำ เอาถั่วไปเลี้ยงปลาเดี๋ยวจะเพลินแล้วจะหิว
และอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องบอกก่อนล่วงหน้าก็คือ อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อ มีที่เที่ยวที่น่าสนใจ 2 แห่ง ถือ ถ้ำปลา และน้ำตกผาเสื่อ แต่ว่าทั้ง 2 ที่ไม่ได้อยู่ใกล้กันครับ น้ำตกผาเสื่ออยู่อีกทางหนึ่ง คือทางไปปางอุ๋ง และพระตำหนักปางตอง ฉะนั้นก็อย่าสับสนตอนนี้ไปถ้ำปลากันก่อน
ลานกางเต็นท์อช. ถ้ำปลา-ผาเสื่อ นี่ละครับบรรยากาศของการพักผ่อนอีกแบบหนึ่งของแม่ฮ่องสอน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดนี้ มักจะเดินทางไปพักที่ปายบ้าง ปางอุ๋งบ้าง ที่พักหายาก ลองแวะเข้ามาติดต่อที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อ ผมว่าน่าจะมีที่พอสำหรับการตั้งแคมป์ เที่ยวแม่ฮ่องสอนได้แบบถึงธรรมชาติแท้ๆ
บรรยากาศถ้ำปลาตรงลานกางเต็นท์ ภูผาถ้ำปลา-ในบริเวณถ้ำปลามีภูเขาสูงเป็นแนวยาวหนึ่งด้าน ทำให้การกางเต็นท์พักที่นี่มีอากาศเย็นสบายสดชื่น แต่ในบางวันก็มีฝนตก ภูเขานี้มีทั้งส่วนที่เป็นผาหินกับป่าไม้สีเขียวสลับกัน ในวันหยุดพักผ่อนนักท่องเที่ยวนิยมพาครอบครับมาพักผ่อนที่นี่ กลางวันชมปลาว่ายน้ำเข้าถ้ำ และเล่นน้ำ ส่วนกลางคืนก็นอนเต็นท์ ระหว่างทางเดินจากร้านอาหารมายังลานกางเต็นท์จะมีสะพานข้ามลำธาร ทางเดินในบริเวณถ้ำปลาซึ่งมีธารน้ำไหลผ่านหลายแห่งมีการสร้างสะพาน แห่งหนึ่งที่อยู่ด้านในเป็นสะพานไม้ เชื่อมจากลานกางเต็นท์มาที่ห้องน้ำ ร้านอาหาร และลานจอดรถ
ที่นี่ยังมีเรื่องราวของการใช้พลังงานน้ำ ให้เป็นประโยชน์ได้แก่ ครกพลังงานน้ำ เป็นระบบการตำข้าวแต่โบราณ ปัจจุบันหาดูที่ยังใช้การได้ได้ยาก แม้แต่ที่นี่ก็ชำรุดไปแล้วเหมือนกัน ปัจจุบันก็ไม่มีให้เห็นแล้วครับ
ปลาว่ายเข้าถ้ำ นี่แหละที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ เราจะได้เห็นฝูงปลาขนาดใหญ่มีจำนวนมากมายแหวกว่ายไปทางเดียวกันหมด ถือเข้าไปในถ้ำที่ขุนเขา ปลาเหล่านี้เรียงแถวยาวจนมองแทบไม่เห็นท้ายแถว เด็กๆ ได้มาเห็นปลาว่ายน้ำแปลกๆ พวกนี้ก็พากันตื่นเต้น สนุกสนานไปกับการให้อาหารปลา ก็ได้แก่ถั่วฝักยาว และผักที่ซื้อมาจากร้านค้าหน้าอุทยานฯ
เลี้ยงปลาหน้าถ้ำ หลังจากที่ได้สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เราก็ได้รู้ว่าฝูงปลาจำนวนมากที่แหวกว่ายเรียงแถวยาวเข้าถ้ำอย่างต่อเนื่องเหล่านี้มันตาบอด และยังไม่เข้าใจว่าทำไมมันจะต้องว่ายน้ำไปทางเดียวกัน และต้องเข้าไปในถ้ำ แต่ที่แน่ๆ ก็คือมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปให้อาหารปลาที่ถ้ำ ส่วนด้านนอกจะมีเพียงไม่กี่คนที่ให้ถั่วอยู่หน้าทางเข้าถ้ำ แต่สายน้ำสีเขียวใสจนมองเห็นปลาได้ชัดเจนนี่ก็ดึงดูดความสนใจของคนหลายๆ คนโดยเฉพาะเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี
ปลาว่ายเข้าถ้ำปลา สิ่งแปลกประหลาดอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครรู้เหตุผล ว่าทำไมปลาเหล่านี้ถึงได้พร้อมใจกันพยายามว่ายเข้าไปในถ้ำใต้น้ำ เพื่อที่จะไปออกันอยู่บริเวณที่เป็นโพรงมีแสงส่องลงไป ปลาเหล่านี้คือ ปลามุงหรือปลาคัง เป็นปลามีเกล็ดขนาดใหญ่ในวงศ์เดียวกับปลาคาร์พ และถึงแม้จะมีอยู่เป็นจํานวนมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทําอันตราย เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า หากใครนําไปรับประทานแล้วจะต้องมีอันเป็นไป
ส่วนความแปลกของถ้ำนี้และอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมปลาเหล่านี้จึงว่ายเข้าไปก็คือ ใต้ถ้ำจะมีน้ำไหลซึ่งมีทิศทางไหลออกตลอดเวลา ส่วนปลาก็คงว่ายทวนน้ำตามปกตินั่นเอง
ถ้ำปลา ปลาที่ว่ายน้ำเข้ามาในถ้ำ จะมาออกันอยู่ตรงที่มีแสงส่องลอดลงไปถึงซึ่งมีลักษณะเป็นโพรงกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร นักท่องเที่ยวนิยมเอาผักไปโยนให้ปลาจนมีเศษผักอยู่ปากโพรงจำนวนมาก บริเวณปากโพรงมีรั้วล้อมรอบเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หากตกลงไปคาดว่าคงหาทางออกจากข้างล่างได้ยาก
จารึกถ้ำปลา บนป้ายสีดำที่ติดกับผาหินของถ้ำปลานี้ติดไว้เพื่อแสดงว่าครั้งหนึ่ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน ณ ถ้ำปลา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2541
น้ำตกผาเสื่อ หลังจากเที่ยวชมถ้ำปลากันแล้วคราวนี้พาไปเที่ยวน้ำตกผาเสื่อกันบ้าง ไม่งั้นไม่ครบ ตามชื่ออุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อ
น้ำตกผาเสื่อ อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อแต่ไม่อยู่ใกล้กันกับถ้ำปลาเพราะน้ำตกผาเสื่อนั้นตั้งอยู่ในเขตตําบลหมอกจําแป่อยู่ห่างจากตัวเมือง 26 กิโลเมตร จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 แม่ฮ่องสอน-ปาย ถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 191 เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางไปพระตําหนักปางตอง ก่อนถึงพระตําหนักปางตองเล็กน้อย
ส่วนถ้ำปลา ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผา ตําบลห้วยผา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร อยู่บนเส้นทางหลวงหมายเลข 1095 (แม่ฮ่องสอน-ปาย) กิโลเมตรที่ 191-192
จากที่จอดรถผ่านด่านชำระค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน ซึ่งถ้ามาจากถ้ำปลา ก็ไม่ต้องเสียเงินซ้ำอีก ทางเดินลงมาที่น้ำตกผาเสื่อระยะไม่ไกลมาก ไม่กี่ร้อยเมตร เดินไม่นานก็ถึง น้ำตกแห่งนี้ไหลลงมาจากน้ำตกแม่สะงาในพม่า เป็นน้ำตกขนาดกลางสูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 15 เมตร ช่วงฤดูฝนสายน้ำจะตกลงมาเต็มหน้าผาหินกว้างลักษณะคล้ายเสื่อปูลาด
มีน้ำตลอดปี ช่วงที่เหมาะสมจะไปท่องเที่ยวคือเดือนกรกฎาคม - กันยายน แต่ตอนนี้ที่มากันคือช่วงเทศกาลดอกบัวตอง กลางเดือนพฤศจิกายน น้ำจึงน้อยไปหน่อยแต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีน้ำตลอดปีจริงๆ ทางอุทยานสร้างระเบียงสำหรับชมวิวไว้ แต่ผมว่าวิวมันไม่สะใจเท่ากับเดินลงมาที่แอ่งน้ำตก เพราะจะได้เห็นน้ำตกจากมุมต่ำสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับภาพของเราได้มาก น้ำตกแห่งนี้อยู่กลางแจ้ง มีร่มเงาจากต้นไม้อันอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ปิดบังบางส่วน การเก็บภาพน้ำตกจะมาถ่ายให้เป็นสายละอองฟุ้งสวยๆ คงลำบาก แอ่งของน้ำตกถ้าไม้ใช่ฤดูน้ำมากจะมีน้ำตื้นๆ ไม่นิยมลงเล่นน้ำเพราะในน้ำมีปลาอาศัยอยู่มาก แต่ถ้ามีน้ำเยอะหน่อยจนพอจะลงได้ก็คงมีคนลงไปเล่นกันไม่น้อย
ฝูงปลาที่น้ำตกผาเสื่อ เป็นปลาชนิดเดียวกันกับที่เราเห็นที่ถ้ำปลา เห็นมั้ยครับว่าน้ำมันตื้น คงลงเล่นไม่ได้ สุดท้ายก็ขอจบการนำเที่ยวอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อไว้เพียงเท่านี้ละครับ เลยจากน้ำตกผาเสื่อก็ขับไปเที่ยวที่ปางอู๋งหรือพระตำหนักปางตองกันได้นะครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ