เวลาเปิด-ปิด:08:00 - 18:00
ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. ขอนแก่น โทร 0 4322 7714-5
http://www.tourismthailand.org/khonkaen
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ตำบลโสกนกเต็น เดิมขึ้นกับตำบลเมืองพล ได้แยกออกเป็นตำบลโสกนกเต็น เมื่อปี พ.ศ.2532 เดินทางจากตัวเมืองพลมาหมู่บ้านใกล้มากจนไม่อยากจะเชื่อว่าเราไม่เคยได้ยินชื่อหมู่บ้านนี้มาก่อน วันนี้ที่หมู่บ้านมีพิธีด้วยเลยได้ร่วมงานกับเค้าไปโดยปริยาย พิธีนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า สู่ขวัญม้อน เป็นสำเนียงอีสานแปลได้ว่า สู่ขวัญหม่อน คือเจ้าหม่อนหนอนไหมนั่นเอง
ชาวบ้านละแวกนี้ยังคงใช้ชีวิตเหมือนๆ กับชาวอีสานส่วนใหญ่คืออาชีพหลักอยู่กับการทำนาทำไร่ทำสวน หนักไปทางทำนาเป็นส่วนใหญ่ เรื่องการทอผ้าไหมต้องเป็นอาชีพเสริมและใช้เวลาในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำนาจริงๆ แต่หลังๆ มาการขายผ้าไหมมีรายได้มากขึ้นและมีคนมาอุดหนุนมากกว่าแต่ก่อน อาชีพทอผ้าไหมก็เริ่มที่จะทำรายได้ได้พอๆ กับอาชีพหลัก ถ้ามองในแง่ที่ว่ารายได้เฉลี่ยทั้งปียังมากกว่าทำนาเพราะทำนาทำได้หนเดียวเอง
กระบวนการเลี้ยงหม่อนไหม การเอาไหมออกมาจนถึงการเอามาทอ เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ไม่ได้ต่างกับการทอผ้าไหมของหมู่บ้านอื่นๆ แต่ที่สำคัญของผ้าไหมมันอยู่ที่ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านที่สืบทอดต่อกันมาอย่างไม่มีใครเลียนแบบใคร บางทีแค่เห็นลายซิ่นก็รู้ว่าเป็นคนบ้านไหนเลยทีเดียว
ลายไหมฮีต 12 บ้านโสกนกเต็น เป็นเอกลักษณ์อันโดนเด่นเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย หรือจะว่าไปต้องบอกว่ามีแห่งเดียวในโลก ลวดลายบนผืนผ้าไหมออกแบบมาด้วยความแปลกและมหัศจรรย์ เกิดจากจินตนาการของคนออกแบบลาย และหลายๆ ลายที่เราเห็นเกิดขึ้นเมื่อคนโบราณไปเห็นเหตุการณ์ต่างๆ แล้วมาประยุกต์ให้เป็นลายบนผ้า
ลายผ้าไหมฮีต 12 มีเรื่องราวมากมายที่เล่าขานสืบกันมา เท่าที่จับใจความได้จากคำบอกเล่าของชาวโสกนกเต็น ผ้าไหมบุญราศรี 12 ฮีตอีสาน คือ
บุญเดือนอ้ายผ้าไหมลายข้าวหลามตัด ใช้ในช่วงงานบุญเข้ากรรม เป็นพิธีกรรมสำหรับพระภิกษุสงฆ์ที่ต้องอาบัติ (เป็นอาบัติเล็กๆ น้อยๆ ที่ปลงอาบัติได้) เป็นช่วงบุญเดือนอ้าย ชาวบ้านจะถวายข้าวหลามซึ่งจะเป็นข้าวหลามจากข้าวใหม่ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวใหม่ๆ
ผ้าไหมลายที่สองบุญเดือนยี่งานบุญคูณลาน คือการขอบคุณพระแม่โพสพ เป็นงานบุญที่จัดในช่วงเดือนยี่ ใช้คู่กันกับขันหมากเบ็ง มีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ เพื่อขอให้พระแม่โพสพ บันดาลให้มี ผลผลิตข้าวมากๆ อีกในปีหน้า ผ้าไหมจะใช้ไหมมัดหมี่โบราณชื่อลายขันหมากเบ็ง
บุญเดือนสามบุญข้าวจี่ เป็นช่วงปลายหน้าหนาว มีตำนานเกี่ยวกับนางสุชาดา ซึ่งเป็นเมียพระอินทร์ไม่ค่อยได้บำเพ็ญกุศลทำบุญ ต่อมาได้เกิดมาเป็น นางนกกระยางขาว ต้องบำเพ็ญกุศลเพื่อจะได้กลับไปเสวยสุข ชาวบ้านเลยทอผ้าไหมลายนกกระยางคู่ใช้ในการไปทำบุญข้าวจี่
บุญผะเหวดหรือบุญมหาชาติ งานบุญเดือนสี่ จะใช้ขันหมากเบ็งใหญ่ เป็นบุญมหาชาติ จะมีเครื่องถวายพร้อมขันหมากเบ็งจำนวนมากกว่าบุญเดือนสามก็มีผ้าซิ่นลายเฉพาะของบุญนี้ เรียกว่าลายขันหมากเบ็งใหญ่นั่นเอง
บุญสงกรานต์ บุญเดือน 5 ใช้ผ้าไหมลายขาเปีย มีความหมายคล้ายๆ กับ การไขว้การเกี่ยวพัน ใช้หมายถึงความผูกพันของชาวบ้านเมื่อถึงเดือน 5 ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนให้กลับมารวมกัน ผูกพันกันเหมือนลายขาเปีย
บุญเดือนหกเป็นงานบุญบั้งไฟ ผ้าไหมลายดอกแก้วน้อย ตามความเชื่อของคนอีสานถ้าจะถวายดอกไม้ไม่ว่าดอกอะไรใส่เข้ามาในพานก็จะเรียกรวมว่าดอกแก้วทั้งหมด ตามความสวยงามและกลิ่นที่หอมของดอกไม้เตรียมมาสำหรับถวายพระ เรียกรวมว่าดอกแก้ว
บุญเบิกบ้านหรือบุญซำฮะ เป็นงานบุญในช่วงเดือน 7 เป็นเดือนที่เริ่มมีหน้าฝน จะเป็นช่วงเริ่มต้นแห่งการทำนา คำว่าซำฮะ เป็นภาษาอีสานแปลตรงตัวว่าชำระ เอาสิ่งไม่ดีออกไปก่อนที่จะเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ ลายผ้าไหมในงานบุญนี้จะใช้ลายหมี่ฟันหวีไส้กงสิบสาม
บุญเดือนแปด ช่วงแห่งการเข้าพรรษา จะใช้ซิ่นที่เรียกว่า ซิ่นเอาบุญ ชื่อลายหมากหญ้าหยุมหรือหมากจับหยุม แนวคิดของลายนี้ กล่าวถึงสตรีที่่ แฟนหนุ่มบวชเป็นพระจะต้องจำพรรษาในวัดถึง 3 เดือน ก็จะรีบไปวัดร่วมงานบุญ ต้องเดินผ่านทุ่งนาไปตามคันนา มีโคลนดีดกระเด็นใส่ มีหญ้าเจ้าชู้เกาะชายผ้าซิ่นเต็มชายซิ่นไปหมด ลวดลายก็จะออกมาแปลกตา ชาวบ้านปกติใส่ซิ่นทำนาตืนซิ่นจุ่มลงในโคลนทุกวันๆ แล้วสังเกตุเห็นว่าตรงตีนซิ่นผ้าจะนุ่มกว่าส่วนอื่นจึงเป็นไอเดียของผ้าหมักโคลนในเวลาต่อมา
บุญเดือนเก้าบุญข้าวประดับดิน ใช้ผ้าซิ่นไหมมัดหมี่โบราณลายหมี่กาหลง จะทำสำรับกับข้าวเรียกว่าห่อข้าวน้อยไปส่งให้ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว ชาวอีสานถือว่าลูกหลานคนไหนไม่ทำบุญข้าวประดับดิน ญาติที่ตายไปแล้วไม่ได้รับข้าวก็จะถูกยมบาลลงโทษ
บุญเดือนสิบ บุญข้าวสาก เป็นงานประเพณี บุญสายกล่องข้าว ต้องมีห่อข้าวน้อยเอามาร้อยเป็นสาย ต้องมียาสูบมวนยาสูบ และพริกกับเกลือเป็นสิ่งที่ต้องห้ามขาดเพื่อเป็นของไปให้ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นงานบุญที่ใหญ่กว่าบุญเดือนเก้า ผ้าไหมสำหรับบุญเดือนสิบเรียกว่าลายคั่นสายก่องข้าว
งานบุญเดือนสิบเอ็ด บุญออกพรรษา ฝากรักให้ก้องฟ้าผ่านผืนผ้าและลายทอ เป็นคำกล่าวถึงลายผ้าซิ่นใช้ในงานบุญเดือนสิบเอ็ด ช่วงแห่งงานบุญออกพรรษา มีผญาหรือกลอนอีสานพูดกันต่อๆ มาว่า "...ออกพรรษาแล้ว น้องแก้วเฝ้าถ่า มัดผ้ามัดหมี่สาย เกาะเกี่ยวลายพันก้าว ส่าว สาวหา รับกฐินแล้วอ้ายสิมา นางหล่าถ่าทอผ้าคองอยู่ล่องๆ อ้ายเอย..." ความหมายประมาณว่า หนุ่มเคยสัญญากับสาวไว้ว่าจะกลับมาบ้านในช่วงออกพรรษา สาวนางนั่งทอผ้าหัวใจคิดถึงแต่การกลับมาของชายหนุ่ม ผ้าไหมลายหมี่ล่ายใช้เทคนิคการผูกให้ลายงอเข้าคล้ายเครือเถาดอก บ้างก็บอกว่าลายหมี่ล่ายเป็นลายที่ทอแล้วจะเอียงไปเรื่อยๆ เหมือนคนทอใจเหม่อลอยคิดถึงแต่ชายหนุ่มที่ตัวเองเฝ้ารอ
บุญเดือนสิบสองบุญกฐิน ใช้ซิ่นลายโซ่ตาข่าย ร่วมงานบุญกฐิน ชาวอีสานถือว่าบุญกฐินเป็นบุญสำคัญที่สุดวัดใดไม่มีต้นกฐินเข้าถือว่าวัดนั้นยังไม่ผ่าน เจ้าอาวาสผู้ครองวัดจะต้องหาวิธีให้มีกฐินเข้าวัดให้ได้ ภายในวันที่ 3 พฤศจิกายน ของทุกปี เหตุผลความเป็นมาของชื่อลายโซ่ตาข่ายต้องยกผญามาสักกลอนว่า "...อ้ายทิดสิสึกมา หลังออกพรรษาว่าสิแต่งดอง น้องนางหล่าต่ำหูกทอผ้าคองถ่าอ้าย เป็นลายโซ่ตาข่ายร่ายรัดไว้หัวใจอ้าย อย่าได้ห่างนาง..." มีความหมายว่า สาวนั่งทอผ้าลายโซ่ตาข่ายในระหว่างรอชายหนุ่มที่จะครบกำหนดสึกในวันออกพรรษา ได้หมายหมั่นไว้ว่าจะแต่งงานหลังจากสึกแล้ว ลายโซ่ตาข่ายนี้จะใช้มัดใจชายหนุ่มไม่ให้เปลี่ยนใจไปไหน
หลักจากชมลายซิ่นผ้าไหมจนตาลาย เราก็ต้องขอจบการพาเที่ยวบ้านโสกนกเต็น อำเภอพลเอาไว้เท่านี้ก่อน บอกได้คำเดียวว่ามันมหัศจรรย์ Amazing มากๆ สุดยอดของฝีมือไทยที่ดังไกลไปทั่วโลก ขนาดลายผ้าไหมที่ใช้ในแต่ละเดือนยังมีความหมายลึกซึ้งขนาดนี้ แล้วผ้าไหมที่ยังมีลายอีกนับไม่ถ้วนจะมีเรื่องราวซ่อนอยู่มากแค่ไหน เราเป็นคนไทยก็ขอให้ภาคภูมิใจและสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาไทยให้อยู่คู่บ้านเมืองเราต่อไปให้นานเท่านานนะครับ
ถ้าอยากรู้เรื่องราวของผ้าไหมไทยโดยเฉพาะผ้าไหมขอนแก่น ขอเชิญให้มาดูกันให้จุใจเต็มอิ่มในงานเทศกาลผ้าไหม ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดขอนแก่น ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น
"บอกรัก"
Sreesongboon Boonsreecamp Takoolwongboonsree
2017-11-23 11:37:54
"ชีวิต เป็น เรื่องสุนทรีย์"
Sreesongboon Boonsreecamp Takoolwongboonsree
2017-11-23 11:36:10
"ชีวิต เป็น เรื่องสุนทรีย์
ขอบคุณ ความสุขจากการได้รัก และถูกรัก"
Sreesongboon Boonsreecamp Takoolwongboonsree
2017-11-23 11:05:29
"ชีวิต เป็น เรื่องสุนทรีย์
ขอบคุณ ความสุขจากการได้รัก และถูกรัก"
Sreesongboon Boonsreecamp Takoolwongboonsree
2017-11-23 10:34:39
"ชีวิต เป็น เรื่องสุนทรีย์
ขอบคุณ ความสุขจากการได้รักและถูกรัก"
Sreesongboon Boonsreecamp Takoolwongboonsree
2017-11-23 10:29:34
15/25 จาก 5 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ