ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ http://www.tourismthailand.org/bangkok
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ช่วงสายของวันอาทิตย์ต้นเดือนมิถุนายน เป็นช่วงวันหยุดยาววิสาขบูชา วันนี้เราเลือกที่จะมาสำรวจตลาดน้ำคลองลัดมะยมเป็นครั้งแรก หลังจากที่เราได้เห็นภาพจากสื่ออื่นๆ มากมายมาแล้ว การเดินทางด้วยถนนบรมราชชนนี เลี้ยวซ้ายถนนกาญจนาภิเษก เลี้ยวซ้ายอีกทีข้างปั๊มเอสโซ่ที่ 2 ซอยลัดไปถนนจรัลสนิทวงศ์ 35 ถนนนี้ชื่อถนนบางระมาดขับตามทางเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร จะเห็นรถค่อนข้างติดมีสะพานข้ามคลองลัดมะยมเป็นตัวบอกว่าเรามาถึงตลาดน้ำคลองลัดมะยมแล้ว ก่อนจะข้ามสะพานจะมีป้ายบอกทางเข้าลานจอดรถ ขอบอกเลยครับว่าจะมีคนเก็บค่าจอด 20 บาท สะดวกเข้าลานไหนก็เข้าจอดไปก่อนเพราะถ้าหวังจะไปหาลานข้างหน้าอาจจะผิดหวังได้ โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนและต้นเดือนคนมาเยอะมากจนที่จอดรถเต็มทุกลาน ที่นิยมกันมากหน่อยก็คือข้ามสะพานข้ามคลองไปก่อนแล้วเข้าลานจอดรถด้านขวามือ สังเกตุง่ายๆ ตรงนี้จะมีม้าและแกะให้เราให้อาหาร ชื่อ Jockey Nature
ที่แนะนำให้เข้าลานจอดนี้เพราะจะได้เดินเข้าตลาดน้ำคลองลัดมะยมตรงพื้นที่ที่มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์คือมีร้านอาหารเยอะ มีคนมาก็เยอะกว่าโซนอื่นๆ ทั้งนี้ก็ไม่แน่ว่าจะมีที่ว่างให้จอด ก็ย้ำอีกครั้งว่าเห็นที่จอดว่างก็รีบเข้าไปได้เลยครับวนหาไปเรื่อยๆ มันจะเสียเวลามาก แต่ถ้าเป็นสัปดาห์กลางๆ เดือนคนอาจจะไม่เยอะนัก ก็ไม่ต้องซีเรียสเรื่องหาที่จอดรถแล้ว
พอจอดได้แล้วก็เดินเข้าตลาดจุดที่ใกล้ที่สุดตรงไหนก็ได้เพราะเดินทะลุถึงกันได้ในที่สุด ส่วนภาพกลางและภาพขวาสุด เป็นภาพหน้าตลาดน้ำคลองลัดมะยมที่อยู่ติดถนนบางระมาดไม่ใช่จุดที่ใกล้ลานจอดรถตรง Jockey Nature ผมเดินอ้อมมาถ่ายก่อนที่จะเข้าในตลาด จุดเริ่มต้นของเราในวันนี้จะเป็นตลาดที่เรียกว่าฝั่งใต้ เพราะเอาถนนบางระมาดเป็นเส้นแบ่ง ตลาดครึ่งหนึ่งอยู่ทางเหนือของถนน อีกครึ่งหนึ่งอยู่ฝั่งใต้ซึ่งเป็นโซนที่มีคนนิยมมามากที่สุด มีร้านอาหารมากที่สุดด้วย
ของกินในตลาดน้ำคลองลัดมะยม เหตุผลหลักๆ ที่นำหน้าเหตุผลอื่นๆ ในการที่เราจะเลือกมาเที่ยวตลาดก็คือของกินครับ เท่าที่ผมเคยเห็นคนไปเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยมแล้วถ่ายรูปมาให้ดูเมื่อหลายปีก่อน ช่างแตกต่างกับสภาพปัจจุบันเป็นอย่างมาก ผมเคยเห็นคนมาเดินหาของกินที่อยู่ไม่มากนัก คนมาเดินตลาดก็บางตากว่าทุกวันนี้เป็นอย่างมาก เพราะวันที่ผมไปนั้นคนแน่นตามทางเดินจนบางจุดไม่สามารถเดินได้เลย ส่วนใหญ่คนจะออกันแน่นอยู่หน้าร้านที่อาหารอร่อย แม้จะเป็นเมนูที่มีขายหลายร้านแต่จะมีไม่กี่ร้านที่คนรอคิวกันแน่น ยกตัวอย่างเช่นร้านไก่ย่างและร้านปลาเผา (ภาพบนซ้ายและภาพบนขวา) ไก่ย่างก็ขายกันไม่ทันสับไม่ทัน ส่วนปลาเผารึก็สุกไม่ทันด้วยซ้ำ ถามว่ามีร้านอื่นที่ขายไก่ย่างกับปลาเผาหรือเปล่า บอกได้เลยว่ามีเยอะมาก โดยเฉพาะปลาเผา แม่ค้าในตลาดบอกว่าเป็นเมนูเด็ดขึ้นชื่อของตลาดน้ำคลองลัดมะยมแห่งนี้ที่ทุกคนควรจะลองชิม ถ้าไม่ลองชิมดูคุณจะคุยกับเค้า....ไม่รู้เรื่อง (ขอยืมประโยคนี้มาจากทีวีนะครับ)
ส่วนเมนูอื่นๆ ที่ไม่ใช่ปลาเผา กับ ไก่ย่าง ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมมีบริการให้เลือกซื้อเลือกชิม ทั้งกินที่ตลาดและห่อกลับบ้าน กว่า 100 เมนู รูปที่ผมถ่ายมาบอกได้เลยว่าไม่ครบทุกอย่างแน่นอน แต่ก็นับว่าเยอะมากๆ ลงทุกรูปก็คงไม่ไหวครับ เอาพอเป็นความรู้ ว่ามีอะไรขายกันบ้างก็แล้วกัน รู้สึกว่าจะเกิน 50 อย่างนะครับ อยากจะชิมให้หมดทุกอย่างจะได้มาเขียนเล่ารสชาดกันถูกแต่ก็คงไม่ไหว เอาเท่าที่เป็นของเด่นๆ ก็แล้วกัน พอที่จะแบ่งออกเป็นอาหารปิ้งย่าง อย่างปลาช่อน ปลานิล ปลาทับทิม เผาเกลือ และไก่ย่าง ส่วนอาหารทะเลก็มีกุ้งเผา ปูนึ่ง ห่อหมก หอยเดือด ส่วนร้านอาหารตามสั่งยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะสามารถปรุงอาหารออกมาได้อีกหลายสิบอย่าง
ร้านไก่ย่างที่ขายดีจนไม้ย่างไก่กองกันสูงมากรูปบนซ้ายเป็นร้านที่อยู่ใกล้ๆ ลานจอดรถครับดูแต่ละคนก็มีทั้งสั่งกลับบ้าน ทั้งสั่งไปกินที่โต๊ะรับลมเย็นๆ ริมคลอง ร้านปลาเผาที่เห็นปลาสุกไม่ทันจนคนมาต่อคิวออกันแน่นทางเดินก็อยู่ใกล้ๆ ลานจอดรถเหมือนกันครับ
หมวดของหวานและของฝาก สำหรับการมาตลาดน้ำคลองลัดมะยมเป็นครั้งแรก เรายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวตลาดแห่งนี้มากนัก ทางเลือกที่ดีที่สุดที่เรานึกออกคือการเดินสำรวจให้ทั่วๆ ก่อนการตัดสินใจเลือกว่าจะกินอะไรดี ที่ฝั่งใต้ของตลาดมีร้านอาหารเรียงรายอยู่มากมายแบ่งออกเป็นซอย แต่ละซอยมีร้านอาหารเรียงติดกันเป็นแถว ไม่ว่าจะหันไปทางซ้ายหรือว่าทางขวาก็เจอแต่ของกินเรียงรายสลับกันของคาวบ้างของหวานบ้าง ผลไม้และเครื่องดื่มประปรายเป็นจุดๆ ร้านวุ้นที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอย่างวุ้นคุณต้นข้าวก็เป็นสิ่งดึงดูดสำหรับเด็กๆ มีนักเรียนมาสั่งไปเลี้ยงเพื่อนๆ ที่โรงเรียนด้วย ร้านขนมไทยของหวานที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมานานก็มากมายหลายอย่างให้เลือก ส่วนอาหารทะเลก็ว่ากันด้วยปูเป็นๆ กุ้งสดๆ เอามานึ่งมาย่างตามสั่ง แต่ก่อนที่จะนึ่งก็จะชั่งน้ำหนักกันก่อนขายเป็นกิโลกรัมครับ นอกเหนือไปจากของกินมากมายก่ายกอง เดินถัดไปทางซ้ายมือจะมีโซนของใช้ของฝากของที่ระลึกแบบทำมือบ้าง ซื้อมาขายบ้างเป็นซอยลึกๆ ให้เดินชมไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนคนที่มาที่นี่จะเน้นไปทางของกินมากกว่า จนดูเหมือนว่าโซนของใช้มันดูเงียบๆ โดยเฉพาะช่วงเที่ยงๆ
บรรดาของกินในตลาด เดินไปเดินมาก็ยังมีอีกหลายร้านที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะมันมีเยอะมากๆ ถ้าถ่ายรูปมาทุกร้านเห็นทีคงจะนานมาก คัดเอาแบบเด็ดๆ มาฝากกันอีก 4 ร้านด้วยกัน ร้านแรกเป็นเมนูเป็ด ไม่ว่าจะเป็นข้าวหน้าเป็ด ก๋วยเตี๋ยวเป็ด กะเพราเป็ด และอื่นๆ อีกหลายเมนูขอให้เป็นเป็ดร้านนี้จัดให้ได้หมด ร้านที่สองเป็นเมนูทะเลกะทะร้อน มีหลายอย่างให้เลือกมี 3 หัวเตา และไม่เคยจะว่างครับ ร้านที่ 3 เป็นข้าวเกรียบปากหม้อ มี 3 ไส้ ด้วยกันแล้วแต่จะสั่ง ร้านที่ 4 ข้าวเหนียว 6 สี กระบวนการนึ่งข้าวเหนียวด้วยสีจากธรรมชาติทำให้ได้ข้าวออกมาหลายสีน่ากินมากขึ้น ส่วนรสและกลิ่นไม่เปลี่ยนไปจากข้าวเหนียวต้นตำรับ กินเข้าไปปากไม่เปลี่ยนสีด้วย อันนี้เคยลองที่ตลาดบ้านใหม่ ฉะเชิงเทรา ส่วนร้านนี้ก็ไม่ได้ขายแต่ข้าวเหนียวอย่างเดียวจะสั่งทำเป็นสังขยา หน้ากุ้ง หน้าปลา ก็ว่ากันไป จะเอาเฉพาะกะทิไปกินกับมะม่วงจากร้านอื่น ก็ไม่ว่ากัน (ขนาดข้าวเหนียวยังปรุงให้ต่างกันได้ขนาดนี้เลย แล้วจะไม่ให้บอกว่ามีมากกว่า 100 เมนูได้ไงละครับ)
บรรดาของกินในตลาด ยังไม่จบครับเฉพาะโซนฝั่งใต้ก็ยังไม่ถึงครึ่ง มีอีกหลายร้านด้วยกัน นี่เฉพาะบริเวณเดียวนะครับยังไม่ได้เดินไปตามทางเดินไปโซนอื่นเลย เริ่มจากส้มตำไทย หน้าตาชวนหิวจริงๆ เอาไว้ไปกินกับปลาเผา ร้านต่อมาเป็นเรื่องหมูๆ โดดเด่นที่สุดก็คือหมูกรอบอยู่ติดคลองข้างร้านข้าวเหนียว 6 สี เดินเข้ามากลางตลาดจะมีร้านหมูทอดสารพัดชนิด ขนมจีนแม่จัด น้ำยาปา น้ำยากะทิ แกงไก่ ครบเลย อีกร้านเป็นเมนูประเภทเห็ด ชื่อร้านก็เลยเป็นร้าน เห็ด เฮ็ด เห็ด วัตถุดิบเป็นเห็ดเอามาปรุงให้เป็นเมนูอร่อยๆ ได้สารพัดอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างแกงเลียง ยำวุ้นเส้นเห็ด ลาบเห็ด สำหรับเมนูลาบเห็ดก็เคยไปกินที่วังน้ำเขียวมาแล้ว อร่อยมากเพราะเห็ดเค้าสดสุดๆ ยังไม่เท่านั้นเดินเข้ามาลึกๆ จนเกือบจะทะลุลานจอดรถ จะมีร้านหมี่กรอบสกา เอ้า เป็นไงครับงงมั้ย เมนูร้านหมี่กรอบสกาก็ได้แก่ ต้มยำสกาแห้ง สกาขี้เมา มีทั้งธรรมดา ซีฟู๊ด และรวมมิตร หมี่ประกอบไปด้วย 3 สี คือชมพู เหลือง เขียว ซึ่งเป็นสีของสกา ภาพล่างกลางเป็นร้านติดคลองอีกร้านหนึ่งเป็นคั่วกลิ้งเห็ด รสชาดเป็นคั่วกลิ้งเพียงแต่วัตถุดิบเค้าเป็นเห็ด ส่วนภาพสุดท้ายข้างล่างเป็นแมงดาทะเลสำหรับปรุงเมนูยำที่เราเคยเห็นกันทั่วไป แต่ไม่นึกว่าจะมาโผล่อยู่ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
บรรยากาศคลองลัดมะยม ดูร้านค้ากันมามากแล้วคราวนี้มาเดินดูบรรยากาศกันบ้าง คนที่มาพักผ่อนหาของกินที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมเค้าทำอะไรกันบ้าง อันดับแรก เป็นกิจกรรมที่นิยมที่สุดคือมีคนทำมากสุดคือการกิน ในตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะมีพื้นที่ส่วนที่อยู่ติดคลองเว้นเอาไว้เป็นที่ตั้งโต๊ะกับม้านั่งจัดเป็นแถวเรียงกันยาวๆ จะยกให้แยกออกจากกันก็ได้จะยกให้ต่อกันยาวขึ้นก็ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคนในกลุ่มของเรา ในระหว่างที่เราให้เพื่อนนั่งเฝ้าโต๊ะ (หน้าที่นี้สำคัญมากห้ามลุกไปไหนเด็ดขาดไม่งั้นจะไม่มีที่นั่ง) เราก็ออกไปจัดแจงหาอาหารเมนูที่เราชอบ ส่วนคนเฝ้าโต๊ะจะชอบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตกลงกันเอาเอง แล้วก็มานั่งกินร่วมกัน กิจกรรมอันดับ 2 มีความนิยมรองลงมา ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ คือการให้อาหารปลาริมคลองลัดมะยม ในระหว่างที่ผู้ใหญ่มีความสุขอยู่กับอาหารเต็มโต๊ะที่ซื้อมาจนกินเกือบไม่หมดกันเลยทีเดียว แต่ต้องคอยดูแลระวังเด็กๆ จะตกน้ำบ้างนะครับอย่ามัวกินเพลินไป อีกกิจกรรมหนึ่งก็ไม่ค่อยจะคนนิยมมากนักคือการนั่งเรือชมวิถีชีวิตคลองลัดมะยม จะมีท่าเรือบริการอยู่แถวๆ สะพานข้ามคลอง ลองเดินหาดูครับ
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม บรรยากาศและร้านอาหารต่างๆ ที่เอามาให้ชมกันนี้ยังเป็นพื้นที่โซนฝั่งใต้เพียงส่วนเดียวครับ นี่ยังมีของหวานแบบขนมไทย ลูกชุบ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ร้านนี้ชื่อขนมไทยเมืองนนท์บางกรวย (มาไกลนะเนี่ย) ขนมที่ทำออกมาจะมีขนาดเล็กกว่าแบบที่เราเห็นทั่วไปครับ เล็กกว่าประมาณครึ่งหนึ่งของขนาดปกติเลยทีเดียว แต่ก็ดูน่ารักดี ร้านนี้เค้ารับทำขนมมงคลเหล่านี้ในงานพิธีต่างๆ อย่างขันหมากด้วยสนใจติดต่อที่ 084-013-4151, 089-661-6938 ส่วนภาพที่สองเป็นร้านที่อยู่ในเรือ เราจะเห็นร้านอาหารบนเรือไม่มากนักในตลาดน้ำคลองลัดมะยม ส่วนมากจะขายผักและผลไม้ ที่เก็บมาจากสวนมาจอดขาย ส่วนเรือลำนี้มีเมนูคั่วทะเลมาเสนอขายให้ ใครได้ที่นั่งอยู่ริมคลองก็สั่งได้ทันที ภาพต่อมาเป็นซาลาเปาทับหลี ซาลาเปาชื่อดังจากแดนใต้ ปกติขายอยู่ที่แถวรอยต่อชุมพร ระนอง มีเยอะมากเรียกว่าทำกันทั้งหมู่บ้านจนมีชื่อเสียงซาลาเปาทับหลี ภาพสุดท้ายเป็นงานคล้ายหุ่นขี้ผึ้งอยู่ในซอยของประดิษฐ์ ของฝากและของใช้ มีรูปเหมือนท่านสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสีเป็นจุดเด่นของร้านมีมากมายหลายขนาด
สบายดีที่ลัดมะยม เป็นร้านของฝากในโซนของฝากใกล้กับโซนอาหารนี่ละครับ จากจุดที่มีร้านอาหารมากที่สุดของตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตอนนี้ผมจะเดินไปสำรวจด้านซ้ายมือซึ่งมีทางเดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็มีคนนั่งกินข้าวกันจนแน่น คนเดินหาโต๊ะว่างก็มีไม่น้อยก็ต้องรอกันต่อไป
ดนตรีไทยเพื่อทุนการศึกษา คล้ายกับดนตรีเปิดหมวก แต่พอมาเป็นการตีขิมกับแต่งตัวด้วยชุดไทยเข้ากับเครื่องดนตรี บรรเลงอยู่ตรงทางแยกก็ทำรายได้ได้ดีพอสมควร เพื่อเป็นทุนการศึกษาของตัวเอง
สุดทางเดินโซนแรก จากพื้นที่ส่วนกลางของตลาดโซนฝั่งใต้ พอเดินเลียบคลองมาซ้ายมือสุดทางมีทางเลี้ยวซ้ายต่อไปอีก โซนนี้ก็ไม่เบาเหมือนกันประกอบไปด้วยร้านอาหารมากมายหลายเมนู บรรยากาศค่อนข้างจะสบายกว่าพื้นที่ตรงกลางสำหรับเรื่องคนน้อยคนมาก ตรงส่วนกลางมีคนเยอะแย่งกันหาที่นั่ง มาโซนซ้ายมือตรงนี้หาที่นั่งได้ง่ายกว่าดูโปร่งกว่า ของกินก็ทัดเทียมกัน จะมีอาหารน้อยเมนูกว่าบ้างแต่เมนูหลักๆ อย่างไก่ย่างปลาเผาหรือว่าอาหารตามสั่งก็มีให้เลือก มีขนมจีน ไอติม น้ำตาลสด ของหวานขนมไทยก็มีเหมือนกัน ถ้าไม่อยากหาที่นั่งกันยุ่งยากลองเดินมาฝั่งนี้ดูครับ
โซนของใช้และของที่ระลึก จากโซนอาหารเดินหลุดออกมาด้านนอก มีทางเดินต่อไปทางซ้ายอีกยาวเลยครับ บริเวณนี้เป็นพื้นที่สำหรับของใช้ ของตกแต่ง ของฝาก ของที่ระลึกเยอะแยะเลยเหมือนกัน ถ้าเดินไปเรื่อยๆ ทางเดินจะพาเราไปโผล่ที่ลานจอดรถเป็นอันว่าเดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมรอบตลาดน้ำคลองลัดมะยมฝั่งใต้ได้ 1 รอบพอดี
ชมบรรยากาศคลองลัดมะยม ตอนนี้ยังอยู่ที่คลาดฝั่งใต้ ผมเริ่มเดินจากตรงกลางไปทางซ้ายแล้วเลี้ยวซ้าย 2 ครั้ง กลับมาที่ตรงกลางอีกครั้ง ตอนนี้จะเดินไปทางขวาบ้าง เห็นมีสะพานข้ามคลองเล็กๆ เลยลองเดินข้ามไปดู บนสะพานข้ามคลองจะมองเห็นตลาดน้ำคลองลัดมะยม 2 ฝั่ง เราจะเห็นได้ขัดเลยว่าฝั่งหนึ่งมีคนอยู่แน่นมาก ส่วนอีกฝั่งแทบจะไม่มีคนมาเดินเลย เพราะว่าฝั่งที่ขายอาหารมีฝั่งเดียว ส่วนอีกฝั่งจะขายของที่ระลึกงานทำมือต่างๆ คนที่มาตลาดน้ำก็จะมุ่งหน้าหาของกินกันมากกว่าที่จะมาเดินซื้อของ เรือที่ขายของกินและผลไม้ก็จะจอดเทียบฝั่งที่มีคนมาก ส่วนอีกฝั่งก็จะว่างตลอด เดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ จะมีท่าเรือสำหรับให้อาหารปลาก็ได้ จะลงเรือเที่ยวคลองลัดมะยมก็ได้ มีคนมายืนรอลงเรือเยอะแยะ ทางเดินเลียบคลองช่วงนี้ก็แคบ เลยทำให้การเดินค่อนข้างลำบาก ใครหลายๆ คนมาที่นี่ก็บ่นคล้ายๆ กันเลยว่าอยากให้แบ่งคนเดินตลาดมาเดินให้เท่าๆ กันทั้ง 2 ฝั่ง จะได้เดินสบายขึ้นมาบ้าง
สะพานข้ามคลองสำหรับคนเดินนี้จะพาเราตรงไปที่ลานจอดรถอีกลานหนึ่ง ถ้าเรามาจากกาญจนาภิเษก ถึงตลาดน้ำคลองลัดมะยมถ้าเลี้ยวขวาเข้าลานจอดรถก่อนที่จะข้ามสะพานข้ามคลอง เราก็จะมาจอดที่ลานจอดตรงนี้แล้วเดินข้ามสะพานนี้มาฝั่งร้านอาหารนั่นเอง
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ภาพจากมุมที่บ่งบอกความเป็นคลองลัดมะยมได้เป็นอย่างดีมุมหนึ่งครับ บนฝั่งมีทั้งคนที่นั่งกินอยู่ตามโต๊ะ มีทั้งคนที่ยังเดินเลือกซื้ออาหาร มีทั้งคนที่ยังมองหาโต๊ะว่าง ในคลองก็มีเรือจอดเทียบขายของหลายอย่างเลือกได้ทั้งบนบกทั้งในน้ำสบายไปเลยครับ
ใต้สะพานนอบน้อม สะพานคอนกรีตข้ามคลองลัดมะยมที่มีรถวิ่งไปมาอยู่บนสะพาน ด้านล่างมีเรือขายผักกับผลไม้หลายอย่าง ที่ชาวบ้านเอามาขาย ใต้สะพานนี้มีความสูงไม่มากคนที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องก้มหัวเดิน เลยเป็นที่มาของชื่อสะพานนอบน้อม นับจากสะพานหรือถนนบางระมาดไปอีกฝั่งหนึ่งเรียกว่าตลาดน้ำคลองลัดมะยมฝั่งเหนือ เดี๋ยวจะพาไปชมเป็นอันดับต่อไป
ทอดมันหน่อกะลา อาหารยอดนิยมที่ผมไปเจอที่เกาะเกร็ดเป็นแห่งแรก หลังจากนั้นก็เริ่มจะเห็นไปตามตลาดต่างๆ มากขึ้นๆ แต่ไม่มีหลักฐานว่าที่ไหนเกิดก่อน แต่นั่นก็คงไม่ใช่ประเด็น ทอดมันหน่อกะลาเป็นอาหารที่ปรุงง่ายอุปกรณ์น้อยวัตถุดิบก็ไม่มาก เอาใส่เรือพายไปพายมาขายในคลองได้สบาย
ของกินริมคลอง ทางเดินเลียบคลองที่เชื่อมระหว่างตลาดฝั่งใต้กับฝั่งเหนือมีของกินให้เราเลือกหลายอย่างเหมือนกัน และคงเป็นเหตุที่ทำให้เดินกันได้ลำบากเพราะหลายคนเดินมาหยุดซื้อของที่นี่ ข้าวแต๋นสมุนไพรที่หน้าตาน่ากิน ซาลาเปา หมั่นโถ จากทับหลี ส่วน 3 ภาพด้านล่างยกให้ร้านไข่กะโหลก เพราะไอเดียในการทำของมาขายสุดยอดมากๆ ด้วยความแปลกของไข่กะโหลก ผมเลยซื้อมาชิม 1 ลูก ราคา 40 บาท พอดีเหลือแต่ไส้ปลา ซึ่งเป็นเนื้อปลาแซลมอน ลักษณะคล้ายไข่ยัดไส้แต่เอามาทำให้เป็นลูกกลมๆ ด้านในมีข้าวพอประมาณ พอเปิดออกมากินจะอิ่มเหมือนกินข้าว 1 จานเลยครับ ไอเดียการทำไข่ว่าแปลกแล้วมาเพิ่มมูลค่าด้วยแพคเกจที่เป็นมาตรฐานอย่างดี ไม่ลองชิมคงไม่ได้แล้วละ
มะพร้าวแก้ว นี่ก็เป็นขนมไทยที่พอจะยังหากินได้ไม่ยากนัก ที่ร้านนี้ก็มีทำออกมาหลายแบบ หลายสี ทำไปขายไป ใส่น้ำตาลพอดีๆ ไม่หวานจนเกินไปเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกใจของคนกลัวน้ำตาล
ของหวานนานาชนิด ยังอยู่กับของหวานนานาชนิดครับ เพราะของคาวก็แนะนำไปหลายอย่างแล้ว ดูเหมือนว่าจะเกิน 30 เมนูแล้ว ของหวานก็ไม่ใช่น้อยๆ ที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกก็เกินจะนับกันไหว มาเที่ยวตลาดน้ำคลองลัดมะยมน่าจะงดข้าวเช้าแล้วมาให้ถึงสายๆ เกือบเที่ยง และก็กินๆๆ ให้กระจายกันไปเลย
ตลาดน้ำคลองลัดมะยมฝั่งเหนือ ลอดใต้สะพานนอบน้อม หรือจะเดินบนบกอ้อมไปข้ามถนนแล้วเข้าตัวตลาดก็ได้ ที่ฝั่งเหนือค่อนข้างแตกต่างจากฝั่งใต้ มีของกินหลายอย่างเหมือนกัน แต่ออกไปทางของหวานมากกว่าของคาว เดินเข้าร้านแรกเป็นข้าวหลามเรียงกันเต็มร้าน ต่อมาเป็นเบเกอร์รี่นานาชนิดเยอะมากๆ เหมาะสำหรับคนที่กินข้าวอิ่มมาจากฝั่งใต้แล้วมาหาของหวานล้างคาวปาก อีกร้านเป็นไอติมกะทิกะลามะพร้าว มีร้านขนมไดฟูกุ มีผักและดอกอัญชัน ผลไม้อีกนิดหน่อย ดูเป็นตลาดทั่วไป อีกร้านหนึ่งเป็นยำถั่วพู ยำมะเขือยาว ปิดด้วยรูปสุดท้ายเป็นที่นั่งริมคลองตลาดน้ำคลองลัดมะยมฝั่งเหนือ ลักษณะจะต่างกับฝั่งใต้อยู่อีกอย่างหนึ่งคือที่ฝั่งเหนือเป็นที่นั่งกับพื้น ของกินวางบนโต๊ะเตี้ยๆ ของกินที่ฝั่งเหนือน้อยกว่าฝั่งใต้มากๆ คนที่มานั่งกินก็ดูจะน้อยไปด้วย
พืชผลชาวลัดมะยม อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะเห็นในตลาดฝั่งเหนือมากกว่าฝั่งใต้ก็คือผลไม้และผักสด เหมาะสำหรับซื้อกลับบ้านทั้งกินเองทั้งเอาไปฝาก ผลไม้ที่นี่มีวางขายหลายอย่างตามฤดูกาล อย่างมะม่วง ลองกอง สละ กล้วยมีเยอะมากๆ มะม่วงมันขุนศรีลูกโตๆ ก็มีให้เลือกกัน
ของกินฝั่งเหนือ นี่ก็เป็นของกินอีก 2-3 ร้านที่เก็บภาพมา มีเมี่ยงคำ อาหารที่เน้นผัก ถัดมาเป็นขนมเบื้อง สุดท้ายเป็นยำแหนมมีคนมารอคิวซื้อกันเยอะเพราะการคลุมแหนมใช้เวลาสักหน่อย ภาพสุดท้ายเป็นทางเข้าสวนเจียมตน โซนขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของตลาดน้ำคลองลัดมะยม ในสวนเจียมตนมีลักษณะเหมือนการเดินในสวน ของที่นำมาขายก็มีทั้งของเก่าโบราณ เสื้อผ้า ของทำมืออย่างตุ๊กตาดินเผา เอาละเดินเข้าไปกันเลยดีกว่า
สินค้าในสวนเจียมตน เริ่มต้นเดินเข้ามาจะมีทางหลักตรงไปยาวๆ มีทางแยกไปทางขวาร้านแรกในทางแยกขายเสื้อ 12 ราศี ไอเดียของร้านนี้โดยเฉพาะ ภาพต่อมาเป็นบรรยากาศทางเดินในสวนเจียมตน มีร้านค้าอยู่ 2 ข้างทางเดินเป็นเพิงหลังคามุงด้วยหญ้ายาวต่อกัน โซนนี้ก็มีคนไม่มากเท่าไหร่ แต่ด้านในมีสินค้ามากมายหลายแบบ ภาพที่ 3 เป็นนกหลากสี มีเสียงด้วย แต่ละตัวเน้นสีสันสดใสเสียงเพราะ เหมาะสำหรับตกแต่งบ้านและสวน หัวมุมสุดทางเดินมีร้านขายตุ๊กตาดินเผาชื่อร้านคนทาสดิน ใช้ลูกเล่นคำพ้องเสียงกับคำว่าธาตุดิน ผลิตผลงานจากดินเผาหน้าตาท่าทางน่ารักของเด็กๆ มีหลายขนาดให้เลือก หลายตัวที่วางอยู่ในร้านก็มีลูกค้ามาจองไปเรียบร้อยแล้วก็มี พอสุดทางเดินทางตรงมีทางต่อไปทางซ้ายอีกหน่อยมีร้านขนมและเครื่องดื่ม และของทำมืออีกหน่อย แต่ที่เด่นๆ เป็นร้านนวดคลายเส้น เอาม่านมาขึงตกแต่งให้ร้านดูดีกว่าร้านอื่นๆ ขนาดของตลาดที่กว้างใหญ่ทำให้ร้านนวดแห่งนี้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการเดินอยู่เป็นระยะๆ ต่อจากตรงนี้ไปจะเป็นทางเดินเข้าหมู่บ้าน มีบ้านเรือนที่ปลูกอยู่ในสวนหลายหลังคาเรือน เรียกว่าเป็นทางเดินชมวิถีชีวิตคลองลัดมะยม แต่คนส่วนใหญ่จะไม่เดินต่อเข้าไปแล้วครับทุกคนก็จะกลับหลังหันแล้วเดินย้อนออกทางเก่าแกันมากกว่า
ร้านของเก่าสวนเจียมตน ก็เป็นร้านที่มีของเก่าๆ มาวางขายอยู่หลายอย่างเหมาะสำหรับคนที่นิยมสะสมของเก่าแก่หายาก
ตลาดน้ำคลองลัดมะยมโซน 3 เมื่อโซน 4 เป็นตลาดฝั่งใต้ของกินมากมายให้เลือกสรร โซน 3 คือตรงนี้ที่มีทางแยกหน้าสวนเจียมตน ที่เรียกกันว่าแยกศรีนคร ผมก็ขอเดาเอาว่าโซน 1 คือตลาดฝั่งเหนือที่มีของกินน้อยกว่าฝั่งใต้ ส่วนสวนเจียมตนก็คงจะเป็นโซนที่ 2 ไปโดยปริยาย โซนที่ 3 มีร้านอาหารเหมือนกัน มีของฝากเหมือนกัน มีส่วนที่แตกต่างจากโซนอื่นที่ตรอกงานศิลป์ มีผลงานศิลปะวางขายหลายชิ้นลองเข้ามาเดินดูเผื่อว่าจะถูกใจ
ร้านอาหาโซน 3 จากแยกศรีนครเดินตรงเข้ามาเป็นโซนอาหาร มีร้านอาหารอยู่หลายร้านด้วยกัน มีเมนูต่างๆ กันอยู่แต่จำนวนร้านดูเหมือนจะน้อยกว่าตลาดฝั่งใต้ และฝั่งเหนืออยู่บ้าง คนมาเดินโซนนี้จะบางตา เมนูเด่นๆ ที่โซนนี้จะเป็นอาหารใต้
ของกินโซน 3 ส่วนมากเป็นอาหารตามสั่งข้าวราดแกง ขนมก็พอมีบ้างให้ครบรสเหมือนกันกับโซนอื่นๆ ของกินเล่นอย่างข้าวเกรียบปากหม้อก็มี แถมท้ายด้วยเมนูจากเวียดนามชื่อว่าหมูห่อใบชะพลู 3 รูปล่าง เริ่มจากรูปแรกเป็นหมูห่อใบชะพลูม้วนกลมๆ เสียบไม้ปิ้งบนเตาด้วยไฟอ่อนๆ ให้หมูสุกโดยที่ใบชะพลูไม่ไหม้ เวลาจะกินยังต้องมีผักอีกหลายชนิดอย่างแครอท ผักกาดหอมสำหรับห่อ แน่นอนว่าต้องมีน้ำจิ้มด้วย เพื่อให้อยู่ท้องมากขึ้นก็จะมีเส้นหมี่ด้วย เหมาะสำหรับเป็นของรองท้องในระหว่างนั่งรอเพื่อนๆ ไปซื้ออาหารสำหรับคนที่นั่งเฝ้าโต๊ะ (เพราะว่าเราควรจะซื้อแล้วถือมากินที่โซน 4 นะครับ โซน 3 นี่ของกินน้อยไปหน่อยแต่ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน) แต่ระวังอย่ากินหมดเดี๋ยวเพื่อนสั่งให้ไปซื้อมาเพิ่มจะเดินไกลเอานะครับ
กินอะไรกันบ้างที่ลัดมะยม ในกรณีที่ไปเดินตลาดมีของกินมากมายเช่นนี้ ผมจะเลือกซื้อของแปลกๆ ที่ไม่เคยกินเป็นหลัก ส่วนปลาเผาแม้ว่าจะเป็นของชึ้นชื่อของตลาดน้ำคลองลัดมะยม แต่ผมก็กินปลาเผาบ่อยแถวๆ บ้าน เลยขอข้ามเมนูนี้ไปดีกว่า อาหารที่ซื้อมาจะต้องพอดีอิ่มไม่มากไปไม่น้อยไป ผมเลยเลือกสกาขี้เมารวมมิตร เป็นการใช้หมี่กรอบสีเขียวเอามาผัดขี้เมาสูตรของร้านสกาหมี่กรอบโดยเฉพาะไม่มีร้านอื่น อร่อยแปลกดี ส่วนรูปบนขวาเป็นข้าวเกรียบปากหม้อน้ำ จะต้องมีน้ำซุปมาด้วย เมนูนี้อาจจะไม่แปลกเท่าไหร่แต่ก็ไม่ค่อยได้เห็นกันทั่วไปนัก 2 รูปข้างล่างยกให้ไข่กะโหลก เป็นเมนูที่ได้คะแนนสูงสุดสำหรับทริปนี้ของเรา ด้วยเรื่องไอเดีย และบรรจุภัณฑ์ที่พิถีพิถัน ทีแรกคิดว่าเอามากินเล่นที่ไหนได้กินเข้าไปลูกเดียวต้องแบ่งกันกินถึง 3 คน ไม่งั้นไม่หมด ผ่าออกมาจะเห็นว่าข้างในเนื้อแน่นมาก ไม่ใช่ว่าทำให้กลมแล้วข้างในกลวงโบ๋
เฮ้อ อิ่มมมม....จบการรายงานสถานที่น่าเที่ยวฉบับในกรุงที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมไว้เพียงเท่านี้ ว่างๆ ไปหาอะไรกินกัน แต่อย่าลืมว่าควรจะงดข้าวเช้าไปเลยครับ กินให้จุใจที่นี่ควบ 2 มื้อเลย นานๆ มาทีนี่นา...
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ