ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานหาดใหญ่ 0 7423 1055, 0 7423 1055, 0 7423 8518
http://www.tourismthailand.org/hatyai
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
หน้าวัดถ้ำสุมะโน ขับรถมาทางถนนเพชรเกษม จากเมืองพัทลุงมุ่งหน้าจังหวัดตรัง ระยะทาง 25 กิโลเมตรโดยประมาณ กับถนนที่ค่อนข้างสงบ มีรถผ่านไปมาไม่มาก ผิดกับการขับรถเที่ยวในเมืองของจังหวัดอื่นๆ พอขับมาได้ครึ่งทางเจอทางแยกเลี้ยวซ้ายมือไปน้ำตกไพรวัลย์ สมาชิกในรถเกิดอยากแวะขึ้นมาก็เป็นอันว่าต้องไปน้ำตกก่อน แล้วจากนั้นก็ย้อนออกมาที่ถนนเพชรเกษมเหมือนเดิม รู้สึกว่าไกลผิดปกติ แต่ก็ดูป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ นึกไม่ถึงว่าถ้ำสุมะโนจะอยู่เกือบถึงเขตแบ่งจังหวัดตรังอยู่รอมร่อแล้ว ในที่สุดก็มาถึงภูเขาลูกเล็กๆ แห่งนี้ มีกำแพงด้านหน้ามองรู้ว่าเป็นวัด ก็เลี้ยวเข้าไปกันเลย
วัดถ้ำสุมะโน พอเลี้ยวเข้ามาแล้วจะมีวงเวียนรอบพระสิวลีองค์ใหญ่ แล้วก็เจอป้ายบอกชื่อวัดเด่นตระหง่านอยู่เชิงเขา มีทางเล็กๆ เข้าไปตามแนวเขาอีกสักประมาณ 300 เมตร นักปฏิบัติธรรมเดินออกมาจากในนั้นก็เป็นอันเข้าใจว่า วัดแห่งนี้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมมีชื่อประจำจังหวัดพัทลุง มีคนมาปฏิบัติธรรมประจำอยู่ที่นี่กันมาก และถ้ำที่นี่ก็คงเป็นสถานปฏิบัติธรรมทั้งหมด
ภายในบริเวณวัด เมื่อขับรถเข้ามาจนสุดทางจะมีลานจอดรถอยู่ตรงด้านหน้าพระสิวลี พอดีเจอเด็กๆ กำลังเล่นสนุกอยู่ที่นี่พอเข้าไปคุยถึงได้รู้ว่าพ่อแม่ของเด็ก เป็นศิษย์ของวัดถ้ำสุมะโน เด็กๆ เหล่านี้รู้จักวัดแห่งนี้และถ้ำต่างๆ เป็นอย่างดี พ่อของเค้าก็เลยบอกให้เป็นไกด์พาเราเข้าชมถ้ำต่างๆ รอบบริเวณ ก็ถือว่าโชคดีไป เพราะที่นี่แม้จะมีภูเขาลุกเล็กๆ 2 ลูก แต่ก็มีถ้ำน้อยใหญ่มากมายหลายมุมของเชิงเขา ถ้าให้เดินชมเองคงจะใช้เวลามาก เราพยายามถามคนในวัดเพื่อที่จะไปยังถ้ำที่สวยที่สุด ก็มีเสียงบอกให้เราเข้าไปไหว้พระในถ้ำอุโบสถก่อน เด็กๆ ก็เลยพาเราออกเดินทาง
หลังจากที่เดินตามเด็กๆ มาไม่กี่สิบเมตร เราก็มาถึงปากถ้ำเป็นทางเดินลงไปแล้วมีการสร้างบันไดลงไปอย่างดี คนที่จะเข้าไปในถ้ำต้องถอดรองเท้าไว้ข้างนอก ก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่เพราะถ้ำมีทางเชื่อมไปออกทางอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องย้อนมาออกทางเดิม ถ้าต้องเดินกลับออกมาเอารองเท้าก็เลยดูจะย้อนไปย้อนมา ก็เลยมีทางเลือกให้เราถือรองเท้าเข้าไปด้วย แต่ยังไงก็ต้องถอดรองเท้า เพราะบริเวณวัดซึ่งมีถ้ำอยู่มากมายนี้ เป็นสถานปฏิบัติธรรม และวัด ในถ้ำจะปฏิบัติเช่นเดียวกับโบสถ์และวิหาร คือต้องถอดรองเท้าเดิน
ถ้ำอุโบสถ วัดถ้ำสุมะโน พอเข้ามาด้านในโถงใหญ่ของถ้ำมีทางแยกไปทางขวาได้ เป็นคล้ายๆ กับศาลาธรรม ส่วนอีกทางหนึ่งมีบันไดให้เดินขึ้น พัฒนาให้เป็นอุโบสถของวัด ประดิษฐานพระพุทธรูปประธานประจำโบสถ์ ผนังถ้ำ ก็มีหินงอกหินย้อยอยู่หลายจุด แต่โดยมากในถ้ำจะเป็นหินตายแล้ว
ถ้ำอุโบสถ วัดถ้ำสุมะโน ภายในของถ้ำ (ภาพซ้าย) มีหินงอกหินย้อยและช่องปากถ้ำเล็กๆ ส่วนด้านนอก (ภาพขวา) สร้างเป็นซุ้มประตุคล้ายกับประตูของโบสถ์ในวัดทั่วไป เราเดินมาออกทางประตูได้โดยไม่ต้องย้อนไปออกทางที่เราเข้ามา เพื่อความสะดวกที่จะไปยังถ้ำอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กัน
ถ้ำฤๅษีและเจ้าแม่กวนอิม เดินออกจากถ้ำอุโบสถมาได้ไม่ไกล ก็จะเห็นปากถ้ำขนาดใหญ่เป็นถ้ำที่ไม่ได้เชื่อมกับถ้ำอุโบสถ เราก็เลยต้องเดินมาเข้าปากถ้ำอีกแห่งหนึ่ง พอเดินลงมาแล้วก็จะมีทางแยกออกไปเป็นทางเดินเล็กๆ มีป้ายบอกว่าไปถ้ำชื่ออะไร เด็กๆ ที่ทำหน้าที่นำทางให้เราก็ทำงานเป็นไกด์ได้ดี
ถ้ำฤๅษี วัดถ้ำสุมะโน เราเดินผ่านซอกหินเล็กๆ ในถ้ำบ่างช่วงซอกหินจะแคบมาก คนตัวใหญ่หลายคนเดินมาถึงซอกนั้นแล้วผ่านเข้ามาไม่ได้ก็ต้องเดินย้อนกลับออกไป สุดทางเป็นรูปฤๅษีหลายตนด้วยกัน เป็นที่เคารพสักการะของนักปฏิบัติธรรมที่นี่
พระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นอีกคูหาหนึ่งภายในถ้ำมีทางเดินแยกจากถ้ำฤๅษีไม่ไกลมาก
ทางเดินในถ้ำสุมะโน เป็นช่วงขากลับออกมาจากถ้ำฤๅษี ช่องทางเดินเล็กอย่างที่เห็นนี่ละครับ ต้องเบียดๆ ตัวให้ผ่านไปให้ได้
พอออกมาจากถ้ำฤๅษี ก็จะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เราเข้ามา ก่อนที่จะแยกเป็นทางเดินแคบๆ ไปยังถ้ำฤๅษี ตรงนี้เป็นเสมือนศาลาธรรม ที่สำหรับสวดมนต์ของนักปฏิบัติธรรม เป็นถ้ำที่มีโถงกว้างขวางและลึกมาก เหมือนกับศาลาหลังใหญ่ๆ ในวัด ประดิษฐานพระพุทธชินราชเป็นพระประธาน
พระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม หลังจากที่เดินชมถ้ำรอบภูเขาลูกแรกแล้ว เราก็ตัดสินใจว่าคงจะพอเพียงเท่านี้ ซึ่งความจริงแล้วยังคงมีถ้ำอีกมากมายหลายแห่ง อยู่ที่เขาอีกลูกหนึ่งที่อยู่ติดกัน ภูเขาลูกนั้นดูจะมีขนาดใหญ่กว่า มีถ้ำอีกประมาณ 12 แห่ง ที่อยู่ที่ภูเขาลูกนั้น แต่ด้วยความสมควรแก่เวลา เพราะเกรงว่านักปฏิบัติธรรมก็จะเริ่มทำวัตรสวดมนต์ คงเป็นการไม่เหมาะสมที่เราจะเดินเที่ยว เราก็เลยย้อนออกมาที่ลานจอดรถ ไหว้พระบัวเข็ม ก่อนที่จะเดินทางกลับตัวเมืองพัทลุง มีเวลาไปแต่เช้าจะเดินให้ทั่วทุกถ้ำเลย วันนี้มาเย็นไปหน่อยก็พอเท่านี้ก่อนนะครับ
พูดถึงพระบัวเข็ม หรือพระอุปคุต เป็นพระอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้าได้รับการยกย่องว่าเป็นพระแห่งโชคลาภ ค้มกันภัยทั้งปวง ในสมัยพุทธกาล นัยว่าท่านอาศัยในกุฏิแก้วใต้สะดือทะเล
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ