ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร. 0 4421 3666, 0 4421 3030
http://www.tourismthailand.org/nakhonratchasima
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
แวะพักชุมชนร่วมใจพัฒนา ภาพบนซ้าย ก่อนออกเดินทางสู่ผาเก็บตะวัน เนื่องจากเราเพิ่งออกมาจากน้ำตกสวนห้อม ก็เลยหาเสบียงติดไว้บ้างโดยเฉพาะเครื่องดื่มอย่างน้ำและก็น้ำอัดลม (ข้าวเที่ยงยังไม่ได้กินเลยเพราะยังไม่เห็นทุ่งดอกลานกินข้าวไม่ลง)
กลับรถประมาณ กม.83 ภาพบนขวา กลับรถที่ประมาณกม. 83 ออกมาจาก กม.79 ชุมชนร่วมใจพัฒนามาอีก ประมาณ 3-4 กิโลเมตรก็กลับรถ หรือจะให้ง่ายก็คือยูเทิร์นที่ 2 กลับรถมาจะเห็นโรงเรียนบุไผ่ก็เตรียมชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวเข้าบ้านไทยสามัคคี ทางเข้าจะเป็นทางโค้ง ต้องระวังเป็นพิเศษทั้งรถที่จะออกมาจากทางแยกด้วย
ทางเข้าบ้านไทยสามัคคี ภาพล่างซ้าย ตรงนี้คือทางเข้าผาเก็บตะวันจุดสังเกตุก็ง่ายๆ แบบนี้ละครับ ทางแยกตรงทางโค้งพอดีดูป้ายไทยสามัคคีอย่างเดียว เลี้ยวเข้าไปจะเห็นร้าน Coffee Hut อยู่ปากซอยด้านขวามือ
เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้วจะเห็นรถหนาแน่นมากกว่าซอยอื่นๆ เพราะที่ซอยนี้มีถนนตัดเข้าไปได้ลึก มีรีสอร์ท และฟาร์มสเตย์จำนวนมากรองรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ
รีสอร์ทให้เลือกมากมายที่ผาเก็บตะวัน บริเวณทางเข้าผาเก็บตะวันตอนนี้มีรีสอร์ท บ้านพักต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ท่ามกลางขุนเขา
ทางเข้าผาเก็บตะวัน ร้านกาแฟน่าแวะ (ภาพบนซ้าย) ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆ จะผ่านร้านกาแฟร้านนี้ เห็นรูปร่างกับทำเลแล้วน่าแวะนั่งสักพักดูเหมือนกัน
เข้ามาตามทางเรื่อยๆ จะมีสามแยกอยู่ต้องเลี้ยวขวา โดยให้สังเกตุรีสอร์ทภาพกลางซ้าย หรือถ้าเห็นรีสอร์ทภาพบนขวา ก็เป็นอันเลยทางแยกแล้วครับ
ระหว่างทางจะเห็นแปลงเกษตรปลูกพืชผักของชาวบ้านในพื้นที่ เป็นแปลกผักปลอดสารพิษเป็นส่วนใหญ่
เลี้ยวเข้ามาแล้วทางจะเล็กลงและขรุขระ หลุมเล็กหลุมใหญ่จำนวนมาก แต่ก็มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยรถเก๋งโดยไม่หวั่นปัญหาช่วงล่างเลย เพราะยังไม่ถึงขั้นทรหดครับ
มาตามทางเรื่อยๆ จะเห็นป้ายเขียนชื่อโครงการ ๙ ล้านกล้า เป็นการปลูกป่าในพื้นที่ เดิมทีผาเก็บตะวันและพื้นที่โดยรอบแห้งแล้งมากไม่มีต้นไม้มากมายอย่างทุกวันนี้ครับ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังคงปลูกไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้จำนวนมากเพียงพอ
ภาพแนวแอพสแทรค เอาง่ายๆ เข้าว่าไม่ต้องจัดองค์ประกอบกันให้วุ่นวาย ต้นไม้แห้งทั้งต้นแบบนี้มีไม่มากนักครับสำหรับในฤดูฝนแบบนี้ นานๆ เห็นสักต้นนึง
ถึงแล้วผาเก็บตะวัน ร้านสวัสดิการผาเก็บตะวัน แต่วันนี้ปิด ก่อนเข้าเขตของผาเก็บตะวันมีด่านเก็บเงิน จะเก็บค่าธรรมเนียมเฉพาะค่ารถ คันละ 30 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวไม่เก็บ ตรงด่านมีที่ประทับตราสำหรับคนที่มี Passport อุทยานแห่งชาติ สำหรับคนที่ยังไม่มีก็ไปซื้อที่ร้านขายเมล็ดพันธุ์สำหรับปลูกป่า ซึ่งวางขายรวมกับของที่ระลึกที่มาอุทยานแห่งชาติทับลาน
ร่วมกันปลูกป่า ร้านนี้มีเมล็ดมะค่ากับเมล็ดลานขายสำหรับนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมกันปลูกป่าในราคาถุงละ 10 บาท แต่ที่น่าสนใจคือมีหนังสะติ๊กให้ยืมด้วย ไม้กอล์ฟก็มีครับ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกป่าของที่นี่
หนังสะติ๊กอุปกรณ์ปลูกป่า เอาละเราก็ซื้อเมล็ดมะค่ามาถุงนึง เดี๋ยวไปช่วยกันปลูกป่ากันหน่อย วิธีการปลูกป่าของที่นี่น่าสนใจมากครับ ด้วยการยิงเมล็ดพืชออกไปให้ไกลตามทิศทางที่ต้องการด้วยหนังสะติ๊ก หรือว่าท่านที่นิยมกีฬากอล์ฟ ก็มีไม้กอล์ฟให้ยืม สำหรับลานกว้างที่ผาเก็บตะวัน มีหนังสะติ๊กอันใหญ่ตั้งไว้ให้หนึ่งอันสำหรับผู้ที่ใช้อันเล็กไม่ค่อยเป็นเดี๋ยวจะได้รับบาดเจ็บ บางกลุ่มก็มาปลูกเป็นกีฬาปลูกป่าทีมหญิงไปอย่างที่เห็น
ส่วนภาพล่างกลาง นี่คือลูกลานที่แห้งแล้วที่ร่วงลงมาจากต้นลานก่อนที่ต้นลานจะเหี่ยวตายไป เป็นวัฏจักรของลาน ต้นหนึ่งออกดอกได้ครั้งเดียวแล้วเหี่ยวแห้งตายไปหลังจากดอกลานติดลูกและร่วงลงดินแล้ว อายุของลานอาจจะมีตั้งแต่ 20-70 ปี กว่าจะออกดอก ปกติลานในอุทยานแห่งชาติทับลานมีอายุไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงไปดูดอกลานได้ทุกปี เพียงแต่ในปี 2552 จะมีดอกออกพร้อมกันหลายต้นเป็นพิเศษ
เอาละเมื่อเข้าใจวิธีการปลูกป่าของที่นี่ดีแล้ว ก็เอาหนังสะติ๊กที่ยืมมาจากร้านขายเมล็ดพืชนั่นแหละ ยืดให้สุดแขน แล้วยิงออกไปไกลๆ แบบนี้เรียกว่าการยิงหนังสะติ๊กลดโลกร้อน
ดอกลานบนผาเก็บตะวัน เอาละปลูกป่ากันมานานแล้ว ก็เริ่มชมวิวบนผาเก็บตะวัน มองไปรอบๆ หาดอกลาน ก็เห็นอยู่เป็นหย่อมๆ แต่ละต้นออกดอกมากมายสมกับที่เป็นข่าวจนนักท่องเที่ยวเดินทางมาดูกันมากเป็นพิเศษในปี 2552
จากผาเก็บตะวันมองลงไปจะเห็นลานอยู่ที่พื้นราบด้านล่างกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ บางต้นจะแฝงอยู่ตามไหล่เขา ท่ามกลางต้นไม้อื่นๆ รายล้อม แต่ลานก็ยังสามารถชูดอกสูงกว่าต้นไม้รอบข้างได้ หากมีกล้องส่องทางไกลมองไปที่พื้นด้านล่างก็จะเห็นดอกลานได้ชัดมากขึ้นเหมือนภาพล่างขวา
หอชมวิวผาเก็บตะวัน ที่ผาเก็บตะวันมีหอชมวิวบริการด้วย แต่กระไดไม้ไผ่มันอาจจะปีนยากไปสักนิด ไต่ๆ ไปมีไหวๆ ด้วยตื่นเต้นดีแท้
หมีควายตัวน้อย ลูกหมีควายน้อยน่ารักตัวนี้เพิ่งเจอมันที่ผาเก็บตะวันในการไปครั้งที่ 4 ปี 2554 นี่เองไม่รู้ประวัติความเป็นมาของมันไว้ไปครั้งที่ 5 จะได้สอบถามเจ้าหน้าที่ ต้นไม้ที่มันปีนอยู่นี้ตรงโคนต้นสร้างคอกล้อมมันไว้ มันชอบปีนไปอยู่ข้างบนมากกว่าที่จะอยู่ในคอก กว่าจะถ่ายรูปมันได้แบบนี้เล่นเอาปวดคอปวดไหล่ ใครๆ ผ่านไปทางนี้สอบถามสารทุกข์สุขดิบให้ด้วยนะครับ
ป้ายที่ระลึกของผาเก็บตะวัน เป็นสิ่งแปลกตาอีกอย่างหนึ่งในการเดินทางมาเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ เพราะปกติก็จะทำป้ายใหญ่ด้วยไม้หรือวัสดุอย่างอื่น แต่ก็เป็นรูปร่างธรรมดาทั่วไปแบบป้ายที่เห็นกันประจำ แต่ที่ผาเก็บตะวันแห่งนี้กลับใช้รูปแบบหลักกิโลเมตร คล้ายๆ ปาย
ที่จุดชมวิวผาเก็บตะวันมีศาลาพักผ่อนบริการนักท่องเที่ยวสามารถสั่งอาหารมานั่งทานกันตรงนี้ก็ได้ (มีร้านอาหารบริการครับ)
ลานจอดรถที่นี่ก็เป็นลานดินกว้างๆ มีห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ ลานจอดรถ
ด้านหนึ่งของลานจอดรถก็มีป้ายข้อมูลความรู้ต่างๆ ป้ายข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกป่า เนื่องจากป่าไม้ในบริเวณตำบลไทยสามัคคีเคยถูกทำลายลงเป็นอย่างมากในที่สุดกรมป่าไม้จึงได้กำหนดพื้นที่บางส่วนให้เป็นเขตฟื้นฟูสภาพป่า การทำงานปลูกป่าสภาพป่าก่อนและหลังการฟื้นฟูเห็นได้ชัดบนแผ่นป้าย ไว้ให้ความรู้นักท่องเที่ยว
เห็นกันเลยว่ามีคนมาไม่น้อย และส่วนมากก็จะมาแวะกันสัก 30 นาทีแล้วก็ไปเที่ยวต่อกันที่อื่น ตอนที่ขับรถเข้ามาหรือขับกลับก็มีรถสวนทั้งขาเข้าขาออกกันหลายคัน นักท่องเที่ยวหลายคนก็เล่าให้ฟังว่าได้ข่าวจากช่อง 7 เลยตามมาดูกันมากมายจริงๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังที่ได้เห็นดอกลานบานสะพรั่งกันทั่วทุ่งสมใจหมาย
เก็บตะวัน นี่เองเป็นที่มาของคำว่าเก็บตะวัน คือเอาหนังสะติ๊กยิงพระอาทิตย์ ซะเลย การมาปลูกป่าของเราในบางครั้งก็เลือกที่จะมาเย็นๆ รอชมพระอาทิตย์ตกก่อนค่อยเดินทางเข้าที่พักที่วังน้ำเขียว กิจกรรมการปลูกป่าจนถึง เมษายน 2554 ที่ไปมาล่าสุดก็ยังคงใช้หนังสะติ๊กแต่เปลี่ยนเป็นแบบมีราวติดตั้งด้านหนังสะติ๊กอย่างแน่นหนาสำหรับคนที่ใช้ไม่เป็นเดี๋ยวอาจจะเกิดอันตรายได้ แต่ก็ยังมีแบบถือให้ยิงกันถนัดๆ สำหรับคนที่ใช้มันเป็น
พระอาทิตย์อัสดงตรงผาเก็บตะวัน วิวนี้เป็นภาพที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของการชมพระอาทิตย์ตกที่วังน้ำเขียวสำหรับในฤดูหนาวอาจจะมีลุ้นได้ชมทะเลหมอกตอนเช้าก็ต้องไปหาจุดชมวิวสวยๆ นั่งรอกัน
ราวหนังสะติ๊กผาเก็บตะวัน นี่คือการพัฒนาอีกขั้นของเครื่องมือปลูกป่าที่กำลังฮิตกันสุดๆ ยิงได้ทีละหลายๆ คน สำหรับวันนี้ก็รอกันจนพระอาทิตย์ลับหายไปไม่เหลือแสงให้ถ่ายรูปได้อีกต่อไปแล้ว
ไร่มะละกอฮอลแลนด์ ไร่มะละกอฮอลแลนด์ (RedMaradon) เปิดให้ชมศึกษาหาความรู้ในการปลูก โดยกลุ่มเกษตรอินทรีย์ โคราช ภายใต้สโลแกน อยู่อย่างไร ให้พอเพียง สนใจติดต่อเข้าชมได้ที่ 089-2082552
ต้นไม้สูง เห็นสูงชะลูดอยู่ต้นเดียวข้างทางก็จอดถ่ายมาซะหน่อย
อ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้น อ่านผิดอ่านถูก เพราะคุ้นกับคำว่า ห้วยแม่ขมิ้น มากกว่า พอเห็นห้วยขมิ้น ก็แปลกดี สำหรับอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ เป็นแหล่งน้ำหลักของชาวบ้านบริเวณนี้ นอกจากจะเป็นอ่างเก็บน้ำแล้ว ยังมีบริการเรือถีบสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อน และมีร้านค้าบริเวณรอบๆ คล้ายๆ ตลาดเล็กๆ ที่มีผัก เป็นสินค้าหลัก
ร้านค้ารอบอ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้น อ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้น อยู่ที่ บ้านสุขสมบูรณ์ ตำบลวังน้ำเขียว ออกมาจากผาเก็บตะวันไม่นานก็ต้องผ่านตรงนี้ลองแวะๆ หาซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันบ้างนะครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ