Snow Town

 สโนว์ทาว์น สวนสนุกแดนหิมะแห่งใหม่ เปิดตัวขึ้นใจกลางกรุงเทพฯ ดับร้อนได้ชะงัดนัก บนห้างเกตเวย์เอกมัย ชั้น 5 คนแห่เที่ยวล้นตั้งแต่เปิดตัววันแรก แสดงให้เห็นว่าคนไทยแสวงหาอากาศเย็นและที่เที่ยวแบบใหม่ๆ กันตลอดเวลา เนื้อที่กว้างขวางของห้างชั้น 5 เปลี่ยนเป็นแหล่งช้อปปิ้งอินเทรนด์ โดยเฉพาะคนที่ชอบสไตล์ญี่ปุ่น ตรงกลางเป็นพื้นที่ลานหิมะขาวโพลนที่จำลองบรรยากาศของเมืองที่มีหิมะตกออกมาได้ดี โดนใจมาก อุณหภูมิสบายๆ ที่ 19 องศา จึงไม่ต้องใช้เสื้อกันหนาวหนาๆ แต่ต้องใส่รองเท้าบู๊ทที่เค้าจัดไว้ให้ ราคาเข้าย่านการค้า 100 บาท เข้ามาในลานหิมะ อีก 100 บาท จะอยู่ได้ ครึ่งชั่วโมง ถ้าอยู่เกินคิด 20 บาทต่อครึ่งชั่วโมงที่เราอยู่เกิน และดูเหมือนว่าหลายๆ คนที่ได้เข้ามาแล้วไม่ยอมจะออกไปง่ายๆ 2 วันแรกที่เตรียมรองเท้าเอาไว้ไม่พอกับคนที่เข้ามาเที่ยวเลยทีเดียว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.095-5476870 หรือ info@snowtown.co.th

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร.095-5476870 หรือ info@snowtown.co.th

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

สโนทาวน์ เกตเวย์ ชั้น 5 นานมาแล้วไม่ได้มาเดินเกตเวย์ ไม่ค่อยได้อัพเดตข้อมูลห้างซักเท่าไหร่ เพราะเรามันคนชอบเที่ยว ตจว. มากกว่า แต่พอมีข่าวการเปิดตัวของสโนทาวน์จาก ททท.กรุงเทพฯ ก็ต้องมาดูกันซะหน่อยว่าเมืองหิมะเปิดใหม่ได้วันเดียวแต่คนตรึมหน้าตาเป็นยังไงบ้าง ที่จริงขึ้นลิฟท์ไปชั้น 5 เลยก็ถึงเร็วดี แต่ไหนๆ ก็มาแล้วเดินชมห้างขึ้นบันไดเลื่อนทีละชั้นก็เป็นไอเดียที่ไม่เลว ขึ้นมาสักพักเราก็มองไปเห็นป้ายสโนทาวน์ที่ชั้น 5 แล้ว

มิโซะซุปคาเฟ่ เป็นร้านที่เปิดอยู่ชั้น 5 ใกล้ๆ สโนทาวน์ เห็นบอกให้เข้าไปชิมฟรีก็เลยลองดู สมัยนี้นี่สบายกันเหลือเกินอยากกินซุปมิโซะก็ซื้อแบบสำเร็จรูปไปได้เลย อยากใส่อะไรก็หามาใส่เอา รู้สึกว่าชั้น 5 นี่ร้านค้าจะเป็นญี่ปุ่นกันเยอะจริงๆ เลยทำให้รู้สึกว่ากำลังเดินเที่ยวอยู่ญี่ปุ่นเลย

เอาละมาถึงทางเข้าสโนทาวน์กันแล้ว ซื้อบัตรเข้ากันได้เลย ขั้นแรกค่าเข้า 100 บาท แต่ยังเข้าลานหิมะไม่ได้ แต่ไปเดินย่านการค้าย่อมๆ ที่อยู่รอบๆ เมืองหิมะได้ ถ้าจะเข้าลานหิมะต้องซื้อบัตรอีกต่างหาก 100 บาท จะเข้าได้ครึ่งชั่วโมง แต่ถ้าอยากอยู่นานๆ ตอนออกมาจะคิดเวลา อยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงคิด 20 บาทต่อครึ่งชั่วโมง ส่วนมากจะอยู่กันนานอย่างน้อยก็ 1 ชั่วโมงเพราะเล่นแล้วมันเพลินไม่ค่อยอยากออก

ก่อนที่จะเข้าไปในลานหิมะได้ต้องเปลี่ยนรองเท้าบู๊ทซะก่อน รองเท้าธรรมดาๆ อย่างที่เราใส่กันมันเดินบนน้ำแข็งไม่ได้ รองเท้าบู๊ทเค้ามีเตรียมไว้ให้ แต่ต้องใจเย็นๆ เค้าจะหาเบอร์ที่เราใส่ได้มาให้ วันนี้เปิดเป็นวันที่ 2 คนแห่มากันเยอะมากจะต้องมารอตรงเปลี่ยนรองเท้ากันนี่แหละ เพราะบางเบอร์มันขาดต้องรอให้คนที่เข้าไปออกมาคืนรองเท้าเบอร์ที่เราหาถึงจะได้เข้า แต่ต่อไปเค้าคงเพิ่มจำนวนรองเท้าให้ ตอนเอารองเท้ามาคืนก็ถอดวางๆ เอาไว้ตามพื้นการจะหารองเท้าที่เบอร์ที่เราต้องการเลยต้องใช้เวลามากขึ้น อันนี้ต้องเข้าใจแต่ประมาณ 3 นาทีก็มีคนเอารองเท้าเบอร์ที่เราใส่มาให้ลองถ้าไม่ได้ก็เปลี่ยน เห็นความวุ่นวายของคนที่มารอรองเท้ากับคนที่เอารองเท้ามาคืนแล้วบอกเลยว่าเจ้าหน้าที่ทำงานหนักมากเราก็ใจเย็นๆ รอหน่อย

จ่ายค่าเข้าลานหิมะเรียบร้อย ได้รองเท้าแล้วคราวนี้ก็ลุยกันได้เลย เวลาที่เราเข้าไปในลายหิมะจะเขียนใส่กระดาษมีซองติดไว้ที่แขนหรือข้อมือ เล่นนานเท่าที่ต้องการเวลาออกจากลานหิมะก็เอาเวลาเข้ากับออกมาหักลบกันคิดเป็นเงินออกมา ถึงแม้ว่าจะใส่รองเท้าบู๊ทที่ใช้กับหิมะแล้ว แต่ก็ต้องเดินอย่างระวังเพราะการลื่นไม่เข้าใครออกใคร บรรยากาศในลานหิมะคนเล่นกันอย่างสนุกสนาน บางคนก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อย บางคนก็ปั้นหิมะ บางคนก็เล่นเลื่อนเล็กๆ ตามอัธยาศัย รอบๆ ลานหิมะสร้างเป็นเมืองมีร้านค้าอยู่รอบๆ บรรยากาศเหมือนอยูในเมืองๆ หนึ่งที่มีหิมะตก

หิมะตกกลางกรุงเทพฯ ที่สโนว์ทาวน์ ในลานหิมะ มีเครื่องทำหิมะเทียมพ่นออกมาตลอดเวลา เป็นช่วงๆ แต่ละช่วงพอมีหิมะพ่นออกมาคนก็จะเข้าไปถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน แม้ว่าจะไม่ใช่หิมะจริงๆ แต่ภาพที่ออกมาก็สวยเหมือนยืนอยู่ในคืนหิมะตกในเมืองนอกเลย แต่ยืนนานๆ ก็เปียกนะ ในเมืองหิมะควบคุมอุณหภูมิที่ 19 องศา ที่จริงจะรู้ยึกเย็นๆ แต่การที่เราเดินไปเดินมาด้วยรองเท้าบู๊ท และมีคนอยู่เยอะแยะในลานหิมะเลยไม่รู้สึกหนาวเท่าไหร่ ใส่เสื้อยืดมาเที่ยวได้สบายเลย

นอกจากถ่าวรูปตัวเองแล้วบางคนก็พาตาราประจำบ้านมาด้วย ตุ๊กตา ต่างๆ นานา เอามาจัดฉากในหิมะถ่ายรูปสวยๆ กันไปก็มี

Snow Miku Cafe เล่นหิมะกันจนเพลิน เวลาผ่านไปอย่างเร็วชั่วโมงครึ่ง สมควรแก่เวลาแล้ว เลยออกมานอกลานหิมะ รอบๆ เปิดเป็นร้าน มีทั้งร้านสตูดิโอถ่ายรูปชุดกิโมโน เดินต่อไปอีกหน่อยเป็นร้านนี้ Miku Cafe บรรยากาศในร้านเป็นโต๊ะสั่งเครื่องดื่ม มีกิจกรรมวาดภาพระบายสีสาวน้อยในการ์ตูนญี่ปุ่น ตกแต่งด้วยโมเดลตัวการ์ตูน พนักงานในร้านหน้าตาเข้ากับบรรยากาศของร้านสุดๆ ทางร้านจัดประกวดถ่ายภาพคอสเพลย์การ์ตูนญี่ปุ่นอยู่ด้วย ใครชื่นชอบงานต้านนี้ลองไปสอบถามดูนะครับ ตอนนี้เอาโซดามากินกันก่อน แล้วค่อยแยกย้ายกลับบ้าน

นี่ก็เป็นพนักงานร้าน Miku Cafe ที่ Snow Town เป็นไงละ หน้าตาเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นเดินออกมามั้ย จบการนำเที่ยวเมืองหิมะเกตเวย์เอกมัยเอาไว้เพียงเท่านี้

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพมหานคร มา ณ โอกาสนี้ครับ