หาดทรายดำ 1ใน5ของโลก

 หาดทรายดำ 5แห่งในโลก บริเวณหาดทรายดำเดิมชื่อ "หัวสวน" เป็นหาดที่ชาวมุสลิมเป็นเจ้าของและเคยตั้งสุเหร่าบริเวณหัวสวน ต่อมาได้ย้ายออกไปกลายเป็นที่ร้างจนมีชุมชนบ้านยายม่อมมานั่งหมกตัวเพื่อรักษาโรคอัมพฤกษ์จนหาย จึงเห็นว่าทรายดำนี้รักษาโรคได้แล้วบอกกันต่อๆ ไป ทำให้มีคนมาเที่ยวหมกตัวกันเยอะส่วนใหญ่ชาวบ้านบอกว่าจะหายจากอาการปวดเมื่อยตามแข้งขาและตามตัว ปวดเข่า ปวดหลัง ฯลฯ 

เพื่อให้หายข้องใจก็มีการส่งทรายดำไปตรวจพบว่า ทรายดำประกอบด้วย ไลโมไนต์ (Limonite) มีสีน้ำตาลแดงไปถึงดำ เป็นแร่ที่เกิดจากการสลายของเศษเหมืองและเปลือกหอย และผสมด้วยควอตซ์ หรือซิลิกา เป็นการผุกร่อนของเหล็ก ไม่น่ามีผลทางการรักษาโรคในทางการแพทย์ แม้จะมีผลการตรวจสอบทรายดำแต่ชาวบ้านก็ยังคงเชื่อว่าการหมกตัวในทรายดำมีผลทำให้ผิวพรรณดี หายปวดเมื่อยอยู่จนทุกวันนี้

หาดทรายดำอยู่ในเขตรับผิดชอบของป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแหลมมะขาม ออกในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติเมื่อปี 2517 ความพิเศษของหาดทรายดำอยู่ที่มีเพียง 5 แห่งในโลกเท่านั้น ได้แก่ ไต้หวัน มาเลเซีย แคลิฟอร์เนียร์ เกาะฮาวาย และที่แหลมงอบจังหวัดตราดของไทย

การเดินทางไปหาดทรายดำ จากตัวเมืองตราดใช้เส้นทางตราด-แหลมงอบ ระยะทาง 15 กิโลเมตร ก่อนถึงโรงพยาบาลแหลมงอบจะมีแยกเข้าหาดทรายดำอยู่ซ้ายมือ

พิกัด GPS 12.1735420N, 102.4061320E, คำค้นใน Google Maps ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ​หาดทรายดำและป่าชายเลน

สอบถามข้อมูลหาดทรายดำเพิ่มเติม โทร. 039-510-841, 039-510-962, 080-574-5544

เฟสบุค หาดทรายดำหนึ่งในสยาม

ข้อมูลเพิ่มเติม:สอบถามข้อมูลหาดทรายดำเพิ่มเติม โทร. 039-510-841, 039-510-962, 080-574-5544
เฟสบุค หาดทรายดำหนึ่งในสยาม

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ไปหาดทรายดำแต่เช้า.... นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราไปหาดทรายดำ ก่อนหน้านี้หลายปีมากแล้วเคยมาครั้งนึงแต่ตอนนั้นหาดทรายดำปิดปรับปรุง เส้นทางสะพานเดินข้ามป่าชายเลนพังไปเยอะ ตอนนี้สร้างขึ้นมาใหม่เกือบสมบูรณ์ 100% แล้ว เหลือช่วงเดียวที่เชื่อมหาดทรายดำจากแหลมมะขามไปถึงบ้านยายม่อมแต่ตอนนี้เอาแค่เดินไปหาดทรายดำได้สบายๆ เพราะเป็นทางเดินคอนกรีตอย่างดีตลอดทาง วันนี้เป็นวันเปิดหาดทรายดำวันแรกหลังจากปิดมานานเลยเปิดให้เราเข้าแต่เช้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดทรายดำกันเลย เสียแต่ว่าออกเดินทางสายไปนิดพระอาทิตย์เรืองแสงขึ้นมาเยอะแล้ว การที่เราจะเข้าไปแต่เช้าได้ขนาดนี้เราต้องพักที่พักใกล้ๆ ก็คือบ้านไม้ชายดำรีสอร์ท จากรีสอร์ทเดินไปไม่ไกลก็ถึงหรือจะเอารถไปก็ได้

ศูนย์บริการหาดทรายดำ มาถึงทางเข้าหาดทรายดำจริงๆ จะต้องเดินผ่านอาคารหลังนี้ ทะลุไปอีกด้านของอาคารแล้วจะมีทางเดินคอนกรีตยาวไปหาดทรายดำ มีทางแยกไปออกทะเลที่สุดเขตป่าชายเลนได้ทางเดินเค้าเชื่อมถึงกันหมด

ระหว่างสะพานข้ามไปศูนย์บริการด้านล่างเป็นโคลนของป่าชายเลน มองไปด้านซ้ายจะเห็นแนวป่าโกงกางขึ้นยาว เวลาน้ำขึ้นตรงนี้เหมือนคลองแต่เป็นช่วงสั้นๆ พอน้ำลงก็เป็นเลนเหมือนเดิม

ปลาตีนกับปูแสม เลนใต้สะพานเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด แต่ที่จะเห็นบ่อยๆ คือ ปลาตีน กับปูแสมนี่แหละ โดยเฉพาะปูแสมมีจำนวนเยอะมาก ปกติปูชนิดนี้กินได้ แต่คนแถวนี้ไม่ค่อยจับกินเพราะมีข้อตกลงกันว่าให้เลือกจับขนาดปูที่โตแล้วเท่านั้นเพื่อรักษาให้มันอยู่ต่อไปนานๆ ส่วนปลาตีนคนแถวนี้ไม่จับเลย เราก็มีโอกาสได้เห็นปลาตีนตัวเกือบเท่าแขนหากินแบบสบายๆ ไม่ค่อยกลัวคน

ปลาตีน

ป่าชายเลน ทะลุอาคารเข้ามาออกประตูหลังเส้นทางสะพานคอนกรีตพาเราตรงเข้าไปในป่าโกงกางค่อนข้างหนาตลอดเส้นทางมีอะไรให้เราเรียนรู้มากมายโดยเฉพาะสัตว์บางชนิดที่อาศัยอยู่เฉพาะในแถบป่าชายเลนเท่านั้น

หาดทรายดำ เดินประมาณ 15 นาที แบบเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบเราก็ทะลุมาอีกด้านของป่าชายเลน เหมือนประตูทะลุมิติมาออกท้องทะเลกว้างใหญ่ ด้านล่างเป็นทรายดำผสมกับหินและเปลือกหอย ทรายดำเป็นทรายที่ละเอียดมาก ถ้าจะเอามาหมกตัวบางคนเอาตาข่ายไปร่อนเอาเศษหอยออกไปก็จะมองเป็นผงแป้งสีดำสนิทเลย หาดทรายดำยาวเป็นกิโลเมตรจากแหลมมะขามเชื่อมไปถึงบ้านยายม่อมตามแนวหาดมีป่าโกงกางและต้นไม้มากมายอาจจะดูไม่เหมือนหาดทรายดำของที่อื่นที่เป็นเหมือนหาดทรายปกติแต่การมีป่าชายเลนติดกับหาดทรายดำของไทย ก็นับเป็นความพิเศษที่ที่อื่นเค้าไม่มี ตรงนี้มีศาลาสำหรับชมวิวพักผ่อน มองไปทางขวามือเราจะเห็นเกาะช้างที่ใหญ่โตเหมือนอยู่ใกล้มาก

หาดทรายดำ

หอยขาว เป็นหอยที่พบมาในบริเวณหาดทรายดำ ชาวบ้านยายม่อมจะหาหอยขาวไปทำอาหาร คุ้ยลงไปตื้นๆ ก็เจอหอยขาวเยอะแยะใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็จะได้หอยไปเกือบเต็มถุงแบบนี้เลย แต่บางวันก็อาจจะไม่ค่อยเจอหอยขาวต้องแล้วแต่ดวงด้วย หอยขาวมีหลายชื่อเหมือนกันแล้วแต่พื้นที่ ได้แก่ หอยขาว  หรือหอยลาย  หรือหอยกระปุก

สปาทรายดำ ทีนี้มาว่ากันตรงไฮไลท์สำคัญของทรายดำ เพราะทรายดำนี้มีเพียง 5 แห่งในโลก ที่เกาะฮาวายก็มี 1 หาดที่เป็นทรายดำ ที่แหลมงอบก็เลยเหมือนฮาวายเมืองไทยไปซะเลย ชาวบ้านเชื่อกันมาหลายชั่วอายุคนว่าทรายดำนี้สามารถรักษาอาการปวดเมื่อยได้ดีมาก เอาขาหมกเข้าไปในทราย (ปกติเป็นทรายแห้งที่ตากแดดร้อนๆ) ทำให้หายปวดเมื่อย หนักๆ เข้าคนเป็นอัมพฤกษ์เลยมาลองหมกทั้งตัวหลายวันเป็นเดือนๆ แต่แล้วก็หายจากอาการอัมพฤกษ์อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ในทางการแพทย์ยืนยันว่าทรายดำไม่มีสรรพคุณในการรักษาโรคแต่คนก็ยังคงมาหมกทรายดำอยู่เป็นประจำ ตอนที่หาดทรายดำแหลมมะขามปิดปรับปรุงคนก็ไปหมกที่บ้านยายม่อมซึ่งทำเป็นจริงเป็นจังมาก

ม้านั่งหมกทรายดำ ตอนนี้หลังจากการประกาศเปิดหาดทรายดำอย่างเป็นทางการโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ก็มีบริการหลายอย่างเกิดขึ้น อย่างแรกคือม้านั่งสำหรับนั่งหมกทรายดำ ปกติการหมกทรายแต่ละครั้งไม่ได้กำหนดเวลาอะไรชัดเจนส่วนใหญ่แล้วแต่ความชอบความพอใจของแต่ละคน สำหรับคนที่ต้องการรักษาอาการปวดข้อเท้าจะนั่งม้านั่งสูงกลบทรายที่เท้า ส่วนคนที่ปวดขา หัวเข่า ก็จะมีที่นั่งราบไปกับพื้นเพื่อให้ยื่นขาออกไปแล้วเอาทรายกลบ บางคนต้องการหมกทั้งตัวก็หาที่ว่างๆ นอนลงไปให้เพื่อนเอาทรายกลบให้ทั่วตัวแล้วนอนไปสักตื่นค่อยลุกออกมา

หมกทรายดำ วันเปิดหาดวันแรกหลังการปิดปรับปรุง ลุงคนนี้เดินทางมาจากโคราชเพื่อมาหมกตัวโดยเฉพาะ ลุงเล่าว่าได้ยินเรื่องทรายดำมานานแล้วแล้วรู้ว่ามีเฉพาะที่แหลมงอบ จังหวัดตราดเท่านั้นเลยอยากมาลองดูสักครั้ง มาถึงก็นอนลงไปเอาทรายกลบ นอนอยู่เกือบ 2 ชั่วโมงก็ลุกขึ้นมาปัด 3-4 ครั้ง ทรายดำก็หลุดออกไปหมดเป็นเพราะความละเอียดเหมือนแป้งถึงทรายดำจะเปียกๆ แต่ก็ไม่เกาะตามตัว

หาดทรายดำ บางคนเห็นรูปนี้แล้วคิดว่าเป็นหาดทรายที่อยู่ใกล้ท่อระบายน้ำทรายเลยเป็นสีดำ แต่ความจริงแล้วบริเวณนี้ไม่มีโรงงานไม่มีการปล่อยน้ำเสีย และทรายพวกนี้ก็มีสีดำตามธรรมชาติจริงๆ

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดเยี่ยมชมหาดทรายดำ นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดงาน ‪#‎12สิงหาพาแม่เที่ยว‬ ‪#‎มหัศจรรย์หาดทรายดำ‬ หลังจากนั้นเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนมาทะลุหาดทรายดำ ชมกิจกรรมการหมกทรายดำและการสปาด้วยถ่านกะลามะพร้าว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านยายม่อมที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน โดยการเอากะลามะพร้าวมาเผาจนกลายเป็นถ่านละเอียดๆ ผสมกับโยเกิร์ต พอกหน้าจนได้ที่ พอเช็ดออกหน้าก็จะนุ่มเด้ง เรียกกิจกรรมนี้ว่า "กะลาหน้าเต้ง" แล้วยังมีการนวดแผนไทย คลายปวดเมื่อยด้วย

กะลาหน้าเด้ง เป็นสปาหน้าตามภูมิปัญญาชาวบ้านยายม่อม กะลามะพร้าวเอามาเผาให้เป็นถ่านผงละเอียดมากๆ เหมือนแป้งฝุ่นผสมเข้ากับส่วนผสมอื่นๆ อีก 2-3 อย่าง มีโยเกิร์ตด้วย ผสมจนได้ที่เอามาพอกบนหน้าทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที เช็ดออกเบาๆ ก็จะได้ผิวหน้าเนียนนุ่มเด้งๆ อย่างน่าประหลาด ใครไปลองเป็นได้ติดใจเพราะส่วนผสมมาจากธรรมชาติล้วนๆ จึงไม่มีคนแพ้หรือผลข้างเคียงด้วย

หอยขี้ค้อน หลังจากทำการหมกทรายดำ สปาเท้า สปากะลาหน้าเด้งกันเป็นที่เรียบร้อย ต่อไปก็เป็นการเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน เป็นหอยที่มีขนาดใหญ่มากๆ เกือบเท่ากำมือแต่ยาวกว่า ลักษณะก้นยาวๆ เรียวแหลม อาศัยอยู่เป็นกลุ่มๆ หอยชนิดนี้เคยหายไปจากพื้นที่แหลมมะขามและบ้านยายม่อมเกือบๆ 20 ปี แล้วก็กลับฟื้นขึ้นมามีจำนวนมากโดยไม่มีใครรู้ว่าหอยพวกนี้หายไปไหน หลังจากที่พวกมันกลับมาชาวบ้านก็ตกลงกันว่าจะไม่กินหอยขี้ค้อนปล่อยให้มันอยู่ตามธรรมชาติ เราเลยได้เห็นหอยหายากพวกนี้อยู่เต็มไปหมดในป่าชายเลนหาดทรายดำ และยังไม่มีข้อมูลว่าพบในที่ไหนบ้างเหมือนกับว่าจะเป็นที่เดียวในไทยซะด้วย

ปูก้ามดาบ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พบได้ที่หาดทรายดำ บางที่เรียกว่าปูเปรี้ยวมีก้ามโตๆ อยู่ข้างเดียวปกติชอบโบกหรือแกว่งก้ามขู่คู่ต่อสู้ และประกาศอาณาเขต ปูก้ามดาบเห็นไม่เยอะเท่าปูแสม

ปูแสม เป็นปูที่เห็นได้บ่อยระหว่างการเดินบนสะพานในป่าชายเลน ถึงจะไม่เยอะมากแต่ถ้าเจอเราจะเจอตัวที่สีสวยๆ จนอดที่จะก้มลงไปถ่ายรูปมันชัดๆ ไม่ได้

ปลาตีน เป็นปลาที่น่าสนใจนะเพราะมันเดินได้ ปลาตีนตัววัยรุ่นๆ เวลาเดินจะกางใบ (ครีบหลัง) ตั้งขึ้นเหมือนเรือใบ แต่พอเวลามันหยุดเดินมันจะหุบใบลง ส่วนตัวใหญ่มากๆ เวลาเดินบางทีก็กางบางทีก็ไม่กางคงมีประสบการณ์เยอะและรู้ว่าไม่ค่อยมีศัตรูเลยไม่จำเป็นต้องกาง

พิธีเปิดหาดทรายดำ หลังจากการสร้างสะพานทางเดินและปรับปรุงสิ่งต่างๆ ในป่าชายเลนจนทะลุไปถึงหาดทรายดำ จังหวัดตราด นำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในพิธีเปิดหาดทรายดำ เททรายดำละเอียดลงในกรอบตัวหนังสือเป็นป้ายหาดทรายดำ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2558 สิ่งมหัศจรรย์หาดทรายดำก็พร้อมที่จะค้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งคนที่ชื่นชอบป่าชายเลน ทั้งคนที่ชอบของแปลก คนที่อยากลองหมกทรายดำแก้ปวดเมื่อย หรือคนอยากจะลองสปากะลามะพร้าว คนชอบชมวิวทะเลสวยๆ มาเที่ยวหาดทรายดำได้ครบทุกอย่างที่ต้องการ

ในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีสินค้าเครื่องสำอางค์จากธรรมชาติหลายอย่างให้เลือกช้อป ทั้งสบู่เหงือกปลาหมอ ยาสระผม ฯลฯ