บ้านหุ่นเหล็ก

 ชื่อว่าหุ่นยนต์เชื่อได้ว่ามันคือสิ่งที่อยู่ในโลกจินตนาการในการ์ตูน และอยู่ในใจของเด็กมาหลายยุคหลายสมัย ไม่เพียงแต่เด็กในประเทศไทยแต่ความจริงแล้วเด็กๆ ทั่วโลกก็ให้ความสนใจกับหุ่นยนต์ด้วยกันทั้งนั้นโดยเฉพาะเด็กผู้ชาย จนเมื่อเทคโนโลยีล้ำสมัยทำให้หุ่นยนต์ค่อยๆ มีชีวิตออกมาให้เราได้สัมผัสกันมากขึ้นๆ ทุกวัน เริ่มจากการสร้างหนังทำให้ตัวการ์ตูนในหนังสือการ์ตูนขยับได้เหมือนกับมีหุ่นตัวนั้นอยู่จริงๆ จากนั้นก็มีการผลิตหุ่นของเล่นออกมามากมายแต่เป็นพลาสติค อยู่ดีๆ ก็มีคนไทยคนหนึ่งชื่อ นายไพโรจน์ ถนอมวงษ์ สร้างหุ่นเลียนแบบของเล่นขึ้นมาแต่สร้างด้วยเหล็กจริงๆ แม้ว่าหุ่นของนายไพโรจน์จะขยับเขยื้อนไม่ได้ แต่มันก็เป็นหุ่นที่ดูสมจริงมากที่สุดเท่าที่คนเคยสร้างกันมา (ไม่นับต้นแบบที่สร้างมาเพื่อถ่ายหนังนะครับ) และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น หุ่นของนายไพโรจน์ ไม่ได้สร้างขึ้นมาจากส่วนประกอบที่ออกแบบมาก่อนมีแม่พิมพ์ปั๊มออกมาพอประกอบกันแล้วก็เป็นหุ่นยนต์ แต่หุ่นเหล็ก ของเค้าสร้างขึ้นมาจาก เศษเหล็ก เก่าๆ ที่ไร้ค่า กลายเป็น OTOP ชื่อเสียงระบือไปทั่วโลกแต่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก แถมบางคนไปเที่ยวเมืองนอกเห็นหุ่นเหล็กของนายไพโรจน์ กลับซื้อกลับมาเมืองไทยด้วยซะอย่างนั้น

 หุ่นเหล็กที่สร้างขึ้นมานี้ได้รับความนิยมจากตลาดต่างประเทศเรียกว่าทำไม่ทันออร์เดอร์กันเลยทีเดียว การสร้างหุ่น(เศษ)เหล็กขึ้นมาขายตอนแรกสร้างขนาดใหญ่มองดูใหญ่โตสมกับที่เรียกว่าหุ่นยนต์ สูงประมาณ 2-3 เมตร ต่อมาก็มีการสั่งซื่อหุ่นขนาดเล็กเข้ามามากขึ้น จนในที่สุดการผลิตหุ่นก็มีเล็กถึง 5 เซนติเมตรก็มี ตลาดหุ่นเหล็กก็แพร่หลายมากขึ้นในเมืองไทย เวลาเราไปสถานที่บางแห่งก็จะเจอหุ่นเหล็กพวกนี้ยืนอยู่ด้วยก็มี อย่างเช่น ตลาดน้ำทุ่งบัวชม เป็นต้น

 นอกจากการผลิตหุ่นเหล็กออกสู่ตลาดแล้ว นายไพโรจน์ ยังได้เปิดบ้านหุ่นเหล็กขึ้นให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมโชว์รูม รวมทั้งโรงงานผลิตหุ่นเหล็กของเค้าได้โดยไม่ปิดบังใดๆ มีชาวต่างชาติเคยพยายามลองสร้างหุ่นเหล็กเลียนแบบของเราแต่ทำไม่สำเร็จ เพราะงานเหล่านี้เป็นงานฝีมือ และเป็นเครื่องยืนยันว่า งานแฮนด์เมดของไทยไม่เป็นรองใครจริงๆ

 บ้านหุ่นเหล็ก ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเซีย กม. 55.5 เลยทางแยกเข้าเมืองอ่างทอง 5.5 กิโลเมตร ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ต้องกลับรถ ภายในมีลานจอดรถกว้างขวางแสดงให้เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางเข้ามาชมกันอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก ภายในโชว์รูมมีหุ่นเหล็กมากมายหลายแบบซึ่งแน่นอนว่าจะต้องออกมาจากหนังหรือการ์ตูนที่เรารู้จัก หนีไม่พ้น Transformer, The Hulk , เอเลี่ยน, พรีเดเตอร์ ฯลฯ รวมไปถึงหนังการ์ตูนเลื่องชื่อของไทยคือเรื่อง ยักษ์ เท่านี้ยังไม่พอการพัฒนาผลงานของที่นี่ก็ยังมีออกมาเรื่อยๆ ไปจนถึงการสร้างพระพิฆเณศ พระพุทธรูป ได้แก่หลวงพ่อโสธรด้วยเหล็ก ทองแดง ทองเหลือง ออกมาอย่างสวยงามเพิ่มมูลค่าได้มหาศาล

ข้อมูลเพิ่มเติม:Tel: 081-3393345
E-mail : maskmodel@yahoo.com, MRphairote@gmail.com

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ตามถนนสายเอเซียเรามุ่งหน้าไปทางนครสวรรค์ แต่ไม่ไกลขนาดนั้นหรอกครับ เลยแยกอ่างทองไปแค่ 5 กิโลครึ่ง ก็เตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถ พอกลับรถได้แล้วต้องรีบเข้าซ้ายเพื่อให้ทันได้จอดบ้านหุ่นเหล็ก จุดสังเกตุแทบไม่มีอะไรเลย เพราะบ้านหลังนี้ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาโล่งๆ หน้าบ้านมีป้ายบ้านหุ่นเหล็ก มองเข้าไปในรั้วบ้านมีหุ่นเหล็กหลากหลายรูปแบบยืนเรียงกันอยู่ในบ้าน นั่นแหละ เรามาไม่ผิดที่แล้ว

ผลงานเตรียมทำสี ลานสนามหญ้าหน้าบ้านไม่ได้มีไว้สำหรับการตั้งหุ่นโชว์หรอกครับ หุ่นเหล่านี้เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทำสี พร้อมสำหรับส่งให้ลูกค้าหุ่นจะถูกย้ายเข้าไปเก็บไว้ในโกดังเล็กๆ ที่ผมชอบเรียกว่าโชว์รูมมากกว่า เพียงแต่ขาดการจัดแสงสว่างส่องให้หุ่นมันดูสวยเหมือนโชว์รูมเครื่องประดับ หรือรถยนต์ก็เท่านั้น ลานกว้างหน้าบ้านเป็นสถานที่สำหรับทำสี และตากให้สีแห้ง มีหุ่นที่สร้างเกือบเสร็จแล้ววางเรียงรายอยู่เป็นที่ดึงดูดสายตาคนที่ขับรถผ่านไปผ่านมาบนทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเซีย) ขาเข้าเป็นอย่างดี

ตกแต่งขั้นสุดท้าย ที่เราเห็นๆ การสร้างหุ่นแต่ละตัวไม่ได้มาจากการเชื่อมๆๆๆ เป็นตัวหุ่นทั้งตัวแล้วก็ทำสี แต่การทำงานของที่นี่ละเอียดกว่านั้นมาก ชิ้นส่วนของหุ่นแต่ละชิ้น จะถูกสร้างขึ้นมาแยกกัน ลำตัว หัว แขน ขา ทำสีแต่ละชิ้น แล้วนำมาประกอบกัน จึงจะเป็นหุ่นที่สำเร็จทั้งตัว ในบางวันเราจึงได้เห็นหุ่นไม่มีแขน หรือไม่มีหัว ยืนจังก้าหันหน้าออกสู่ถนน รอให้สีที่แขน หรือหัว แห้งดีแล้วค่อยเอามาประกอบกันอีกที รายละเอียดในแต่ละชิ้นของหุ่นก็สมจริงเหมือนกับที่เราเห็นในหนังเลย ปกติชิ้นส่วนเหล่านี้ได้มาจากรถยนต์ พอนำมาสร้างเป็นหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์แปลงร่างมาจากรถยนต์ จึงดูเหมือนออกจากโรงหนังมากๆ เลย

เจ้าของบ้านหุ่นเหล็ก เมื่อเข้ามาบ้านเค้าแล้วก็ควรจะได้ขออนุญาตเจ้าของบ้านเราเดินด้อมๆ มองๆ อยู่สักพักก็ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าคนไหนคือเจ้าของ สุดท้ายก็เดินเข้าไปในห้องขายของที่ระลึก ถึงได้รู้ว่าเจ้าของบ้านหุ่นเหล็กใส่ชุดเดียวกับคนงานในโรงงานเป๊ะ แต่ใส่หมวกเดินรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวนหลังบ้าน เมื่อเจอคุณไพโรจน์ เราก็พากันสัมภาษณ์พองาม ถามไถ่ความเป็นมาของการเปิดบ้านหุ่นเหล็กให้คนเข้ามาเที่ยว ได้ความว่าการสร้างหุ่นเหล็กนี้ทำกันมาเป็นสิบปีแล้วละ คนไทยรู้จักหุ่นเหล็กพวกนี้น้อยกว่าฝรั่งซะอีก บ้านนี้ผลิตหุ่นออกขายต่างประเทศไม่เคยว่างเว้นการสั่งซื้อมีเข้ามาไม่ขาดสาย หุ่นที่สร้างก็มีการออกแบบเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ไม่เฉพาะหุ่นยนต์ มีการสร้างเลียนแบบสัตว์ ไปจนถึงพระพุทธรูปเทวรูป ต่างๆ จนหน้าบ้านตอนนี้เหมือนสวนสัตว์เปิดย่อมๆ แม้แต่ตอนที่เราสัมภาษณ์ก็ยังมีโทรศัพท์เข้ามาอีก เราจึงต้องให้คุณไพโรจน์ไปรับสายซึ่งก็เป็นคำสั่งซื้อหุ่นยนต์นั่นแหละ

ตอนที่เจอคุณไพโรจน์ เรามองหามุมที่จะขอถ่ายรูปมาลงเว็บ มองไปรอบๆ บ้านก็ไม่เจอมุมไหนจะเหมาะเท่ากับมุมนี้ เอ.. หรือว่า คุณไพโรจน์น่าจะลองสร้างตัวเองด้วยเหล็กดูบ้างก็ดีเหมือนกันนะ ให้เห็นว่าคนไทยทำได้ทุกอย่าง ^^

ร้านขายของที่ระลึก เอาละเมื่อคุณไพโรจน์งานยุ่ง เราก็ไปเดินดูอะไรๆ รอบๆ บ้านกันเองดีกว่า ผมว่าเริ่มจากห้องขายของที่ระลึกที่อยู่ชั้นล่างของตัวบ้านกันดีมั้ย ขนาดที่ตั้งตากแดดอยู่ข้างนอกยังสวยขนาดนี้ แล้วข้างในน่าจะมีอะไรสวยๆ ที่น่าถือกลับบ้านเป็นที่ระลึกสำหรับเราบ้างก็ได้

โชว์รูมบ้านหุ่นเหล็ก ก่อนเข้าร้านของที่ระลึก พอดีมองเห็นในโกดังเล็กๆ ด้านหน้าสุด ข้างในมีหุ่นยืนอยู่เยอะแยะไปหมด เอาละเข้าห้องนี้ก่อนดีกว่า โกดังที่ผมเรียกว่าโชว์รูมนี้เป็นห้องเก็บสินค้าก่อนส่งมอบให้ลูกค้า หุ่นมากมายหลายตัวที่นี่พ่นกันสนิมอย่างเดียวไม่ลงสีอื่นๆ ซึ่งก็เป็นไปตามคาแรกเตอร์ของหุ่นต้นแบบจากในหนัง ส่วนหุ่นตัวไหนในหนังมีสีก็ทำสีเหมือนกันเป๊ะ การ์ตูนของไทยเรื่องยักษ์ ที่สร้างความประทับใจไปทั่วโลก เรื่องราวของหนุมานกับทศกัณฑ์ที่เป็นหุ่นยนต์ การสู้รบตลอดกาลของทั้งคู่ จบลงด้วยมิตรภาพ ก็กลายมาเป็นผลงานของบ้านหุ่นเหล็กสวยงามเหมือนในหนังอย่างกับว่าในหนังวาดรูปตามหุ่นตัวนี้เลยทีเดียว

ของที่ระลึก ของที่นี่ก็คงไม่พ้นผลงานหุ่นเหล็ก ติดที่ว่าคำว่าของที่ระลึกคงไม่ใช่ใหญ่เบิ้ม แล้วจะซื้อกลับไปยังไงละครับ หุ่นเหล็กขนาดย่อมลงมามากมายหลายตัวหลายแบบมีให้เลือกในห้องนี้ แล้วยังเป็นห้องแอร์ด้วย เดินชมไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ สนนราคาแต่ละตัวขึ้นอยู่กับ วัสดุ แบบ และขนาด ครับ บางตัวมีขนาดไม่ใหญ่แต่สร้างจากทองแดง ราคาก็แพงกว่าเหล็กเป็นธรรมดา เดี๋ยวพาเดินชมรอบๆ ห้องว่ามีอะไรมั่ง

The Hulk ยักษ์สีเขียวที่โลดแล่นอยู่ในจอหนังสร้างรายได้เป็นพันล้านให้กับฝรั่ง ตอนนี้มาสร้างรายได้ให้คนไทยไม่น้อยเช่นเดียวกัน เจ้ายักษ์ตัวนี้ขนาดเตี้ยวกว่าเอวนิดหน่อย ถ้าเอารถกระบะมาก็พอจะขนกลับได้อยู่

ตู้ของเล่นต้นแบบ ด้านหนึ่งของผนังห้องขายของที่ระลึกเป็นชั้นวางของแบบตู้กระจกโปร่งใส นี่คือที่มาของหุ่นเหล็กที่เราเห็น หุ่นทุกตัวมีที่มาที่ไปไม่ใช่ว่าจะสร้างกันตามจินตนาการไปซะทั้งหมด การซื้อหุ่นพลาสติกเหล่านี้มาเพื่อออกแบบและสร้างให้เป็นหุ่นเหล็ก เป็นเรื่องจำเป็น เห็นหุ่นของเล่นพวกนี้แล้วพอจะนึกออกมั้ยว่าที่นี่สร้างหุ่นได้ทั้งหมดกี่แบบ

พระพุทธรูปเหล็ก อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของบ้านหุ่นเหล็กที่สามารถสร้างพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามด้วยการเชื่อมวัสดุเข้าด้วยกันทีละชิ้นๆ จะว่าไปก็ไม่ใช่เหล็กแต่เป็นทองแดง จริงอยู่ว่าการสร้างพระด้วยวิธีการนึ้ดูค่อนข้างประหลาดไปจากพระพุทธรูปทั่วไปแต่การเชื่อมโลหะให้ได้รูปทรงงดงาม รายละเอียดไม่ผิดเพี้ยนไปจากองค์จริงได้แบบนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ นี่คือเครื่องยืนยันว่าโรงงานแห่งนี้สร้างได้แทบทุกอย่าง

พระพิฆเณศเหล็ก

โรงงานหุ่นเหล็ก เอาละเดินชมผลงานการสร้างหุ่นกันมาเยอะแล้ว เห็นหุ่นสวยๆ มาหลายแบบหลากสี จากหนังดังมากมายหลายเรื่อง คราวนี้ก็ได้เวลาเดินมาชมขั้นตอนการสร้างหุ่น กว่าจะได้หุ่นขึ้นมาแต่ละตัวเค้าทำกันยังไงบ้าง

จากห้องขายของที่ระลึก ด้านตรงข้ามของทางเดินในบ้านหุ่นเหล็กก็จะเป็นพื้นที่โรงงาน เราจะเห็นคนงานหลายคนเดินหยิบนู่นหยิบนี่เอามาตัดมาแต่งมาเจียรได้รูปแล้วเอามาเชื่อมเข้าด้วยกัน ค่อยๆ เพิ่มเข้ามาทีละชิ้นๆ จนเป็นรูปร่างของหุ่นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คนงานที่นี่จะต้องตัด ดัด เจียรแต่ง และเชื่อมเอง แต่ละคนทำหุ่นของตัวเองไม่มีแบ่งแยกแผนกเหมือนโรงงานทั่วไป เพราะคนที่จะรู้ดีว่าควรจะตัดจะต่อจะแต่งตรงไหนถึงจะมาประกอบกันได้พอดีก็มีเพียงคนเชื่อมหุ่นคนเดียวเท่านั้น การเดินเข้ามาชมในพื้นที่โรงงานไม่ได้เป็นการหวงห้าม เพียงแต่ต้องขออนุญาตก่อนเข้า รวมถึงต้องระวังความปลอดภัยของตัวเองให้มากๆ ถ้าไม่อยากเสี่ยงอันตรายก็ดูอยู่ห่างๆ จะดีกว่าเพราะคนงานมีชุดป้องกันอันตรายแต่เราไม่มีครับ

รอบโรงงาน เดินชมการผลิตหุ่นระยะประชิดไปแล้ว ตอนนี้มาเดินดูพื้นที่อื่นๆ ดูสิว่ามีอะไรบ้าง 2 ภาพข้างบน เป็นส่วนหนึ่งของชิ้นส่วนที่ทำไว้รอประกอบเข้ากับชิ้นส่วนอื่นๆ จะมีลังเก็บชิ้นส่วนแยกไว้ อีกด้านหนึ่งจะเป็นกล่องใส่น๊อต มีจำนวนมากมายหลายขนาดให้หยิบใช้ เพราะหุ่นแต่ละตัวมักจะประกอบด้วยน๊อตหลายชิ้น

ภาพล่างซ้ายเป็นพื้นที่ผสมสีที่จะพ่น ส่วนภาพล่างขวาเป็นกองเศษเหล็กที่แยกประเภทเอาไว้คร่าวๆ ว่ากองนี้จะเหล็กรูปร่างอะไรบ้าง เหมาะที่จะทำเป็นส่วนไหนของตัวหุ่น ส่วนเหล็กที่เป็นแผ่นบางๆ ที่จะพับเป็นชิ้นส่วนด้านนอกของหุ่นก็จะอยู่อีกกองหนึ่ง ในโรงงานแห่งนี้แทบไม่เห็นมี เหล็กที่สั่งซื้อเข้ามาเลยนอกจากน๊อตเพราะน๊อตต้องใช้เยอะ ทั้งหมดเป็นเศษเหล็กทั้งนั้นเพียงอาศัยการตัดแต่งตามจินตนาการของคนสร้างหุ่นเอามาเชื่อมประกอบติดกัน เศษเหล็กที่ดูไม่มีราคาก็กลายเป็นสินค้าส่งออกมูลค่าหลายแสนบาทต่อตัว

ม้าเหล็ก สวนสัตว์ขนาดย่อมหน้าบ้านมีสัตว์หลายตัวด้วยกัน แต่รับรองว่าไม่เหมือนไปเดินสวนสัตว์ที่ไหน เพราะที่นี่เป็นแห่งเดียวเท่านั้นที่สัตว์ทุกตัวเป็นเหล็ก

ลานจอดรถบ้านหุ่นเหล็ก นอกพื้นที่โรงงานเป็นที่ดินขยายออกไปด้านข้างแต่งให้เรียบจัดไว้ให้เป็นลานจอดรถของลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชม รองรับรถบัสรถทัวร์กันได้สบายๆ เลย แล้วก็ล้อมรอบด้วยทุ่งนากว้างสุดสายตา เป็นไงครับ ดูแล้วอยากมาเที่ยวกันบ้างหรือเปล่า

บ้านหุ่นเหล็ก ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเซีย กม. 55.5 เลยทางแยกเข้าเมืองอ่างทอง 5.5 กิโลเมตร ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ต้องกลับรถ
ติดต่อสอบถาม: คุณไพโรจน์ ถนอมวงษ์ Tel: 081-3393345

แผนที่บ้านหุ่นเหล็ก สนใจข้อมูลของบ้านหุ่นเหล็ก คลิกไปที่
http://www.oldsteelart.com/
หรือ
https://www.facebook.com/BanHunLek