เวลาเปิด-ปิด:08:30 - 16:30
โทร:022820818
ค่าเข้า:ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก/นักเรียน อายุ 10-18 ปี 20 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม:พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ 02 282 0818
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ การที่เราได้มาที่นี่เนื่องมาจากทริป ตามรอยวัดสำคัญหลังเหรียญในสมัยรัชกาลที่ ๙ เป็นทริปที่ดีมากเพราะได้เดินทางไปวัดต่างๆ ที่มีภาพอยู่ด้านหลังของเหรียญที่เราใช้กัน จากนั้นมาเพิ่มความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของเหรียญว่ากว่าจะเป็นเหรียญกลมแบนอย่างทุกวันนี้ เราใช้เงินแบบไหนกันมาบ้าง
เหรียญที่ระลึกถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9 เป็นเหรียญชุดหนึ่งที่อยู่ในห้องสินค้าที่ระลึกที่มีเหรียญอยู่มากมายหลายชุดสำหรับผู้ที่สนใจ ห้องนี้อยู่ชั้นล่างขวามือในระหว่างการรอรอบเข้าชมพิพิธภัณฑ์ก็มาเดินดูห้องนี้ก่อนได้
เงินรูปสัตว์ ในชั้นแรกจะมีโรงหนังแอนิเมชั่นสี่มิติ ฉายบนผนังถ้ำแบบ 360 องศา บอกเล่าจุดเริ่มต้นแห่งการแลกเปลี่ยนของสังคมมนุษย์ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ก่อนแปรเปลี่ยนสู่การใช้สื่อกลางและปรับปรุงวัสดุที่ใช้เป็นสื่อกลางเมื่อโลกค้นพบโลหะ และมีตัวอย่างเงินในสมัยก่อน ในแหลมมลายูนิยมนำดีบุกมาทำเงินตราในแบบต่างๆ รวมทั้งเงินตรารูปสัตว์ ในสมัยปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 มีการทำเหมืองดีบุกที่รัฐเปรัค โดยมีธรรมเนียมว่าจะต้องนำดีบุกที่ขุดพบไปครั้งแรกมาหล่อรูปสัตว์ในท้องถิ่นเช่น จระเข้ ไก่ ปลา นก เพื่อเซ่นไหว้เจ้าที่ก่อนจะนำไปขายหรือใช้ประโยชน์ เงินรูปไก่จะทำเป็นห่วงกลม 8-9 ห่วงไว้ด้านล่างเพื่อหักแบ่งไว้ใช้จ่าย
พอเดินขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีนิทรรศการ หลายชุดด้วยกัน เช่นชุด นานาอาณาจักรเหรียญ : จัดแสดงเหรียญสมัยฟูนัน ทวารวดี ละโว้ และศรีวิชัย เหรียญในสมัยแรกเริ่มที่ปรากฏในพื้นที่ประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่เรียกว่า “สุวรรณภูมิ” พร้อมถ่ายทอดที่มาและลวดลายซึ่งเป็นสัญลักษณ์มงคล ผ่านสภาพสังคมและการค้าของดินแดนในอาณาจักรโบราณ
การผลิตเงินพดด้วงด้วยมือ เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการชุด เริ่มต้นอาณาจักรไทย : จัดแสดงพดด้วง เงินตราของชนชาติไทยในอดีต พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนและเศรษฐกิจ สมัยอาณาจักรสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา ท่ามกลางบรรยากาศตลาดในย่านชุมชน
เงินพดด้วงตราพระแสงจักร-พระมหามงกุฎ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 เงินตราหลักที่ใช้ในการค้าขายของประเทศยังคงใช้เงินพดด้วง ในปีพ.ศ. 2394 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผลิตเงินพดด้วงชนิดราคาบาท กึ่งบาท สลึง และเฟื้อง ทำด้วยเงิน ประทับตราพระแสงจักรเป็นตราประจำแผ่นดิน และเปลี่ยนตราประจำรัชกาลเป็นตราประจำพระมหามงกุฎ ต่อมาในปีพ.ศ 2412 โปรดเกล้าให้ผลิตเงิน พดด้วงตราพระแสงจักร-พระมหามงกุฎชนิดราคาชั่ง ตำลึง และกึ่งตำลึง เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสฉลองพระมหามณเฑียรพระที่นั่งอนันตสมาคมในพระบรมมหาราชวัง
สลึงงอ หลังจากยุคเงินพดด้วง ประเทศไทยก็มีการปฏิรูปการใช้เงินตราแบบเหรียญกษาปณ์ขึ้น ในช่วงนั้น คนไทยต้องปรับตัวอย่างมาก จากระบบค่าเงิน ที่ใช้สลึง และเฟื้องกันมานาน เปลี่ยนมาเป็นระบบทศนิยมด้วยเหรียญสตางค์ และหนึ่งในนิทรรศการ เหรียญกษาปณ์ไทย เราก็ได้เจอกับเหรียญสลึงงอ สาเหตุที่เหรียญเหล่านี้มีลักษณะงอ เพราะเป็นเหรียญที่ใช้กันในบ่อนการพนัน ซึ่งในยุคนั้นบ่อนพนันถือเป็นสิ่งถูกกฎหมาย เหตุที่เหรียญต้องงอ เพื่อที่จะทำให้การเลื่อนเหรียญบนผืนผ้าปูโต๊ะทำได้ง่ายกว่าเหรียญที่ไม่งอ และพอมีคนเอาไปใช้ก็จะทำให้รู้ว่าเหรียญนี้ได้มาจากบ่อนการพนันอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งความรู้ที่ไม่เคยรู้มาก่อน
ห้องรวมเหรียญนานาชาติ เหรียญนานาชาติ : เป็นนิทรรศการที่ทำให้เราได้รู้จักกับเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนจากทุกประเทศทั่วโลกกว่า ๑,๕๐๐ เหรียญ พร้อมเรื่องราวที่พวกเขาเลือกบันทึกไว้บนเหรียญ และตื่นตาตื่นใจกับเทคนิคล้ำสมัยในการผลิตเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกของแต่ละชนชาติ ฝีมือและความชำนาญในการออกแบบ ตลอดจนกระบวนการผลิตที่ละเอียดและประณีต บอกเล่าความหลากหลายตลอดกระบวนการกว่าจะมาเป็นเหรียญ
เหรียญ 10 บาท ปี พ.ศ.2533 เป็นที่รู้กันดีว่าเหรียญ 10 บาทที่ผลิตในปีพ.ศ. 2533 มีจำนวนน้อยมาก ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมเหรียญ มีราคาแลกเปลี่ยนอยู่ในตลาดนักสะสม ถึงหลายแสนบาท และเป็นไปได้ยากมากที่คนทั่วไปจะได้เห็นเหรียญนี้ ถ้าอยากจะเห็นของจริงก็ให้มาดูที่พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์
นิทรรศการชั่วคราว : เหรียญของพ่อ ปิดท้ายการพาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ กันที่ห้องที่ประทับใจที่สุด นิทรรศการชั่วคราว "เหรียญของพ่อ" จัดทำขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ ๙ ที่มีต่อปวงชนชาวไทยจนแพร่ไกลถึงต่างประเทศให้เป็นที่ประจักษ์ต่อพระวิริยะอุสาหะและพระอัจฉริยะภาพของ “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 : ทุกท่านได้จะได้รับชมความในใจของพสกนิกรชาวไทยต่อการสูญเสียพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งไป “ความในใจพสกนิกรต่อพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙” พร้อมกับผลงานต่างๆที่ประชาชนทุกคนตั้งใจรังสรรค์เพื่อถวายแด่พระองค์เป็นครั้งสุดท้าย ทั้งบทเพลงจากศิลปิน , ภาพวาดจากหลายแขนงจากหลายศิลปินผู้ตั้งใจรังสรรค์ ค่ะ/ครับ
ส่วนที่ 2 : “กลางใจ ไทยนิรันดร์” ที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญสำคัญในรัชกาลที่ ๙ ถึง ๙ เหรียญด้วยกันพร้อมกับชมภาพเสมือนจริง รวมทั้ง พระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ ๙ บางส่วนจากกว่า ๓,๐๐๐ โครงการในพระราชดำริ
ส่วนที่ 3 : “ก้าวตามรอยความดี” เพราะในวันนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการยึดมั่นในความดีงามตามแบบอย่างพระองค์ ให้คำสอนของพระองค์เป็นเสมือนรอยเท้าที่ให้เราได้ก้าวตาม ร่วมทำความดีถวายพ่อ สร้างสังคมแห่งความดีงาม รู้รักสามัคคี ฝากคำสัญญาไว้กับใจตัวเองแล้วจงมุ่งมั่นตั้งใจทำ เพื่อให้สมกับพระราชปณิธานของพระองค์
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ