เมืองช้างสุรินทร์ รวมช้างรวมใจ ไว้อาลัยพ่อหลวง

 

    สำหรับทริปนี้เป็นตัวอย่างสำหรับคนชอบขับรถเที่ยวเองอีกเส้นทางหนึ่งโดยเฉพาะหลายคนที่อาจจะอยากลองมาชมงานช้างสุรินทร์ที่จัดขึ้นทุกปี บางคนอาจจะนึกไม่ออกหรือไม่รู้เลยว่าเมืองสุรินทร์มีอะไรน่าเที่ยวได้อีกบ้างนอกจากมานั่งดูช้าง โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีพิเศษที่สุริทร์จัดขึ้นเป็นงานเพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระเจ้าอยู่หัวมีต่อพสกนิกรชาวจังหวัดสุรินทร์และชาวไทยทั้งประเทศ และเพื่อร่วมถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ชื่องาน รวมช้างรวมใจ ไว้อาลัยพ่อหลวง นับเป็นงานประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองช้างสุรินทร์ก็ว่าได้ สถานที่ท่องเที่ยวในสุรินทร์ก็มีไม่น้อยอย่างที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้ ใครสนใจจะลองไปเที่ยวเมืองช้างสุรินทร์ลองเอาไปพิจารณาดูได้เลย

    งานรวมช้างรวมใจ ไว้อาลัยพ่อหลวง จัดขึ้นที่ อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง(ปุม) แต่ก่อนหน้านั้นจะมีการตั้งขบวนแห่ช้างจากด้านหน้าสถานีรถไฟสุรินทร์ตั้งแต่เช้า เราเลยต้องมาที่สถานีรถไฟก่อนแล้วค่อยเดินไปที่บริเวณอนุสาวรีย์ที่จัดงานเพื่อเก็บภาพช้างเดินขบวนแห่ไปด้วย

    ขบวนช้างที่เดินแห่จัดเป็นขบวนเกี่ยวกับคำสอนของพ่อ โดยจะมีข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา จากหลายสถาบันร่วมในขบวนแห่ อัญเชิญพระบรมราโชวาส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เดินร่วมขบวนไปกับช้างจากสถานีรถไฟ

    เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมงาน ก็เริ่มพิธีการถวายอาลัย นอกจากข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา จำนวนมากมายในงานนี้แล้ว เหล่าช้างจำนวนกว่า 180 เชือก ก็มาร่วมในงานนี้ด้วยโดยยืนล้อมรอบอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) นักเรียน นักศึกษาจากหลากหลายสถาบันร่วมแปรอักษรเป็นรูปหัวใจหลายดวงเรียงร้อยไปตามถนนจนแน่นขนัดไปทั้งสาย

    ปิดท้ายด้วยการถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก เป็นภาพประวัติศาสตร์ครั้งเดียวในชีวิต

    วันต่อมาที่สนามกีฬาเป็นพื้นที่การแสดงช้างของจังหวัดสุรินทร์ สำหรับปีนี้มีการแสดง 4 องค์ ด้วยกัน โดยมีเรื่องพระราชกรณียกิจ พระมหากรุณาธิคุณพระราชทานฝนหลวงชุบชีวิตเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสานและทั่วประเทศไทย การแสดงประวัติเมืองสุรินทร์ พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ซึ่งเป็นชาวพื้นถิ่นสุรินทร์ช่วยจับช้างเผือกถวายพระมหากษัตริย์ การแสดงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์กระทำยุทธหัตถี สมเด็นพระนเรศวร ปิดท้ายด้วยการแปรอักษรช้างเป็นรูปหัวใจล้อมเลข ๙ ของช้างและคนอย่างสวยงาม

    จบการแสดงช้าง เราเดินทางต่อไปยังพื้นที่พักช้างในช่วงเย็นเพื่อที่จะไปดูว่าชาวบ้านที่นำช้างเข้ามาร่วมในงานแสดงครั้งนี้เค้ามากันยังไงอยู่กันแบบไหน เพราะช้างจำนวนมากขนาดนี้ต้องมีถิ่นอาศัยต่างกันไปคงไม่ได้รวมอยู่ในเมืองสุรินทร์ทั้งหมด ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาว่าช้างที่มาแสดงในงานนี้จำนวนไม่น้อยที่ต้องเดินทางไกลจากหลายอำเภอเข้าสู่ตัวเมืองสุรินทร์ การเดินทางของช้างปกติใช้รถขนาดใหญ่ในการขนเอาช้างมาการเดินทางใช้เวลามากต้องมีการเผื่อเวลา และในงานช้างสุรินทร์ที่จัดขึ้นใช้เวลาหลายวัน ช้างและคนเลี้ยงช้างต้องมีที่พักที่ไม่ไกลจากตัวเมือง มีแหล่งน้ำสำหรับช้างได้กินได้อาบ และเราก็ได้รู้ว่าพื้นที่ในค่ายวีรวัฒน์โยธิน เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด ที่กว้างพอสำหรับให้ช้างจำนวนมากอยู่รวมกันได้ มีหนองน้ำสำหรับช้างจะได้ใช้กินและอาบได้ และไม่ไกลจากงานแสดงมากเกินไป

    เราเลยได้มาเรียนรู้วิถีชีวิตของคนเลี้ยงช้าง และวิถีชีวิตของช้างในเมืองสุรินทร์ หลายคนไม่รู้มาก่อนเลย หลายคนเคยได้ยินมาบ้างแต่ไม่เคยได้มาสัมผัส สำหรับเราที่เคยมาหมู่บ้านช้างในสุรินทร์ 2 ครั้ง จะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่าชาวสุรินทร์เลี้ยงช้างไม่เหมือนคนจังหวัดอื่น ที่นี่คนกับช้างอยู่อาศัยในพื้นที่บ้านเดียวกัน ช้างมีที่อยู่ของช้างแต่ติดกับบ้านคน มีหลังคาให้สำหรับพักผ่อนและนอน คนจะหาอาหารให้ช้างเหมือนเป็นลูกหลานหรือสมาชิกในครอบครัว การพาช้างไปอาบน้ำก็เป็นหน้าที่อันหนึ่งที่ต้องทำเป็นประจำ ส่วนการฝึกสอนให้ช้างทำตามคำสั่งบางคนก็ฝึกบางคนก็ไม่ได้ฝึกให้ช้างอยู่ตามประสาช้างเพียงแต่หาอาหารและน้ำให้ 

    เมื่อช้างมีลูกคนก็ต้องดูแลลูกช้างเมื่อคนมีลูกชาวสุรินทร์จะสอนให้ลูกดูแลช้างตั้งแต่ยังเด็ก พ่อลูกคู่นี้พาช้างไปอาบน้ำก็ต้องดูแลลูกตัวเองไม่ให้ตกน้ำด้วยและสอนวิธีการอาบน้ำช้างไปด้วยเป็นภาพที่ประทับใจคนที่ได้มาเห็นเป็นที่สุด พอช้างอาบน้ำเสร็จแล้วเจ้าของจะพาช้างไปพักผ่อนตามต้นไม้ใหญ่ด้วยการล่ามโซ่เอาไว้ จากนั้นแม่บ้านก็หุงหาอาหารสำหรับคนกินรวมกันใกล้ๆ กับช้าง สำหรับช้างเป็นสัตว์ใหญ่ที่กินอาหารจุมากคนเลี้ยงต้องเตรียมอาหารให้ช้างให้พออิ่มแล้วตัวเองถึงจะมากินข้าวล้อมวงกัน นี่แหละวิถีช้าง วิถีคน ชาวสุรินทร์ขนานแท้

    จบการเดินทางเที่ยวงานช้างไป 2 วัน ทีนี้เราขอแนะนำที่เที่ยวเมืองสุรินทร์สำหรับคนที่จะมาเที่ยวงานช้างปีหน้า หรือจะแวะมาเที่ยวหมู่บ้านช้างในช่วงไม่มีงานก็ได้ เริ่มจากที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดพเพราะมีความสวยงามตามธรรมชาติสุดๆ เรียกว่าห้วยเสนง แต่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เป็นที่ตั้งของพลับพลาที่ประทับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือที่ชาวไทยเรียกกันว่า สมเด็จย่า นั่นเอง ที่นี่เหมาะที่จะมานั่งชมพระอาทิตย์ตกเอามากๆ 

    ต่อมาเป็นวัดบูรพาราม ที่วัดนี้เป็นวัดสำคัญมากของชาวสุรินทร์โดยเฉพาะผู้นับถือหลวงปู่ดูลย์ อตุโล มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาสูงสุดของจังหวัด คือ หลวงพ่อพระชีว์ (หลวงพ่อประจี) สักการะรูปเหมือนหลวงปู่ดูลย์ในพิพิธภัณฑ์กัมมัฏฐาน-อัฐิธาตุ

    และปิดท้ายด้วยแวะกราบหลวงปู่ดูลย์องค์ใหญ่ที่วัดป่าโยธาประสิทธิ์ ที่กำลังจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว

    เอาละครับ จบการพาเที่ยวสุรินทร์แบบขับรถไปเองได้ง่ายๆ ไป 1 ทริป ที่จริงสุรินทร์ยังมีที่เที่ยวอีกมาก และจะไปสุรินทร์ก็ผ่านอีกหลายจังหวัดแวะเที่ยวเพื่อให้ทริปเติมเด็มกันมากขึ้นได้หลายๆ ที่ เห็นอย่างนี้แล้วต่อไปคงไม่มีใครมองว่าสุรินทร์เป็นจังหวัดที่ไม่มีที่เที่ยวแล้วละ หรือถ้าอยากรู้เรื่องท่องเที่ยวเมืองสุรินทร์เพิ่มเติมก็คลิกตรงลิงค์ได้เลยจ้า

ท้ายนี้ ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มา ณ โอกาสนี้ ครับ

จำนวนผู้ชม 2758 คะแนน 4  ให้กำลังใจคนเขียนทริปนี้ คลิก...>>