เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)

 เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) อยู่ในบริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 90 กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ และสวนสวยงาม ภูเขาหินปูนที่อยู่ในเขื่อนมีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน ในบริเวณเขื่อนรัชชประภาจะมีที่พักของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกไว้บริการนักท่องเที่ยว ได้แก่

    หน่วยอุทยาน ขส.2 มีบ้านพัก 2 หลัง พักได้ 30 คน

    แพพักที่หน่วยฯ นางไพร มี 6 หลัง พักได้ 50 คน

    แพพักที่หน่วยฯ โตนเตย มี 7 หลัง พักได้ 10-18 คน

    แพพักที่หน่วยฯ ไกรสร มี 10 หลัง

    ราคาที่พักรวมค่าอาหารคนละ 500 บาท โดยขึ้นเรือที่ท่าริมแก่ง ค่าเช่าเรือหางยาวสำหรับเดินทางไปยังแพต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกล แพนางไพร ราคา 1,200 บาท แพโตนเตยและแพไกรสรราคา 1,700 บาท ผู้ที่ประสงค์จะไปพักควรติดต่อที่พักล่วงหน้า โทร. 0 7729 9318-9

    นอกจากนั้นแพต่าง ๆ ยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ที่หน่วยพิทักษ์นางไพร โดนเตย และไกรสร มีเรือแคนูให้เช่า ราคา 200 บาท/วัน โดยเฉพาะที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส. 4 (โตนเตย) จะมีถ้ำให้นักท่องเที่ยวได้ผจญภัยตื่นเต้น คือ ถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ 6 กิโลเมตร โดยทางเท้า เป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหล มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม การเดินเที่ยวถ้ำค่อนข้างลำบากจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางสำหรับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ก็มีที่พักและกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจบริการนักท่องเที่ยว เช่น สนามกอล์ฟมาตรฐาน 8 หลุม นั่งเรือชมบรรยากาศของทะเลสาบเหนือเขื่อน

    สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 7724 0740-5 สำหรับบ้านพักมีบริการนักท่องเที่ยว จำนวน 111 ห้อง ราคา 200-500 บาท/คืน สอบถามรายละเอียด โทร. 0 7724 0740-5 ต่อ 5008 ในวันและเวลาราชการ

    การเดินทาง จากอำเภอเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 401 แยกเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส.2 (เชี่ยวหลาน) ตรงหลักกิโลเมตรที่ 60 ระยะทาง 14 กิโลเมตร

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 0 7724 0740-5

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ท่าเรือเขื่อนรัชชประภา ถึงแล้ว เขื่อนรัชชประภาหรือ เรียกชื่อเดิมว่าเขื่อนเชี่ยวหลาน การมาเที่ยวที่นี่ถ้าใครติดตามเรามาตลอดจะรู้ว่าเรามาหลายครั้งมาก แต่ละครั้งก็มาแบบต่างโปรแกรม เพื่อให้เกิดความหลากหลาย มีทั้งมาเที่ยวแบบไม่ค้าง มาค้างคืนเดียวที่แพกลางเขื่อน มาค้างหลายคืนที่สุดเขื่อนที่เรียกกันว่า คลองแสง ก็เพิ่งมากันหยกๆ คราวนี้มาอีกแล้ว แบบคืนเดียว เลยมาอัพเดตกันหน่อย 

    มาเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานถ้าไม่ค้างก็แล้วไป แต่ถ้าจะค้างที่แพไหนก็แล้วแต่ก็ต้องมาที่ท่าเรือตรงนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของเรา ก่อนจะมาได้ต้องทำการจองแพให้เรียบร้อยก่อน แพแต่ละเจ้ามีเงื่อนไขการจองต่างกันต้องคุยกันให้ละเอียด ปกติคิดเป็นรายหัว ถ้ามาน้อยก็อาจจะได้นอนรวมกับกลุ่มอื่น นอกจากจะเหมาหลัง แต่ละหลังอย่างที่แพคีรีธาราที่เราไปพักนี่สร้างเป็น 2 ชั้นนอนได้ถึง 8 คน จะให้ดีมากันประมาณ 6-8 คนนี่แหละเหมาหลังไปเลย เมื่อจองแพได้แล้วก็เดินทางมาที่นี่จะมาเครื่องมารถแล้วหาที่ฝากก็ตามสะดวก ทีนี้ก็ลงเรือกัน

    ทุกวันนี้เขื่อนแห่งนี้คนรู้จักกันเยอะกว่าเมื่อก่อนมากๆๆๆ ขนาดวันธรรมดาคนก็มาเที่ยวกันตรึมอย่างที่เห็นนี่แหละ

เขาสามเกลอ เป็นจุดแวะถ่ายรูปจุดหลักของเขื่อนตามโปรแกรมที่เราซื้อไม่ว่าจะซื้อผ่านทัวร์หรือซื้อแพคเกจจากแพที่เราพัก ส่วนใหญ่ต้องมีการแวะที่นี่เพราะเป็นไฮไลท์ของเขื่อนรัชชประภา ถ่ายรูปมาแล้วรู้เลยว่าที่ไหน ราคาแพส่วนใหญ่ที่คิดเป็นรายหัวจะเฉลี่ยเอาค่าเรือนำเที่ยวเอาไว้หมดแล้ว เราเลยรู้สึกว่ามันแพง แต่ถ้านั่งเรือเที่ยวอย่างเดียวไม่ค้างคืน ค่าเรือก็หลายพันต่อลำนะ ลองโทรมาสอบถามที่อุทยานดูเพราะถ้าจะบรรยายเป็นข้อๆ คงจะยาว อย่างที่เรามาเที่ยวคีรีธาราคิด 2 พันกว่าบาท รวมอาหาร เย็น เช้า แพ และเรือนำเที่ยว 1 รอบ บริเวณกุ้ยหลินเมืองไทยตอนเช้าๆ

ชมวิวเขาสามเกลอแล้วก็เดินทางกันต่อไปที่แพ จากท่าเรือไปที่แพที่เราพักใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทริปนี้เรามาซะเย็นเลย แต่ถึงแม้ว่าเราจะมาถึงเขื่อนตอนกลางคืน ก็ยังคงมีเรือบริการพาเราไปที่แพได้นะ แต่ต้องคุยกันให้ดีนัดเวลาให้แม่น

แพคีรีธารา ที่พักของเราสำหรับทริปนี้ (มากี่ทีไม่เคยซ้ำแพเลยเพื่อจะได้มีความหลากหลายมาให้ดูกัน)  แพนี้ก็คล้ายๆ กับแพอื่นๆ แต่ละหลังนอนได้หลายคน อย่าลืมว่าเค้าคิดเป็นหัว ถ้ามากันน้อยอาจจะต้องจ่ายแพเพื่อเหมาแพทั้งหลัง เรามา 8 คนพอดี นอนหลังที่มี 2 ชั้น ชั้นละ 4 คน เป๊ะเลย แพที่นี่สร้างเป็นแถวรูปตัว S หรือเลข 5 ในนาฬิกาดิจิตอล เราอยู่ตรงกลาง เลยถ่ายรูปได้ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก (ดีเหมือนกันนะ แพอื่นวิวก็คงต่างกันไปแต่เราว่าแพนี้ใช้ได้เลยสำหรับคนชอบดูวิว)

แพคีรีธารา แพคีรีธารา เป็นเจ้าของเดียวกันกับแพ คีรีวาริน ทำเลต่างกันวิวอาจจะต่างกันนิดหน่อย สนใจสอบถามได้ที่ โทร. 077-389-545,077-389-554,077-389-550

แพที่มี 2 ชั้น ชั้นล่างจะมีพื้นเป็นกระจกช่องใหญ่ให้เราเห็นปลาแหวกว่ายอยู่ในน้ำที่ใสมากๆ ส่วนชั้นบนเป็นคล้ายห้องใต้หลังคา แคบกว่าหน่อยแต่เวลาพระอาทิตย์ขึ้นมันเห็นสวยกว่าชั้นล่าง ระบบห้องน้ำการจัดเก็บของเสียต่างๆ ได้มาตรฐานตามที่อุทยานกำหนดพักได้อย่างสบายใจ

ถึงเราจะมาถึงแพช่วงเย็นมากๆ แต่ทุกคนก็ยังอยากลงไปเล่นน้ำ เพราะว่าถ้ามาเขื่อนเชี่ยวหลานแล้วไม่เล่นน้ำก็ไม่รู้จะมาทำไม เค้าว่ากันอย่างนั้นนะ แพคีรีธารามีข้อดีอยู่ตรงมีต้นไม้ยืนต้นตายเพราะน้ำท่วมอยู่ใกล้ๆ กับแพ เลยกลายเป็นจุดกระโดดน้ำเล่นอย่างสนุกสนานของคนที่มาพักที่นี่ไปด้วยในตัว

ในที่สุดแสงสุดท้ายของวันนี้ก็ลับหายไป บรรยากาศของกลางวันที่สดใสก็กลายเป็นกลางคืนได้เวลาไปกินข้าวเย็นกันแล้ว อาหารมื้อค่ำเป็นอาหารเรียบง่ายแต่ก็มีปลาทอด แกงเหลือง น้ำพริกกับผักสด ยืนพื้นตามสไตล์อาหารแดนใต้ มีอาหารบางชนิดเติมได้ ส่วนบางอย่างจะมีจำนวนจำกัดอย่างปลาทอดตัวใหญ่ๆ จะได้มา ตัวเดียว 

แพคีรีธารา กับสายหมอกในยามเช้า พระอาทิตย์ขึ้นด้านที่มีเขาสูงเลยเห็นพระอาทิตย์ช้า แต่ด้านตะวันตกจะเห็นสายหมอกระเรื่อบนยอดเขา เป็นบรรยากาศที่สุดยอดจะบรรยาย

สายแล้ว เรือที่จะพาเราออกไปเที่ยวรอบกุ้ยหลินกำลังจะมารับ พระอาทิตย์ขึ้นสูงพ้นยอดเขา แต่ก็มีเมฆมากมายมาบัง ถึงจะไม่เห็นดวงอาทิตย์กลมๆ ตอนเช้า แต่ภาพที่เราเห็นวันนี้ก็สวยไม่แพ้กัน

ทุกๆ คนไม่ว่าจะมากลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ก็จะมีเรือที่เราซื้อแพคเกจเอาไว้มารับเราออกไปชมกุ้ยหลินกลางสายหมอก ทุกคนแฮปปี้มากกับบรรยากาศที่ได้เห็น

เขื่อนรัชชประภา

เขื่อนเชี่ยวหลาน

วิวสวยๆ

นกเงือก ในฤดูฝนเมฆหมอกมากจนบังภูเขาไปซะเยอะ หลายคนอยากจะมาหน้าอื่นวิวจะได้สวย แต่สิ่งที่เราได้เห็นในต้นฤดูฝนก็คือนกเงือก มีนกเงือก 3 ชนิดเริ่มออกจากป่ามาหากินในช่วงนี้ เราจะได้เห็นนกเงือกใกล้มากและมีจำนวนเยอะมากๆ จนไม่อยากจะเชื่อว่าวันนี้เราจะได้เห็นฝูงนกเงือกประมาณ 40 ตัวบินไปบินมาระหว่างเกาะเล็กเกาะน้อยเพื่อหากิน

นกเงือก

แพ 500 ไร่ เป็นแพชื่อดังของเขื่อนรัชชประภา มีคนอยากจะมาพักกันเยอะมาก และราคาก็แพงมาก ถ้าถามว่ามีความแตกต่างกับแพอื่นยังไง ตอนนี้เรายังบอกไม่ได้เพราะยังไม่เคยเข้าไปสัมผัส แพคีรีธาราที่เราพักก็อยู่ไม่ไกลจากแพ 500 ไร่ เท่าไหร่หลังจากชมวิวถ่ายนกเงือกกันจนสายแล้วเลยแวะเข้ามาดูซะหน่อย

หลังจากกลับมาจากชมวิว ชมนก ชมไม้ ทุกคนยังมีเวลาหลังอาหารเช้าที่จะพายเรือ เล่นน้ำต่อได้อีกหน่อย ก่อนที่จะต้องเช็คเอาท์ออกจากแพแล้วเดินทางกลับ

แพคีรีธารา

กุ้ยหลิน เป็นสมญานามของยอดเขาหลายยอดที่โผล่พ้นน้ำหลังจากการสร้างเขื่อนขึ้นมา ส่วนมากเป็นเขาหินปูน เราเรียกกันว่ากุ้ยหลินเมืองไทย ที่ใครหลายๆ คนอยากจะมาสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติของทะเลน้ำจืดที่กว้างและใสจนเป็นสีเขียว

ถ้ำปะการัง เป็นถ้ำที่อยู่กลางเขื่อนจากแพที่พักจะมีเรือบริการเที่ยวถ้ำด้วยในกรณีที่อยู่ต่ออีก 1 คืนถึงจะไปได้ เพราะการเดินป่าชมถ้ำปะการังต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยมากคุ้มกับความเหนื่อยที่เดินไปเลยละ

ถ้ำปะการัง หินงอกหินย้อยบางส่วนในถ้ำปะการังมีแร่ธาตุชนิดเดียวกันกับถ้ำแก้วโกมลที่แม่ฮ่องสอน เลยมีลักษณะเหมือนผลึกสีขาวที่สวยงาม

ลาก่อนเขื่อนเชี่ยวหลาน ในที่สุดเวลาของการพักผ่อนก็หมดลง เราต้องเก็บของเดินทางออกจากแพ และคนที่เพิ่งมาถึงก็จะเดินทางสวนกับพวกเราเข้าไป ไม่ว่าจะมาเสาร์-อาทิตย์ หรือวันธรรมดา คนก็เยอะเหมือนๆ กัน ต้องยอมรับว่าเขื่อนแห่งนี้เป็นที่เที่ยวยอดนิยมของคนไทยและคนต่างชาติมากจริงๆ ถึงแม้ว่าที่จีนมีกุ้ยหลินที่ยิ่งใหญ่อลังการ แต่ชาวจีนจำนวนไม่น้อยก็เลือกที่จะมาเที่ยวที่บ้านเรา

และท้ายสุดของสุดท้าย การจะได้ชื่อว่าเป็นผู้มาเขื่อนเชี่ยวหลานแล้ว จำจะต้องมีภาพบนสันเขื่อน ออกจากท่าเรือขับรถมาอีก 3 กิโลเมตรโดยประมาณ ก่อนที่จะออกจากบริเวณเขื่อน สมควรยิ่งที่จะมาแวะถ่ายรูปที่ระลึกกันที่นี่ ไม่งั้นจะเสียดายแย่ สันเขื่อนรัชชประภามีลักษณะเหมือนเครื่องบิน มีปีก 2 ข้าง ถ้ามาตอนเช้าๆ โอกาสจะได้เห็นหมอกล่องลอยปกคลุมสันเขื่อนก็จะมีมาก และจะได้ภาพสวยประทับใจกลับบ้านอีกหลายภาพเลย

สีสันรัชชประภา ปิดท้ายเรื่องนี้ด้วยภาพสาวๆ สีโดนใจมาเป็นแก็งค์ พอดีเจอกันตอนที่เราขึ้นมาลานจอดรถ เห็นแล้วอยากกลับไปถ่ายรูปให้ที่แพจริงๆ ครับ

ท้ายนี้ ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคใต้ และสำนักงานสุราษฎร์ธานี มา ณ โอกาสนี้ครับ