ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ http://www.tourismthailand.org/bangkok
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
สถานเสาวภาสภากาชาดไทย การเดินทางมายังที่นี่ใช้ถนนพระราม 4 ทางเข้าสถานเสาวภาสภากาชาดไทย อยู่ติดถนนพระราม 4 เลี้ยวเข้าไปภายในแล้วไปหาลานจอดรถขนาดใหญ่เป็นลานกว้างหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ รูปร่างของอาคารนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ฐานเล็กกว่ายอดตึก และเป็นกระจกล้อมรอบ
หลังจากนั้นเดินเข้าไปทางสวนงูเพื่อซื้อบัตรเข้าชมแต่ก่อนที่จะเข้าไปชมสวนงู จะขอยกเอาประวัติย่อของสถานเสาวภา สภากาชาดไทยมาให้เป็นความรู้กันครับ
ประวัติย่อสถานเสาวภา
ในปีพ.ศ. 2455 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ ทรงพระดำริที่จะจัดตั้งสถานที่ทำการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากหม่อมเจ้าหญิงบันลุศิริสาร ดิศกุล พระธิดาได้สิ้นชีพิตักษัยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า เพราะในขณะนั้นประเทศไทยยังไม่มีสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคร้ายนี้ จึงนำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อาศัยตึกหลวงที่ถนนบำรุงเมืองเป็นที่ทำการผลิตและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและได้ย้ายงานทำพันธุ์หนองฝีกันไข้ทรพิษที่นครปฐมเข้ามารวมกัน สถานที่นี้ได้เปิดทำการเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2456 มีชื่อเรียกว่า "ปาสตุรสภา" ตามชื่อของหลุยส์ ปาสเตอร์ ผู้ค้นพบวิธีฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โอนปาสตุรสภาจากระทรวงมหาดไทยไปสังกันสภากาชาดไทย และเปลี่ยนชื่อเป็น "สถานปาสเตอร์" และในปีพ.ศ. 2463 ได้ทรงบริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์พระราชทานแก่สภากาชาดไทย เพื่อจัดสร้างสถานที่ทำการแห่งใหม่สำหรับสถานปาสเตอร์ขึ้นที่ถนนพระราม 4 และได้พระราชทานนามสถานที่นี้ว่า "สถานเสาวภา" เพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิด เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2465 จัดตั้งเป็นที่ทำการของสถานเสาวภา สภากาชาดไทยสืบมา
ภารกิจหลักของสถานเสาวภา
1.งานผลิตชีววัตถุ ได้แก่ วัคซีนบีซีจี น้ำยาทูเบอร์คูลิน เซรุ่มแก้พิษงู ต่างๆ ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูกะปะ งูทับสมิงคลา งูแมวเซา งูเขียวหางไหม้ เซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตามมาตรฐานระดับชาติและระดับนานาชาติ เพื่อจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ ใช้ในโรงพยาบาลต่างๆ
2. งานวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์
3. งานให้บริการและความรู้ที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ในเรื่องโรคพิษสุนัขบ้า พิษงูและงูพิษ
สวนงู สถานเสาวภา ในปีพ.ศ. 2466 คร.เลโอโปล์ด โรแบรต์ ผู้อำนวยการคนแรกของสถานเสาวภาได้จัดหาเงินมาจัดสร้างสวนงูขึ้นในบริเวณสถานเสาวภา สำหรับเลี้ยงงูพิษเพื่อรีดพิษไว้ใช้ในการผลิตเซรุ่มแก้พิษงู เพราะเซรุ่มแก้พิษงูที่สั่งมาจากต่างประเทศใช้ไม่ค่อยได้ผลกับงูไทย นับเป็นสวนงูแห่งที่ 2 ของโลก ปัจจุบันนอกจากจะเลี้ยงงูพิษไว้เก็บพิษงูแล้ว ยังเป็นแหล่งให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องของงู เป็นที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับงูและงูพิษอีกด้วย สวนงูเปิดให้ประชาชนเข้าชมเพื่อศึกษาหาความรู้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 น.- 16.30 น.
และเปิดให้ชมตึก ๔ มะเสง
วันธรรมดา เวลา 9.30 น. - 15.30 น. ชมการแสดงการรีดพิษงู เวลา 11.00 น. (ภายในตึก ๔ มะเสง) ชมการแสดงสาธิตการจับงูชนิดต่างๆ และถ่ายรูปกับงู เวลา 14.30 น. (ที่อัฒจรรย์ภายนอก)
ส่วนวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 9.30 น. - 13.00 น. ชมการแสดงสาธิตจับงูชนิดต่างๆ และถ่ายรูปกับงู เวลา 11.00 น. (ที่อัฒจรรย์ภายนอก)
บรรยากาศภายในสวนงู ราคาบัตรเข้าชมสำหรับคนไทย 40 บาทครับ เมื่อเข้าไปแล้วจะออกมากินข้าว หรือซื้อเครื่องดื่ม หรือไปธุระข้างนอก ก็ยังสามารถกลับเข้ามาได้ในวันเดียวกันโดยไม่ต้องซื้อบัตรใหม่ รอบๆ สวนงูประกอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก มีโต๊ะกับม้านั่งไว้สำหรับพักผ่อน มีกรงงูกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ โดยมากเป็นงูไม่มีพิษ ส่วนงูพิษจะแยกไว้ในกรงที่เรียงติดกันเหมือนกรงยาวๆ อยู่ทางซ้ายมือ ตรงกลางสวนงูสร้างเป็นอัฒจรรย์ (ภาพบนขวา) มีบ่อลึกลงไปตรงกลางในบ่อจะมีงูชนิดต่างๆ อยู่ในบ่อ ซึ่งเป็นงูไม่มีพิษ แต่ก็สังเกตุเห็นได้ยาก บางทีงูอยู่ใกล้เรามากแต่สีของมันทำให้เรามองไม่เห็น ความลึกของบ่อทำให้เราเดินชมงูเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัย บางจุดก็จะมีตู้กระจกใสมีงูอยู่ภายใน ต้องมองดูให้ดีจึงจะเห็นงูในตู้ สร้างความตื่นเต้นให้เราได้เป็นอย่างดี งูบางชนิดไม่ค่อยอยู่กับที่อย่างในภาพล่างขวาเห็นมันเลื้อยไปเลื้อยมาตลอดเวลา ถึงจะรู้ว่ามันไม่มีพิษแต่รูปร่างของมันก็สร้างสะพรึงให้คนได้ไม่น้อย
อาคาร ๔ มะเสง อาคารหลังนี้อยู่อีกด้านหนึ่งของสวนงูคืออยู่ในสุด เป็นอาคารที่ใช้ในการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับงู มีข้อมูลความรู้เรื่องงูทั้งอวัยวะภายนอกและภายใน ความเชื่อของมนุษย์เกี่ยวกับสัตว์ที่เรียกว่างู ในสมัยโบราณ นอกจากนี้ยังมีการแสดงการรีดพิษงูให้ชมเดี๋ยวเราเข้าไปกันเลยดีกว่าครับ
อาคาร ๔ มะเสง สวนงูสถานเสาวภา ใน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต องค์อุปนายกผู้อำนวยการสภากาชาดสยาม พระชันษาครบ 4 รอบ จึงมีพระดำริหาทุนก่อสร้างอาคารให้แก่สภากาชาดสยาม ด้วยการจัดงานใหญ่ขึ้นที่วังบางขุนพรหม และทรงชักชวนพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าพิสมัยพิมลสัตย์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศศิพงศ์ประไพ และพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน พี่น้อง 3 พระองค์ ซึ่งเป็นสหชาติประสูติปีเดียวกันในปีมะเส็ง พ.ศ. 2424 ร่วมกันบริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์ สมทบกับเงินบริจาคของพระญาติ มิตรสหาย และผู้มาร่วมงานในการนี้ ได้เงินจำนวน 40,000 บาท เป็นทุนเริ่มแรกของสภากาชาดสยามและเพียงพอสำหรับค่าก่อสร้าง "ตึกสี่มะเสง" ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่สำหรับเลี้ยงงูพิษ ปลามีพิษ สัตว์และแมลงมีพิษต่างๆ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป นอกจากนี้เงินที่เหลืออีกส่วนหนึ่งยังได้ตั้งเป็น "ทุนสี่มะเสง" เพื่อไว้สนับสนุนกิจการของสภากาชาดสยาม เช่น ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลคนไข้ถูกสัตว์พิษกัด
ตึกสี่มะเสงหลังนี้ได้เปิดทำการต่อเนื่องมายาวนานกว่า 70 ปี สภาพอาคารจึงมีความชำรุดทรุดโทรมมาก อีกทั้งพื้นที่ใช้สอยมีจำกัดไม่เพียงพอกับการใช้งานปัจจุบัน ใน พ.ศ. 2549 ทางสภากาชาดไทยจึงได้ทำการรื้อถอน และสร้างอาคารหลังใหม่สูง 5 ชั้น ขึ้น ณ บริเวณเดิม แต่ยังคงใช้ชื่ออาคารว่า "ตึกสี่มะเสง" เพื่อทบทวนรำลึกถึงพระเมตตาของท่านทั้ง 4 พระองค์
นิทรรศการงู สถานเสาวภา ในตึกสี่มะเสงแห่งนี้ มีนิทรรศการงูชนิดต่างๆ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับงู มีงูให้ชมและศึกษา เพื่อเป็นความรู้และจะได้ระวังเมื่อเจองูแต่ละชนิด นำมาใส่โหลแก้วเรียงรายกันแม้ว่างูเหล่านี้จะไม่มีชีวิตแต่ก็ทำให้รู้สึกกลัวได้
งูชนิดต่างๆ ในตึกสี่มะเสง
นิทรรศการงู เดินลึกเข้ามาจากบริเวณที่นำงูมาใส่โหล เราจะเข้าสู่พื้นที่ของนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับงูตั้งแต่อวัยวะภายนอกของงูที่เราเห็นๆ กัน ก็ได้แก่ เกล็ด ผิวหนัง ตา ลิ้น จนไปถึงระบบอวัยวะภายในก็มีการจำลองงูนำเอามาผ่าท้อง ทำได้เหมือนของจริงมาก ภายในตัวงูเมื่อผ่าออกมา ก็จะมีเรื่องอวัยวะภายใน ลำไส้กระเพาะอาหาร หัวใจ ฯลฯ ลึกเข้าไปอีกชั้นก็เป็นเรื่องราวของกระดูกงู เราจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของสรีระของงูที่ทำให้มันดำรงชีวิตอยู่ได้ทั้งบนบก ในน้ำ บนต้นไม้ ฯลฯ
กระดูกงู ตรงนี้เป็นการนำเอากระดูกของงูจริงๆ มาจัดเรียงเข้าด้วยกันเป็นตัวงู มีให้ชมหลายกระดูก ส่วนประกอบของกระดูกหลายๆ ชิ้นเหล่านี้ถูกต่อขึ้นมาให้เหมือนกับงูที่ยังมีชีวิตอยู่เลยทีเดียว
นิทรรศการงูชนิดต่างๆ ในตึกสี่มะเสงหลังจากชมนิทรรศการต่างๆ เกี่ยวกับงูบนชั้น 2 แล้วคราวนี้มาเดินดูในชั้น 1 กันบ้างว่ามีอะไรให้ชม บริเวณชั้น 1 ของตึกสี่มะเสง เป็นพื้นที่สำหรับการสาธิตการรีดพิษงู โดยในตู้กระจกใสๆ ที่จำลองสภาพให้เหมือนกับที่อยู่ของงู มีงูชนิดต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นงูพิษแล้วเจ้าหน้าที่จะนำงูแต่ละชนิดออกมารีดพิษให้ชมกัน ซึ่งจะสาธิตในเวลา 11.00 น. ในวันธรรมดาเท่านั้น ส่วนวันหยุดจะไม่มีการรีดพิษงู จะมีเพียงการแสดงการจับงูเท่านั้น พื้นที่บริเวณตู้เลี้ยงงูพิษจะจัดสร้างขึ้นเป็นที่นั่งเรียงขึ้นไปจนถึงชั้น 2 ภายในมืดสนิทเหมือนกับในโรงหนังเลยครับ
สาธิตการจับงู จุดเด่นอย่างหนึ่งของสวนงูสถานเสาวภา สภากาชาดไทย ที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทั้งในและต่างประเทศมาชมการสาธิตนี้ก็คือการจับงู งูที่นำมาแสดงเป็นงูพิษ ซึ่งมีพิษร้ายแรง ได้แก่งูจงอาง งูเห่าไทย งูสามเหลี่ยม งูเขียวหางไหม้ท้องเหลือง และงูอีกหลายชนิดที่น่าสนใจ การแสดงจับงูนี้จัดขึ้นที่อัฒจรรย์ตรงกลางสวนงู งูจงอางที่นำมาแสดงมีความยาวถึง 3.5 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นงูพิษตัวใหญ่มากทีเดียวครับ
แสดงจับงูจงอาง สวนงูสถานเสาวภา อัฒจรรย์ที่สร้างขึ้นมามีขนาดไม่ใหญ่มาก พื้นที่แสดงจะมีแผ่นกั้นกันงูหนี อัฒจรรย์มีความสูงอยู่ในระยะปลอดภัยจากงูที่อยู่บนพื้น แต่ก็ไม่ไกลมาก เมื่อเห็นงูตัวใหญ่ๆ อยู่ตรงหน้าก็สร้างความสะพรึงและน่ากลัวให้กับคนดูได้ไม่น้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรารู้ว่ามันคืองูพิษที่มีพิษร้ายแรงอย่างงูเห่าหรืองูจงอาง
แสดงจับงูเห่า งูจงอางและงูเห่ามีลักษณะคล้ายกันมากเมื่อมันถูกรบกวนมันจะแผ่แม่เบี้ยออกและยกตัวสูงขึ้น เมื่อเราเห็นงูเห่าอันดับแรกต้องไม่ตกใจเกินไปและรวบรวมสติ ระยะการโจมตีของงูเห่านั้นยาวประมาณ 2 เท่า ของระยะที่มันยกส่วนหัวสูงจากพื้น ถ้ามันยกขึ้นมาได้ 1 ฟุต มันจะฉกได้ประมาณ 2 ฟุต ถ้าเราอยู่ห่างจากงูเห่ามากกว่า 2 ฟุต เราก็จะปลอดภัยเพราะมันฉกไม่ถึง นี่เป็นความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับงู ต้องการหาความรู้เพื่อการป้องกันตัวจากงูพิษ ควรได้มาฟังบรรยายชุดนี้จนจบที่สวนงูสถานเสาวภา ครับ
วิธีการจับงูด้วยมือเปล่า เจ้าหน้าที่แสดงการจับงูด้วยมือเปล่าทั้งงูจงอางและงูเห่าไทย พร้อมบรรยายวิธีการที่ถูกต้องให้ฟัง แต่ดูเหมือนว่าท้ายที่สุดแล้วเมื่อเราเจองูพิษพวกนี้ หรือแม้แต่งูไม่มีพิษก็คงไม่พ้นต้องตีมันให้ตายอยู่ดี
ถ่ายรูปกับงูที่สถานเสาวภา กิจกรรมสุดท้ายปิดการสาธิตเรื่องงูชนิดต่างๆ ในสวนงู คือการได้ถ่ายรูปกับงูขนาดใหญ่สีสวยตัวนี้ เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมาก การบรรยายเรื่องงูจะมีบรรยาย 2 ภาษา ทั้งไทยและอังกฤษ เป็นความรู้เรื่องงูที่ละเอียดดีมากสำหรับทุกคน เพราะเรามีโอกาสได้เจอกับงูได้ทั่วไป ทุกภาคทุกจังหวัด ดังนั้นหากมีเวลาว่างควรไปชมกันสักครั้งครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ