www.touronthai.com

หน้าหลัก >> กาญจนบุรี >> ถ้ำเสาหิน ลำคลองงู

ถ้ำเสาหิน ลำคลองงู

 ถ้ำเสาหิน อยู่ห่างจากปากห้วยลำคลองงู 6 กิโลเมตร ลักษณะเป็นถ้ำทะลุภายในมีห้วยลำคลองงูไหลผ่านตลอด จุดเด่นที่น่าสนใจคือ เสาหินขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางถ้ำ วัดความสูงจากพื้นถึงยอดเสาได้ 62.5 เมตร นับได้ว่าเป็นเสาหินที่สูงที่สุดเท่าที่เคยพบมาในปัจจุบัน อีกทั้งภายในถ้ำยังมีหินงอกหินย้อย รูปทรงต่างๆ เป็นจำนวนมาก จัดได้ว่าเป็นถ้ำที่มีความงดงามและมหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

การเดินทางไปถ้ำเสาหิน ถ้ำเสาหินไปได้ 2 ทางด้วยกัน แต่ต้องเดินเท้าทั้ง 2 ทาง เส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เลี้ยวขวาเส้นทางสู่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู (น้ำตกนางครวญ) ทางหลวงชนบท 3183 ถึงป้ายอุทยานแห่งชาติจากนั้นขับเลยไปอีก จะมีป้ายบอกตามทางแยก (แต่ป้ายอาจจะเล็กไปหน่อยต้องสังเกตุให้ดี) ในป้ายจะบอกทางไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เขาพระอินทร์ ห่างจากทางเข้าน้ำตกนางครวญประมาณ 18 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างขรุขระ ถ้าฝนตกหนักอาจจะต้องใช้รถกระบะเท่านั้น

 ถึงหน่วยพิทักษ์ เขาพระอินทร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะประมาณเวลาเดินทางให้มาถึงตอนเช้า ก่อน 8 โมงเช้า เพื่อกินข้าวเช้าแล้วออกเดินทางสู่ถ้ำเสาหินด้วยรถกระบะของอุทยานฯ (ในกรณีที่เราจองรถกับอุทยาน) ราคารถบริการไป-กลับ ถ้ำเสาหิน 1500 บาท

 อีกเส้นทางหนึ่งคือมาจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น แต่ทางนี้ไม่ได้รับความนิยมเหมือนเส้นทางแรก

การเดรียมตัวก่อนไปถ้ำเสาหิน สิ่งที่จะต้องเตรียมเอามา ได้แก่ ไฟฉาย ชนิดคาดหน้าผากจะสะดวกที่สุด

 ยาบางชนิด ตามความเหมาะสม อย่างเช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด ยาหม่อง ฯลฯ

 ทางอุทยานมีเต็นท์ และเครื่องนอนให้เช่า ในราคา เต็นท์ 220 บาท/หลัง เครื่องนอน 30 บาท/ชุด

 อาหาร สามารถสั่งอาหารกับทางอุทยานได้ อุทยานจะสั่งอาหารจากชาวบ้านที่รับทำอาหารแบบเหมา ปกติจะเหมา 6 มื้อ / คน ราคา 500 บาท ซึ่งค่าอาหารจะต้องโอนเงินมัดจำก่อนเดินทางครึ่งหนึ่ง ถ้าอยากทำอาหารเอง ต้องคำนึงถึงการทำอาหารแบบห่อไปกินในป่าด้วยนะครับ

 เจ้าหน้าที่นำทาง การจะไปเที่ยวถ้ำเสาหิน ในอุทยานแห่งชาติลำคลองงู มีข้อกำหนดว่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ในอัตรา เจ้าหน้าที่ 1 คน / นักท่องเที่ยว 3 คน โดยมีค่านำทาง 300 บาท ต่อวันต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน (ปกติจะเที่ยวถ้ำเสาหิน กับถ้ำนกนางแอ่น ก็ต้องเป็น 2 วัน)

*หมายเหตุ สำหรับราคาเต็นท์ และอาหาร รวมทั้งรถ ควรสอบถามก่อนเดินทางอีกครั้งหนึ่ง

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทรศัพท์ : 0849132381

แก้ไขล่าสุด 0000-00-00 00:00:00 ผู้ชม 17023

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ
หน่วยพิทักษ์เขาพระอินทร์

หน่วยพิทักษ์เขาพระอินทร์ การเดินทางพิชิตถ้ำเสาหิน อันมีเสาหินปูนที่สูงที่สุดในโลก 62.5 เมตร มันต้องเริ่มจากแคมป์ ซึ่งแคมป์ที่เหมาะที่สุดคือ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลง.1 (เขาพระอินทร์) เราต้องออกเดินทางจากกรุงเทพฯ สักประมาณเที่ยงคืน ขับรถไปที่ทองผาภูมิ แล้วมีแยกเลี้ยวขวาที่ทางหลวงชนบท 3183 จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงูก่อน แต่นั่นไม่ใช่จุดหมาย เราจะต้องไปต่อที่หน่วยเขาพระอินทร์ ห่างจากที่ทำการประมาณสัก 18 กิโลเมตร แต่ระหว่างนี้มีทางแยกหลายทาง หลงเป็นบางครั้งแต่ก็คลำหาป้ายบอกทางท่ามกลางความมืดได้พอดี แล้วเราก็มาถึงแคมป์ เวลา 6 โมงเช้า ไม่มีเวลาสำหรับทำอะไร มากไปกว่าล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเดินไปกินข้าวหลังจากที่เรากางเต็นท์อย่างรวดเร็ว ด้วยความชำนาญ (เพราะเดินป่ากันมาเยอะ)

เพื่อความสะดวกรวดเร็วของการเที่ยว เราโยนภาระการทำอาหารให้ชาวบ้านที่ทำงานนี้เป็นอาชีพเสริมในระหว่าง 2 เดือนที่อุทยานเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมถ้ำเสาหิน สนนราคา 500 บาท / 6 มื้อ / คน แต่เราต่อรองเหลือ 400 บาท / 5 มื้อ / คน เพราะมื้อเย็นวันที่ 2 เราอยากไปหาอะไรกินข้างนอก เอาแบบจัดหนักมื้อใหญ่ ทั้งนี้ต้องมั่นใจด้วยนะว่า จะเดินเที่ยว Trail ที่ 2 ถ้ำนกนางแอ่น + ถ้ำเอเลี่ยน ให้จบทันเวลา เพื่อที่จะได้ออกเดินทางกลับบ้านแล้วหาอะไรอร่อยๆ กิน

อาหารที่ช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ระหว่างการเที่ยวในอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ประกอบด้วยอาหารจานเดียวมื้อเช้า ก็คือข้าวผัด ส่วนมื้อเที่ยงเจ้าหน้าที่จะถือไปให้เราที่จุดพักเที่ยง ได้แก่ข้าวราดแกง 1 อย่าง ตอนนี้เราต้องจัดการมื้อเช้าให้เร็ว จะได้ออกเดินทางเป็นกลุ่มแรก การได้เป็นกลุ่มแรกจะมีข้อดีตรงที่เรามีเวลาในการถ่ายรูปที่ต่างๆ ในขณะที่ยังไม่มีคนมาวุ่นวายมาก

ออกเดินทางสู่ถ้ำเสาหิน

ออกเดินทางสู่ถ้ำเสาหิน หลังจากที่จัดการกับมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะพยายามพาเราไปยังจุดเริ่มต้นการเดิน Trail แรก ก็คือถ้ำเสาหิน ด้วยรถกระบะจากแคมป์ที่เราอยู่ก็น่าจะประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร ถ้ามองในแผนที่แล้วกะด้วยสเกล ถ้ำเสาหินน่าจะห่างจากน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแค่ไม่ถึง 4 กิโลเมตรเองนะเนี่ย ไม่รู้มาก่อนเลย

ระหว่างการเดินทางบนรถกระบะ ผ่านพื้นที่เกษตรของชาวบ้านกว้างใหญ่ไพศาลมาก มองสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว ประมาณครึ่งทางผ่านไป บรรยากาศ 2 ข้างทางมันก็เปลี่ยนเป็นป่าไผ่ สักพักเราที่นั่งกันอยู่ด้านหลังก็จะได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนบอกให้ระวังกิ่งไม้ เป็นระยะๆ ถึงบางช่วงไผ่ล้มขวางทาง เจ้าหน้าที่ก็กระโดดลงรถไปตัดไผ่ออกให้ จนในที่สุดรถก็มาถึงสุดทาง เราทุกคนลงจากรถ แล้วก็มีคนตามมาในรถอีกคันแบบติดๆ เจ้าหน้าที่ให้เราเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินป่า เสื้อผ้าหน้าผม เอ๊ยไม่ใช่! รองเท้าและเสื้อชูชีพต้องพร้อมสำหรับการเดินทาง อ้าว แล้วเสื้อชูชีพมันเกี่ยวอะไรกับการเดินป่าละเนี่ย คำตอบก็คือ หลังจากการเดินป่าสิ้นสุดลงที่ปากถ้ำเสาหิน เราจะต้องลอยคอในน้ำเข้าไปในถ้ำ เป็นเส้นทางเดียวเท่านั้นที่จะเข้าถึงเสาหินปูนสูงที่สุดในโลก แต่ระหว่างการเดินป่าไม่มีใครถือเสื้อชูชิพให้เรา เราต้องใส่ไปเลย สิ่งที่ต้องมีอีกอย่างก้คือน้ำคนละขวด ว้า ให้น้อยจัง สำหรับคนอื่นไม่รู้นะแต่สำหรับผมขวดเดียวเดิน 6 กิโลเมตร ยังไงๆ ก็ไม่พอ พอดีมีน้ำเหลือไม่มีเจ้าของ ผมเลยเบิ้ล 2 ขวด เอาละทีนี้ก็พร้อม ไปได้

อลังการแห่งลำคลองงู

อลังการแห่งลำคลองงู เดินจากท้ายรถมาได้ไม่กี่สิบเมตร เราก็มาถึงตรงป้ายขนาดใหญ่ ที่ทางอุทยานฯ เค้าเตรียมไว้ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ทุกคนกรูเข้าไปอยู่ตรงป้าย เหลือแต่ผมที่ต้องยืนกดชัตเตอร์อยู่ตรงนี้ เราก็รู้มาบ้างแหละว่า ลำคลองงู เส้นทางมันโหดมันฮาขนาดไหน แต่ในเมื่อเรายังไม่ได้พบกับตัวเอง ตอนนี้ขอมีความสุขกับการถ่ายรูปป้ายก่อน อย่างอื่นว่ากันทีหลัง

เดินป่าลำคลองงู

เดินป่าลำคลองงู หลังจากที่ถ่ายรูปกับป้ายกันจนหนำใจ เราทุกคนออกเดินทางมุ่งหน้าลงเขา เส้นทางจากจุดที่รถมาส่งดูเหมือนจะเป็นสันเขา จากตรงนี้ไปเป็นการเดินลงเขา ระยะทาง 3 กิโลเมตร รวด เป็นการเดินลงอย่างเดียว ขาไปจึงเป็นการเดินที่สนุกสนาน แต่ก็มีความกังวลเรื่องการเดินกลับจนหลายคนก็รู้ดีว่าขากลับต้องเจอกับอะไรบ้าง ก็ต้องเป็นการเดินขึ้น 3 กิโลเมตรรวดสิครับ การแวะถ่ายรูปดอกไม้ป่าตามข้างทางส่วนมากก็จะเกิดขึ้นตอนขาไปเพราะเป็นการเดินลง เรียกว่ายังคงสบายๆ กันอยู่ ส่วนขากลับเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย เดินขึ้นเขามาหลายต่อหลายที่ เจอเนินขาขึ้นบ้างก็ไม่ยาวขนาด 3 กิโลเมตร ติดๆ กันขนาดนี้มาก่อน สวดยอด จริงๆ ครับ

พืชและแมลงระหว่างทาง

พืชและแมลงระหว่างทาง สิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้กับเรามากอย่างหนึ่งเพราะไม่ค่อยจะเคยเห็นมาก่อนก็คือเจ้าแมลงตัวขนสีขาวๆ ปุยๆ ทีแรกเห็นเกาะอยู่ที่กิ่งไม้เป็นฝูงนึกว่าเป็นพืชชนิดหนึ่งที่มาเกาะต้นไม้อยู่ แต่ที่ไหนได้มันขยับได้ด้วย นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราต้องหาคำตอบว่ามันคือตัวอะไรกันแน่ ทุกคนในกลุ่มไม่มีใครรู้จักเจ้าสัตว์ตัวนี้เลย บางคนบอกว่ามันกินได้ด้วยซ้ำไป แต่ความจริงคือ มันกินไม่ได้นะครับจนกลับมาถึงบ้านถึง Search หาคำตอบจากพี่กูนั่นเองจึงได้รู้ว่ามันคือ

เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน (Durian psyllid, Allocaridara malayensis)
ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อนของทุเรียน ทำให้ใบอ่อนเป็นจุดสีเหลือง ประมาณ 8-14 วงตามใบ ไม่เจริญเติมโตและเล็กผิดปกติ เมื่อระบาดมากใบจะหงิกงอแห้งและร่วงหมด หลังจากฟักเป็นตัวอ่อนจะเห็นมีปุยสีขาวติดตามลำตัว ตัวอ่อนสามารถขับสารสีขาวออกมาเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อรา แมลงชนิดนี้จะพบเฉพาะใบอ่อนที่ยังโตไม่เต็มที่ และจะทำความเสียหายกับพืชมากที่สุดในช่วงเป็นตัวอ่อน เมื่อแมลงลอกคราบ เป็นตัวเต็มวัยจะมีสีน้ำตาลปนเขียวมีอายุนาน 6 เดือน และมักไม่ค่อยบินออกนอกจากถูกกระทบกระเทือน



นอกเหนือจากนั้นเราก็ยังได้พบเห็นตอกไม้ป่าอีกหลายชนิดระหว่างการเดินกลางป่าไผ่ หลายคนก็ถ่ายรูปดอกไม้เหล่านี้มา ขอเอามาให้ชมกันพอประมาณครับ ที่จริงยังพบอีกหลายชนิดเลย

หงส์เหิน หรือหงส์เหิร หรือดอกเข้าพรรษา

หงส์เหิน หรือหงส์เหิร หรือดอกเข้าพรรษา เป็นดอกไม้ป่าชนิดหนึ่งพบเห็นได้หลายพื้นที่ ดอกไม้ป่าที่เรียกกันว่าหงส์เหิน หรือบางทีก็เขียนว่า หงส์เหิร มีอยู่ด้วยกันหลายพันธุ์ ดอกอาจจะดูแตกต่างกันไปบ้าง บางทีก็เห็นเป็นดอกสีเหลือง แต่โดยมาจะออกเป็นช่อ ลักษณะของดอกเหมือนกับหงส์ ตามเส้นทางถ้ำเสาหินเราก็พบเห็นอยู่เป็นระยะๆ

ทางหิน ที่ลำคลองงู

ทางหิน ที่ลำคลองงู เป็นช่วงครึ่งหลังของการเดินทางระยะทาง 3 กิโลเมตรสู่ถ้ำเสาหิน พ้นจากป่าไผ่ต่อจากนี้ไปจะเป็นการป่ายปีนก้อนหินล้วนๆ และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อุทยานแห่งชาติลำคลองงูเปิดให้เที่ยวได้แค่ 2 เดือน นอกจากระดับน้ำในถ้ำลดลงจนเดินเที่ยวได้แล้ว ก็ยังทำให้เส้นทางสายหินนี้มันไม่ลื่นด้วย การเดินลงตามหินไปเรื่อยๆ บางช่วงก็เจอหินใหญ่จนก้าวขาไม่ถึงก็ต้องอาศัยมืออีก 2 ข้างฉุดกระชากอะไรก็ว่าไป และเช่นเดียวกันที่เราจะต้องมาเดินตามเส้นทางเดิมนี้อีกตอนขากลับ แต่จะโหดกว่าเดินลงหลายเท่าตัว

ถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมช่วงที่หินมันก้อนใหญ่ขาหยั่งไม่ถึงพื้นไม่ทำบันไดขึ้นมา ก็ไต้คำตอบว่า ถ้าทำบันไดพาดหิน อาจจะเป็นสาเหตุให้น้ำเปลี่ยนเส้นทาง แล้วนั่นก็จะทำให้พื้นที่บริเวณนี้เปลี่ยนไป แล้วอาจจะต้องบุกเบิกเส้นทางสายใหม่ในการเดินในที่สุด

ด้วยเหตุนี้เราก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจาก ปีน ปีน ปีน... มาถึงตรงนี้ผมก็หมดน้ำไปแล้ว 1 ขวด แล้วคิดดูว่าขากลับจะกินอะไรละทีนี้ เพราะมันต้องเหนื่อยกว่าขาไปมากแน่ๆ แล้วตอนแรกจะให้ถือมาขวดเดียว ไม่รอดครับ

น้ำตกปากถ้ำเสาหิน

น้ำตกปากถ้ำเสาหิน อยากจะเรียกว่าน้ำตกลำคลองงู แต่คิดว่าชื่อมันอาจจะไม่ใช่ชื่อนี้จริงๆ เดี๋ยวจะผิด แต่เรื่องชื่อไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตอนนี้เราเดินพ้นเส้นทางมหาโหด 3 กม. มาได้แล้ว มาเจอกับน้ำตกขนาดใหญ่มาก มันใหญ่ตรงความกว้างและมีหลายชั้นติดๆ กัน มันไม้ได้ใหญ่แบบสูงๆ แต่ในกล้องมันเก็บภาพมาได้แค่ส่วนเดียวเลยอาจจะดูไม่ใหญ่เท่าไหร่ ลานหินกว้างๆ ที่มีอยู่หลายชั้น บางชั้นมันกว้างแล้วมีน้ำไหลผ่านแค่ตื้นๆ ไม่ถึงตาตุ่ม ทุกคนหาที่นั่งเหมาะๆ บนลานหินที่มีน้ำไหลผ่าตลอดเวลา (ก็ต่อจากนี้ไปยังไงมันก็ต้องเปียกอยู่แล้วนี่) บางคนก็กระโดดน้ำเล่น ถือว่าเป็นการพักผ่อน การออกเดินเป็นกลุ่มแรกของเราทิ้งห่างกลุ่มที่ 2 มาเยอะ แต่ไม่นานเท่าไหร่ คนกลุ่มที่ 2 ก็ตามมาถึง เจ้าหน้าที่บอกให้เราเดินต่อเข้าถ้ำ เพราะการที่นักท่องเที่ยวเดินมาทันกันแบบนี้จะเกิดปัญหาระหว่างการเข้าถ้ำได้ ในถ้ำกว้างใหญ่ขนาดที่มีเสาหินสูงที่สุดในโลก แน่นอนว่าคนเข้าไปเป็นร้อยมันก็มีที่ว่างพอ แต่ปัญหามันอยู่ที่กระแสน้ำ ตอนนี้เจ้าหน้าที่จะบอกยังไงเราก็ไม่เข้าใจ แต่ใจหนึ่งก็อยากเอาอาหารออกมากิน เพราะมันก็ 11 โมงเข้าไปแล้ว สรุปว่าเวลาในการเดินทางตั้งแต่นั่งรถออกจากแคมป์มาถึงที่นี่ประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นการเดินเท้า 2 ชั่วโมงกว่า แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเข้าไปถ้ำแล้วค่อยออกมากินข้าวจะดีกว่าจะได้เที่ยงพอดี เอาละว่าไงว่าตามกัน เข้าถ้ำก่อนก็ได้ เราก็ขึ้นจากน้ำที่กำลังสนุก บางคนก็เก็บกล้องหลังจากที่เก็บภาพรอบๆ บริเวณนี้เอาไว้เยอะ น้ำตกที่ไหลมาจากเขาสูงใหญ่ มันเป็นภาพที่สวยจริงๆ น่าเสียดายที่กล้องมันเก็บมาได้แค่นี้

บุกถ้ำเสาหินแห่งลำคลองงู

บุกถ้ำเสาหินแห่งลำคลองงู หลังจากที่ทุกคนเอาของที่กลัวน้ำใส่กระเป๋ากันน้ำกันหมดแล้ว เหลือเพียงแต่กล้องกันน้ำที่ถือมา 2 ตัว เราก็เดินไปตามทางที่เจ้าหน้าที่บอก เส้นทางลำบากป่ายปีนไม่ได้โม้ เราไปยืนออกันอยู่ปากถ้ำที่น้ำตกไหลออกมา ไม่น่าเชื่อเลยว่าน้ำจำนวนมหาศาลออกมาจากถ้ำแห่งนี้ ภายในถ้ำมันมืดมากมองไม่เห็นว่าน้ำไหลมาจากไหน ความมหีศจรรย์ของธรรมชาติลึกล้ำเหลือเกินบรรยายจริงๆ แต่ปากถ้ำที่เห็นมันไม่ใช่ทางเข้าไปชมเสาหิน ยังต้องไปอีกทางหนึ่งซึ่งต้องปีนป่ายกันต่ออีกประมาณ 50 เมตร

ยลโฉมถ้ำเสาหิน

ยลโฉมถ้ำเสาหิน ตอนนี้เราเข้ามาอยู่ปากทางเข้าถ้ำของจริงแล้ว คูหาแรกของถ้ำยังคงมีแสงสว่างลอดเข้ามาอยู่มาก มองเห็นความสวยงามของหินงอกหินย้อยได้ชัด เก็บภาพอะไรได้เราก็เก็บอยากให้เห็นความสวยงามกันแบบทั่วๆ เจ้าหน้าที่ก็เร่งให้เราเข้าไปในถ้ำเร็วๆ น่าเห็นใจจริงๆ ที่ต้องมานำทางช่างภาพ กลุ่มเราคงเป็นกลุ่มที่ใช้เวลามากทีเดียวกว่าจะเดินจบแต่ละ Trail

ถ้ำเสาหิน ลำคลองงู

มองเข้าไปในถ้ำที่เพื่อนๆ เราเดินตามเจ้าหน้าที่หายเข้าไปในความมืด ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าทางข้างหน้าเราจะเจอกับอะไร ก็คิดว่าเดินถ้ำทั่วไปที่มีน้ำไหลผ่านพื้นถ้ำก็เท่านั้น เจ้าหน้าที่เรียกใหญ่แล้ว ต้องไปแล้วครับ

ฝ่ากระแสน้ำลำคลองงู

ฝ่ากระแสน้ำลำคลองงู พอเดินเข้ามาในถ้ำแค่ไม่กี่ก้าว เราก็ถูกคลุมไปด้วยความมืดรอบด้าน มืดจริงๆ จนมองไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงแสงเล็กๆ จากไฟฉายที่ติดอยู่บนหน้าผากของแต่ละคน นี่ละที่เป็นเหตุผลให้เราต้องเอาไฟฉายคาดหน้าผากมา ไม่ใช่เอาไฟฉายสำหรับถือมา เพราะเวลาเข้าไปในถ้ำเสาหินหรือถ้ำนกนางแอ่น มันจะไม่มีมือว่างมาถือไฟฉาย เราเจอกับสายน้ำที่ไหลทะลุถ้ำ มันไม่ใช่แค่น้ำที่นองๆ อยู่ตามพื้นหรือว่าลึกแค่หัวเข่า แต่มันท่วมหัวเลยแล้วก็เชี่ยวมากด้วย ขนาดว่าเราเดินทางมาถึงที่นี่ปลายเดือนเมษายน ปีนี้ข่าวก็ว่าน้ำแล้งหลายพื้นที่หลายจังหวัด น้ำในเขื่อนศรีนครินทร์ก็ลดลงไปมากจนเมืองบาดาลโผล่ขึ้นมาเห็นได้ชัดลงไปเดินเล่นได้ด้วยซ้ำ แต่น้ำในถ้ำเสาหินที่ลำคลองงูมันไม่ได้เป็นแบบนั้น มันยังคงมีอยู่มากและเชี่ยวกราก การที่จะผ่านกระแสน้ำแต่ละจุดในถ้ำนี้ไปได้ต้องทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เจ้าหน้าที่จะบอกไลน์ให้เราไป อย่างช่วงไหนต้องไปทางขวาก็ต้องไปทางขวา ช่วงไหนต้องโผไปเกาะหินทางซ้ายก็ต้องซ้าย ภาพนี้เป็นเพียงไม่กี่ภาพที่เราเก็บจากถ้ำออกมาให้ดูได้ แต่ก็เห็นความุลักทุเลของการเดินทางได้ดีทีเดียว ผมก็เอากล้องมาเปิดโหมดวิดีโอ เก็บภาพท่ามกลางความมืดมาได้นิดหน่อย เอาเป็นว่าฟังเสียงเอาก็แล้วกันครับ

ถ้ำเสาหิน ลำคลองงู

หินสวยในลำคลองงู

หินสวยในลำคลองงู ระหว่างที่เราต้องเดินบ้างสลับกับการว่ายน้ำบ้างอยู่ในถ้ำที่มองไม่เห็น บางช่วงของการเดินไฟฉายมันก็ไปส่องโดนเอาหินลายสวยๆ ในถ้ำ คงเป็นเพราะกระแสน้ำที่ไหลผ่านที่นี่มาหลายปี จนเกิดเป็นลวดลายบนผิวหิน ดูสวยงาม

อยากให้ดูภาพบนขวาให้ชัดๆ ว่ามันเหมือนอะไร ภาพที่เห็นเป็นหินเล็กๆ สีขาวเรียงแถวกัน เหมือนฟันของคน ก็ได้ชื่อว่าหินฟัน เป็นฟอสซิลที่หลงเหลืออยู่ถ้ำ พอเราก้าวมาถึงตรงนี้เจ้าหน้าที่ชี้ให้ดู ผมมองลงไปตามที่เค้าชี้ เห็นฟันเรียงกันจริง แต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นหินที่อยู่ติดกับหินฟัน แลดูคล้ายหัวกะโหลกมนุษย์อย่างไม่น่าเชื่อ แว่บแรกที่แสงไฟมันไปโดนหินที่อยู่ใต้เท้าเราเอง ทำเอาตกใจเหมือนกันครับ แต่พอดูดีๆ แล้วมันไม่เกี่ยวกันเลยมันเป็นหินคนละก้อนแต่บังเอิญมารวมกันอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะพอเจาะซะจริงๆ ยิ่งอยู่ในซอกลึกลงไปเหมือนเป็นโลงศพด้วยอีก บรึยส์..

เสาหินเล็ก

เสาหินเล็ก ก่อนที่เราจะไปถึงเสาหินปูนสูงที่สุดในโลก ระหว่างทางก็มีหินงอกหินย้อยสวยๆ มากมาย เสียแต่ว่ามันซ่อนอยู่ในความมืด เราได้แต่เดินผ่านโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากว่าเราเตรียมไฟไปเยอะๆ คงจะได้เห็นความสวยงามที่ซ่อนอยู่ได้มากกว่านี้

เสาหินสูงที่สุดในโลก ลำคลองงู

เสาหินสูงที่สุดในโลก ลำคลองงู หลังจากที่เดินฝ่าความมืดและว่ายน้ำทวนกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เวลาที่ใช้ไปเท่าไหร่ก็ยากจะกะเกณฑ์ได้ แต่ในที่สุดเราก็มาถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทางพิชิตเสาหินที่สูงที่สุดในโลก แห่งลำคลองงูแล้ว เสาหินปูนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอายุอานามก็ยากที่จะคาดเดา อาจจะใช้เวลากว่าพันๆ ปี เสาหินนี้สูง 62.5 เมตร เมื่อเดินมาถึงแล้วได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่บอกว่าให้เวลาพัก 10 นาที หลังจากนั้นเราต้องกลับออกไป แหม สมาชิกทุกคนคัดค้าน ก็เดินกันมาตั้ง 3 ชั่วโมง ลุยป่าลุยเขาลุยน้ำ มาถึงแล้วให้เวลา 10 นาทีได้ยังไง

ผมเอากล้องออกมาจากถุงกันน้ำ กางขาตั้งกล้องเตรียมพร้อม แต่มาเห็นว่าในถุงกันน้ำที่มีถุงซิปอยู่อีกชั้น มีน้ำขังอยู่ข้างใน เป็นอย่างที่เพื่อนๆ บอกไว้ว่าหลายคนที่พยายามจะเอากล้องเข้ามาถ่ายรูปเสาหินต้นนี้ พอเปิดถุงกันน้ำออกมาก็เห็นน้ำอยู่ในถุงหลายคน สิ่งที่ต้องทำคือต้องเอาแบตเตอรี่ออกจากกล้อง พยายามหาผ้าแห้งเช็ดแล้วก็เก็บ นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ผมทำได้ในถ้ำเสาหิน ก่อนจะออกเดินทางก็มีน้องถามเหมือนกันว่าจะเอากล้องมาด้วยดีหรือเปล่า มันเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก เพราะถ้าระวังรักษาดีและใช้ถุงกันน้ำขนาดพอเหมาะเหตุการณ์นี้ก็คงจะไม่เกิด เพื่อนๆ ที่ใช้ถุงกันน้ำขนาด 10 L ขึ้นไปไม่มีใครน้ำเข้า แต่ก็ต้องป้องกันด้วยถุงซิปชั้นในอีกชั้น จึงจะมั่นใจ แต่ของผมเป็นถุงขนาด 5 L น้ำก็เลยซึมเข้าได้ ส่วนที่ว่าน้ำซึมเข้าถุงซิปได้ไงนั้นก็น่าจะเป็นเพราะว่าผมลืมไล่อากาศออกจากถุง เป็นอันว่านี่ก็เป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับคนที่จะเอากล้องไปเที่ยวตามสถานที่ที่มีน้ำหรือต้องลงน้ำ ไม่งั้นกล้องเจ๊งไม่รู้ด้วยนะ ภาพนี้จึงได้มาด้วยการยืมกล้องเพื่อนถ่าย T_T

น้ำใสไหลเย็นปากถ้ำเสาหิน

น้ำใสไหลเย็นปากถ้ำเสาหิน แล้วตอนนี้เราทุกคนก็ออกมาจากถ้ำเสาหินอย่างปลอดภัย การเดินทางออกมาไม่เหมือนกับตอนเข้าไป เพราะตอนเข้าเราว่ายทวนน้ำเกาะผนังถ้ำไป ขากลับเราปล่อยให้กระแสน้ำพาเราออกมาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เราออกมาอยู่ปากถ้ำเห็นแสงรำไร ไม่เจิดจ้าเหมือนกับตอนที่เข้าไป น่าจะเหมาะกับการถ่ายรูปน้ำตกปากถ้ำ ก็เลยเก็บมาอีก 2 - 3 ภาพ ก่อนที่จะเดินไปที่จุดพักกินข้าวเที่ยง

สุดเสียวแห่งลำคลองงู

สุดเสียวแห่งลำคลองงู อีกเรื่องหนึ่งที่โจษขานกันมาแสนนานกับการเที่ยวถ้ำเสาหิน อุทยานแห่งชาติลำคลองงู คือการที่ทุกคนต้องกระโดดน้ำตก ความสูงราวๆ 6 เมตร สร้างความหวาดเสียวให้ทุกคนก่อนกระโดดได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะสาวๆ ในกลุ่ม กว่าจะกระโดดลงได้มันยึกๆ ยักๆ จั่งซี่มันต้องถอน อะไรทำนองนั้น น้ำตกแห่งนี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องกระโดดทุกคนและไม่มีทางอื่น ก็ตอนเราเดินเข้าถ้ำเราไปยังไงเราก็กลับยังงั้นแหละ แต่ทุกคนในกลุ่มเลือกที่จะกระโดดแม้ว่าจะทำใจกันอยู่นานก็ตาม เป็นเพราะว่า ที่ลำคลองงูยังมีจุดที่ต้องกระโดดน้ำอีกหลายจุดในเส้นทางถ้ำนกนางแอ่น ที่ผมจะเขียนรีวิวไว้อีกหน้าเป็น Trail 2 เพราะว่าถ้าเอามาเขียนรวมกันละก็ขนาดไฟล์รูปมันก็จะใหญ่จนโหลดช้าเกินไป

การที่เจ้าหน้าที่บอกให้เราพยายามกระโดดจุดนี้ให้ได้ อย่าไปเดินย้อนทางเก่าออกไป ก็เพราะว่าวันที่ 2 จะต้องมีจุดที่เลี่ยงไม่ได้อยู่ ถ้ากระโดดวันแรกไม่ได้ วันที่ 2 จะยิ่งเสียวกว่านี้อีก

กระโดดน้ำลำคลองงู

กระโดดน้ำลำคลองงู ภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายโดยสมาชิกอีกคนในกลุ่มที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ดูจากรูปนี้มันไม่สูงเท่าไหร่ใช่มั้ยละ แต่ถ้าใครได้ไปยืนตรงนั้นจริงๆ ละก็ ต้องมีหวั่นๆ บ้างแหละ เพื่อนๆ ทุกคนกระโดดจนหมดผมถ่ายรูปและวิดีโอเอาไว้ พอถึงคิวตัวเองกระโดดบ้างก็กระโดดพร้อมกับเปิดกล้องถ่ายวิดีโอไว้ด้วย พอตัวเราจมลงไปในน้ำ สายคล้องคอของกล้องก็คงจะหลุด แล้วผมก็โผล่ขึ้นมาแต่กล้องอยู่ใต้น้ำ ยังดีที่พี่สุชาติ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ช่วยงมเอากล้องขึ้นมาได้ในอีกวันต่อมา พี่แกยังเล่าด้วยว่านักท่องเที่ยวมาทำกล้องจมอยู่ตรงนี้กันประจำเพราะสายคล้องคอนี่เอง ทั้งๆ ที่ผมก็จับกล้องไว้ตลอดเวลาตอนกระโดด แต่ไม่รู้ว่าไปเผลอปล่อยมือเอาตอนไหน แต่เอาเหอะยังไงก็ได้กล้องคืนแล้วก็ได้ภาพมาเยอะอย่างที่เห็น ไม่งั้นเรียกว่าซวย 2 ชั้น กล้อง SLR ก็พัง ยังมากล้องคอมแพคจมอีก

ทุ่งหญ้ายามเย็น

ทุ่งหญ้ายามเย็น เป็นภาพที่เพื่อนๆ ถ่ายครับ กล้องผมใช้การไม่ได้ทั้ง 2 ตัว (กล้องตัวหนึ่งน้ำเข้า ตัวหนึ่งยังจมอยู่ในน้ำ) หลังจากที่เรากินข้าวที่น้ำตกปากถ้ำเสาหิน เราก็เดินทางกลับผ่านด่านหินยาว 1 กิโลเมตร ต่อด้วยป่าไผ่สนุกกันไปเลยทีเดียว เราใช้เวลาเดินมากกว่าตอนขาไปประมาณครึ่งชั่วโมง อาศัยว่าหยุดพักบ่อยๆ แล้วค่อยเดิน ชมนกชมไม้ เห็นกล้วยไม้อยู่บนยอดไม้สูงลิบ ดอกไม้ป่าอีกมากที่เราไม่เห็นตอนขาไปเพราะขาไปมันเดินสบาย พอขากลับมันเดินได้แต่แบบช้าๆ เก็บรายละเอียดตามทางได้เยอะทีเดียว

พอพ้นป่า รถก็พาเรากลับมาที่แคมป์ สิ่งที่เราทุกคนต้องการมากที่สุดในเวลานี้ก็คือน้ำเย็นๆ ของหวาน ข้าว ฯลฯ ออกจากป่าบ่าย 3 โมงครึ่ง นั่งรถเข้าหมู่บ้านพอถึงร้านค้าทุกคนก็กระโดดลงจากรถแล้วพุ่งเข้าไปเหมือนว่าจะปล้น พอได้น้ำแล้วก็ไอติม ทุกคนก็ดูเหมือนจะสงบลง พอถึงแคมป์เราก็รีบอาบน้ำ ลานกางเต็นท์ของเราอยู่ในสุด (ห่างจากศูนย์บริการมากที่สุด) มีแต่พวกเราที่กางเต็นท์ที่ลานนี้ คนไม่ค่อยมีห้องน้ำสะดวกสบาย แต่เผลอแป๊บเดียวคนมาจากไหนก็ไม่รู้มาเข้าห้องน้ำที่ลานของเรา สุดท้ายพวกเราก็มีหลายคนที่ต้องรออาบน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ไม่เป็นไร กิจกรรมหลังจากนี้มันก็แค่กินข้าวแล้วเข้านอน

พระอาทิตย์ตกที่ลำคลองงู

พระอาทิตย์ตกที่ลำคลองงู

ลูกยาง

ลูกยาง

ปิดท้าย

ปิดท้าย ภาพสุดท้ายของวันแรกของการเดินทาง พระอาทิตย์เคลื่อนลับหายไปอย่างช้าๆ เราก็ถ่ายรูปบ้างกินข้าวบ้างคุยกันเรื่อยเปื่อย อาหารมื้อเย็นมีกับข้าวหลายอย่าง อร่อยด้วย ผิดกับมื้อเช้าที่เป็นข้าวผัด มื้อเที่ยงข้าวราดแกงหน่อไม้ สำหรับเรื่องราคา 400 บาท / 5 มื้อ รู้สึกว่าจะแพงไปหน่อย ถ้าไม่ได้มื้อเย็นปิดท้ายสวยๆ เหมือนที่เราได้ในวันนี้ก็คงต้องหักคะแนนความประทับใจในการเที่ยวลำคลองงูไปเยอะทีเดียว

ติดตามการผจญภัย Trail 2 ถ้ำนกนางแอ่น + ถ้ำเอเลี่ยน

รีวิว ถ้ำเสาหิน ลำคลองงู กาญจนบุรี


 "สุดยอดมั่กๆ.....ตอนแรก search หาที่เที่ยวกาญ...เห็นถ้ำเสาหินแล้วอยากจะไป...พอ search ละเอียดและเจอรีวิวนี้...ก็สรุปได้ว่า...ยายถอยก่อนละวุ๊ย....ถอยอายุไปที่ 40 ยายสู้อยู่...555....แค่อ่านรีวิวนี้ก็มีความสุขละ...ขอบคุณมากจ่ะ...
"

Yawamast Liptaseeree
2019-04-01 10:18:57


5/5 จาก 1 รีวิว

10 ที่พัก/โรงแรมใกล้ ถ้ำเสาหิน ลำคลองงู กาญจนบุรี
ชิงเคว่ เทอเร่ รีสอร์ท เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  26.86 km | แผนที่ | เส้นทาง
RuenkruThai Bungalow เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  29.35 km | แผนที่ | เส้นทาง
ทองผาภูมิ วัลเลย์ รีสอร์ต
  29.91 km | แผนที่ | เส้นทาง
ทองผาภูมิเพลส เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  32.78 km | แผนที่ | เส้นทาง
บ้านริมดอย รีสอร์ท เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  32.99 km | แผนที่ | เส้นทาง
ภูไพร ธารน้ำ รีสอร์ท เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  33.66 km | แผนที่ | เส้นทาง
ทองผาภูมิ ริเวอร์ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  33.90 km | แผนที่ | เส้นทาง
เเพวี.ไอ.พี. ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
  38.04 km | แผนที่ | เส้นทาง
Rabiengdao Garden Homestay เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  38.36 km | แผนที่ | เส้นทาง
ภูไอยรา รีสอร์ท เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  46.82 km | แผนที่ | เส้นทาง
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ถ้ำเสาหิน ลำคลองงู กาญจนบุรี
ถ้ำนกนางแอ่น ลำคลองงู กาญจนบุรี
  0.01 km | แผนที่ | เส้นทาง
น้ำตกทุ่งนางครวญ กาญจนบุรี
  3.39 km | แผนที่ | เส้นทาง
อุทยานแห่งชาติลำคลองงู กาญจนบุรี
  10.18 km | แผนที่ | เส้นทาง
วัดทิพุเยโกวิทยาราม
  10.86 km | แผนที่ | เส้นทาง
กรีนพุเย
  11.22 km | แผนที่ | เส้นทาง
สวนป่าเกริงกระเวีย กาญจนบุรี
  16.86 km | แผนที่ | เส้นทาง
น้ำตกเกริงกระเวีย กาญจนบุรี
  21.73 km | แผนที่ | เส้นทาง
น้ำตกไดช่องถ่อง กาญจนบุรี
  22.94 km | แผนที่ | เส้นทาง
เขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม) กาญจนบุรี
  29.94 km | แผนที่ | เส้นทาง
อุทยานแห่งชาติเขาแหลม กาญจนบุรี
  31.39 km | แผนที่ | เส้นทาง

*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ

Line id: @touronthai (ใส่ @)
www.touronthai.com