มหกรรมการท่องเที่ยวอีสานแซ่บนัว

ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา(1-4มี.ค.) ได้มีโอกาสเดินทางร่วมไปกับคณะมหกรรมการท่องเที่ยวอีสานแซ่บนัว ซึ่งมีทั้งสิ้น 7เส้นทาง โดยผมได้ร่วมขบวนไปกับเส้นทาง ศรีสะเกษ-อุบล-อำนาจเจริญ-ยโสธร-ขอนแก่น บรรยากาศเต็มไปด้วยวามสนุกสนาน ได้ชมวัดวาอารามศิลปะชาวอีสานที่สวยงามน่าประทับใจ

จุดแรกของทริปคือ ปราสาทศีขรภูมิ หรือ ปราสาทระแงง ตั้งอยู่ข้างวัดบ้านปราสาท บ้านปราสาท ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ปราสาทหลังนี้เป็นปราสาทที่งดงามที่สุดในจังหวัดสุรินทร์ เป็นจุดท่องเที่ยวที่ไม่มีในโปรแกรม ถือว่าเป็นของแถม

จากนั้นเดินทางต่อไปยังบ้านละทาย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดบ้านโอ้น ซึ่งเป็นวัดที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จมาทรงยกช่อฟ้าและทรงตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2560 ปิดท้ายด้วยการรับประทานพาแลงและชมการแสดงจากชาวบ้านละทาย

วันที่สอง คณะเราเริ่มต้นด้วยการนั่งเรือชมเกาะแก่งสามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น แกรนด์แคนยอนเมืองไทย มีแอ่งหินรูปร่างแปลกตาจำนวนมากมายอยู่กลางลำน้ำโขง

จากสามพันโบกเราเดินทางต่อไปยังอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ชมถนนสายวัฒนธรรมเขมราฐ ชุมชนเขมราฐเป็นชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ตั้งอยู่ริมฝั่งโขง ปัจจุบันจัดให้มีถนนคนเดินทุกวันเสาร์ มีอาคารเก่าแก่และการแสดงวัฒนธรรมที่หลากหลายสร้างสีสันให้กับถนนคนเดินแห่งนี้ ใกล้ๆ ถนนสายวัฒนธรรมเขมราฐ มีวัดสำคัญของที่แห่งนี้คือ “วัดโพธิ์” เราได้มาสักการะพระเจ้าใหญ่องค์แสน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวเขมราฐ

จากนั้นเราข้ามมายังจังหวัดอำนาจเจริญ เข้าสักการะพระมงคลมิ่งเมือง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชาวอำนาจเจริญ อยู่ภายในพุทธอุทยานสวนพระมงคลมิ่งเมือง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ 

หลังกราบไหว้สักการะพระมงคลมิ่งเมืองแล้วเราก็เดินทางไปยัง “บ้านนาหมอม้า”  ตำบลนาหมอม้า จังหวัดอำนาจเจริญ บ้านนาหมอม้ามีผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักคือ “เสื่อกกลายมัดหมี่” นอกจากนี้ยังมีผ้าทอมือลวดลายแบบชาวอีสาน ซึ่งนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเลือกซื้อเลือกหาไว้ใช้เองและเป็นของฝาก หลังจากนั้นเราได้ชมการแสดงขี่ม้า รับประทานอาหารเย็นและต่อด้วยการรำวง ปิดท้ายวันที่สองกันอย่างสนุกสนาน

วันที่สามจุดหมายแรกของวันนี้คือวัดหอก่อง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เข้าชมพิพิธภัณฑ์มาลัยข้าวตอกและได้ทดลองทำมาลัยสาย

หลังจากชมพิพิธภัณฑ์มาลัยข้าวตอกและได้ทดลองทำมาลัยสายกันมาแล้วคณะได้เดินทางต่อมายังวัดพระพุทธบาทยโสธร อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร สักการะรอยพระพุทธบาทและพระพุทธโลกนาถซึ่งเป็นพระพุทธรูปหยกขาวใหญ่ที่สุดในโลก

จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เป็นวัดที่อยู่คู่กับจังหวัดยโสธรมาตั้งแต่ครั้งสร้างเมือง และมี พระธาตุอานนท์ ที่เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่สำคัญองค์หนึ่งในภาคอีสาน หอไตรกลางน้ำภายในวัดเป็นที่เก็บคัมภีร์ใบลาน พระไตรปิฏก และตำราต่างๆ นอกจากนี้ยังมีพระแก้วหยดน้ำค้าง หรือ พระแก้วขาว พระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 1.9 นิ้ว ศิลปะเชียงแสน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระราชทานให้ ชาวเมืองยโสธร

ต่อจากนั้นไปชม “วิมานพญาแถน” อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร วิมานพญาแถน ถือเป็นอีกหนึ่ง Landmark ของจังหวัดยโสธร ตั้งอยู่บริเวณริมลำน้ำทวนฝั่งขวา เป็นสถานที่ที่แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัด ภายในบริเวณฯมี อาคารพญานาค อาคารพญาคันคาก และประติมากรรมขบวนแห่บั้งไฟ

ปิดท้ายของวันที่สามกันที่ตลาดต้นตาล อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น รับประทานอาหารเย็นร่วมกันของขบวนคาราวานทั้ง 7 สาย ชมการแสดงและรำวงอย่างสนุกสนาน

วันสุดท้ายเราเริ่มต้นกันที่ “วัดทุ่งเศรษฐี” อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น วัดทุ่งเศรษฐี เป็นวัดความสวยงามเป็นอย่างมาก มีมหาเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ (มหาเจดีย์รัตนะ) ที่ถูกสร้างโดยความริเริ่มของหลวงตาอ๋อยหรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงตาย่ามแดง”

จุดท่องเที่ยวสุดท้ายของทริปนี้คือ “วัดหนองแวง” อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ตั้งอยู่ริมบึงแก่นนคร เป็นพระอารามหลวง มีพระมหาธาตุแก่นนคร หรือ พระธาตุเก้าชั้นฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 50 เมตร เรือนยอดทรงเจดีย์จำลองแบบจากพระธาตุพนม ความสูงขององค์พระธาตุฯ 80 เมตร มีพระจุลธาตุ 4 องค์ ตั้งอยู่ 4 มุมและมีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียรล้อมรอบ เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ผสมผสานศิลปะอินโดจีน ซึ่งเป็นลักษณะแบบชาวอีสานปากแห

หลังจากสักการะพระธาตุวัดหนองแวง คณะได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันและเดินทางกลับกรุงเทพฯ ถือได้ว่าเป็นทริปที่สนุกสนานได้ชมธรรมชาติชมศิลปวัฒนธรรมชาวอีสาน วัดวาอารามต่างๆ และได้ลิ้มรสอาหารถิ่นอีสาน ถือได้ว่าเป็นทริปท่องเที่ยวที่ดีทริปหนึ่งเลย