ศาลาฤๅษี

ศาลาฤๅษีเขาสามมุข อำเภอเมือง ชลบุรี ประวัติพอสังเขปก่อนที่จะมาเป็นศาลาฤๅษี มีอาจารย์วสันต์เป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องการเข้าทรง มีอาชีพขับรถแทกซี่ ต่อมาก็มีอาจารย์เป๋าเอิน ท่านอยู่ที่โบสถ์พราหมณ์มาชี้บอกว่าอาจารย์วสันต์เป็นร่างทรงของปู่ฤๅษีนารอด แต่อาจารย์วสันต์ไม่เชื่อ อาจารย์เป๋าเอินจึงสวดมนต์ อาจารย์วสันต์รู้สึกมึนงง อาจารย์เป๋าเอินบอกว่าอาจารย์วสันต์เป็นร่างทรางของปู่ฤๅษีนารอดต่อไปข้างหน้า จะแผ่บารมีช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก และพวกที่ถูกภูติผีปีศาจรังแก เป็นองค์ที่จะช่วยบรรเทาทุกข์ชาวบ้าน อาจารย์วสันต์ก็เลยอยู่กับท่ามาตั้งแต่นั้น ถึงบัดนี้ก็ 40 กว่าปี ต่อมาอาจารย์ท้วมมาชวนไปช่วยสร้างวัดแสนสุข เพื่อไปช่วยกันบูรณะวัด อาจารย์วสันต์ก็เลยไปอยู่กับอาจารย์ท้วมหลายปี ปู่ฤๅษีนารอดมาเข้าฝันอาจารย์ท้วมว่าอยากอยู่บนเขาช่วยกันบอกกับร่างที่ใช้ทรงช่วยซื้อที่ดิน ตอนนั้นเงินก็ไม่มีจะไปซื้อ ต่อมาท่านก็บันดาลโชคให้ก็เลยไปซื้อที่ดินที่ตั้งของศาลาฤๅษี และเริ่มทำการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 มาเสร็จเรียบร้อยในปี พ.ศ. 2509 ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ตั้งแต่นั้นมาท่านก็ลงมาโปรดผู้คนในจังหวัดชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียงให้มีฐานะและหายจากโรคภัยไข้เจ็บ จนเป็นที่นับถือของคนทั่วไป ถ้าหากใครเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ ก็เข้ามากราบไหว้จุดธูปขอพรได้ตามปรารถนา จุดเด่นของศาลาฤๅษี เป็นสถานที่ร่มรื่น มีสิ่งที่ควรเคารพนับถือ เช่น ทางศาลาฤๅษีได้สร้างรูปปั้นจำลององค์พระศิวะ องค์พระนารายณ์ องค์ปู่ฤๅษีนารอด หนุมาน พระสังกัจจายน์ พระกฤษณะ องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. พัทยา โทร. 0 3842 7667, 0 3842 8750 Call Center 1337
http://www.tourismthailand.org/pattaya

แก้ไขล่าสุด 0000-00-00 00:00:00 ผู้ชม 15670

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ทางเข้าศาลาฤๅษี การเดินทางมายังศาลาฤๅษีนั้นคงต้องบอกว่าไม่ยาก มาเขาสามมุขจะมีถนนเลียบเชิงเขาเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นทางแยกที่จะขึ้นเขาด้านซ้ายมือ แต่ถ้ามาเขาสามมุขไม่ถูกอันนี้ก็ต้องอธิบายกันยาวสักหน่อย ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสุขุมวิทผ่านตัวเมืองเข้ามาจะมีแยกไปอ่างศิลา (ทางหลวงหมายเลข 3134) ถ้าเลยแยกอ่างศิลาไปแล้วให้มองหาแยกลงหาดบางแสน แต่เพื่อให้เป็นไปตามลำดับเอาทางแยกอ่างศิลาก่อน พอเลี้ยวแยกอ่างศิลามาแล้วให้ตรงไปเรื่อยๆ ถึงอ่างศิลาทางค่อนข้างโค้งให้ระวังมากขึ้น โค้งไปตามถนน เรื่อยๆ จะเห็นหน่าจา หรือนาจาเด่นตระหง่านอยู่ด้านซ้ายมือ ถ้าอยากแวะก็แวะเข้าไปไหว้เทพเจ้าก่อนได้ เพื่อความเป็นสิริมงคล และชมความสวยงามของศาลเจ้าแบบจีนที่เรียกได้ว่าสวยงามที่สุดในชลบุรี จากนั้นตรงตามเส้นทางเดิมจะมุ่งหน้าไปเขาสามมุขมีทางเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาให้เลี้ยวไปตามเส้นทาง ตรงเข้าไปหน่อยจะมีแยกขึ้นเนินเขาแต่เราตรงไปอีกจะเห็นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่เด่นตระหง่านอยู่ขวามือมีซุ้มประตูเข้าศาลาฤๅษี

ทีนี้ถ้าขับเลยแยกอ่างศิลาไปเข้าแยกบางแสนหรือตั้งใจจะมาบางแสนก่อนแล้วค่อยมาเขาสามมุขก็แล้วแต่ ให้ตรงมาทางแหลมแท่นเลียบหาดมาเรื่อยๆ ไม่นานก็เจอเขาสามมุขอยู่ซ้ายมือ เนื่องจากทางขึ้นเขาสามมุขเป็นทางขึ้นได้ทั้ง 2 ทางบรรจบกันบนเขา ถ้าเข้าทางแรกก็ให้ขึ้นเขาไปก่อนให้อาหารลิงเสร็จแล้วค่อยลงมาจากนั้นถึงเชิงเขาอีกด้านหนึ่งจะมีแยกซ้ายมือคล้ายกลับรถ ไปเรื่อยๆ ก็จะถึงศาลาฤๅษีเช่นกัน

ประตูทางเข้าศาลาฤๅษี เมื่อเข้ามาแล้วจะมีเทพเจ้า พระพุทธรูป ในศาสนาต่างๆ กัน อยู่หลายองค์ก็ไม่ต้องงง เพราะที่นี่ตั้งใจที่จะสร้างให้เป็นลักษณะแบบนั้นอยู่แต่แรก การมาชมศาลาฤๅษีและบริเวณโดยรอบนั้นจะมีป้ายบอกไว้เลยว่า ควรเข้าไปกราบขอพรปู่ฤๅษีก่อน ก่อนที่จะถ่ายรูปสถานที่แห่งนี้เพื่อที่จะได้ภาพที่สวยงามและเป็นการเคารพต่อสถานที่และปู่ฤๅษี

ภายในศาลาฤๅษี บรรยากาศภายในเป็นห้องเล็กๆ ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง ปู่ฤๅษี ธูปเทียนทองมีให้ที่ด้านหน้า จัดไว้ให้ตามจำนวนที่ต้องใช้ให้ทำบุญซื้อธูปนี้ตามศรัทธา จุดธูปไหว้พระ 3 ดอก ปู่ฤๅษี 5 ดอก เทพเจ้าอื่นๆ ที่จะมีเขียนบอกไว้ ธูปที่มัดมาเป็นกำใหญ่จะหมดพอดีเมื่อไหว้ครบทุกที่ตามที่เขียนบอก

หลวงปู่ฤๅษีนารอด

ไฉ่ สิ่ง เอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ อยู่ที่หน้าประตูศาลาฤๅษี

วิหารพระพุทธรูป เป็นหลังเล็กๆ อยู่ด้านข้างศาลาฤๅษี นับจากนี้ไปเราก็จะไปถ่ายรูปเทพเจ้าศาสนาต่างๆ ที่มีอยู่ในบริเวณศาลาฤๅษี เทพเจ้าบางองค์ผมคงไม่บรรยายละเอียดนักเพราะไม่มีความรู้ด้านนี้อย่างลึกซึ้งกันความผิดพลาด

บริเวณศาลาฤๅษี ไหว้พระพุทธรูปแล้วเดินออกมาดูมุมกว้างๆ จะเห็นองค์พระสังกัจจายน์อยู่ตรงซุ้มประตูทางเข้าศาลาฤๅษีนอกจากนั้นก็ยังมีพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอน และพระพุทธรูปปางต่างๆ อีกหลายองค์รอบบริเวณนี้

พระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่เวลาขึ้นไปบนยอดเขาสามมุขจะมองเห็นเจ้าแม่กวนอิมองค์สีขาวขนาดใหญ่นี้จากด้านหลัง ทำให้เกิดความสงสัยมานานแล้วว่าองค์เจ้าแม่กวนอิมนี้อยู่ที่ใดกันแน่วันนี้จึงได้ถือโอกาสลงมาดูกันที่เชิงเขา นอกจากนี้หากไปนั่งกินอาหารในร้านอาหารริมทะเลตั้งแต่อ่างศิลาจะมองเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวนี้ได้เหมือนกัน หรือถ้าขึ้นไปชมความสวยงามของศาลาเจ้าหน่าจาไท้จือ ชั้น 4 มองวิวทิวทัศน์ก็ยังมองเห็นเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ได้ด้วย