ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานสุราษฎร์ธานี 0 7728 8818-9
http://www.tourismthailand.org/suratthani
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
เริ่มต้นเดินทางสู่หินพัด เราต้องมาขึ้นรถกระบะของชาวบ้าน การเดินทางมาที่นี่ใช้เส้นทางเดียวกันกับทางไปเขื่อนเชี่ยวหลานเลย แต่อำเภอคีรีรัฐนิคม คนรู้จักน้อยที่เที่ยวมีน้อยที่พักเลยหาไม่ได้ แต่ถ้าวันไหนมาเที่ยวทางเขื่อนเชี่ยวหลาน ลองแบ่งเวลามาแวะที่นี่สักครั้งรับรองว่าคุ้ม โทรหารถแล้วนัดพบกันตามจุดที่รถบอก จากปากทางนี้ปกติขับรถเราเองเข้าไปได้อีกประมาณ 2 กิโลเมตรแล้วค่อยเปลี่ยนรถ แต่ช่วงสำรวจเส้นทางแรกๆ ชาวบ้านจะมารับถึงปากทาง สำหรับค่าบริการ เที่ยวละ 300 บาทเป็นกระบะมีแคป นั่งได้ 10 คน ติดต่อรถที่พี่วิชิต โทร 081 085 9843
เส้นทางสู่หินพัด ระยะครึ่งทางช่วงแรกเป็นทางราดยาง ต่อจากนั้นเส้นทางขึ้นเขายังเป็นทางดินและชันมาก เป็นเหตุผลที่เราต้องใช้บริการรถกระบะของชาวบ้าน แต่ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว
ลงจากรถเดินเข้าไปทางสวนยางเรื่อยๆ 300 เมตร ใกล้ๆ สบายๆ
หินพัด และนี่แหละที่เรียกกันว่าหินพัดหรือหินตั้ง แรกๆ ที่เราเดินมาถึงจะมองเห็นมุมนี้แค่นี้ก็ว่าประหลาดแล้วที่มันสามารถตั้งอยู่ได้ เพราะด้านบนกว้างใหญ่กว่าส่วนฐานเยอะเลย
ผาหินรูปร่างคล้ายคน เดินสำรวจรอบๆ หินพัด เวลามองในแต่ละมุมต่างกันก็จะเห็นเป็นรูปร่างที่ไม่เหมือนกัน จากด้านข้างของผาหินเราจะเห็นหินพัดเป็นเหมือนหัวคน มีส่วนตัวและหน้าอกเหมือนผู้หญิง พ้นจากผาหินไปแล้วก็จะเป็นวิวกว้างมองได้ไกลสุดสายตาเป็นจุดชมวิวที่สวยมากแห่งหนึ่งของสุราษฎร์ธานีเลยก็ว่าได้ ในภาพนี้เราหันหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ถ้าเกิดมาจุดนี้ตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะได้เห็นภาพที่สวยมากแน่ๆ เลย แล้วถ้าวันไหนมีทะเลหมอกเกิดขึ้น ที่นี่จะสวยอย่าบอกใครทีเดียว คราวหน้าคงได้กลับมาที่นี่อีกเพื่อถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นนี่แหละ
หินพัดในมุมต่างๆ เหตุที่หินพัดมีหลายชื่อหรือหลายคนเห็นเป็นรูปร่างไม่เหมือนกันคงเพราะมองกันคนละมุม ภาพซ้ายเหมือนใบเรือ ภาพกลางเหมือนหัวใจตะแคง ส่วนภาพขวาคนบอกว่าเหมือนพัด แล้วแต่จินตนาการกันไป
วิวสวยๆ จากหินพัด นอกเหนือจากการมาชมหินรูปร่างประหลาดมหัศจรรย์แล้ว ที่นี่ยังนับว่าเป็นจุดชมวิวกลางขุนเขา ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากอีกด้วย
รอยแยกรอบฐานหิน เป็นสิ่งน่าอัศจรรย์จริงๆ ไม่ว่ามองจากด้านไหน หินก้อนใหญ่ข้างบนก็ไม่ได้เชื่อมต่อเป็นก้อนเดียวกันกับหน้าผาข้างล่าง ไม่รู้ว่ามาอยู่ในท่านี้ได้ยังไง น่าจะล้มหล่นลงไปแต่ก็ไม่ล้ม ตั้งอยู่จนทุกวันนี้ ชาวบ้านที่เชื่อถือศรัทธาก็เอาธูปเทียนมาจุด เอาเหรียญโยนไปที่ฐานที่เป็นรอยแยก ว่ากันว่ามาขอพรด้านหน้าที่การงาน โชคลาภ ประสบผลกันไปหลายราย
หินพัด ขนาดของหินที่สูง 6 เมตรโดยประมาณ เทียบกับตัวคนดูสิครับ
ลูบหินพัด พอไกด์เล่าเรื่องของความศรัทธาของชาวบ้านในละแวกนี้ว่าถ้าได้ลูบหินพัดเอาเหรียญโยนไปที่ฐานของหิน แล้วขอพรจะสำเร็จสมปรารถนา ว่าแล้วพวกเราก็เดินเข้าไปลูบหินกันใหญ่
หินพัด สุดท้ายแล้ว เราก็ได้เวลาที่จะเดินทางต่อไป เก็บความทรงจำดีๆ ณ จุดชมวิวสวยๆ และหินที่น่าประหลาดก้อนนี้ไว้ เป็นส่วนหนึ่งของบันทึกนักเดินทางอย่างเราๆ แล้วพบกันใหม่...
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสุราษฎร์ธานี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคใต้ มา ณ โอกาสนี้ครับ
"ภาพโดย Charoen Pattarapitak"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-02-16 11:24:49
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ