ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตาก
0 5551 4341-3, 0 5551 4344
http://www.tourismthailand.org/tak
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
หน้าวัดผาสามเงา บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังจะขับรถไปเที่ยวเขื่อนภูมิพล ใช้ทางหลวงหมายเลข 1107 จากตัวเมืองขนาบแม่น้ำปิงขึ้นไปทางเหนือผ่านบ้านตาก สะดุดเข้ากับวัดแห่งหนึ่ง เคยได้ยินชื่อมานานแต่ไม่เคยเห็นจริงๆ แบบนี้ซะที ก็คือวัดป่าผาสามเงานี่เองซ้ายมือเป็นหน้าผา มีบันไดขึ้นไปบนผามีระเบียงสร้างเอาไว้แสดงว่าขึ้นไปได้ มุมที่เราจอดรถอยู่ริมถนนมองไม่ค่อยเห็นว่าบนระเบียงที่สร้างไว้นั้นมีอะไรอยู่ ส่วนด้านขวาเป็นวัดขนาดใหญ่คิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะเลือกเดินขึ้นไปบนหน้าผาก่อนแล้วค่อยเข้าวัดทีหลัง
พระแม่ธรณีบีบมวยผมผาสามเงา
ท้าวเวสสุวรรณหน้าบันไดนาค
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ผาสามเงา ก่อนที่จะขึ้นบันไดไป เห็นมีศาลาหลังหนึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ ทางขึ้นบนศาลามีพวงมาลัยดอกไม้ ธูปเทียนกับตู้ทำบุญ ให้บูชาธูปเทียนไปไหว้พระเอาเงินใส่ตู้เอาไว้ไม่มีคนเฝ้า น่าสังเกตุเหมือนกันว่าตู้ทำบุญตู้นี้คงจะไม่หาย หรือถูกงัด จึงตั้งไว้แบบไม่มีคนเฝ้าได้ ด้านข้างศาลาดอกไม้ธูปเทียน มีศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีก 2 หลัง คือศาลเจ้าแม่บัวผา กับศาลหลวงปู่วังน้ำวน หลวงปู้ฤๅษีวาสุเทพ
พระพุทธรูปผาสามเงา หลังจากบูชาดอกไม้ธูปเทียนมาแล้วก็เดินขึ้นบันไดมาเรื่อยๆ เห็นสั้นๆ ไม่สูงเท่าไหร่นึกว่าจะไม่เหนื่อย พอเดินเข้าจริงๆ ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หน้าผาตรงนี้เป็นผาดินสีน้ำตาลเข้ม น่าแปลกใจเหมือนกันว่าดินที่หน้าผาเรียบๆ ตรงๆ แบบนี้ไม่ถล่มไหลลงมา เมื่อสร้างที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่อย่างไรก็อย่างนั้นมานานแล้ว
ประวัติผาสามเงา
จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ว่า เมื่อฤๅษีวาสุเทพและฤๅษีสุกกทันต์ ได้สร้างเมืองหริภุญไชย (คือจังหวัดลำพูนในปัจจุบัน) เสร็จแล้วได้แต่งตั้งทูตไปทูลขอพระนางจามเทวี ราชธิดาของพระเจ้านพรัตน์กษัตริย์แห่งกรุงละโว้ (ลพบุรีในปัจจุบัน) ให้ขึ้นมาครองนครหริภุญไชย พระเจ้านพรัตน์ทรงอนุญาต พระนางจามเทวีจึงพร้อมด้วยพระประยูรญาติ พระเถรานุเถระ สมณะชีพราหมณ์และบรรดาเหล่าเสวกามาตย์ราชปุโรหิต รวมทั้งข้างทาสบริวารทั้งปวงได้เสด็จออกจากกรุงละโว้ โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมาร์ค ขึ้นมาตามลำน้ำปิง ครั้นขบวนเสด็จมาถึง ณ บริเวณซึ่งพระสามเงาประดิษฐานอยุ่ในปัจจุบัน ก็เกิดอาเพศขึ้นฉับพลัน นั่นคือมีฟ้าคะนองพายุโหมกระหน่ำอย่างแรงทั้งบนฟ้าอากาศก็มืดครึ้มไปทั่วฝนตกอย่างหนักเป็นเหตุให้ขบวนเสด็จตกอยู่ในอันตรายไม่สามารถเคลื่อนขบวนได้ เมื่อพระนางได้ทอดพระเนตรเหตุการณ์อันวิปริตผิดปกติดังนั้น จึงยกพระหัตถ์อธิษฐาน หากพระองค์มีบุญญาธิการจะได้ครองนครหริภุญไชยสมดั่งมโนปณิธานแล้ว ขอให้เหตุอาเพศจงอันตรธานไปสิ้น พอสิ้นสัตยาธิษฐาน ก็พลันบังเกิดอิสนียบาต (ฟ้าผ่า) และเหตุอาเพศทั้งปวงก็อันตรธานไปสิ้น พร้อมกันนั้นได้มี เงา พระพุทธรูปปรากฏขึ้นที่หน้าผาแห่งนี้จำนวน 3 เงา เมื่อพระนางได้ทอดพระเนตรศุภนิมิตมงคลอันมหัศจรรย์ดังนั้น ก็ทรงโสมนัสปิติยินดียิ่งนัก จึงมีพระราชเสาวนีย์รับสั่งให้ขบวนพยุหยาตราหยุดพักแรมอยู่ ณ บริเวณที่แห่งนี้ เพื่อทำการสมโภชเฉลิมฉลองวถวายสร้างเป็นพุทธบูชา สิ้นเพลา 3 ราตรี แล้วจึงเคลื่อนขบวนเสด็จสู่นครหริภุญไชยต่อไป นับตั้งแต่นั้นมา ชนทั้งหลายจึงเรียกสถานที่แห่งนี้ตามศุภนิมิตที่ปรากฏขึ้นว่า พระสามเงา สืบมาจนเท่าทุกวันนี้
วิวผาสามเงา
พระบรมธาตุเจดีย์วัดป่าผาสามเงา หลังจากขึ้นไปสักการะนมัสการพระพุทธรูปสามองค์บนผาสามเงาแล้ว ตอนนี้ก็เดินเข้ามาในวัดฝั่งตรงกันข้ามกับผา สักการะพระธาตุเจดีย์สีทองเด่นตระหง่านอยู่ใกล้พระอุโบสถ พระธาตุเจดีย์วัดป่าพระสามเงา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (เจริญ สถวฒฺฑโน) ประทานให้เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2547 ตามคำกราบทูลขอรับประทานของพระปริยัติธรรมสุธี (สุธี นาคเสโน) เจ้าอาวาสวัดกันมาตุยาราม กรุงเทพฯ ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2549
วิหารแก้วนันพิมด้านหลัง พอสักการะพระธาตุเจดีย์เสร็จแล้ว เดินไปทางด้านหน้าของอุโบสถเห็นไม่เปิดให้เข้าไป ก็เลยเดินมาทางด้านข้างเห็นวิหารหลังเล็กๆ แต่สร้างได้อย่างสวยงามมาก ผู้สร้างคือคุณฉัตรไชย คำไคร้ คนเดียวกับผู้อุปถัมภ์การสร้างพระบรมธาตุเจดีย์
ภายในวิหารแก้วนันพิม
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ