www.touronthai.com

หน้าหลัก >> เชียงใหม่ >> มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์

มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์

 รวมภาพสวยงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ์ ราชพฤกษ์ ที่เราได้เดินทางไปชมงานนี้อย่างต่อเนื่องในปี 2549-2550, 2552-2553, 2554-2555 แต่ละปีก็มีสิ่งแปลกใหม่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างมากตลอดช่วงเวลาที่จัดงานมา ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

ความเป็นมา
 มหกรรมพืชสวนโลก หรืออุทยานหลวงราชพฤกษ์ งานจัดแสดงพันธุ์ไม้ต่างๆ จากทั่วโลกบนพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล พืชบางชนิดไม่สามารถพบเห็นได้ในเมืองไทยได้มารวมกันอยู่ ณ สถานที่แห่งเดียวกัน "ราชพฤกษ์" เป็นชื่อต้นไม้ประจำชาติ ถือเป็นไม้มงคลที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย เนื่องจากมีดอกเป็นพวงระย้า สีเหลืองสด อันเป็นสีแห่งพระพุทธศาสนา และนอกจากนี้ สีเหลืองยังเป็นสีประจำวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช มหาราช พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ด้วยเหตุนี้ ราชพฤกษ์ จึงได้ถูกเลือกให้เป็นชื่อของงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นโดยรัฐบาลไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมฉลองในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีในปี 2549 และเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาในปี 2550

    ตราสัญลักษณ์
    ประกอบขึ้นด้วยรูปทรงของดอกราชพฤกษ์ ที่พัฒนามาจากธรรมชาติ จริงของดอกราชพฤกษ์ มีสีเหลือง 5 กลีบ
    ส่วนเกษรของดอกราชพฤกษ์ในตราสัญลักษณ์ ได้รับการออกแบบให้อยู่ในรูปทรงของตัวเลข ๙ ไทย อันสื่อความหมายว่า งานราชพฤกษ์ 2549 เป็นงานมหกรรมที่จัดขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ เนื่องในวโรกาสแห่งการเฉลิมฉลองที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเฉลิมพระชนมพรรษ 80 พรรษา

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หรือชื่อเดิมว่า สวนเฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ หรืองาน พืชสวนโลก 2549 จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษาในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 และทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ศูนย์กลางการเรียนรู้พืชสวนโลก มีการจัดแสดงพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด การจัดแสดงนิทรรศการด้านการเกษตรและอื่น ๆ เพื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อการศึกษางานวิจัย และเป็นแหล่งพบปะกันในกลุ่มเกษตรกร ภายในพื้นที่มีการจัดภูมิสถาปัตย์อย่างสวยงาม

สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เปิดให้เข้าชม ได้แก่
  - ต้นสนดึกดำบรรพ์อายุกว่า 250 ล้านปี บริเวณประตูทางเข้า
  - หอคำหลวง
  - สวนองค์กรเฉลิมพระเกียรติ เป็นส่วนที่ทางองค์กรต่าง ๆ ได้มาจัดแสดงภายใต้แนวคิดการจัดสวนตามทฤษฎีการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
  - สวนนานาชาติ พื้นที่การจัดสวนจากประเทศต่างๆ 33 ประเทศ
  - พื้นที่ชมภายในอาคาร ได้แก่ เรือนร่มไท้ โดมไม้เขตร้อนชื้น อาคารพืชทะเลทราย อาคารพืชไร้ดิน อาคารเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
  - พื้นที่ชมงานภายนอกอาคาร ได้แก่ ไม้ชุ่มน้ำ สวนบัว ไม้ประจำจังหวัด ไม้มงคล และไม้พุทธประวัติ ไม้ดัด และอาคารหอประวัติพืชสวนไทย
  - สถานที่ที่จะเปิดให้ชมเพิ่มในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ อาคารพืชไม้เมืองหนาว

 เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น.
 ค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
 *ซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้า ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
 ภายในมีรถรางบริการ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ผู้เข้าชมเป็นหมู่คณะตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 70 บาท
 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 5311 4195-6 โทรสาร 0 5311 4196
 หรือ www.ratchaphruekgarden.com , http://www.royalflora2011.com/

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.เชียงใหม่ 0 5324 8604, 0 5324 8607, 0 5324 8605
http://www.tourismthailand.org/chiangmai

แก้ไขล่าสุด 0000-00-00 00:00:00 ผู้ชม 46618

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ
ยินดีต้อนรับสู่มหกรรมพืชสวนโลก

ยินดีต้อนรับสู่มหกรรมพืชสวนโลก การเดินทางมายังงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ จากตัวเมืองเชียงใหม่มีเส้นทางที่สะดวกคือทางหลวงหมายเลข 121 มาเลี้ยวขวาที่แยกถนนราชพฤกษ์จากนั้นขับตรงเข้ามาอย่างเดียวจะมีป้ายบอกทางเข้าลานจอดรถมากมายเป็นบริการรับฝากรถ ในกรณีที่เดินทางมาในวันหยุดและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศกาลต่างๆ วันปีใหม่ ลองพิจารณาดูว่าจะมีลานจอดรถว่างในงานหรือจะฝากรถไว้ตามลานรับฝากรถแล้วเดินเข้าไปดีกว่ากัน ถึงแม้ว่าในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ มีลานจอดรถที่กว้างใหญ่รองรับรถได้ในจำนวนมาก แต่ปริมาณนักท่องเที่ยวที่มางานนี้ก็มากไม่แพ้กัน หรือจะจอดรถไว้ตามห้างสรรพสินค้าที่เป็นจุดจอดรถรับส่งของงาน รวมทั้งสถานที่อื่นๆ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายจุด ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกกว่าขับรถไปวนหาที่จอด
หลังจากที่หมดกังวลเรื่องการจอดรถเดินเข้ามาด้านหน้างานจะเห็นเนินดินสูงใหญ่มีต้นไม้ต้นเดียวอยู่ยอดเนิน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2549 ครั้งแรกที่เรามาที่นี่ก็ถ่ายรูปตรงนี้ หลังจากนั้นจะมากี่ครั้งก็ถ่ายรูปเนินนี้ ถ้าไม่รีบมากนักลองเดินขึ้นไปบนเนินจะมองเห็นถนนทางเข้างานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ เป็นถนนที่เขียวขจีเต็มไปด้วยต้นไม้ยาวเหยียดมาก

ประตูเข้างานมหกรรมพืชสวนโลก

ประตูเข้างานมหกรรมพืชสวนโลก ปี 2549 เป็นครั้งแรกที่เราไปงานนี้ เราเห็นโครงร่มขนาดใหญ่นี้ตั้งอยู่ประตูทางเข้างาน จนมาถึงปี 2552 โครงร่มอันนี้ก็ยังคงอยู่ นี่เป็นภาพที่ถ่ายเอาไว้ช่วงปีใหม่พอดีครับ เป็นวันที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยอะมาก แต่ถ้ามาเช้าหน่อยตั้งแต่เปิดประตูแรกๆ นักท่องเที่ยวก็จะยังไม่มากนัก จะเริ่มทยอยมามากขึ้นช่วงสายๆ ไปจนถึงเที่ยง สัญลักษณ์ในงานเป็น การเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา สัญลักษณ์ที่หน้างานนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามปีนั้นๆ สำหรับปี พ.ศ. 2554 เป็นสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ซึ่งเราจะมีภาพมาให้ชมกันต่อไปครับ สิ่งหนึ่งที่ดูว่าจะไม่มีในปี 2549 ก็คือรูปปั้นตุ๊กตาสัญลักษณ์ของงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ (อาจจะมีการสร้างขึ้นระหว่าง 2550-2551 ก็เป็นได้แต่เราไม่ได้ไปงานนี้มาเห็นอีกทีก็ปี 2552 แล้วครับ)

หน้างานมหกรรมพืชสวนโลก

หน้างานมหกรรมพืชสวนโลก มาดูการตกแต่งด้านหน้าประตูทางเข้าของงานนี้ในปี 2554-2555 กันบ้าง นับเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทันทีที่เราเดินเข้ามาตรงทางเข้าหน้างานก็เห็นพุ่มไม้ที่ตกแต่งอย่างน่ารักมีทั้งรูปผีเสื้อ เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดให้วกมาถ่ายรูปตรงนี้ก่อนที่จะเดินเข้าประตูหรือไปช่องจำหน่ายบัตร ต่างคนก็เก็บภาพคนละหลายๆ มุมเอาให้มากที่สุดบรรยากาศตรงนี้จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวแม้ว่าแดดจะร้อนมากก็ตาม

ซุ้มถ่ายรูปที่ระลึก

ซุ้มถ่ายรูปที่ระลึก นอกเหนือจากพุ่มไม้ตุ๊กตายืนยิ้มแป้นอยู่หน้าทางเข้า ก็ยังมีการจัดซุ้มสำหรับนักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูป ตกแต่งด้วยอักษรงาน Royal Flora มีร่มหลากสีล้อมเป็นกรอบอย่างสวยงาม นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เราต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าจะได้เดินผ่านประตูเข้าไปในงาน เพราะคนต่อคิวกันถ่ายรูปเยอะมากๆ ครับ

บรรยากาศหน้างานพิชสวนโลก

บรรยากาศหน้างานพิชสวนโลก นอกเหนือจาก 2 รูป มุมถ่ายรูปสวยๆ ด้านหน้างานแล้วก็ยังมีการตกแต่งอีกมากมาย เรียกว่าเยอะครับ เลือกถ่ายรูประหว่างที่รอคิวเข้าช่องตรวจบัตรผ่านประตูได้สบายๆ เพลินดีด้วย สำหรับปี 2554 - 2555 นี้นับว่าจัดด้านหน้าได้สวยงามมากทีเดียว

บรรยากาศงานพืชสวนโลก 2549

บรรยากาศงานพืชสวนโลก 2549 เป็นมุมมหานิยมมุมหนึ่งของงานในปีนั้น หลายๆ คนที่ผมรู้จักไปงานนี้ไม่พร้อมกันต่างคนต่างไป พอเอารูปแต่ละคนมาแชร์กันดูก็เห็นหลายๆ คนถ่ายรูปมุมนี้เหมือนๆ กัน จึงนับว่าเป็นมุมมหาชนในปี 2549 บรรยากาศการจัดงานเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้นานาชนิดกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่จัดงานที่กว้างใหญ่ (เดินกันเหนื่อย นั่งพักไปหลายรอบแล้วเดินต่ออีกก็ยังไม่ทั่วงาน)

ดอกไม้สวยงานพืชสวนโลก

ดอกไม้สวยงานพืชสวนโลก เป็นภาพที่ถ่ายมาในปี 2549 เพื่อที่จะได้เห็นกันครับว่าดอกไม้ที่นำมาประดับอยู่ในงานนี้นั้นมีมากมายหลายสายพันธุ์ สวยงามมาก รวมๆ แล้วในหลายๆ ปีที่ไปงานนี้มา ปี 2549 นับว่าเป็นปีที่มีดอกไม้น่าประทับใจที่สุดเท่าที่เราได้ไปเที่ยวตามงานไม้ดอกไม้ประดับมา

งานพืชสวนโลก 2549

งานพืชสวนโลก 2549

งานพืชสวนโลก 2549

งานพืชสวนโลก 2549

งานพืชสวนโลก 2549

งานพืชสวนโลก 2549

งานพืชสวนโลก 2552

งานพืชสวนโลก 2552 คราวนี้ขยับมาดูดอกไม้ในปี 2552 กันบ้าง นี่เป็นบรรยากาศของการจัดแสดงดอกไม้ในโดม มีที่นั่งให้ถ่ายรูปสวยๆ กันด้วย หมู่มวลดอกไม้จำนวนมากเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวหลายแสนคนในแต่ละปี ชาวต่างชาติหลายคนนั่งเครื่องบินมาชมงานนี้โดยเฉพาะก็มีครับ

ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ

ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ มีอยู่จำนวน 30 ซุ้มแต่ละซุ้มมีกรอบพระบรมฉายาลักษณ์สี่สีติดด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมนำเสนอพระราชกรณียกิจ และพระบรมราโชวาท ซุ้มเฉลิมพระเกียรติสร้างเป็นเส้นทางเดินตรงไปยังหอคำหลวง สองข้างมีเรื่องราวพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงงานอย่างหนักเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทยมาตลอดหลายสิบปี

หอคำหลวง

หอคำหลวง หอคำหลวง เป็นอาคารหลังหนึ่งในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 สร้างด้วยสถาปัตยกรรมท้องถิ่นล้านนา ภายใต้แนวคิดว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ ศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ หอคำหลวง ที่มีหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นประธานคณะอนุกรรมการ อาคารหอคำหลวง ตั้งอยู่บนเนินดิน พื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ออกแบบสถาปัตยกรรมโดยนายรุ่ง จันตาบุญ จำลองมาจากภาพหอคำหลวงของเจ้าเมืองเชียงใหม่ในอดีต และออกแบบศิลปกรรมภายในอาคาร โดยนายปรีชา เถาทอง เน้นการถึงพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/หอคำหลวง

สัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ

สัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ในปี 2554 สัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา เปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ เฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของงาน เป็นเส้นตรงเดียวกันกับหอคำหลวง บริเวณนี้ล้อมรอบด้วยดอกไม้นานาชนิดสีสันสดใสสวยงาม เป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก พื้นที่ตรงนี้เป็นบริเวณกว้าง บริเวณใกล้เคียงมีร้านค้าบริการเครื่องดื่ม ไอติม ลูกชิ้น เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนหลบแดดร้อนก่อนที่จะเดินชมงานให้ทั่วต่อไป

สวนถวายพระพร

สวนถวายพระพร เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เราจะได้เห็นนักท่องเที่ยวเดินขึ้นเดินลงถ่ายรูปกันตลอดเวลา เพราะเป็นสวนที่ตกแต่งได้สวยงามมาก

เครื่องบินถ่ายภาพทางอากาศ

เครื่องบินถ่ายภาพทางอากาศ เป็นลักษณะของเรือบินลำเล็กๆ บังคับทิศทางขึ้น-ลงได้ ติดกล้องไว้กับเรือบินเพื่อเก็บภาพบรรยากาศมุมสูงทั่วบริเวณงานมหกรรมพืชสวนโลก นานๆ ทีจะบังคับให้ร่อนลงมาต่ำๆ นักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะกรูเข้าไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

หอคำหลวง

หอคำหลวง ภาพจากอีกมุมหนึ่งที่ถ่ายในปี 2554 โชคดีที่สุดตรงที่ปีนี้มาในวันท้องฟ้าแจ่มใส ภาพบรรยากาศต่างๆ ดูสวยกว่าทุกปีที่ผ่านมาเพราะท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆหนาตลอดทั้งวัน

หอคำหลวง

หอคำหลวง ในเมื่อมางานนี้ตั้งหลายครั้ง แต่ละครั้งเมื่อเดินมาถึงหอคำหลวงก็ถ่ายรูปวิวสวยๆ จากไกลๆ พอเดินขึ้นบันไดมาก็เข้าไปด้านในทุกครั้ง คราวนี้ตั้งใจอย่างมากที่จะมาเก็บลวดลายสวยงามด้านหน้าให้ชัดๆ สักครั้งแต่กว่าจะได้ภาพนี้มาก็ต้องรอให้คนว่างๆ เกือบครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะหอคำหลวงเป็นจุดหลักๆ ของงานพืชสวนโลกที่ทุกคนตั้งใจจะมาชมกัน

ภายในหอคำหลวง

ภายในหอคำหลวง นอกจากลักษณะสถาปัตยกรรมการก่อสร้างอาคารหอคำหลวงที่เราเห็นภายนอกแล้ว พอได้เข้ามาชมด้านในก็จะพบกับความสวยงามที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ภายในจัดให้มีการแสดงจิตรกรรมฝาผนังแบบล้านนา บอกเล่าเรื่องราวของพระองค์ท่าน อันเป็นพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านต่างๆ ตรงกลางห้องโถง กำหนดให้มีการสร้างต้นโพธิ์ทอง หรือ ต้นทศพิธราชธรรม ประกอบด้วยใบทั้งหมด 21,915 ใบ เท่ากับวันที่ทรงครองราชย์ (นับถึงปีที่สร้าง ปี 2549) และเป็นการแสดงถึงพระบารมีของพระองค์ท่านที่คุ้มครองพสกนิกรอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตราบเท่าทุกวันนี้

วิวด้านหน้าหอคำหลวง

วิวด้านหน้าหอคำหลวง ที่มองเห็นอยู่ไกลๆ ในรูปนี้ก็จะเป็นอาคารที่อยู่ในสวนนานาชาติ เป็นสิ่งที่ยังไม่เคยเอ่ยถึงเลยตั้งแต่เดินเข้างานมาก็มุ่งหน้าไปยังหอคำหลวงที่เดียว จากนี้ไปจะพาไปชมกันครับ

วิวด้านหน้าหอคำหลวง

วิวด้านหน้าหอคำหลวง มาถึงปี 2554 มีสิ่งพิเศษกว่าปีก่อนๆ คือกระเช้าหรือชิงช้าสวรรค์ จากประเทศดูไบ กระเช้าขนาดใหญ่นี้ทำให้เราสามารถขึ้นไปชมวิวสวยๆ ของมหกรรมพืชสวนโลกมุมสูงได้ ภาพนี้เป็นภาพบังเอิญที่เป็นมุมเดียวกันกับที่ถ่ายไว้ในปี 2552 (ภาพบน) พอดี

สวนสยามประเทศ

สวนสยามประเทศ เริ่มต้นชมพื้นที่สวนนานาชาติจากตรงนี้กันเลยครับ สวนนานาชาตินั้นเป็นการจัดสวนของประเทศต่างๆ หลายประเทศโดยใช้เอกลักษณ์และจุดเด่นของแต่ละประเทศมาตกแต่งสวน อยู่รอบๆ บริเวณที่กว้างมาก จะว่าไปแล้วถ้าตั้งใจจะเดินชมงานทั้งหมดและถ่ายรูปสวนทุกสวนที่จัดไว้ในงานคงจะไม่สามารถทำได้ครบในวันเดียว (เคยลองแล้วครับ 1 วันตั้งแต่เปิดจนปิด ถ่ายรูปมาไม่ครบจริงๆ) ออกจากหอคำหลวงมาให้เดินเยื้องมาทางด้านซ้ายจะเจอสวนสยามประเทศแห่งนี้ก่อนแล้วค่อยเลือกทางเดินว่าจะไปซ้ายหรือขวา โดยดูจากแผนที่ที่ได้รับแจกตอนเข้ามาในงาน สนใจสวนไหนก็ต้องมุ่งหน้าไปให้ถูกทาง หากไม่อยากเดินไกลมากๆ ก็ควรใช้บริการรถรางนำเที่ยว คนละ 20 บาทในการเดินทางครับแต่ต้องขึ้น-ลงตามจุดที่กำหนดเท่านั้น จะเปลี่ยนรถกลับคันอื่นก็ได้ตลอดเวลา

สวนจีนและบ้านจีนโบราณ

สวนจีนและบ้านจีนโบราณ จากสวนสยามประเทศผมเลือกที่จะเดินตรงไปยังสวนจีนและบ้านจีนโบราณ เพราะเป็นอาคารที่โดดเด่นมองเห็นได้แต่ไกล มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจน เก๋งจีนสูงๆ ในบ้านเรามีไม่มากนัก เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาเห็นก็จะตรงเข้าไปถ่ายรูปทันทีเหมือนกัน การจัดสวนจีนและบ้านจีนโบราณสะท้อนให้เห็นถึงภาพที่สวยงามในสมัยเก่า อันเป็นยุคที่ศาสนาพุทธรุ่งเรืองในประเทศจีน รัฐบาลจึงสร้างเก๋งจีนในยุคราชวงศ์ถังและเจดีย์ไว้ภายในสวนเพื่อสื่อให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมได้สัมผัส นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้และหินประดับก้อนใหญ่ที่นำมาจากจีนโดยตรงมาประดับตกแต่งในสวนอีกด้วย

สวนภูฏาน

สวนภูฏาน (สองภาพด้านบน) คอนเซปต์ประตูสวนและกำแพงแก้วที่ล้อมรอบด้วยกำแพงแบบก่ออิฐหินภูฏานด้วยโคลนและปูนซึ่งเป็นที่พบเห็นตามชนบทของภูฏาน
ประตูหลัก มีการแกะสลักที่มีชื่อเสียงลวดลายแบบดั้งเดิมและสิงโตแกะสลักที่แสดงงานฝีมือของศิลปินชาวภูฏาน ประตูที่ประดับด้วยไม้แกะสลักของมังกร (druk) ที่แสดงแทนชื่อท้องถิ่นของภูฏาน
Druk กำแพงหินที่ฝังตัวอยู่กับแปดสัญญาณโชคดี สัญญาณเหล่านี้มีรูปแบบของกลุ่มที่มีชื่อเสียงที่สุดของพุทธศาสนา สัญลักษณ์เหล่านี้ถือว่าเป็นมงคลในประเพณีของภูฏานและวัฒนธรรมและพบเกือบทุกที่ในประเทศภูฏาน ชาวภูฏานเชื่อว่าจะนำความโชคดีและโชคลาภให้กับตนเอง ครอบครัว และประเทศที่มีสัญลักษณ์นี้อยู่
สวนประเทศภูฏาน เป็นสวนที่สวยมากแห่งหนึ่งในบรรดาสวนนานาชาติในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ นักท่องเที่ยวจำนวนมากจะมาที่สวนนี้และใช้เวลานานในการถ่ายรูปมุมต่างๆ หลายๆ มุม

ถัดมาไม่ไกลกันนั้นเราจะเห็นทางเดินเข้าคิวซื้อบัตรขึ้นกระเช้าชมวิวราชพฤกษ์ เป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงมากมองเห็นวิวมุมสูงได้ทั่วทั้งงาน บัตรจำหน่ายแยกจากบัตรเข้างานพืชสวนโลก ราคา 200 บาท เดินไปอีกนิดก็จะเป็นสวนประเทศเบลเยียม (ภาพล่างขวา) ในปี 2552 เราได้เดินทางมาในระหว่างที่งานพืชสวนโลกยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ เห็นเจ้าหน้าที่หลายคนกำลังง่วนอยู่กับการตกแต่งอุโมงสับปะรดสี และสนามหญ้ารอบๆ เวลาช่วงบ่ายแดดแรงๆ เราจะมีโอกาสได้เห็นสายรุ้งพาดผ่านอุโมงค์แห่งนี้เพราะพืชที่ตกแต่งสวนบริเวณนี้ต้องการความชื้นสูงจึงต้องเปิดน้ำแบบเป็นฝอยเล็กๆ ตลอดเวลา

สวนเนปาลและสวนอื่นๆ

สวนเนปาลและสวนอื่นๆ จากสวนที่แสนสวยประเทศภูฏาน และเบลเยียม เดินตามทางมาเรื่อยๆ (ระยะทางไกลพอสมควรครับ หากต้องการประหยัดเวลาก็ต้องหาจุดรอรถบริการ แต่ต้องซื้อบัตรตั้งแต่ทางเข้านะครับ) ถนนสายนี้จะพาเราไปจนสุดบริเวณงานไปยังสวนองค์กรเฉลิมพระเกียรติ ที่ยังมีอีกมากมายหลายสวน ในระหว่างนั้นจะมีสวนของประเทศต่างๆ อีกมากมายอย่างเช่น ลาว เกาหลี เป็นต้น สำหรับประเทศเนปาลก็มีการจัดสวนด้วยพุทธสังเวชนียสถาน เดินเรื่อยๆ เข้าไปก็จะได้เห็นภูเขาเอเวอร์เรส

แนวคิดเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน

แนวคิดเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน โครงการในพระราชดำริโครงการต่างๆ ได้มีการถ่ายทอดออกมาแสดงในงานพืชสวนโลกในพื้นที่ที่เรียกว่าสวนองค์กรเฉลิมพระเกียรติ องค์กรหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีการจัดสวนแสดงร่วมกันในงานนี้เป็นจำนวนมาก อย่างที่เราเห็นอยู่นี้เป็นการจัดสวนโดยใช้ไม้ไผ่ เพื่อแสดงการใช้ประโยชน์จากไผ่ให้มากขึ้น ตามพระราชดำรัสเรื่องการใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนที่อาศัยบนภูเขา

สวนประเทศลาว

สวนประเทศลาว กลับมาดูสวนนานาชาติกันต่ออีกนิดครับ ที่จริงมีอยู่มากมายหลายประเทศ ล้วนแล้วแต่จัดอย่างสวยงามแต่เราขอเอามาให้ชมกันพอสังเขปก็แล้วกันครับ ถ้าจะเอามาให้ชมกันทุกซอกทุกมุมเดี๋ยวพอเวลาไปเองจะไม่ตื่นเต้นครับ สำหรับสวนประเทศลาวได้นำเอาพระอุโบสถวัดเชียงทอง จำลองออกมาตั้งไว้ ณ มหกรรมพืชสวนโลก เชียงใหม่ให้คนไทยได้เห็นแบบชัดๆ พระอุโบสถวัดเชียงทอง ภาษาลาวจะเรียกอุโบสถว่า สิม สร้างขนาดไม่ใหญ่โต หลังคาแอ่นโค้ง ลาดต่ำลงมาซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น กล่าวกันว่านี่คือศิลปะแห่งหลวงพระบาง ส่วนกลางของหลังคามีเครื่องยอดสีทอง ชาวลาวเรียกว่าช่อฟ้า วัดที่พระมหากษัตริย์สร้างจะมีช่อฟ้า 17 ช่อ ส่วนคนสามัญสร้างจะมีช่อฟ้า 1-7 ช่อ ประตูพระอุโบสถแกะสลักสวยงามเช่นเดียวกับหน้าต่าง ภายในพระอุโบสถมีภาพสวยงามที่ผนัง มีลักษณะลวดลายปิดทองฉลุพื้นรักสีดำ ส่วนใหญ่เป็นภาพพระพุทธประวัติเรื่องพระสุธน-มโนราห์ นอกจากนี้ในสวนยังมีร้านกาแฟสดของลาวเป็นเมล็ดกาแฟอาราบิกา ปลูกอบู่บนที่ราบสูงโบดลเวณส์ แขวงจำปาศักดิ์ อยู่ทางภาคใต้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,000 เมตร ปลูกกาแฟด้วยเทคนิคอินทรีย์ ส่งออกติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกทีเดียวครับ สถานที่ท่องเที่ยวในลาวอย่างเช่นน้ำตกคอนพะเพ็งก็จะมีรูปและข้อมูลให้อ่านกันเผื่อว่ามีใครอยากจะไป

ตุ๊กตาสัญลักษณ์พืชสวนโลก

ตุ๊กตาสัญลักษณ์พืชสวนโลก บริเวณนี้ก็จะมีตุ๊กตาที่เป็นสัญลักษณ์ในงานนี้ กระจัดกระจายอยู่จุดต่างๆ มีอยู่หลายตัวให้เลือกถ่ายรูปกันตามอิธยาศัย

มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์

งานพืชสวนโลกในอาคาร

งานพืชสวนโลกในอาคาร คราวนี้มาดูบรรยากาศของงานที่อยู่ในอาคารกันบ้างครับ เริ่มจากภาพเมื่อปี 2549

งานพืชสวนโลกในอาคาร

งานพืชสวนโลกในอาคาร ในปี 2554 รูปแบบของการจัดแสดงในอาคารก็เปลี่ยนไปครับมีสวนของหลายๆ ประเทศที่แสดงอยู่ในอาคาร นอกจากนั้นก็มีร้านจำหน่ายของที่ระลึก มีดอกไม้มากมายหลายชนิดให้ชม บางประเทศได้นำเอาวิถีชีวิตที่ถือเป็นเอกลักษณ์ในอดีตมาให้ชมกัน

งานพืชสวนโลกในอาคาร

งานพืชสวนโลกในอาคาร สวนนงนุชก็ได้ร่วมจัดแสดงในงานพืชสวนโลกในอาคารด้วยครับ 2 ภาพ บนก็เป็นลักษณะของสวนที่มีน้ำตก มีสัตว์หิมพานต์ อีกสวนหนึ่งที่น่าสนใจก็คือสวนจากประเทศญี่ปุ่น สร้างหุ่นดอกไม้รูปซามูไรกับฉากภูเขาไฟฟูจี อย่างสวยงาม ด้านหน้าอาคารเอนกประสงค์หลังนี้เป็นจุดจอดสุดท้ายสำหรับผู้ที่ใช้บริการรถรางนำเที่ยว จากตรงนี้ไปเดินไปยังทางออกจากงานก็ไม่ไกลมากครับ หลายคนเมื่อจบการนั่งรถเที่ยวรอบบริเวณแล้วก็กลับออกไปยังลานจอดรถได้เลยโดยเดินผ่านร้านของฝาก ของที่ระลึกมากมาย

โดมทิวลิป

โดมทิวลิป ออกจากอาคารเอนกประสงค์เดินไปโดมที่อยู่ไม่ไกลกันมากนักเป็น โดมแสดงพันธุ์ไม้ดอกสวยๆ ในปี 2549 เป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากก็คือทิวลิปจำนวนมากบานหลากสีชูช่อสวยงาม หลังจากปี 2549 เป็นต้นมา เวลาที่เรากลับมาที่งานนี้อีกครั้งก็จะมองหาโซนที่มีดอกทิวลิปสวยๆ ก่อนที่จะย้ายไปชมพื้นที่อื่นๆ เสมอ

โดมกล้วยไม้

โดมกล้วยไม้ ใน 2554 ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เคยใช้เป็นโดมสำหรับทิวลิป มาเป็นกล้วยไม้ที่มีอยู่มากมายหลายพันธ์ เน้นการแสดงพันธุ์ไม้ไทย ทำให้กล้วยไม้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก มูลค่าของไม้ดอกที่นำมาแสดงสูงหลายล้านบาท อาทิกล้วยไม้ออนซิเดียม อย่างในภาพขวามือ

โดมกล้วยไม้

โดมกล้วยไม้ ภาพกล้วยไม้สวยๆ อีกชุดหนึ่งครับเอาแบบพอสังเขป จะถ่ายมาทั้งโดมก็คงไม่ไหว ในภาพนี้ก็ได้แก่ กล้วยไม้แคมลียา (ภาพบนขวา) กล้วยไม้เอนโดรเบียม (ภาพล่างซ้าย) ส่วนภาพล่างขวาเป็นดอกไม้ที่แสดงอยู่ในอาคารเอนกประสงค์ที่มีอยู่มากมายหลายชนิดล้วนแล้วแต่สวยๆ ทั้งนั้นครับ

การแสดงแสงสีเสียงงานราชพฤกษ์

การแสดงแสงสีเสียงงานราชพฤกษ์ พิธีปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรตืฯ ราชพฤกษ์ 2549 เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ตระการตา การแสดงชุดนี้จัดขึ้นที่หน้าหอคำหลวง การมาเที่ยวงานพืชสวนโลกถ้ามีเวลามากพอควรรอชมงานแสงสีเสียงนี้ซึ่งจะจัดขึ้นทุกคืนหมุนเวียนเปลี่ยนชุดการแสดงในแต่ละคืน โดยเฉพาะพิธีปิดประทับใจ ยิ่งใหญ่มากครับ

พาเหรดไฟฟ้า

พาเหรดไฟฟ้า ปิดท้ายงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549 ด้วยขบวนพาเหรดไฟฟ้า มีตุ๊กตามาสคอตประดับหลอดไฟเดินเป็นขบวนยาวๆ ไปในบริเวณงาน หาที่ยืนสูงๆ มองขบวนไฟฟ้าแบบยาวๆ สวยงามมาก

สวนแห่งจินตนาการ

สวนแห่งจินตนาการ เป็นการแสดงแสงสีเสียงของปี 2554-2555 จัดแสดงทุกคืนเริ่มเวลาประมาณ 1 ทุ่ม จัดสวนด้วยหลอดไฟหลากสีจำนวนมาก มีรูปต่างๆ ทั้งตอกไม้และผีเสื้อ เปิดไฟประกอบกับดนตรี ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยให้มารวมกันอยู่ในบริเวณนี้ มีข้อควรระวังว่า อย่าได้เข้าไปในสวนแห่งนี้เพราะมีระบบสายไฟเดินอยู่หลายจุด อาจจะเกิดอันตรายได้ ทันทีที่มีคนก้าวเข้าไปในสวน ทางเจ้าหน้าที่จะปิดไฟทั้งหมดทันทีครับ

สวนแห่งจินตนาการ

สวนแห่งจินตนาการ มาดูกันต่ออีกภาพครับ การจัดแสดงแสงสีเสียงชุดนี้ใช้พื้นที่กว้างขวางมากทั้งภาพนี้และภาพบนรวมกัน เดินชมกันเพลินไปเลยครับ ทุกๆ คืนจะปิดท้ายงานด้วยการจุดพลุดอกไม้ไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า พอดีว่าเราไม่รู้ว่าจะมีการจุดพลุเลยเดินออกมาจากงานซะก่อน น่าเสียดายจริงๆ พลุจะจุดขึ้นในเวลาประมาณ 2 ทุ่มครับ แล้วก็ปิดงาน เป็นประจำทุกคืน

วิวสวยพืชสวนโลก

วิวสวยพืชสวนโลก ปิดท้ายสุดๆ ของภาพมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ด้วยภาพมุมสูงจากหลายๆ จุดในงานครับ ภาพบนซ้ายเป็นเนินตรงหน้างานมองไปทางถนนเข้างานราชพฤกษ์ สวยงามทีเดียว ภาพบนขวา กับล่างซ้าย เป็นภาพจากหอชมวิวกลางงานพืชสวนโลก มองไปทางหอคำหลวงและอุโมงค์สับปะรดสี สวนของประเทศเบลเยียมปลายเดือนพฤศจิกายนยังไม่เปิดเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ยังทำการตกแต่งอุโมงค์กันอยู่ ภาพล่างซ้ายเป็นวิวด้านข้างของหอคำหลวง สำหรับในปีต่อๆ ไปหากมีโอกาสได้ไปอีกผมขอไปเขียนไว้ในคอลัมน์ แชร์ประสบการณ์ และรูปภาพประทับใจ แทนนะครับ (อัพเดตหน้านี้บ่อยๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน) สำหรับหน้านี้ก็เอาเท่านี้ก็แล้วกัน

รีวิว อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่


 "อัพเดตภาพนิดๆ หน่อยๆ สำหรับปี 2561
ภาพ สุริยาพรทัวร์"

Akkasid Tom Wisesklin
2018-01-03 19:34:17

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่


5/5 จาก 1 รีวิว

10 ที่พัก/โรงแรมใกล้ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่
Chandra Artist Residence เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  0.95 km | แผนที่ | เส้นทาง
ราชพฤกษ์ เพลซ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  1.17 km | แผนที่ | เส้นทาง
4BR Chandra Residence Chiang Mai เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  1.19 km | แผนที่ | เส้นทาง
โอเอซิส บ้านแสนดอย สปา รีสอร์ท เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  1.35 km | แผนที่ | เส้นทาง
ปราชญ์ ราชพฤกษ์ รีสอร์ท แอนด์ สปา เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  1.44 km | แผนที่ | เส้นทาง
เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี รีสอร์ท เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  1.69 km | แผนที่ | เส้นทาง
เมาท์เท่น คลิก เวลล์เนส รีสอร์ท เชียงใหม่ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  1.69 km | แผนที่ | เส้นทาง
บ้าน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำส่วนตัว ขนาด 789 ตร.ม. – แม่เหียะ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  1.81 km | แผนที่ | เส้นทาง
อี-เอาท์ฟิตติ้ง ดอยคำ รีสอร์ต เชียงใหม่ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  1.99 km | แผนที่ | เส้นทาง
Holiday Villa, Deluxe Room, Oversized Pool เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  2.30 km | แผนที่ | เส้นทาง

*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ

Line id: @touronthai (ใส่ @)
www.touronthai.com