พระธาตุหินกิ่วที่ดอยดินจี่

พระธาตุหินกิ่วที่ดอยดินจี่ ตั้งอยู่ที่บ้านวังตะเคียน หมู่ที่ 5 ต.ท่าสายลวด วัดพระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่มีพระธาตุประดิษฐานอยู่ในสถูปเจดีย์ชาวบ้านเรียกว่า "พญาล่อง" ตั้งอยู่บนภูเขา ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมอญขนาดเล็ก สร้างไว้บนก้อนหินด้วยแรงศรัทธาในกพระพุทธศาสนา เป็นความมหัศจรรย์จาธรรมชาติลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนชะง่อนผากิ่วคอดเหมือนจะขาดออกจากกัน ชาวบ้านเรียกหินมหัศจรรย์นี้ว่า "เจดีย์หินพระอินทร์แขวน"

    ประวัติความเป็นมาในการสร้างพระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่ ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ผู้สร้างเป็นชาวกะเหรี่ยงในสมัยที่อังกฤษปกครองพม่า ชื่อว่า นายพะส่วยจาพอได้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากได้นำเงินตราเหรียญรูปีบรรทุกหลังช้างมาเพื่อหาที่สำหรับสร้างเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชา ครั้นมาถึงบริเวณผากินกิ่ว (หรือดินจี่) ได้มองเห็นหินก้อนใหญ่โดชะโงกงำตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน และมีลักษณะคล้ายกับเจดีย์พระอินทร์แขวนในจังหวัดมัณพเลย์ ประเทศพม่า จึงได้ทำการก่อสร้าง เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้นำพระสารีสริกธาตุบรรจุไว้ในองค์เจดีย์ พร้อมกับพระพุทธรูปทองคำจำนวน 5 องค์

    พระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่ ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูง มองลงมาข้างล่างจะเห็นทิวทัศน์ในเขตประเทศพม่าชัดเจน หินที่อยู่บนดอยนี้มีลักษณะสีดำหรือสีนำตาลไหม้ จึงเรียกว่า "พระธาตุดอยดินจี่" ซึ่งหมายถึงดินที่ไฟไหม้ ในราวเดือน กุมภาพันธ์ ชาวอำเภอแม่สอด และพม่าจะมีงานนมัสการพระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่นี้ทุกปี นอกจากนี้บริเวณวัดพระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่ยังมีสิ่งสำคัญคือ เรือโบราณพบเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2539 โดยชาวบ้านวังตะเคียน ได้ช่วยกันกู้ขึ้นมาเก็บรักษาไว้ที่เชิงดอยดินกี่ เป็นเรือท่าขุดจากไม้ซุงทั้งต้น ขนาดของเรือกว้าง 126 เมตร ยาว 13.35 เมตร สูง 0.52 เมตร หนา 0.04 เมตร ส่วนหัวเรือและท้ายเรือ มีความยาวเท่ากัน (ประมาณ 1.20 เมตร) ภายในเรือมีช่องสำหรับสอดไม้กระดานเพื่อทำเป็นที่นั่ง จำนวน 4 ช่อง มีระยะห่างไม่เท่ากัน จากรูปและขนาดของเรือ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรือที่ใช้ในการขนส่งอาหารหรือสินค้าระหว่างทั้งสองฝั่งแม่น้ำเมย มีอายุประมาณ 200 ปี

    การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 105 ผ่านหมู่บ้านท่าอาจ และหมู่บ้านวังตะเคียน จะพบทางแยกขวามือมีป้ายบอกทางไปพระธาตุหินกิ่ว 3 กิโลเมตร

    หรือหากเดินทางไปตลาดริมเมยเสร็จแล้วขากลับอ.เมืองตาก จะแวะพระธาตุแห่งนี้ จะมีแยกซ้ายมือตรงหัวสะพานที่ 2 ขับรถผ่านหมู่บ้านต่างๆ โดยตรงไปเรื่อยๆ จากตลาดริมเมยสู่พระธาตุระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร

ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตาก
0 5551 4341-3, 0 5551 4344
http://www.tourismthailand.org/tak

แก้ไขล่าสุด 0000-00-00 00:00:00 ผู้ชม 23946

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

อันเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาเดินทางมาจากกรุงเทพฯ พร้อมด้วยอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้ ณ พระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่ ในวันที่ทีมงานเราไปสำรวจเก็บภาพและจะเดินขึ้นบนยอดเขาไปพร้อมๆ กัน

ทางขึ้น 200 กว่าขั้น

ชันๆ แบบนี้ ทีมงานเราต้องเดินให้เร็วกว่าเล็กน้อยเพื่อให้การเก็บภาพบนพระธาตุเสร็จก่อนที่จะมีการทำพิธีเพื่อให้สะดวกทั้ง 2 ฝ่าย

ต่อด้วยแบบนี้ เมื่อสิ้นสุดบันไดที่มีพญานาคเลื้อยแล้วก็ต่อด้วยบันได แบบนี้ มาถึงตรงนี้บอกได้เลยว่าเริ่มปวดขากันแล้ว แต่ก็ยังคงเดินต่อไป

หมดแรง ถึงบางช่วงก็ต้องมีหยุดพักกันบ้างแล้วค่อยเดินกันต่อ ขาที่ทำงานหนักมาตั้งแต่การเดินตลาดริมเมยก็เริ่มล้าแล้ว

แวะกราบพระในถ้ำ มาถึงประมาณครึ่งทางจะมีพระพุทธรูปที่ประดิษฐานในถ้ำ ระหว่างที่รอให้ขาทำงานได้ต่อไปก็นักพักเอาแรงกับลมเย็นๆ บนเขาโชคดีที่มากันหน้าหนาวเลยไม่ร้อนมาก บางคนมาถึงตรงนี้ไม่กล้าเข้าไปในถ้ำเพราะกำลังนั่งหอบกลัวอากาศในถ้ำจะไม่พอถึงกับฝากจุดธูปไหว้พระแทนกันเลย

พระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่ จากถ้ำที่นั่งพักกันเดินต่อมาเป็นทางราบไหล่เขา มีขึ้นลงบ้างเล็กน้อยแต่ไม่มีบันไดให้แล้ว พักใหญ่ๆ ก็ถึงที่พระธาตุ มองเห็นศาลาอยู่นั่งพักในศาลากราบพระขอพรแล้วก็ถ่ายรูปจากศาลาได้เลย
ความมหัศจรรย์และความพยายามในการสร้างองค์พระธาตุบนหินที่ดูไม่มั่นคง และอาจจะหล่นลงไปเมื่อไหร่ก็ได้นี้เองทำให้มีคนศรัทธาเดินทางมากราบไหว้อยู่ไม่ขาด

พระธาตุหินกิ่วที่ดอยดินจี่ ด้วยลักษณะของหินที่ตั้งอยู่บนหน้าผา ทั้งๆ ที่ส่วนฐานของหินเป็นรูปเรียวเล็กลง ด้านบนใหญ่ แต่หินก้อนนี้กลับตั้งอยู่อย่างนี้มานานหลายสิบปี หรืออาจจะนานเป็นร้อยปีด้วยซ้ำ (ไม่มีหลักฐานอายุของการสร้าง)

กราบพระขอพร ภายในศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ศาลานี้สร้างยื่นออกไปจากหน้าผา มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล

คณะอันเชิญตามมาถึง หลังจากที่ได้เก็บภาพต่างๆ เสร็จแล้วคณะที่เดินทางมาทำพิธีก็เดินทางมาถึงตามที่เราคาดไว้ และทีมงานเราก็จะเดินทางกลับลงไปที่เชิงเขา

คณะอันเชิญ ต่อ มากันหลายคนหลายวัย บางคนที่ต้องถือดอกไม้บ้างพานพุ่มบ้างต่างก็พยายามที่จะถือมาให้ถึงพระธาตุโดยไม่มีการวางหรือเปลี่ยนคนถือ

ลงมาอีกทางหนึ่ง สำหรับทางขึ้นลงพระธาตุจะมีทางเดียว แล้วมีแยกตรงใกล้จะถึงเชิงเขาแล้วนิดหน่อยสำหรับทางแยกที่เราเดินลงมานี้ท่าทางไม่ค่อยมีคนใช้หลังจากที่ได้สร้างบันไดใหม่ที่เดินสะดวกกว่าเสร็จแล้ว

เก่าแก่ตามอายุ ป้ายข้อมูลสำคัญของวัดแห่งนี้และเรื่องราวเกี่ยวกับองค์พระธาตุดอยดินกี่ หรือดินจี่ น่าเสียดายที่พยายามจะแกะข้อมูลออกมาแต่อ่านหลายรอบแล้วก็ไม่สามารถอ่านได้ตลอดทั้งข้อความ ไว้มีโอกาสคงต้องไปหาผู้รู้เพื่อเอาข้อมูลมาอัพเดตอีกที

ที่ระลึก หลังจากที่ได้เดินขึ้นพระธาตุและลงมาสำเร็จก็มีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับบันไดแห่งนี้ไว้ก่อนที่จะเดินทางต่อไป

ไกด์ที่วัดครับ เป็นสุนัขแสนรู้ตัวหนึ่งที่คณะทำบุญจำมันได้แล้วเล่าให้ฟังเกี่ยวกับความฉลาดของมันเมื่อครั้งที่เดินทางมาที่นี่คราวก่อน ใครไปเจอมันก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ