ข้อมูลเพิ่มเติม:https://www.facebook.com/khunchaankian/
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
จุดชมวิวดอยสุเทพ การเดินทางสู่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ใช้เส้นทางเดียวกันกับวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สวนสัตว์เชียงใหม่ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย หลังจากนั้นเป็นเส้นทางขึ้นเขาดอยสุเทพ เส้นทางนี้ค่อนข้างคดเคี้ยว และลาดชันในบางช่วง ถึงจุดหนึ่งจะมีจุดชมวิวของดอยสุเทพ มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเชียงใหม่ได้กว้างไกลและสวยงาม ถือเป็นจุดพักรถที่ดีในระหว่างการเดินทางขึ้นเขาที่เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักกว่าพื้นราบ
จุดชมวิวดาวบนดินดอยสุเทพ ในกรณีที่มาเที่ยวขุนช่างเคี่ยนแบบวันเดียวแล้วกลับตอนเย็น ลองมาแวะจุดชมวิวจุดเดิมที่เราแวะตอนขาขึ้น เราจะได้เห็นแสงไฟเมืองเชียงใหม่ที่สวยเหมือนดวงดาวอยู่บนพื้นดินความจริงจะกว้างกว่านี้เยอะมากๆ แต่ขอตัดเอาเฉพาะส่วนตรงกลางมาให้ดูกัน
เส้นทางเข้าสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน หลังจากผ่านวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพแล้วตรงไปตามเส้นทางเดิมไม่นานจะถึงหน้าพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ผ่านลานจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเข้าชมพระตำหนักไปเล็กน้อยเส้นทางจะเริ่มแคบและเล็กลงเป็นเส้นทางคดเคี้ยววกวนไปตามป่าสน 2 ข้างทาง ถนนลาดยางทำให้การขับขี่รถเข้ามาไม่ลำบากมากนัก จนมาถึงทางแยกเข้าหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน จะมีป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ให้เลี้ยวขวาไปตามที่ป้ายชี้ เส้นทางจะเล็กลงและคดเคี้ยวมากขึ้น ลัดเลาะไปตามป่าสนที่ทึบมากขึ้น มีแสงสว่างส่องลงมาได้น้อยลง ในบางช่วงมีทางโค้งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ในการที่จะมีรถสวนทางมา จะมีป้ายบอกให้บีบแตรตรงทางโค้งเพื่อให้รถที่สวนมาลดความเร็วลง และระวังมากขึ้นในการที่จะหาพื้นที่ที่รถจะสวนกันได้เพื่อหลบหลีก เส้นทางนี้ยาวไปจนถึงหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยนและวกกลับลงเขาเข้าเมืองเชียงใหม่ได้โดยไม่ต้องย้อนเส้นทางเดิมแต่ไม่ค่อยนิยมมากนัก
ศูนย์บริการนักท่องเทียวอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นอาคารหลังเล็กๆ มีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยให้อ่านศึกษา มีห้องน้ำบริการอยู่ด้านหลัง มีลานกางเต็นท์โดยรอบ พื้นที่โดยรอบมีต้นไม้ปกคลุม อากาศหนาวเย็น มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,500 เมตร ในพื้นที่ลานกางเต็นท์ปลูกดอกไม้หลายชนิดบานสวยงาม ลานกางเต็นท์กว้างขวางเป็นสถานที่พักแรมของนักท่องเที่ยวจำนวนมากในระหว่างฤดูกาลเที่ยวชมพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามให้ชมประมาณหลังปีใหม่เป็นประจำ ลานกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ก็มีต้นพญาเสือโคร่งเป็นจุดถ่ายรูปที่ระลึกที่นิยมกันมากของนักท่องเที่ยวที่จะได้ภาพเต็นท์ที่กางอยู่ใต้ต้นซากุระ
ไร่กาแฟกับพญาเสือโคร่ง จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยไปอีกเพียง 3 กิโลเมตร จะได้ชมพญาเสือโคร่งจำนวนมากขึ้นอยู่ข้างทาง บานสะพรั่งอวดสีชมพูแน่นขนัดเรียงรายไปเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน นักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาชมพญาเสือโคร่งจะจอดรถบริเวณเส้นทางนี้แล้วเดินถ่ายรูปกันมาก หากเราขับรถผ่านก็ต้องลดความเร็วและระวังคนที่เดินอยู่บนถนน
ถนนสายซากุระแห่งขุนช่างเคี่ยน โค้งซากุระ ผ่านทางตรงมาเล็กน้อยจะเป็นทางโค้งแบบวกกลับ หรือที่ชอบเรียกกันว่าโค้งเกือกม้า เส้นทางตรงจุดนี้มีพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่ทั้ง 2 ทาง โค้งเข้าหากันเล็กน้อย หากมาถ่ายรูปในช่วงที่ทิศทางแสงเหมาะสมโค้งนี้จะมีความสวยงามมาก ควรเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ขับรถมาเอง หรือเช่าจักรยานยนต์ขึ้นมาก็สามารถใช้บริการรถสองแถวแดง ของเชียงใหม่ขึ้นมาได้ ในฤดูกาลชมพญาเสือโคร่งจะเห็นรถสองแถวแบบนี้วิ่งเข้า-ออกขุนช่างเคี่ยนวันละหลายๆ เที่ยวเลยทีเดียว
ผ่านช่วงโค้งมาได้แล้วก็จะเห็นพญาเสือโคร่งลักษณะเหมือนซากุระของญี่ปุ่นมาก คือมีสีชมพูบานสะพรั่งทั้งต้น เนื่องจากมีต้นพญาเสือโคร่งอยู่มากหลายต้นที่โค้งนี้ เมื่อมาถ่ายรูปกันก็จะเห็นสีชมพูสดแน่นสวยไปทั้งภาพ
จากโค้งแรกลงมาอีกหน่อยก็จะเป็นอีกโค้งหนึ่ง ความสวยของสีชมพูเต็มต้นยังมีให้ชมกันไปเรื่อยๆ เสียดายที่ทริปนี้เรามาถึงที่นี่เย็นมากแล้ว แต่ยังพอถ่ายรูปกันได้ ถ้าเป็นช่วงเวลาที่แดดจัดจะเห็นสีชมพูแจ่มๆ กว่านี้เยอะเลย
ขุนช่างเคี่ยน ตอนสายๆ ภาพถนนที่พวกเราผ่านเข้าไปตอนแรก เป็นภาพจากอีกวันหนึ่งที่เรามาถ่ายกันตอนสายๆ แดดแรงๆ สีชมพูของพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยจะสดใสกว่าตอนเย็นที่เรามาถึง
วิวสวยๆ จากขุนช่างเคี่ยน ภาพทางโค้งที่จุดเดิมแต่คนละเวลา มาให้ชมกันแบบครบๆ ไปเลย ชอบแบบไหนก็มาเอาตอนเวลานั้น ดูเหมือนว่าแดดแรงๆ จะได้สีชมพูสดใสกว่า แต่ก็ถ่ายยากกว่า ถ้าชอบมุมนี้แนะนำเป็นช่วงบ่ายจะย้อนแสงน้อยหน่อย
พญาเสือโคร่ง ถนนสายนี้เป็นถนนที่โรแมนติกมากสายหนึ่งของไทย เพราะปกคลุมด้วยสีชมพูยาวต่อเนื่องกันเป็นกิโลเมตร ช่วงที่พญาเสือโคร่งหรือซากุระขึ้นหนาๆ จะมีคนจอดรถแล้วเดินเที่ยวถ่ายรูปกันเยอะมากตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลยก็ว่าได้
บ้านพักสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน มองจากลานกางเต็นท์จะเห็นบ้านพักหลายหลังเรียงติดกัน แต่ละหลังเข้าพักได้เป็นหมู่คณะเพราะมีเตียงหลายเตียง มองสูงเลยหลังคาบ้านขึ้นไปเป็นกลุ่มพญาเสือโคร่งจำนวนมากทำให้มีพื้นที่สีชมพูแซมอยู่ท่ามกลางป่าไม้สีเขียว
เมื่อมาถึงสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน จะเห็นมีถนนสายเล็กๆ เป็นทางลาดชันมุ่งลงไปข้างทางด้านขวามือ เป็นทางเข้าลาดจอดรถของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ทางเข้านี้จะมีความชันมาก ไม่เหมาะสำหรับรถเก๋ง โดยเฉพาะรถที่นั่งมากันหลายคน น้ำหนักรถมากเวลากลับขึ้นมาเคยเห็นเรถเครื่องยนต์ร้อนเกินกำหนด ควันพุ่งออกมาจากกระโปรงหน้าด้วยครับ ให้ขับตรงมาอีกหน่อยจะมีทางเดินเข้าสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ช่องทางนี้สำหรับเดินเข้าออกอยู่ตรงร้านกาแฟของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนบริการกาแฟสดที่เก็บเมล็ดกาแฟจากไร่กาแฟของสถานี ขับตรงไปอีกหน่อยจะมีทางลงลานกางเต็นท์สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นช่องทางที่เหมาะสมที่จะเอารถลงไปหาที่จอดเพราะเราจะพักแรมที่นี่ด้วยการกางเต็นท์ด้วย หากจองบ้านพักไว้ให้เข้าช่องทางแรก เพียงแต่เวลาขึ้นลงควรระวังเครื่องยนต์จะทำงานหนักเกินไปด้วยนะครับ
ในตอนที่รถกำลังวิ่งไปลงทางลงที่ 3 ลานจอดรถที่ลานกางเต็นท์ จะผ่านวิวสวยๆ ของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน อย่างที่เห็นในรูปนี้ละครับ พญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่เราดั้นด้นมาชมกันถึงที่นี่เวลาบานพร้อมกันทั้งหมดย้อมภูเขาที่อยู่โดยรอบให้เป็นสีชมพู ถนนบริเวณนี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเดินมาถ่ายรูปกันมาก เพราะต้องการให้มองเห็นร้านกาแฟของสถานี มุมนี้ถือว่าเป็นมุมที่นิยมกันมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวที่จะถ่ายภาพของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน
ร้านกาแฟสดขุนช่างเคี่ยน เป็นภาพมุมเดียวกันกับภาพบน เพียงแต่ซูมเข้าไปให้ใกล้มากขึ้นอีกนิด ด้านหลังของร้านกาแฟที่อยู่ท่ามกลางกลีบพญาเสือโคร่งสีชมพู เป็นลานจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าพักบ้านพักของสถานี ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องจองกันล่วงหน้าเป็นเวลานานพอสมควร ติดต่อสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ได้ที่หมายเลข 053-944052
วิวสวยๆ จากขุนช่างเคี่ยน เมื่อมาใกล้ถึงลานกางเต็นท์ของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน มองบริเวณโดยรอบแบบเห็นได้ทั่วๆ ตั้งแต่ต้นพญาเสือโคร่งต้นแรกไปจนถึงต้นสุดท้าย บริเวณพื้นราบเป็นพื้นที่ปลูก บ๊วย กับ ท้อ ซึ่งมีดอกสีขาวกับสีชมพูสวยไม่แพ้กัน กระจายอยู่เต็มพื้นที่ ส่วนเนินเขาสูงขึ้นไปเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟ มีต้นกาแฟสีเขียวๆ อยู่มากมาย มีคนงานเก็บเมล็ดกาแฟ ทำงานตั้งแต่เช้ามืด ภายในสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เราสามารถเดินชมได้ทั่วทั้งหมด
ลานกางเต็นท์ ขุนช่างเคี่ยน ในฤดูกาลที่พญาเสือโคร่งหรือซากุระบานสะพรั่ง นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาชมกันเป็นจำนวนมาก ในระยะหลังๆ ก็มีการเดินทางมาเที่ยวในวันธรรมดามากขึ้น เพื่อความสะดวกในการเข้าพัก ปกติช่วงวันหยุด เทศกาล และเสาร์-อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวมาเยอะมาก ทั้งพักอยู่ที่นี่และเดินทางมาจากที่อื่นๆ
ภายในสถานีฯ พื้นที่กว้างมากแต่มีทางเดินต่อถึงกันได้ เป็นทางเดินชมพญาเสือโคร่งขุนช่างเคี่ยน จากลานกางเต็นท์เดินไปร้านกาแฟและกลุ่มบ้านพัก จะผ่านแนวพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยสีชมพูเต็มไปหมด มองไปข้างหน้าหรือว่ามองย้อนกลับมาข้างหลังก็สวยเหมือนกัน ตามทางเดินยังเป็นที่ปลูกกาแฟจำนวนมาก เห็นใบสีเขียวเข้มเรียงรายเป็นทิวแถว
บ้านพักขุนช่างเคี่ยน ชื่อว่าบ้าน Smile House เป็นบ้านพักที่มีต้นพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่ข้างๆ กิ่งซากุระของเราโน้มลงมาต่ำ จนต้องมีป้ายเขียนว่าห้ามเด็ดติดไว้ บ้านพักหลังนี้ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ หลังของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ในระหว่างเดินชมบ้านพัก (เรามานอนเต็นท์เพราะมากันน้อย ถ้าจะเข้าบ้านพักต้องมากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ จะเหมาะกว่าครับ) พอดีเดินผ่านกระจก 2 บาน มีเงาสะท้อนพญาเสือโคร่งจากลานจอดรถใกล้ๆ บ้านพัก ก็เลยเก็บภาพจากกระจกมาฝาก
วิวสวยจากระเบียงบ้านพัก เดินมาจนถึงบ้านพักหลังหนึ่ง มีระเบียงที่จะเห็นวิวสวยๆ ของชุนช่างเคี่ยนได้กว้าง ตั้งแต่ถนนที่มีต้นพญาเสือโคร่งเรียงรายกันที่เราขับผ่านมาตอนขาเข้า มองเรื่อยลงไปจะเห็นลานกางเต็นท์ที่เรานอนอยู่ข้างล่าง มีต้นพญาเสือโคร่งประดับลานกางเต็นท์ 1 ต้นด้วย บริเวณนั้นจะเต็มไปด้วยบ๊วย กับ ท้อ มีห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ
เล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก นอกจากความสวยงามของดอกพญาเสือโคร่งที่ขึ้นอยู่เต็มไปหมด ลานกางเต็นท์ของเราก็ยังมีสวยบ๊วย แล้วก็ท้อด้วยนะ หลายคนก็เดินถ่ายรูปรอบๆ สวน เอารูปสวยติดไม้ติดมือกันไปให้คุ้มกับการมานอนหนาว
หมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน เที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวบ้านชาวเขาเผ่าม้งซึ่งเรียกกันว่า หมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน เป็นชาวเขาที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย มีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้าไปเที่ยวชมหมู่บ้านถ่ายรูปเด็กๆ ชาวเขาน่ารักๆ และเลือกซื้อของฝาก ซึ่งส่วนมากเป็นงานเย็บปักถักร้อย นอกจากนั้นก็ยังมีร้านกาแฟ ที่มีเครื่องปั่นบดเมล็ดกาแฟ ชงอร่อยๆ ให้เราดื่ม นานๆ ทีได้ชิมกาแฟจากเครื่องปั่นที่ปั่นมือ รู้สึกถึงรสกาแฟมากครับ
หมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน ชาวเขาในหมู่บ้านอาศัยอยู่ในบ้านไม้ที่สร้างแบบเรียบง่าย แต่น่าสงสัยว่าเวลาลมหนาวมาแล้วลอดข่องผนังบ้านเข้าไปจะหนาวกันขนาดไหนเนี่ย จบการนำเที่ยวชมสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน และบ้านม้งขุนช่างเคี่ยนไว้เท่านี้ก่อนครับ ปีหน้าหากถึงฤดูกาลซากุระเมืองไทยบานสะพรั่งอีกครั้งเราจะมาอัพเดตข้อมูลสถานการณ์กันครับ
พระจันทร์สีแดง จบการนำเที่ยวขุนช่างเคี่ยนเท่านี้ รูปสวยๆ ที่ถ่ายจากหลายทริปหลายเวลา คงเพียงพอให้ชมกันจนจุใจนะ ทริปล่าสุดปีที่แล้ว ขากลับมาชมวิวเมืองเชียงใหม่ตอนกลางคืนที่จุดชมวิวทางขึ้นดอยสุเทพ พระจันทร์ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาเป็นสีแดงสด บางคนเรียกว่าพระจันทร์สีเลือด นี่เพิ่งจะเคยถ่ายได้เต็มๆ แบบนี้ครั้งแรกเลยนะ ปีใหม่นี้อย่าลืมแวะมาล่าเสือ กับทริปพญาเสือโคร่งที่เชียงใหม่กัน สวยติดใจแน่นอน
"อัพเดตภาพนางพญาเสือโคร่งสำหรับคนที่ติดตามและอยากจะไปชมความสวสงามนะครับภาพโดย นางพญาเสือโคร่ง ขุนช่างเคี่ยน
https://www.facebook.com/khunchaankian"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-01-25 07:41:33
"พญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยนกำลังเบ่งบาน คนเริ่มแห่เที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วตอนนี้ สายฝนยังคงตกลงมาบ้างในบางวัน รอช้าอาจจะร่วงอย่างรวดเร็วนะครับ ภาพนี้เมื่อ 13 มกราคม 2560
ที่มา เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/khunchaankian?hc_ref=NEWSFEED"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-01-14 09:14:54
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ