จิตรกรรมสังข์สินไชย โบสถ์วัดไชยศรี

วัดไชยศรี ตั้งอยู่ที่บ้านสะวี ห่างจากตัวเมืองขอนแก่นประมาณ 20 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2408 สิ่งที่น่าสนใจคือภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ดูสวยงามแปลกตาฝีมือนายทอง ทิพย์ชา ช่างพื้นบ้านชาวมหาสารคาม ภาพจิตรกรรมที่วัดนี้จะเขียนทั้งภายในและภายนอกสิม(โบสถ์) สิ่งที่สะดุดตาอันดับแรกคือการใช้สี ช่างจะเขียนด้วยสีฝุ่นโทนสีคราม เหลือง ขาว มองสบายตา ลักษณะการเขียนภาพเน้นสัดส่วนที่เกินจริง อารมณ์ของภาพดูสนุกสนาน ตัวละครจะออกท่าทางโลดโผน

เรื่องราวที่เขียนบนฝาผนังด้านนอกเป็นรูปนรกแปดขุม ภาพพระเวสสันดร นิทานพื้นบ้านเรื่องสินไซ (สังข์สินไชย) ภาพทวารบาล ส่วนด้านในจะเล่าเรื่องพุทธประวัติ มีภาพเทพ มนุษย์และสัตว์ต่างๆ แต่ปรกติวัดในต่างจังหวัดยังคงเคร่งตามประเพณีเดิม คือผู้หญิงไม่สามารถเข้าไปภายในโบสถ์ได้ ซึ่งวัดไชยศรีก็เป็นวัดหนึ่งที่ยังรักษาธรรมเนียมนี้อยู่ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของสิมโบราณ เดิมเป็นหลังคาแบบอีสานคือมีปีกยื่น ต่อมาหลังคาชำรุดชาวบ้านจึงร่วมกันปฏิสังขรณ์ใหม่เป็นแบบรัตนโกสินทร์ซึ่งไม่สามารถกันแดดกันฝนได้ทั่วถึงจึงทำให้ภาพจิตรกรรมที่ผนังด้านนอกเลือนไปบ้างแต่อย่างไรก็ดีกรมศิลปากรก็ได้เข้ามาต่อเติมปีกด้านข้างของโบสถ์แล้ว นอกจากนั้นยังยกพื้นขึ้นเพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะฐานด้วย

การเดินทาง ไปตามถนนมะลิวัลย์สายขอนแก่น-ชุมแพ ถึงกิโลเมตรที่ 14 แล้วเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหมู่บ้านสาวะถี ผ่านบ้านม่วงรวมระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นทางลูกรังประมาณครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าจะไปโดยทางลาดยางตลอดต้องอ้อมเล็กน้อยผ่านบ้านม่วง บ้านโคกล่าม บ้านหนองตาไก้ บ้านม่วงโป้ บ้านโนนกู่และเข้าสู่บ้านสาวะถี

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. ขอนแก่น โทร 0 4322 7714-5
http://www.tourismthailand.org/khonkaen

แก้ไขล่าสุด 2017-04-18 12:12:26 ผู้ชม 10411

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

สิมวัดไชยศรี จิตรกรรมฝาผนังกับโบสถ์ของวัดเป็นของคู่กัน รูปภาพที่เขียนลงไปบ่งบอกเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละยุคแต่ละสมัย เหมือนเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ย่อมๆ ก็ได้ ไม่ได้จะมีแต่ภาพพระพุทธประวัติอย่างที่เราเข้าใจ วัดไชยศรีอยู่ในเขตอำเภอเมืองขอนแก่นก็จริงแต่ก็ห่างความเจริญออกมาไม่น้อย เข้ามาถึงในวัดมองเห็นสิมหรือโบสถ์โดดเด่นอยู่ตรงกลางกับศาลาหลังใหญ่ไม่มีอะไรมากมายนอกจากลานกว้างๆ สิ่งหนึ่งที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นคืองานภาพเขียนสีที่ผนังที่เรามองเห็นแต่ไกล

เมื่อเดินเข้ามาดูใกล้ๆ เราจะเห็นภาพจิตรกรรมลายเหมือนเขียนภาพการ์ตูน ไม่เน้นความสมจริงสมจัง ทุกด้านของผนังเต็มไปด้วยภาพเขียน ในบรรดาภาพเขียนที่อยู่บนผนังด้านนอกมีเรื่องราววรรณกรรมเรื่องสังข์สินไชย หรือในภาษาอีสานเรียกว่า สินไซ อยู่หลายตอน แต่ถ้ามาเดินดูเองเราแทบบอกไม่ได้และความรู้เกี่ยวกับสินไซก็มีอยู่น้อยเกินกว่าจะรู้ว่าสินไซทำอะไรบ้างในวรรณคดีทางวัดก็จะมีป้ายบอกให้ลองเดินไปทางพิพิธภัณฑ์หาความรู้กันมาก่อนจะทำให้เราหารูปสินไซได้ง่ายขึ้น บอกคร่าวๆ ได้แต่เพียงว่าเรื่องราวสินไซเป็นเรื่องของการผจญภัยมีอยู่หลายตอน สินไซเป็นผู้ที่มีธนูวิเศษเป็นอาวุธประจำกาย ถ้าเดินๆ รอบสิมหลังนี้เห็นรูปคนถือธนูก็น่าจะใช่สินไซแล้วละ

จากข้อมูลวัดมีภาพสินไซสำคัญๆ 24 ภาพ ให้เราลองค้นหา ยกตัวอย่างให้ฟังสักนิด เช่น สินไซเดินทางถึงแม่น้ำกว้าง 1 โยชน์ เดินทางข้ามแม่น้ำไปพร้อมกับสังข์ สีโหอยู่กับท้าวทั้งหกที่ฝั่งนี้ ระหว่างข้ามแม่น้ำพบกับสรุณยักษ์หรืออีกชื่อหนึ่งคือยักษ์กันดานก็ต้องต่อสู้กัน สินไซใช้พระขรรค์ฆ่ายักษ์ตายด้วยการตัดคอ ภาพชุดนี้อยู่ตรงช่องหน้าต่างหลอกช่องซ้ายสุดของผนังด้านหลังโบสถ์ (มองเห็นมั้ย ^^)

เรื่องราวของสินไซที่ถูกเล่าด้วยภาพบรรยายด้วยตัวหนังสือนิดหน่อยมีอยู่รอบโบสถ์ ถ้ามีผู้รู้เดินนำเราจะได้ศึกษาภาพแต่ละภาพตามขั้นตอนเนื้อเรื่องของนิทานที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าสืบทอดต่อลูกหลานมานานมาก นอกจากจะเป็นเหมือนนิทานบอกเล่าเอาสนุกยังแฝงธรรมะเอาไว้มากมาย จนกล่าวได้ว่า เรื่องสินไซ เป็นเรื่องที่พระสามารถยกไปเทศนาสอนธรรมได้อย่างสนิทใจ ตอนจบคนแต่งเขียนเอาไว้ว่าสินไซตายไปได้เกิดใหม่มาเป็นพระพุทธเจ้า ทำให้มีความเข้าใจว่า สังข์สินไชย หรือสินไซ เป็นหนึ่งในอดีตชาติของพระพุทธเจ้าไปเลย

สิมวัดไชยศรี สร้างมาเมื่อ 2408 มีอายุร้อยกว่าปี แต่ยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอยู่จนทุกวันนี้ ภาพจิตรกรรมฝาผนังยังมีอีกหลายเรื่องเหมือนหนังสือภาพขนาดใหญ่ที่มีอายุเกินร้อยเลย

ภาพหนึ่งที่เป็นตอนจบของสินไซถูกเขียนเอาไว้บนผนังของสิมด้านหลังองค์พระประธาน การสรุปเรื่องของสินไซจะกล่าวว่าสินไซเมื่อตายไปแล้วได้เกิดเป็นอะไร เรียกกันว่า "ม้วนชาดก" ที่เราเห็นเป็นภาพตารางอยู่หลังองค์พระประธานเขียนความหมายว่าสินไซตายแล้วมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า เป็นเรื่องราวที่มุ่งเน้นให้เห็นผลของการทำดี เตือนสติสอนใจให้คนทำความดีเพื่อที่จะได้รับผลที่ดี จบเรื่องราวฮูปแต้มสินไซ วัดไชยศรี ที่ภาพนี้

นอกเหนือจากจะเป็นวัดที่มีสิมเก่าแก่มากมีภาพจิตรกรรมล้ำค่าอยู่เต็มผนังด้านนอกด้านใน ที่นี่มีประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมายาวนานเรียกว่า พิธีเสียเคราะห์ จัดขึ้นในวันสงกรานต์เป็นประจำทุกปี พิธีเสียเคราะห์นี้หมายถึงการนำเอาเคราะห์ไม่ดี เคราะห์ร้าย สิ่งไม่ดีทั้งหลาย เอาไปทิ้ง เป็นประเพณีหนึ่งเดียวที่นี่ ถ้าสนใจมาชมกันละก็ต้องเตรียมการไว้เลย 13 เมษายน ทุกปี มางานประเพณีสงกรานต์โบราณ พิธีเสียเคราะห์ วัดไชยศรี บ้านสาวะถี จังหวัดขอนแก่นกันเด้อ

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รีวิว วัดไชยศรี ขอนแก่น

"ชาวบ้านมาร่วมทำบุญแต่เช้าตามธรรมเนียมประเพณีสงกรานต์โบราณซึ่งจัดต่อเนื่องมายาวนานหาชมได้ยาก ช่วงบ่ายจะมีพิธีเสียเคราะห์ หรือการสะเดาะเคราะห์ เพื่อเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ไทย"

Akkasid Tom Wisesklin
2017-04-13 08:37:17

วัดไชยศรี ขอนแก่น