ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานแพร่ (แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) โทรศัพท์ 0 5452 1127
http://www.tourismthailand.org/phrae
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
วิวระหว่างทางสู่ อช.ขุนสถาน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (ถนนยนตรกิจโกศล) เป็นเส้นทางจากตัวจังหวัดแพร่ไปจังหวัดน่าน มาตามเส้นทางประมาณ 66 กิโลเมตรจะถึงหมู่บ้านห้วยแก๊ต ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวง 1216 ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร เส้นทางโค้งและลาดชันมาก ผู้ขับขี่ควรมีความชำนาญ และไม่แนะนำให้เดินทางในเวลากลางคืน ข้อมูลการเดินทางที่ ททท. และกรมอุทยานฯ ให้มานี่จริงอย่างที่สุดครับ พอเราเลี้ยวเข้าบ้านแก๊ตมาไม่นานก็ขึ้นเขา ทางขึ้นๆๆๆๆๆ อย่างเดียว ชันมาก พอขากลับก็จะยิ่งลำบาก
บานสะพรั่ง ระหว่างทาง ตรงนี้ใกล้ถึงสถานีวิจัยน้ำขุนสถานแล้วครับ เห็นทีไรก็อดใจจอดรถไม่ไหว กลัวไม่ได้ถ่ายรูปดอกซากุระเมืองไทย (นางพญาเสือโคร่ง) และนี่เป็นครั้งแรกของทีมงานทัวร์ออนไทยที่ได้เห็นดอกไม้ชนิดนี้ ตื่นเต้นมากๆ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ที่ใช้วิทยุสอบถามข้อมูลอุทยานแห่งชาติขุนสถานเกี่ยวกับการบานของดอกไม้ชนิดนี้ และแนะนำให้เรามาที่นี่ครับ
นางพญาเสือโคร่งบนเขา นี่ยังอีกประมาณ 10 กิโลเมตรจะถึงอุทยานแห่งชาติขุนสถาน เราเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบานเต็มเขาแบบนี้ก็ยิ่งตื่นเต้นมากและอยากไปให้ถึงตรงนั้นเร็วๆ (ขับมาตั้งนานไม่เห็นสักดอกทีแรกก็คิดว่าคงมีไม่กี่ต้น)
เมเปิลกับนางพญาเสือโคร่ง เป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่งกว่า เพราะปกติจะมีเมเปิล หรือ นางพญาเสือโคร่งอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่พอมันอยู่เคียงข้างกันแบบนี้ ก็สวยแปลกตาน่าชมเป็นที่สุด
ชมพูสะพรั่ง สถานีวิจัยน้ำขุนสถาน นางพญาเสือโคร่ง เรียกกันว่า ซากุระเมืองไทย เป็นไม้สกุล บ้วยท้อ ซากุระ จึงได้ชื่อว่า ซากุระเมืองไทย พบทั่วไปบนดอยสูง เช่น ดอยแม่สะลอง จังหวัดเชียงราย ดอยเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ จึงเป็นดอกไม้ประจำอำเภอเวียงแหง ลักษณะการชม ก็จะไปชมไกลๆ แบบทัศนียภาพให้เห็นเกลื่อนไป ทั้งดอย ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์
ชื่อพันธุ์ไม้ : นางพญาเสือโคร่ง ชื่อสามัญ (ไทย) : ฉวีวรรณ (ภาคเหนือ) เส่คาแว่ เส่แผ่ แส่ลาแหล (กะเหรี่ยง เชียงใหม่) ซากุระดอย (เชียงใหม่)
ชื่อสามัญ (อังกฤษ) : Wild Himalayan Cherry
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Prunus cerasoides D.Don ชื่อวงศ์ : Rosaceae
ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ: ชมพูภูพิงค์
การกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติ นางพญาเสือโคร่ง เป็นพรรณไม้ที่มีการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน พบอยู่กในป่าที่ระดับความสูง 500-1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเลในประเทศไทย พบขึ้นตามภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,00-2,000 เมตร เช่น บนดอยอินทนนท์ ดอยเชียงดาว ฯลฯ ลักษณะทางวัฒวิทยา : นางพญาเสือโคร่งเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 10-15 เมตร ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว ลักษณะรูปรีแบบไข่ หรือไข่กลับ ออกสลับกัน ใบมีความกว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 5 -12 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบกลมหรือสอบแคบ ขอบจักปลายก้านใบมีต่อม 2-4 ต่อม หูใบแตกแขนงคล้ายเขากวาง ใบร่วงง่าย ดอก สีขาว ชมพู หรือดง ออกเป็นช่อกระจุกใกล้ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 0.7-2 เซนติเมตร ขอบริ้วประดับจักไม่เป็นระเบียบ กลีบเลี้ยงติดกันเป็นรูปกรวย กลีบดอกมี 5 กลีบ เมื่อบานขนาดโตเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ผล รูปไข่หรือกลม ยาว 1-1.5 เซนติเมตร เมื่อสุกสีแดง ระยะเวลาออกดอก ออกดอระหว่างดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์ โดยจะทิ้งใบก่อนออกดอก
การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์โดยเมล็ด การปลูก การเจริญเติบโตและการปรับปรุงพันธุ์ : ได้มีการปลูกนางพญาเสือโคร่งบนพื้นที่ต้นน้ำลำธารมาเป็นเวลา 10 ปี แล้วปรากฏว่าได้ผลดี เป็นไม้ที่มีความเหมาะสมในการที่จะขึ้นอยู่ในพื้นที่ผ่านการทำไร่เลื่อนลอย บนพื้นที่สูงแต่ไม่ควรปลูกบนพื้นที่ซึ่งมีลมพัดจะทำให้กิ่งก้านหักได้ง่าย วนวัฒนวิธีและการจัดการ : ยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับวนวัฒนวิธีและการจัดการที่เหมาะสม การใช้ประโยชน์ : ผลของพญาเสือโคร่งสามารถนำมารับประทานได้ มีรสเปรี้ยว ส่วนเนื้อไม้และการใช้ประโยชน์ ด้านอื่นยังไม่มีการบันทึกข้อมูลไว้ นอกจากการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีดอกสวยงาม
http://th.wikipedia.org/wiki/นางพญาเสือโคร่ง
นางพญาเสือโคร่ง มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสวยๆๆๆๆ เกินคำบรรยาย ไว้มีโอกาสจะไปอีกให้จงได้
นางพญาเสือโคร่ง ช่อเดียวโดดๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะสวยน้อยลงเลยนะครับเนี่ย
บ้านพักสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน บ้านนี้ทำให้เหมือนเมืองนอกมองเห็นแค่นี้จะเอามาหลอกเพื่อนๆ ว่าไปนอกมาก็คงมีคนเชื่อแน่ๆ อยากให้มีบ้านพักแบบนี้อยู่ในสถานที่แบบนี้จริงๆ คงจะมีคนเข้าพักไม่ว่างเว้นแต่ละวันตลอดฤดูกาลของดอกนางพญาเสือโคร่งแน่ๆ ที่สำคัญ สถานีวิจัยน้ำขุนสถานนอกจากจะมีต้นพญาเสือโคร่งให้ชมกันแล้วยังมีต้นชมพูภูคาด้วย ซึ่งดอกไม้ 2 ชนิดนี้จะออกดอกในช่วงเวลาต่างกันเล็กน้อย คือชมพูภูคาจะออกดอกบานช้ากว่า ประมาณ 1 เดือน ติดต่อบ้านพัก (ช่วงปีใหม่เต็มทุกปีครับ) 0899653218
ซากุระเมืองไทย เห็นแบบนี้แล้วนึกถึงภาพดอกซากุระของญี่ปุ่น แม้ว่าขนาดของดอกจะต่างกัน แต่เมื่อมันอยู่กลางแดดจัดก็สวยไม่แพ้กันเลย
ระเบียงหน้าบ้าน ที่เห็นเป็นบ้านรูปทรงสวยๆ เหมือนเมืองนอกนั่นแหละ หน้าบ้านมีระเบียง ข้างล่างมีการปลูกดอกไม้อีกหลายชนิดหลายสีสวยงามมากจริงๆ
เส้นทางสู่ อช.ขุนสถาน จากสถานีวิจัยน้ำขุนสถานก็เดินทางกันต่อ ระยะทางอีกหลายกิโลเมตร ผ่านเส้นทางที่ค่อนข้างอันตราย ถ้าพลาดไปละก็เจอกันข้างล่างแน่ๆ แต่ก็สวยดีครับ
ลานกางเต็นท์ อช.ขุนสถาน ลานกางเต็นท์ของอุทยานแบ่งเป็นหลายโซนให้เลือกแต่ละโซนจะมีเต็นท์ของอุทยานกางรอไว้ให้บริการอยู่แล้ว หลังละ 400 นอนได้ 3 คน มีแผ่นรองนอน 3 แผ่น ผ้าห่ม (บางหน่อยแต่อุ่นนะ) 3 ผืน หมอน 3 ใบ พร้อมเข้าพักได้เลย ถ้าเอาเต็นท์มากางเองอุทยานคิดค่ากางไม่แพง ห้องน้ำมีหลายจุดมากพอสำหรับคนมาเที่ยวแน่นอน แต่ไม่มีน้ำอุ่นนะ เรื่องราวรีวิวอุทยานคลิกที่ลิงค์นี้จ้า อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
ดอกชมพูภูคาแบบเต็มตาที่ขุนสถาน ขอเพิ่มรูปดอกชมพูภูคาครับ... หลังจากที่เคยได้มาชมนางพญาเสือโคร่งที่สถานีวิจัยน้ำขุนสถานแห่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงปีใหม่ สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ สถานีวิจัยน้ำขุนสถานก็ยังมีดีมาให้ดูอีกครั้ง นั่นก็คือดอกชมพูภูคา ซึ่งทั้งสองชนิดนี้จะบานทิ้งช่วงห่างกันประมาณ 1-2 เดือน เราได้เดินทางไปชมดอกชมพูภูคาที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคามาแล้วแต่รู้สึกไม่เต็มตาเท่าที่ที่นี่เพราะต้นชมพูภูคาที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคานั้นมีขนาดลำต้นสูงมากจนเห็นเพียงไกลๆ เท่านั้น
ช่อชมพูภูคาบานสูงกว่าหัวนิดเดียว เห็นกันชัดๆ ว่าต้นชมพูภูคาที่สถานีวิจัยน้ำขุนสถานนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อมหากเทียบกับต้นที่สูงลิบลิ่วที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยภูคาให้มาที่นี่แทนนะครับ แค่เอามาบอกกันเท่านั้น ต้นชมพูภูคาที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาเป็นต้นที่ขึ้นตามธรรมชาติและอยู่ในป่า เค้าจึงต้องสูงๆๆ เพื่อแย่งแสงแดดกับต้นไม้ชนิดอื่นๆ ใกล้เคียงกัน ก็เอาเป็นว่าไปดูต้นตามธรรมชาติต้องไปดอยภูคา แล้วมาดูแบบเต็มตากันที่นี่ เพราะทั้งสองแห่งไม่ไกลมาหากกลับจากอำเภอปัวที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติดอยภูคากลับมากรุงเทพฯ ผ่านตัวเมืองน่านใช้เส้นทาง หมายเลข 101 กลับลงทางจังหวัดแพร่ เลยตัวเมืองน่านมาหน่อยประมาณ 72 กิโลเมตรเข้าทางบ้านห้วยแก๊ตทางหลวงหมายเลข 1216 ชมดอกชมพูภูคากับบรรยากาศวิวสวยๆ ของอุทยานแห่งชาติขุนสถานแล้วค่อยกลับเหมือนเราก็ได้
บ้านพักเจ้าหน้าที่ บ้านหลังนี้เปิดบริการให้เข้าพักได้ครับ ไม่มีราคาขั้นต่ำ เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เท่าไหร่ก็ได้ ช่วยค่าน้ำค่าไฟ แต่เสียใจด้วยนะครับเต็มจนถึงปีหน้าแล้วสำหรับช่วงปีใหม่ที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบาน ทีมงานของเราได้มาที่นี่ทั้งทีก็ต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันบ้าง
เมเปิลสีเขียว ต้นเมเปิลต้นเดิมที่เคยมาเมื่อช่วงปีใหม่เปลี่ยนสีทิ้งใบสีแดงสวยงามไม่แพ้อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเพียงแต่มีจำนวนน้อยกว่าเท่านั้นคือเห็นอยู่เพียงต้นเดียว ในช่วงกุมภาพันธ์ ใบเมเปิลแตกใหม่เป็นสีเขียวอ่อนสะท้อนกับแสงแดดดูจากด้านล่างสวยงามเหมือนกันนะครับ
"มีความฟินแบบอินเตอร์ๆ หน่อยๆ"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-10-29 15:21:39
""
Akkasid Tom Wisesklin
2017-10-29 15:15:33
10/10 จาก 2 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ