ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานราชบุรี 032 919176-8
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ปิดทองลูกนิมิต 100 ลูกวัดกลางคูเวียง ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ วัดกลางคูเวียงเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั้งใกล้ทั้งไกล ในเรื่องการสร้างลูกนิมิต ซึ่งลูกนิมิตเหล่านี้จะสร้างขึ้นมาไว้สำหรับวัดที่ขาดลูกนิมิตได้นำไปใช้ ลูกนิมิตที่สร้างขึ้นมาชุดละ 9 ลูก ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณศาลาการเปรียญหลังใหญ่และเป็นหลังแรกที่เราได้เห็นหลังจากที่เลี้ยวเข้ามาในวัด จำนวนลูกนิมิต 9 ชุด รวมทั้งหมด 81 ลูก และยังมีลูกนิมิตใหญ่ที่สุดในโลก ให้ประชาชนได้ปิดทองลูกนิมิต เสมือนหนึ่งได้เดินทางไปปิดทองลูกนิมิต 9 วัดในคราวเดียว (เพราะลูกนิมิตเหล่านี้ต้องไปใช้ที่วัดต่างๆ ที่เข้ามานำเอาลูกนิมิตไป) ลูกนิมิตทั้ง 9 ชุดจึงได้มีการเขียนพระนามแทนองค์พระอรหันต์ 8 พระองค์ (พระอรหันต์ 8 ทิศ) ต่อจากชุดแรกซึ่งหมายถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดังนี้
ท่านอัญญาโกญฑัญญะ อยู่ทางทิศบูรพา (ตะวันออก)
ท่านพระมหากัสสปะ อยู่ทางทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้)
ท่านพระสารีบุตร อยู่ทางทิศทักษิณ (ใต้)
ท่านพระอุบาลี อยู่ทางทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้)
ท่านพระอานนท์ อยู่ทางทิศปัจฉิม (ตะวันตก)
ท่านพระภควัมปติ อยู่ทางทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
ท่านพระโมคคัลลานะ อยู่ทางทิศอุดร (เหนือ)
ท่านพระราหุล อยู่ทางทิศอิสาณ (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
ลูกนิมิตใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากลูกนิมิตจำนวนเกือบ 100 ลูก ที่ตั้งเรียงรายให้ประชาชนได้ปิดทองทำบุญสร้างลูกนิมิต วัดกลางคูเวียงยังได้สร้างลูกนิมิตพิเศษขึ้นมาอีก 1 ลูก เป็นลูกนิมิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ที่ศาลาเช่นเดียวกัน ถัดจากลูกนิมิตใหญ่ที่สุดในโลกลูกนี้ เป็นที่ตั้งของสิงห์คู่ โดยมีรูปพระบูรพาจารย์หลายองค์ตั้งอยู่ระหว่างสิงห์ ให้ประชาชนได้มากราบสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล
ปิดทองลูกนิมิตวัดกลางคูเวียง สถานที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่จะพาครอบครัวมาร่วมทำบุญปิดทองลูกนิมิตร่วมกันโดยเฉพาะเหล่าเด็กๆ แม้จะไม่เข้าใจเรื่องราวที่มาที่ไปของการปิดทองลูกนิมิตหรือแม้แต่จะรู้ว่าลูกนิมิตมีไว้สำหรับทำอะไรแต่ก็ตั้งใจปิดทองลูกนิมิตเกือบร้อยลูกที่ตั้งเรียงรายกันเต็มพื้นที่หน้าศาลา
เบี้ยแก้ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากปิดทองลูกนิมิตครบทุกลูกแล้ว เดินไปอีกด้านหนึ่งของทางเดินจะเห็นช่อฟ้าใบระกา และเบี้ยแก้ขนาดใหญ่ หรือใครที่ไม่รู้จักเบี้ยแก้มาก่อนก็จะได้เห็นของจริงกันวันนี้ เบี้ยแก้ที่ใช้เป็นเครื่องรางของขลังขนาดพกพาสามารถนำมาใส่กระเป๋าหรือจะทำเป็นห่วงคล้องสำหรับแขวนคอ เหน็บเอว ไปไหนๆ แต่สำหรับเบี้ยแก้ที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษให้ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ ต้องใช้มากกว่า 5 คนจึงจะยกขึ้นได้
ทำบุญในวัดกลางคูเวียง นอกเหนือจากปิดทองลูกนิมิต ปิดทองเบี้ยแก้ยักษ์ ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่สามารถจะทำได้ในวัดกลางคูเวียงได้แก่ สักการะพระบูรพาจารย์ ไหว้พระสังกัจจายน์ในวิหารที่อยู่ใกล้ๆ กับลูกนิมิต 100 ลูก ด้านหน้าวิหารพระสังกัจจายน์ยังมีบ่อเสี่ยงทาย ให้โยนเหรียญลงบาตรที่หมุนไปเรื่อยๆ ด้านข้างของบาตรจะเขียนไว้ ดังเช่น โชคลาภ สุขภาพ การงาน ฯลฯ โยนเหรียญลงบาตรไหนก็จะถือว่ามีดวงเด่นไปทางด้านนั้นเป็นต้น
ปิดทองใบเสมา อยู่ใกล้ๆ กับเบี้ยแก้ใหญ่ที่สุดในโลก มีใบเสมา เรียงรายบนโต๊ะสำหรับให้ประชาชนปิดทอง ใบเสมาเหล่านี้หากมีวัดใดขาดและต้องการใช้ก็จะมาขอไป อีกด้านหนึ่งก็จะมีหลวงพ่อวัดกลางคูเวียงประดิษฐานอยู่บนโต๊ะ เป็นพระพุทธรูปที่ทางวัดจัดไว้ให้ประชาชนได้มาสรงน้ำเป็นสิริมงคลได้ตลอดทุกวัน ไม่เฉพาะในวันสงกรานต์เท่านั้น
สิ่งที่น่าสนใจในวัด เป็นสิ่งที่ได้เห็นอยู่ในวัดนอกเหนือจากการทำบุญปิดทอง น้ำเต้าตั้งอยู่หน้าวิหารพระสังกัจจายน์ หอระฆังอยู่ถัดออกไปกลางสนามหญ้า
หม้อยายักษ์ จุดเด่นของวัดกลางคูเวียงที่เป็นที่รู้จักกันมาช้านานคือยาหม้อ หรือยาสมุนไพรแผนโบราณของไทย ที่หลวงปู่ชื่นได้ถ่ายทอดให้ศิษย์ พระครูสังฆรักษ์ (เชิญ โกสโล) โดยที่วัดกลางคูเวียงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมาจนทุกวันนี้เพราะหลวงปู่ชื่น รักษาโรคต่างๆ ด้วยยาหม้อโดยไม่เรียกเก็บค่ารักษาแล้วแต่ประชาชนจะให้เป็นการช่วยค่ายา และได้สืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนที่เห็นข้างหม้อยายักษ์คล้ายๆ ศาลา 2 หลัง เป็นเรือที่สร้างห้องไว้บนเรือเสมือนเป็นบ้านที่เคลื่อนย้ายได้ 2 ลำ
ตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง จากศาลาการเปรียญ เดินตรงไปทางท่าน้ำของวัดกลางคูเวียง เป็นที่ตั้งของตลาดน้ำอันมีมานาน เป็นตลาดนัดซื้อขายอาหาร ต้นไม้ ของใช้ ต่างๆ ของชาวบ้านในละแวกนี้ บรรยากาศของตลาดแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น ทางวัดได้สร้างหลังคาคลุมตลอดแนวของตลาดแบ่งแผงขนาดเท่าๆ กันสำหรับพ่อค้าแม่ค้าได้มาตั้งแผงด้วยสินค้าที่ไม่ซ้ำกันในตลาด เช่นในภาพขวา ไม้ดอกไม้ประดับ สำหรับผู้ชื่นชอบการจัดสวน แต่งสวน มาหาต้นไม้กันได้ที่นี่
ขนมในตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง อันดับต้นๆ ของกิจกรรมการเดินตลาด หรือตลาดน้ำ ที่ไหนๆ ที่เราได้ไปกันก็จะเป็นการเสาะส่ายสายตามองหาของกินประเภทที่ไม่หนักมากนักยกเว้นว่าจะไปเดินในช่วงเวลามื้อหลักและหิว ก็จะหาอาหารหนักมาก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง ของกินเล่น หรือของว่าง หรือขนม ในเวลาที่เรายังไม่หิวข้าวจะเป็นสินค้าขายดีอันดับต้นๆ เมื่อคณะของเราไปถึง ขนมที่ตลาดน้ำวัดกลางคูเวียงก็มีผลไม้แปรรูป ขนมบ้าบิ่นหอมกรุ่นด้วยมะพร้าวอ่อน มีรสหวานนิดๆ มันหน่อยๆ อร่อยอย่าบอกใคร
อาหารที่วางขายในตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง รวมภาพขนมผ่านไปคราวนี้มาถึงอาหารคาว ประเภทกับข้าวกันบ้าง มีขายเหมือนกันที่นี่ แต่บนฝั่งริมน้ำไม่มีร้านอาหาร ถ้าหิวจริงๆ สามารถไปร้านอาหารซึ่งมีหลายร้านให้เลือกโดยการเดินข้ามสะพานไปบนแพ ส่วนจะติดกับข้าวจากบนฝั่งอันได้แก่ปลาทอดตัวโตๆ ข้ามไปด้วยก็ไม่ผิดกติกา อาหารทะเลอย่างหมึก และกุ้ง จะเป็นหมึกแห้ง กุ้งแห้ง อันเนื่องมาจากนครปฐมอยู่ติดกับสมุทราสาครและสมุทรสงคราม ซึ่งมีอาหารทะเลขึ้นมาจากเรือประมงกันมาก ที่นี่จึงมีอาหารทะเลแต่ทำมาเป็นแบบตากแห้งมาวางขายแทนที่จะเป็นหมึกสดๆ ขนาดและสีสันของกุ้งแห้งร้านนี้น่าติดไม้ติดมือมาใส่ส้มตำไทยที่บ้านซึ่งเป็นวิธีที่เราชอบเพราะกุ้งแห้งจากร้านส้มตำตัวเล็กเป็นกุ้งฝอย
ขนมกรอบๆ คราวนี้มาแนวขนมกรอบกันบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะเอามาทำด้วยวิธีการทอด มีหลายแบบหลายสีหลายรสให้เลือก ขนมแบบนี้ที่รู้จักกันมานานก็ได้แก่ข้าวเกรียบ กล้วยทอด ถ้าหากอยากได้ความหวานนิดๆ ก็ลองให้ซื้อมะพร้าวแก้วสีสวยน่ากินหยิบกินทีละนิดพร้อมๆ กับเดินเลือกของอย่างอื่น ก็เพลินดี
ต้นไม้และผักสด เนื่องด้วยตลาดแห่งนี้เป็นตลาดนัดที่จะเปิดเสาร์-อาทิตย์ เป็นที่จับจ่ายซื้อของในชีวิตประจำวันของชาวบ้านไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้นเราจึงได้เห็นต้นไม้ และผักสด วางขายในตลาดแห่งนี้ด้วย ซึ่งก็มีให้เลือกกันหลายอย่างหลายชนิด
ผลไม้และของฝาก หมวดหมู่หนึ่งของรายการสินค้าที่วางขายในตลาดซึ่งมีอยู่ทั่วไป อย่างผลไม้ก็มีสับปะรด ส้มโอ กล้วย มะพร้าว และที่นี่ยังมีดอกไม้วางขายด้วย เราจะซื้อดอกไม้สดสวยๆ จากตลาดน้ำที่ท่าน้ำหน้าวัดแล้วเดินเข้าไปไหว้พระในวัดก็ได้ เพราะความจริงแล้วก็มีหลายคนที่ไม่ชอบใช้ดอกไม้เวียนที่ไหว้เสร็จแล้วมีคนมาเก็บไปขายต่อ
สินค้าในตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง ต่อกันอีกสักชุดหนึ่ง เกี่ยวกับของใช้ และอื่นๆ ที่วางขายที่นี่ กระเทียมโทนดอง น้ำผึ้ง เครื่องดินเผา และแน่นอนว่าต้องมีส้มโอ ของดีนครปฐม ใบใหญ่ๆ สวยๆ มีให้เลือกกัน อีกร้านที่อยากจะกล่าวถึงเสียให้ได้คือแผงพระเครื่อง เป็นพระเครื่องจากสมาคม จตุระสมาคม ซึ่งปกติจะมีการผลิตพระเครื่องเลี่ยมทองออกมาวางจำหน่ายในหลากหลายรูปแบบ ที่มีให้เห็นอยู่ตามร้านทองเป็นพระเลี่ยมทองเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ประชาชนได้เลือกบูชาใช้ได้อย่างทันใจ แต่ในระยะหลังราคาทองคำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้จำนวนการขายลดลง พระที่สร้างขึ้นมาในพิธีสำคัญๆ ต่างๆ ทั้งพระเหรียญ พระผง จึงเหลือค้างอยู่ที่สมาคมจำนวนมาก จึงได้นำออกมาให้ประชาชนเช่าบูชา ในราคาที่ไม่แพง (อย่างน้อยๆ ก็ถูกกว่าในวงการพระเครื่อง) พระเหล่านี้มีอายุอยู่ระหว่าง 10-20 ปี นับจากวันที่สร้าง หลายเหรียญหลายรุ่นราคาพุ่งไปเยอะแต่ที่นี่ยังคงราคานับตั้งแต่ที่มีการสร้างใหม่ๆ บวกกำไรเพิ่มนิดหน่อย เรียกว่าพระแท้คนเช่าก็ไม่ต้องมีความรู้มากนักก็ไปดูกันได้ ราคาก็ถูกกว่าในวงการที่เช่าหากันด้วย
ตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง เดินจนสุดตลาดที่อยู่บนบกริมน้ำหน้าวัด ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินข้ามไปยังแพที่อยู่กลางน้ำซึ่งจะมีอาหารให้เราเลือกมากมายและชมวิวสวยๆ ของแม่น้ำนครชัยศรี ตลาดน้ำแห่งนี้สร้างโดยการใช้แพหลายขนาดมาต่อกันผูกเชือกโยงถึงกันและยึดอยู่กับฝั่ง สร้างสะพานทอดข้ามไปยังแพ มีทางเดินให้ 2 ทาง ขึ้นไปแล้วจะเห็นแพที่เป็นร้านอาหาร 2 แพ ซึ่งมีรูปร่างยาวมีอาหารขายหลายชนิดได้แก่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ กาแฟโบราณ เครื่องดื่มนานาชนิด อาหารตามสั่ง หมูสะเต๊ะ ฯลฯ ระยะระหว่างแพกับตลิ่ง มีน้ำพุ ตุ๊กตาลิงขึ่จักรยานอยู่กลางน้ำ มีปลาตัวโตๆ ว่ายไปมารออาหารที่นักท่องเที่ยวจะโปรยลงไป
หมูสะเต๊ะตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง เป็นร้านที่ขายดีที่สุดในบรรดาร้านต่างๆ ที่เปิดอยู่บนแพนี้ ไม่ว่าประชาชนนักท่องเที่ยวที่มาตลาดน้ำแห่งนี้จะสั่งอาหารประเภทไหน ข้าวมันไก่ หรือก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารตามสั่ง ก็มักจะซื้อหมูสะเต๊ะมากินด้วยเสมอ จนย่างให้สุกไม่ทันตามคำสั่งลูกค้า อีกด้านหนึ่งเป็นโต๊ะตัวใหญ่ไว้ให้วางถ้วยชามเปล่าหลังจากกินแล้วเห็นไม้หมูสะเต๊ะจำนวนนับไม่ถ้วนวางอยู่บนปากชามบ้าง ในจานบ้างเต็มไปหมด
วิวหน้าวัดกลางคูเวียง ท้องน้ำเวิ้งว้างกว้างใหญ่ แม้ว่าจะมีข่าวน้ำท่วมในหลายพื้นที่ดูเหมือนว่าวัดกลางคูเวียงยังไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ อีกด้านหนึ่งของแพตลาดน้ำเราจะได้เห็นวิวแม่น้ำนครชัยศรียาวออกไปสุดสายตาทั้ง 2 ด้าน มีบริการเรือนำเที่ยวล่องแม่น้ำ มี 2 เส้นทางคือทิศเหนือไปวัดลำพญา หรือ ทางทิศใต้ไปวัดไร่ขิง
พระอภัยมณี อีกสิ่งหนึ่งที่จะเห็นได้ที่ตลาดน้ำวัดกลางคูเวียงอันเป็นที่แปลกตามากที่จะมีการสร้างพระอภัยมณี นางผีเสื้อสมุทร นางเงือกไว้ในน้ำจืดคือแม่น้ำแทนที่จะเป็นชายหาดกับท้องทะเล มองลงไปที่ในน้ำจะเห็นปลาขนาดใหญ่อยู่จำนวนมากเป็นพื้นที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาโปรยอาหารเลี้ยงปลา โดยที่อาหารปลานั้นไปหยิบเอาได้ที่ทางเดินระหว่างแพกับตลิ่ง โดยจะมีตู้ให้หยอดค่าอาหารปลาตั้งอยู่ ไม่ได้กำหนดราคาอะไรแล้วแต่จะหยอด แพขนาดเล็กกว่าแพที่เป็นร้านอาหารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ยืนถ่ายรูปนี้อยู่เป็นเวทีแสดงพื้นบ้าน ล้อมด้วยเชือกมีนวมวางไว้ แต่ยังไม่เห็นมีการแสดง น่าจะเป็นกีฬามวย แต่ก็อาจจะแสดงอย่างอื่นด้วยจึงเรียกว่าเวทีการแสดงพื้นบ้านไม่เรียกว่าเวทีมวย
แพนันทนาการ เดินตลาดน้ำที่ไหนๆ มานักต่อนักไม่ยักเคยเห็นแพแบบนี้ แพนันทนาการมีโต๊ะจัดไว้ให้ อาจจะเป็นที่สำหรับเอาอาหารที่ซื้อจากแพอาหารขึ้นมากินกันแบบพิเศษๆ มีเครื่องเสียงกับจอคาราโอเกะให้ร้องเพลง ซึ่งไม่ได้หมายความว่านักร้องประจำตลาดน้ำเท่านั้นที่จะร้องเพลงตรงนี้ได้ พี่รันหัวหน้าทีมขับเคลื่อนสี่ล้อที่ร่วมทริปกับทัวร์ออนไทยในงานสมบุกสมบัน อย่างน้ำตกทอทิพย์ หรือเส้นทางบริจาคของเพื่อน้องที่ห้วยขุนนกกก โข๊ะทะ จังหวัดตาก ก็ได้รถของพี่แกนี้แหละขนทั้งคนและสิ่งของไปกัน ก็ขึ้นมาโชว์เสียงร้องเพลงได้เหมือนกัน ใครที่มั่นใจในเสียงของตัวเองก็มาร้องได้ทั้งนั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจและไม่คิดว่าจะมีในตลาดน้ำแห่งอื่นๆ
ขนมน้ำตาลปั้น เป็นขนมไทยที่มีมานานมากแล้วแต่ก็จะมีให้เห็นน้อยลงทุกวันๆ เกิดมาก็ได้เห็นเจ้าขนมที่ดึงดูดความสนใจของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดีชนิดนี้กันแล้ว เสน่ห์ของการปั้นน้ำตาลด้วยสีสันที่สดใสจำเป็นต้องกวนน้ำตาลไป-มา สักพักจึงจะเอามาปั้น ประกอบเป็นชิ้นส่วนต่างๆ ตามคำสั่งของผู้ซื้อ ออกมาเป็นรูปร่างหน้าตาน่ารักเสียจนไม่อยากกิน อมๆ ไปเรื่อยๆ ให้อยู่ได้นานๆ อยากได้ข้าวโพดฝักใหญ่ๆ ก็จะมีพิมพ์สำหรับเป่าน้ำตาลเข้าไปออกมาเป็นรูปฝักข้าวโพดกันเลย ร้านน้ำตาลปั้นเป็นร้านขายขนมอย่างหนึ่งที่ไม่ว่าจะเจอที่ไหนก็อยากจะถ่ายรูปไว้ให้หมด กว่าจะได้มุมดีๆ ออกมาเหมือนอย่างนี้
บริเวณวัดกลางคูเวียง เอาละกินกันอิ่มหนำสำราญร้องเพลงสบายใจกันแล้วก็มาเดินชมบริเวณวัดกันต่ออีกหน่อย ปกติประชาชนที่มาที่นี่ก็จะตรงเข้าไปปิดทองลูกนิมิต ปิดทองเบี้ยแก้ยักษ์ ไหว้พระสังกัจจายน์ หลายคนก็ตรงมาที่วัดกลางคูเวียงเพื่อที่จะซื้อยาอย่างเดียวเลยก็มีเหมือนกัน แล้วจากนั้นก็จะกลับ แต่ในบริเวณวัดกลางคูเวียงแห่งนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอยู่อีกหลายแห่ง บริเวณสวนหย่อมด้านหน้าศาลาการเปรียญอยู่ระหว่างลานจอดรถของวัดกับศาลา มีรูปปั้นสัตว์ต่างๆ กระจายอยู่รอบสระน้ำ กับต้นไม้ อาคารสหกรณ์ร้านค้าวัดกลางคูเวียง เป็นสถานที่จำหน่ายยาของวัดมียาหลายขนาน รักษาโรคต่างๆ ได้หลายโรคอยู่ใกล้ๆ กับกุฎิโสภณสาธุการ (ใกล้ศาลาการเปรียญที่ปิดทองลูกนิมิต) หมู่กุฎิสงฆ์สถาปัตยกรรมการสร้างทรงไทยประยุกต์ หลังเล็กๆ เรียงต่อกันขนานไปกับตลาดน้ำโดยมีสวนหย่อมที่ร่มรื่นกั้นกลาง
วัดกลางคูเวียง อุโบสถวัดกลางคูเวียง เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจแต่ปกติประชาชนหลั่งไหลมาเพื่อปิดทองลูกนิมิต 100 ลูก กับลูกนิมิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทางวัดจึงต้องไปดูแลกันที่ศาลาการเปรียญ อุโบสถจึงไม่ได้เปิดให้เข้าไปชมด้านในเพราะคงจะดูแลกันไม่ทั่วถึง อุโบสถที่มีมุขเด็จรูปทรงแปลก หน้าบันมีลายปูนปั้นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ชั้นล่างเป็นรูปเทพพนม ชั้นล่างสุดเป็นรูปเทวดาทรงเครื่องคล้ายทหารโบราณโบกธงชาติไทย อุโบสถวัดกลางคูเวียงหลังนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2479 นับถึงปัจจุบันอายุเกือบ 80 ปี ข้างๆ อุโบสถนอกกำแพงแก้วมีวิหารพระประจำวันเกิด ซึ่งก็ต้องปิดไว้ด้วยเหตุว่าประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลไปอยู่ที่ศาลาการเปรียญกันหมด ข้างอุโบสถอยู่หลังวิหารพระประจำวันเกิดเป็นอาคารหลังเล็กๆ ดูเก่าแก่และปิดไว้ไม่ได้ใช้มานานมากแล้วมีโซ่คล้องประตูปิดแน่นหนาภาพล่างขวาเป็นวิหารหลวงพ่อครูชูโต เดิมทีเป็นที่ตั้งรูปหล่อหลวงพ่อครูชูโต แต่เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง จึงได้มีการสร้างวิหารหลวงพ่อครูชูโตหลังใหม่ที่ใหญ่และสวยงามกว่าเดิม
วิหารหลวงพ่อครูชูโต มาดูการสร้างวิหารหลังนี้ซึ่งอย่างน้อยๆ ก็น่าจะมีอายุในราวเดียวกันกับอุโบสถ 80 ปี วิหารหลังนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก มีประตูทางเข้าด้านหน้า ช่องหน้าต่างด้านละ 2 ช่อง ซุ้มประตูและหน้าต่างประดับกระจกสีฝีมือช่างในสมัยนั้นแม้จะไม่ได้เป็นงานขั้นวิจิตรพิสดารแต่ก็ถือว่าเป็นวัดที่รุ่งเรืองวัดหนึ่งจึงจะสร้างแบบนี้ได้ ประชาชนละแวกนี้รวมทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงเคารพศรัทธาหลวงพ่อครูชูโตกันมาก ดังจะเห็นได้จากการสร้างวิหารหลังใหม่อย่างสวยงามแทนวิหารหลังเดิมนี้
วิหารหลวงพ่อครูชูโต (หลังใหม่) นี่ละครับวิหารหลังใหม่เป็นเสนาสนะที่สวยงามที่สุดในวัดกลางคูเวียงเลยก็ว่าได้ สร้างเป็นวิหารจตุรมุขบนฐานสูงมีบันไดเดินขึ้นไปจากด้านหน้าศาลาราย 2 หลัง
วิหารหลวงพ่อครูชูโต (หลังใหม่) ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อครูชูโต จึงทำให้มีประชาชนเคารพศรัทธาร่วมสร้างวิหารหลังใหม่อย่างสวยงาม มีความเชื่อกันว่าหากมีเรื่องทุกข์ร้อน หรือประสงค์สิ่งใด มาบนหลวงพ่อครูชูโตจะเร็จสมปรารถนา หากเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะหาย เครื่องแก้บนหลวงพ่อครูชูโตมีดังต่อไปนี้
1. ชุดใหญ่ หัวหมูซ้าย-ขวา ผ้าไตร บาตร บายศรี คาวหวาน พวงมาลัย ทองแผ่น 100 แผ่น ผ้าป่าหนึ่งกอง ปัจจัยบำรุงวัดตามศรัทธา
2. ชุดกลาง หัวหมู 1 หัว คาวหวาน พวงมาลัย 12 พวง ทองแผ่น 50 แผ่น ผ้าป่าหนึ่งกอง ปัจจัยบำรุงวัดตามศรัทธา
3. ชุดเล็ก หัวหมู 1 หัว พวงมาลัย 5 พวง ผ้าป่าหนึ่งกอง ปัจจัยบำรุงวัดตามแต่ศรัทธา
อนึ่งสำหรับงานประจำปี ตรงกับเดือน4 ขึ้น 14-15 ค่ำ แรม 1-2 ค่ำ ของทุกปี ทางวัดจะจัดทองแผ่น พวงมาลัย
ถ้าหากไม่ใช่งานปีท่านต้องจัดมาเอง เว้นแต่พวงมาลัยและทองแผ่นจะมีให้เปลี่ยนเป็นประจำทุกวัน
จบการนำเที่ยวชมวัดกลางคูเวียงกันเท่านี้ละครับ คิดว่าคงได้ครบทุกมุมทุกเรื่องอย่างละเอียดมากเพียงพอ สุดท้ายนี้อยากจะชวนทุกท่านมาเที่ยวตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง เพราะชาวบ้านได้พร้อมเพรียงกันเปิดร้านอาหาร ขนม ผลไม้ ของใช้ ฯลฯ มากมายให้เลือกซื้อเลือกหากัน ร่วมทำบุญปิดทองลูกนิมิต 100 ลูก และลูกใหญ่ที่สุดในโลก อีก 1 ลูก ปิดทองช่อฟ้าใบระกา ใบเสมา เบี้ยแก้ใหญ่ที่สุดในโลก และอื่นๆ อีกมากมายที่วัดกลางคูเวียงเท่านั้น
""
เจษฎาพงค์ ทองคุ้ม
2019-07-12 08:20:15
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ