วัดกองดิน

 เป็นวัดราษฏร์ในนิกายเถรวาท ตั้งอยู่ที่ ตำบลกองดิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตามรายงานลงวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2442 (ร.ศ. 118) มีการระบุชื่อของวัด ณ สถานที่แห่งนี้ว่า "วัดคงคาจืด" ภายหลังวัดคงคาจืดได้ทรุดโทรม ยากแก่การบูรณปฏิสังขรณ์ ประชาชนในพื้นที่จึงได้ทำการย้าย สร้างวัดขึ้นมาใหม่ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดกองดิน" ปัจจุบันวัดกองดิน ตั้งอยู่ในตำแหน่งจุดกึ่งกลางของพื้นที่ 4 จังหวัด (ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด) ได้รับอนุญาตตั้งเป็นวัด ในปี พ.ศ. 2495

 อุโบสถได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ขนาดกว้าง 24 เมตร ยาว 42 เมตร และได้ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2533

 สิ่งที่น่าสนใจ
 1.วัดสุดท้ายของจังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในตำแหน่ง จุดกึ่งกลาง 4 จังหวัดของภาคตะวันออก(ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด)
 2.มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ลำดับเส้นทางสายเอกราช หมุดประวัติศาสตร์ที่ 26 เส้นทางเดินทัพไปจันทบูรณ์ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
 3.มีโพธิ์ 3 ต้น 15 คนโอบรอบ เชื่อกันว่า เป็นโพธิ์นิมิตอธิษฐานจิตปลูกของพระเจ้าตากฯ
 4.ภายในองค์ของหลวงพ่อปิยปกาศิต บรรจุพระผงสมเด็จองค์ปฐม จำนวน 84,000 องค์
 5.นมัสการพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุปาฏิหาริย์
 6.ปิดทองรูปแกะสลักไม้แก่นขนุนป่า หลวงปู่ทวด/สมเด็จโต ฯ
 7.กำหนดจักงานประจำปีหลวงพ่อปิยปกาศิต เทศกาลปีใหม่ – เทศกาลตรุษจีน ของทุกปี และ 13 เมษามหาสงกรานต์ สรงน้ำหลวงพ่อ ฯ 2 จังหวัด

 พระพุทธรูปประจำวัด พระพุทธภัทรปิยปกาศิต หลวงพ่อปิยปกาศิต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเชียงแสน สิงห์หนึ่ง มีลักษณะที่สำคัญคือ ขัดสมาธิเพชร พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาวางบนหัวเข่า พระหัตถ์ซ้ายวางอยู่บนพระเพลา พระพักตร์กลม พระโอษฐ์ยิ้ม ขมวดพระเกศาใหญ่ พระรัศมี (เกศ) เป็นดอกบัวตูม พระวรกายอวบอ้วน ชายสังฆาฏิสั้นเหนือพระถัน ประกอบพิธีเททองหล่อ เมื่อปี พ.ศ.2513 เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่หล่อแบบโบราณองค์แรกของภาคตะวันออก

ข้อมูลเพิ่มเติม:ฝ่ายประชาสัมพันธ์วัดกองดิน 038-626214 , 01-7615667

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ประตูวัดกองดิน จากทางหลวงหมายเลข 3 หรือถนนสุขุมวิทที่เชื่อมภาคตะวันออก เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าจังหวัดจันทบุรี ถึงอำเภอแกลง ตรงบ้านกองดินจะเห็นป้ายขนาดใหญ่ข้างทางชี้เข้าทางแยกวัดกองดิน จากตรงนี้เลี้ยวเข้าไประยะทาง 2 กิโลเมตร จนมาถึงหน้าวัดกองดิน สิ่งที่เราเห็นคือกำแพงวัดที่สร้างอย่างไม่เหมือนใคร แลดูเป็นกำแพงเมืองหรือค่ายทหารในสมัยก่อน

ศาลพระแม่เทวี พอเข้ามาด้านในวัดหาที่จอดรถ มองไปรอบๆ บริเวณวัดเราจะเห็นสิ่งหนึ่งที่สะดุดตามากนั่นก็คือพลับพลาที่สร้างไว้มุมหนึ่งของวัดล้อมรอบด้วยกำแพงเหมือนค่ายทหารโบราณ มีทางเข้าหลายทางแต่ปัจจุบันให้เข้าทางด้านหน้าทางเดียว พอจะเดินไปเข้าประตูกำแพง จะเห็นศาลพระแม่เทวีแห่งนี้อยู่ใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ มีคนมากราบไหว้อยู่ประจำ

ประตูค่ายกองดินปืน ตอนนี้เราก็เดินมาอยู่ตรงด้านหน้าประตูค่ายมีปืนใหญ่จำลองประจำอยู่ทั้ง 2 ด้าน ตรงนี้เป็นสนามของโรงเรียนวัดกองดินช่องประตูค่ายตรงกับพลับพลาที่ประทับสมเด็จพระเจ้าตากสิน ชาวบ้านในละแวกนี้จะมาสักการะบูชาอยู่เป็นประจำ แม้นใครผ่านไปมาบนเส้นทางถนนสุขุมวิทก็จะแวะเข้ามาสักการะเช่นกัน

พลับพลาที่ประทับค่ายกองดินปืน

พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสิน

ค่ายกองดินปืนทั้ง 4 มุม

บรรยากาศวัดกองดิน สิ่งหนึ่งที่เราจะได้เห็นเป็นสิ่งที่สะดุดตามากๆ ภายในวัดคือต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่หลายต้น มีโพธิ์ 3 ต้นขนาดใหญ่ 15 คนโอบ เชื่อกันว่า เป็นโพธิ์นิมิตอธิษฐานจิตปลูกของพระเจ้าตากฯ จารึกเรื่องราวประวัติศาสตร์กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปลูกไว้ ณ ค่ายกองดินปืนเมื่อปีพุทธศักราช 2310 เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาใกล้เสียกรุงแก่พม่า พระยาวชีรปราการได้รวบรวมกำลังไพร่พลมหารราว 500 คน ตีฝ่าวงล้อมพวกพม่าโดยใช้เส้นทางเลียบมาตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก เพื่อไปรวบรวมกำลังไพร่พลที่เมืองจันทบูร ระหว่างการเดินทัพได้ผ่านเส้นทางสำคัญต่างๆ ในเชตเมืองระยอง คือ บ้านไร่ บ้านกร่ำ เมืองแกลง ประแส หลังจากนั้นได้ทรงมาหยุดตั้งค่ายพักทัพ ณ สถานที่ "ค่ายกองดินปืน" แห่งนี้ เพื่อตำดินปืนสะสมเอาไว้ใช้ในการเข้าตีเมืองจันทบูร
ในขบวนทัพเพื่อกอบกู้เอกราชคราวนั้น พระเจ้าตากสินได้ทรงอัญเชิญ "พระปกาศิตพุทธนำชัย" พระพุทธรูปคู่พระบารมีขึ้นเป็น "พระชัยหลังช้าง" เพื่อบำรุงขวัญกำลังใจของทหาร และก่อนที่จะเคลื่อนกำลังพลออกจากสถานที่แห่งนี้ ได้ทรงนำเหล่าแม่ทัพนายกองทหารหาญผู้กล้าทั้งหลายมี หลวงพิชัยอาสา พระเชียงเงิน หลวงพรหมเสนา ขุนอภัยภักดี หมื่นราชเสน่หา ร่วมประกอบพิธีพลีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ทรงนำอธิษฐานจิตปลูกโพธิ์สามต้นร่วมกัน ตั้งสัตยาธิษฐานร่วมใจ เป็นกุศโลบายปลุกกระตุ้นจิตสำนึกของทหารหาญ ให้มีเชิงชัยชำนะต่ออริราชศัตรู กอบกู้ชิงเอาเอกราชชาติไทยกลับคืนมาจากพม่าให้จงได้ และทรงตั้งพระราชมโนปณิธาน เป็นปฐมเหตุแห่งสัจจปรมัตถบารมี ยอยกเอ่ยอ้างเอาผืนแผ่นดินแห่งพระธรณีสยามประเทศ ยอกรประนมน้อมสักการะถวายเป็นพุทธบูชา แต่เบื้องบาทพระพุทธสมณโคดม องค์บรมสัมมาสัมพุทธเจ้า สืบทอดอายุพระพุทธศาสตรให้ดำรงคงมั่น 5,000 ปี
"โพธิ์สามต้น" ณ ค่ายกองดินปืนแห่งนี้ เป็นราชานุสรณ์ ที่จะคอยย้ำเตือนประชาชนชาวไทยให้น้อมรำลึกถึงน้ำพระทัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงมีต่อผืนแผ่นดินไทยไปชั่วตราบกาลนานฯ

พระสิวลีและทางเดินเข้าอุโบสถ หลังจากที่ได้ชมโพธิ์สามต้นในประวัติศาสตร์ไทยไปแล้ว ตอนนี้เราก็จะเดินเข้าไปยังอุโบสถเพื่อสักการะนมัสการหลวงพ่อปิยปกาศิต เราจะเดินผ่านกำแพงแก้วด้านข้างอุโบสถที่ทางวัดได้ปลูกไม้เลื้อยปกคลุมทางเดินเป็นบรรยากาศร่มรื่นและแปลกตาไม่เคยเห็นวัดไหนจะทำแบบนี้มาก่อน

อุโบสถวัดกองดิน

หลวงพ่อปิยปกาศิต สร้างขยายส่วนมาจากพระพุทธรูปองค์ต้นแบบองค์หนึ่ง ที่มีพระนามว่า พระพุทธะปกาศิต หรือ หลวงพ่อปกาศิต ได้ทราบมาว่า เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งที่ ”ถูกลืม” ไปจากจิตใจของคนไทย เชื่อมีชาวพุทธอีกมากมายหลายสิบล้านคน ที่อาจจะไม่เคยได้ยินพระนามของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้มาก่อน อีกทั้งอาจจะไม่ทราบว่า ครั้งหนึ่งในอดีต เมื่อ 200 กว่าปีที่แล้ว มีพระพุทธรูปปางวิชัย หรือ ปางสะดุ้งมารองค์หนึ่ง ได้รับการอัญเชิญนำไปในสมรภูมิสนามรบ อย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ เคียงคู่บารมีของวีรกษัตริยาธิราชผู้กล้าพระองค์หนึ่ง ผู้มีน้ำพระทัยกล้าแกร่ง ไม่ย่อท้อในการทำศึกสงคราม นั่นคือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระผู้เป็นมิ่งขวัญ กำลังใจของทหารหาญ ในการกอบชาติกู้เมือง กู้ชาติไทย ให้เป็นไท จากพวกพม่า ที่เข้ามายึดครองผืนแผ่นดินไทย เมื่อคราวปี พุทธศักราช 2310

นับเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ของศรัทธาสาธุชน ที่อยู่ในภาคตะวันออก ที่ได้ พระพุทธปกาศิต หรือ หลวงพ่อปกาศิต กลับคืนมาสู่พื้นที่กองดินนี้อีกครั้งหนึ่ง หลังผ่านกาลเวลาไปแล้ว ถึง 236 ปี นับแต่คราวที่พระยาตาก(สิน) ได้เคลื่อนกำลังพล ยกทัพไปตีเมืองจันทบูรณ์ ราวปี พ.ศ.2310 และได้มาหยุดพักตั้งค่ายทหารที่หมู่บ้านแห่งนี้ ได้ทราบเรื่องราวจากผู้ปฏิบัติธรรมหลายท่าน เล่าให้ฟังว่า “เคยได้นิมิตเห็นพระยาตาก(สิน) ยกพระพุทธรูปบูชาองค์หนึ่ง เข้าไปในวิหารที่วัดเก่าคงคาจืด และให้ทหารหาญที่มาด้วยอธิษฐานจิตขอพรเป็นชัยมงคล ให้มีชัยชนะศึกสงครามที่เมืองจันทบูรณ์” มีความเชื่อกันว่า พระพุทธรูปองค์นั้นก็คือ พระพุทธปกาศิต หรือ หลวงพ่อปกาศิต องค์ต้นแบบนี้นั่นเอง
*ข้อมูลจาก http://www.buddha-dhamma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=94221&Ntype=4

นอกจากนี้พระชัยหลังช้างองค์จริง ยังบรรจุไว้อยู่ในหลวงพ่อปิยปกาศิต รวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุ 84,000 องค์ ก็บรรจุอยู่ในองค์พระพุทธรูปประธานในอุโบสถอีกด้วย
คาถาบูชาหลวงพ่อปิยปกาศิต อิติ ปิยปกาศิต อิติ ปิยปกาศิต อิติ ปิยปกาศิต พุทโธ คุณัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะฯ

สิ่งที่น่าสนใจในวัดกองดิน ปิดท้ายกันด้วยสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ภายในวัด ได้แก่ท้าวจตุคาม-รามเทพ พระพุทธรูป พระบูรพาจารย์ เกจิอาจารย์ ที่ชาวไทยเคารพศรัทธา อยู่ในศาลาด้านหน้าอุโบสถ และยังมีเจ้าแม่กวนอิม พระพิฆเณศ พระบรมรูปสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ไหว้พระทำบุญ ศึกษาประวัติศาสตร์ น้อมนำรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ องค์พระมหากษัตริย์ผู้ทำให้แผ่นดินไทยได้คงอยู่จนชั่วลูกชั่วหลาน มาที่วัดกองดิน แล้วพร้อมใจรักสามัคคี กันเถิดครับพี่น้องไทย....