อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทยเพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ เส้นทางขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่จะมีจุดแวะพักที่ "ซำ" หมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาแต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการระหว่างการเดินทาง

 จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึง

 ผานกแอ่น เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมากแห่งหนึ่ง สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นมีดอกกุหลาบป่าขึ้นเป็นดงใหญ่ ซึ่งบานสะพรั่งในเดือนมีนาคม-เมษายน

 ผาหล่มสัก เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด จึงทำให้นักท่องเที่ยว ช่างภาพนิยมไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ผาแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึง

 นอกจากนี้ยังมี ผาหมากดูก น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาต เป็นต้น

 การเดินทาง

 รถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-เลย แล้วลงที่ผานกเค้า ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างชุมแพ-ภูกระดึง จากจุดนี้จะมีรถสองแถวไปอุทยานแห่งชาติ ภูกระดึงหรือหากนักท่องเที่ยวใช้รถประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-ชุมแพแล้วลงที่ตลาดชุมแพแล้วต่อรถสายชุมแพ-ผานกเค้า ไปลงที่ผานกเค้า ซึ่งจะมีรถสองแถวไปที่ทำการอุทยานฯ จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าสู่ยอดภูกระดึงระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร

 รถส่วนตัวจากตัวเมืองเลยใช้เส้นทางหมายเลข 201(เลย-ภูกระดึง) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 75 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2019 อีก 8 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ

 เก็บค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็ก 10 บาท และบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 15 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์และบ้านพักได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ โทร.0 4287 1333 หรือติดต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 www.dnp.go.th

 หมายเหตุ : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะปิดระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ทุกปี เพื่อให้สภาพธรรมชาติฟื้นตัวและปรับปรุงสถานที่พักสิ่งอำนวยความสะดวก

ข้อมูลเพิ่มเติม:0 4287 1333 or 0 2561 4292 – 4

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

แผนที่ภูกระดึง ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ บนภูกระดึงก่อนอื่นขอเริ่มจากแผนที่เดินเท้าบนภูกระดึงก่อน รูปร่างของภูกระดึงเมื่อมองทางอากาศจะเป็นรูปหัวใจ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่เดินชมได้ด้วยตนเองได้แก่
ประเภทหน้าผา ผานกแอ่น ผาหมากดูก ผาจำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง ผาหล่มสัก
ประเภทน้ำตก น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ
ลานพระ ลานพระพุทธเมตตา(ลานพระศรีนครินทร์) ลานวัดพระแก้ว
สระน้ำ สระแก้ว (เล็กไปหน่อย) สระอโนดาต

และสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องให้เจ้าหน้าที่นำทางเข้าไปได้แก่
ป่าปิด น้ำตกหงส์ทอง น้ำตกขุนพอง

การเดินทางสู่ภูกระดึง เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากของนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ จะใช้รถโดยสารประจำทางไปยังผานกเค้า แล้วต่อรถสองแถวบริการ ราคารถกรุงเทพฯ - เลย 358 บาท ออกเดินทางช่วง 4 ทุ่มถึงผานกเค้าเกือบหกโมงเช้า ต่อสองแถว 25 บาทถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง หากเดินทางช่วงวันหยุดยาวๆ หรือเทศกาลเมื่อไปถึงจะต้องรีบลงทะเบียนให้เสร็จสรรพ ไปยังจุดชั่งน้ำหนักสัมภาระอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันลูกหาบที่มีจำนวนจำกัด ลูกหาบที่นี่จะขนสัมภาระขึ้นภูกระดึงวันละสองรอบ และเริ่มเดินทางตั้งแต่ตี 5 (หากไม่รู้จะเข้าไปช่วง 7-8 โมงเช้าอาจจะไม่ได้ลูกหาบ) สำหรับรอบที่สองจะขนสัมภาระขึ้นถึงยอดภูกระดึงในช่วงเวลา 5 ทุ่ม หรือก่อนเที่ยงของวันใหม่ อันนี้แย่หน่อยถ้าไม่อยากรอก็ต้องขนเองก็ลำบากมาก แต่ส่วนใหญ่หากไม่ทันลูกหาบรอบแรกนักท่องเที่ยวจะหอบเอาของจำเป็นคือเต็นท์และเครื่องนอน หากจองเต็นท์อุทยานได้ก็จะดีมากเอาเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนไปที่เหลือให้ลูกหาบรอบสองเอาไปให้

เส้นทางพิชิตภูกระดึง แน่นอนว่าการเดินทางพิชิตภูกระดึงนั้นต้องผ่านเส้นทางที่ลำบากระยะทาง 8800 เมตร แบ่งออกเป็นเส้นทางเดินขึ้นเขา 5500 เมตร และเมื่อถึงหลังแปจะเป็นทางราบ ประมาณ 3300 เมตร ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เส้นทางที่ว่านี้จะแบ่งออกเป็นช่วงๆ แต่ละช่วงจะเรียกกันว่าซำ สั้นบ้างยาวบ้าง ชันบ้าง เรียบบ้างสลับกันไป ซำที่ขึ้นชื่อและเป็นรู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวคือซำแฮก เป็นช่วงแรกของการเดินทางขึ้นเขา ระยะทางจากที่ทำการไปยังเชิงเขา 700 เมตร ไปปางกกค่า 800 เมตร ต่อไปอีก 200 เมตร ถึงซำแฮกแต่ละช่วงเป็นทางขึ้นลาดชันโดยตลอดทำให้เรี่ยวแรงหมดตั้งแต่เริ่มต้น ต่อจากนั้นก็ได้แก่ซำบอน ซำกกกอก ซำกอซาง พร่านพรานแป ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน เป็นซำที่มีห้องพยาบาลและเจ้าหน้าที่บริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ำสะอาดที่สุด ซำแคร่ มาถึงตรงนี้ระยะทางไม่มากนัก อยู่ที่ประมาณ 4 กิโลเมตรจากจุดเริ่มต้น จากซำแคร่ถึงหลังแประยะทาง 1300 เมตร เป็นสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนหมดเรี่ยวหมดแรงไปตามๆ กัน ด้วยเส้นทางชันมากประกอบด้วยก้อนหินขนาดต่างๆ กันทำให้เดินลำบาก หลายๆ ช่วงเป็นบันได บั่นทอนกำลังขาได้อย่างดี พ้นบันไดแรกไปก็ต่อด้วยบันไดที่สอง และสาม บันไดนี้จะรู้จักกันดีในชื่อ บันได 80 องศา เพราะความชันของมันนั่นเอง หลายๆ ซำระหว่างการเดินทางขึ้นภูกระดึงจะมีร้านค้าบริการเป็นระยะๆ ได้แก่ ซำแฮก ซำกอซาง ซำกกโดน และซำแคร่

ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึง หลังจากเวลาผ่านไป ความอดทนและมุ่งมั่นก็จะพาเรามาสู่จุดหมาย (ที่หวังไว้) หลังแป เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวที่มาภูกระดึง แม้ว่าจะต้องเดินไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอีกกว่า 3 กิโลเมตร แต่หลายๆ คนก็ดีใจที่มาถึงหลังแปได้มากกว่า ป้ายครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึงอันนี้ จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาถ่ายรูปคู่กับป้ายแบบเนืองแน่นต่อคิวรอกันยาว บริเวณหลังแปยังเป็นจุดที่ลูกหาบจะนำสัมภาระมาวางแล้วจากนั้นใช้รถเข็นเข็นไปถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่เรียกกันว่าอาคารรับ-ส่งสัมภาระ

บรรยากาศภูกระดึงในช่วงเทศกาล ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ลานกางเต็นท์ และจุดรับ-ส่งสัมภาระในช่วงเทศกาลเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายที่นั่งรอสัมภาระของตัวเองจากลูกหาบ ราคาค่าจ้างลูกหาบ กิโลกรัมละ 15 บาทจะต้องชำระเงินที่นี่พร้อมกับรับของไป จากนั้นก็ต้องหาลานกางเต็นท์ที่จองไว้ (ในกรณีที่ไม่ได้จองเต็นท์ของอุทยาน) แล้วก็กางเต็นท์ให้เร็ว เพราะที่ดีๆ จะหายาก หากนอนรอบนอกของลานกางเต็นท์แต่ละโซนอาจจะโดนรบกวนจากสัตว์ป่าได้ง่าย เช่น กวางและหมูป่า แขกไม่ได้รับเชิญขาประจำของที่นี่ กวางนั้นมีความสามารถพิเศษ ที่จะกินขนมในห่อ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เตะปลากระป๋องให้แตกได้ ดังนั้นหากไม่จำเป็นอย่าวางของกินไว้นอกเต็นท์โดยไม่มีคนดูแล ส่วนขยะก็เหมือนกันถ้าหากประกันขยะเพื่อรับใบประกาศเกียรติคุณ พิทักษ์ภูกระดึง แล้วต้องการเก็บขยะลงไปด้วยให้เก็บให้มิดชิดมิฉะนั้นกวางจะกัดและลากถุงขยะไปทำให้ขยะกระจายได้

สิ่งต่างๆ ที่อาจพบบนภูกระดึง ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากแห่งหนึ่งของชาวไทยและชาวต่างชาติมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเยี่ยมชมมากมายในแต่ละปี ทำให้มีร้านค้าบริการนักท่องเที่ยวอยู่หลายร้าน ราคาแตกต่างกันเล็กน้อย หากขยันเดินถามอาจจะได้ราคาประหยัดกว่า เจ้ากวางมีทั้งตัวผู้และตัวเมีย ตัวผู้มีเขาสวยงาม จะออกมาบริเวณร้านค้าและลานกางเต็นท์ ในช่วงเช้า และเย็น บางวันอาจจะมาในช่วงกลางคืนดึกๆ และอาจจะมีหมูป่าด้วย บนยอดภูกระดึงช่วงเช้าของบางวันจะมีหมอกปกคลุม อากาศหนาวเย็น ควรเช่าผ้าห่มเพิ่มใว้จะดีกว่า ในลำธารบางแห่งหากสังเกตุให้ดีจะมีหินที่นักท่องเที่ยวนิยมโยนเหรียญลงไปให้ค้างอยู่บนหิน ลำธารนี้เป็นลำธารระหว่างน้ำตกถ้ำใหญ่ไปถึงน้ำตกเพ็ญพบใหม่พบจุดที่โยนเหรียญกันอยู่ 2 แห่ง

สายหมอกในยามเช้า ภาพลานกางเต็นท์ที่เต็มไปด้วยหมอกปกคลุมในยามเช้า วันนี้อากาศต่ำสุดอยู่ที่ 9.0 องศาเซลเซียส เป็นคืนที่หนาวเย็นมากคืนหนึ่งของทีมงานที่ไปเก็บภาพ หากถุงนอนไม่ใช่ 250 gram คงจะแย่ ส่วนวันอื่นๆ ก็ขึ้นๆ ลงๆ ระหว่าง 11-13 องศาเซลเซียส ในเดือนธันวาคม

เส้นทางเดินชมภูกระดึง เส้นทางสำหรับเดินเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ บนภูกระดึง ประกอบไปด้วยทุ่งสน หรือป่าสน มีต้นสนอยู่ประปราย บางพื้นที่เป็นป่าสนหนา หลายช่วงเป็นทุ่งหญ้า เส้นทางหลายเส้นทางที่มีป่าสนสลับกับทุ่งหญ้าหากเดินเที่ยวตอนกลางวันจะมีร่มเงาในช่วงทุ่งสน แต่แดดจะแรงในช่วงทุ่งหญ้า เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องเผชิญเมื่อเดินบนภูกระดึง วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสวางแผนไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกไว้ได้เลย แต่หลายๆ ครั้งก็ไม่เป็นไปดังที่คาดหวังพระอาทิตย์หายลับฟ้าไปอย่างเงียบๆ ทั้งๆ ที่ฟ้าเปิดก็มีเป็นอันต้องทำใจ

พืชที่พบได้บนภูกระดึง นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังภูกระดึงควรรู้จักพืชที่พบเห็นได้บนภูกระดึงโดยเฉพาะหม้อข้าวหม้อแกงลิง กับหยาดน้ำค้าง ทั้งสองชนิดนี้กินแมลงเป็นอาหาร พบได้มากมายบนภูกระดึง หม้อข้าวหม้อแกงลิงมีส่วนดอกบนพื้นดินหาไม่ยาก หยาดน้ำค้างก็เช่นเดียวกัน ขึ้นเป็นดอกขนาดประมาณเหรียญสิบบาทกระจายบนพื้นข้างทางเดินหลายแห่ง

กล้วยไม้และดอกไม้ป่าบนภูกระดึง ดอกไม้ป่าสวยๆ รวมทั้งกล้วยไม้มีให้พบเห็นได้บ้างในช่วงเดือนธันวาคม แต่ไม่มากเท่าเดือนมีนาคมซึ่งจะมีกล้วยไม้หลายชนิดออกดอกอวดนักท่องเที่ยวมากมาย การชมดอกไม้ป่าต้องตาไว บางทีอยู่ข้างทางเดิน บางทีอยู่ลึกเข้าป่าไปเล็กน้อยพอเห็นได้

ผานกแอ่น เริ่มแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบนภูกระดึงนับจากนี้ไปนะครับ เริ่มจากผานกแอ่น สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของแต่ละวัน เพราะผานกแอ่นเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นแห่งเดียวบนภูกระดึง ในช่วงเทศกาลมีนักท่องเที่ยวมากมายเดินมาชมผานกแอ่น เจ้าหน้าที่จะนำทางไปยังผานกแอ่นออกเดินทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเวลา 5.00 น.ทุกวัน บางวันพระอาทิตย์ก็แกล้งขึ้นแบบแอบๆ ไม่ให้เราเห็น หากไปหลายวันควรจะไปที่ผานกแอ่นทุกวันจะมีบางวันที่พระอาทิตย์ขึ้นสวยงามมาก ระยะทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึงไปผานกแอ่น ประมาณ 1582 เมตร ไป-กลับก็ 3 กิโลเมตร หรือหากกลับทางลานวัดพระแก้วระยะทางขากลับจะเป็น 2148 เมตร

พระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ภาพวิวสวยๆ อีกภาพหนึ่งที่ได้มาจากการเดินทางไปรอชมที่ผานกแอ่นถึง 3 ครั้ง กว่าจะได้ภาพนี้มาแต่ก็สวยคุ้มค่ากับที่รอและการเดิน สำหรับในหน้านี้เนื่องจากต้องใช้ขนาดภาพที่เล็กให้พอดีกับการแสดงผลบนหน้าเว็บ และจำนวนภาพไม่มากเกินไปเลยเอารูปวิวสวยๆ ของผานกแอ่นมาให้ชมกันได้จำกัด หากต้องการชมภาพใหญ่ให้เต็มอิ่มจุใจ ทางทัวร์ออนไทยจัดแสดงในหน้าเว็บบอร์ดซึ่งแสดงภาพได้ใหญ่กว่า ที่ห้องเรื่องเล่าชาวทัวร์ออน เที่ยวภูกระดึงฤดูหนาวฉบับสมบูรณ์

ผาหมากดูก สถานที่ท่องเที่ยวอันดับต่อไปของเราคือผาหมากดูก ระยะทางเดินจากลานกางเต็นท์ 2261 เมตร ไป-กลับ 4 กิโลเมตร เศษ ผาหมากดูกเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามของภูกระดึง ชมวิวได้ทั้งกลางวัน และช่วงพระอาทิตย์ตก ภาพโปสการ์ดภูกระดึงที่เป็นภาพวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ นั้นถ่ายมาจากผาหมากดูกก็มี เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกสวยไม่แพ้ผาหล่มสัก และกำลังเป็นที่นิยมเพราะระยะทางที่สั้นกว่าเกือบ 5 เท่า เป็นอีกผาหนึ่งที่มีร้านค้าบริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ขนม และของหวานก็มี (ภาพใหญ่คลิกเข้าไปที่หน้าเรื่องเล่าเลยนะครับ)

พระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก เป็นภาพที่รับคัดเลือกให้แสดงแบบใหญ่ๆ หน่อยเพราะภาพนี้สวยและยังเป็นเอกลักษณ์ของผาหมากดูก ที่สามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกกับใบสน ทั้งยังเห็นรูปร่างของเขาเลียบแนวผาภูกระดึงได้ด้วย ภาพสวยๆ ยังมีอีกหลายรูปที่ไม่สามารถแสดงรูปใหญ่ในหน้านี้ได้ทั้งหมดคลิกดูรูปเหล่านี้ได้ในเว็บบอร์ดครับ

วิวจากผาจำศีล ผาจำศีล เป็นผาเล็กๆ อยู่ห่างจากผาหมากดูกเพียง 667 เมตร เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้เช่นกันแต่ไม่มีร้านค้า ทิวทัศน์สวยงามบนผาจำศีลช่วงเวลาเย็นๆ วันหนึ่งที่พระอาทิตย์ไม่ยอมโผล่ออกมาจากกลุ่มเมฆ และลับหายไปเฉยๆ เลยอดได้ภาพพระอาทิตย์ตก

ผานาน้อย ถัดจากผาจำศีล ห่างกันประมาณ 550 เมตร ผานาน้อยมีเส้นทางเดินจากลานกางเต็นท์มาได้ด้วยโดยผ่านสระแก้ว ระยะทางประมาณ 3208 เมตร ทิวทัศน์บนผานาน้อยมีต้นไม้ปกคลุม ความสวยงามเลยลดน้อยลงไปกว่าผาอื่นๆ มีร้านค้าบริการ

ผาเหยียบเมฆ จุดชมวิวที่สวยงามจุดหนึ่งของภูกระดึง นักท่องเที่ยวนิยมชมวิวทั้งกลางวันและวิวพระอาทิตย์ตก ผาเหยียบเมฆแห่งนี้มีลานหินกว้างใหญ่ หากได้ชมทะเลหมอกที่นี่คงจะสวยน่าดูมีร้านค้าบริการ

วิวจากผาเหยียบเมฆ จากผาเหยียบเมฆจะมองเห็นภูเรือได้ชัดมากแห่งหนึ่ง ลานหินผาเหยียบเมฆ มีหินรูปร่างแปลกๆ ที่นักท่องเที่ยวใช้เป็นที่นั่งชมวิวถัดจากลานผาหินใหญ่ยังมีลานผาหินเล็กๆ เลียบไปตามแนวเขาให้นักท่องเที่ยวนักพักผ่อนถ่ายรูปตามอัธยาศัย

ผาแดง อยู่ห่างจากผาเหยียบเมฆ 1907 เมตร ห่างจากผาหล่มสักประมาณ 2417 เมตรมีร้านค้าบริการ ทิวทัศน์ภูกระดึงยามกลางวันบนผาแดงก็สวย แต่หากจะดูพระอาทิตย์ตกน่าจะเดินไปผาหล่มสักดีกว่าเพราะไหนๆ เดินมาจนถึงผาแดงแล้ว นอกจากว่าจะไปไม่ทันแล้วก็นั่งรอชมที่นี่ได้เหมือนกัน

วิวสวยๆ จากผาหล่มสัก ผาหล่มสัก ตัวเอกของภูกระดึง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชมพระอาทิตย์ตกที่เป็นที่นิยมที่สุดของภูกระดึง บ้างก็ว่า หากมาภูกระดึงแล้วไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกผาหล่มสัก เหมือนมาไม่ถึงภูกระดึง ก็มี ผาหล่มสักมีร้านค้าบริการหลายร้าน นักท่องเที่ยวที่เดินถึงผาหล่มสักก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกบ้างก็พักตามร้านค้าบ้างก็ถ่ายรูปกันตอนกลางวัน ที่แน่นอนที่สุดคือถ่ายรูปกับป้ายผาหล่มสัก ผาหล่มสักอยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ ประมาณ 9094 หากใช้เส้นทาง สระแก้ว ผานาน้อยแล้วเดินเลียบหน้าผามาเรื่อยๆ หรือประมาณ 8765 เมตร หากใช้เส้นทาง สระอโนดาต น้ำตกถ้ำสอเหนือ เส้นทางแรกไกลกว่าแต่มีร้านค้าบริการอยู่หลายจุดตามเส้นทางเลียบหน้าผา เส้นทางที่สองใกล้กว่าแต่ไม่มีร้านค้าเลย เมื่อเวลาพระอาทิตย์ใกล้จะตก จะมีนักท่องเที่ยวยืนรอเข้าแถวถ่ายรูปกันยาวมาก ยิ่งในช่วงเทศกาลด้วยแล้วแถวจะยิ่งยืดยาวออกไป

รวมรูปสวยผาหล่มสัก เหมือนเดิมครับ รูปย่อแสดงทีละ 4 รูปสำหรับหน้านี้ สำหรับหน้าเรื่องเล่าชาวทัวร์ออนในเว็บบอร์ดแสดงรูปใหญ่ทั้งหมดครับ ผาหล่มสักที่เห็นนี้เราเดินมาเก็บภาพกัน 3 ครั้งครับ สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนที่จะชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักต้องประมาณเวลาในการเดินไว้บ้าง หากเดินเร็ว 9 กิโลเมตรทางราบจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงโดยเฉพาะขากลับ แต่ขาไปหากแวะชมน้ำตกด้วยถ่ายรูปวิวด้วย แวะสระอโดาต หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อาจจะใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมงครับ

ลานพระศรีนครินทร์ หรือลานพระพุทธเมตตา ประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีประวัติความเป็นมาว่า องค์พระพุทธเมตตา เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2463 โดยหลวงวิจิตร คุณสาร นายอำเภอวังสะพุงได้ร่วมกับราษฎร สร้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและสร้างด้วยแรงศรัทธา ในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์และมหัศจรรย์แห่งนี้ ซึ่งแต่เดิมเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นไม่มีพระนาม ต่อมาในปี พ.ศ.2526 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระและบริเวณรอบๆ ด้วยหินอ่อน พร้อมทั้งเสด็จมาเบิกพระเนตรและสวมเกศรวมถึงพระราชพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "พระพุทธเมตตา" ตราบจนถึงทุกวันนี้ เบื้องหน้าองค์พระพุทธรูปมีราวแขวนกระดิ่งที่มีคนเอากระดิ่งมาแขวนไว้จำนวนมาก และยังมีระฆังให้ตี นั่งอยู่ที่ลานกางเต็นท์สามารถได้ยินเสียงระฆังดังเป็นระยะๆ เนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมใช้ทางนี้ไปเที่ยวน้ำตกและผาหล่มสัก หากไปผาหล่มสักต้องกลับทางเลียบหน้าผา เพราะเส้นทางนี้อาจจะมีสัตว์ป่าหากิน ลานพระพุทธเมตตาอยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ประมาณ 634 เมตร เป็นทางผ่านสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินเที่ยวชมน้ำตกต่างๆ ตามเส้นทางเที่ยวน้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกโผนพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ เส้นทางไปผาหล่มสัก สระอโนดาต เส้นทางไปผานาน้อย สระแก้ว

ลานวัดพระแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนเด่นเป็นสง่ากลางลานหินกว้าง ใกล้ๆ กับองค์พระมีต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่มีคนนำเอากระดิ่งมาแขวนไว้เป็นจำนวนมาก ลานวัดพระแก้วอยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ประมาณ 1378 เมตร ไปทางผานกแอ่น นักท่องเที่ยวที่ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นนิยมกลับทางลานวัดพระแก้วเพราะระยะทางไม่ต่างกันมาก

สระอโนดาต เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ น้ำที่สระอโนดาตจะเย็นเป็นที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยวในระหว่างการเดินเที่ยวชมผาหล่มสัก อยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ประมาณ 2254 เมตร หากเดินจากลานกางเต็นท์ในเวลาประมาณ 10.00 น. แบบไม่เร็วมากนักถ่ายรูปเรื่อยๆ จะมาถึงสระอโนดาตประมาณเที่ยงพอดี เป็นที่พักกินข้าวเที่ยงได้ด้วย สระอโนดาตไปถึงผาหล่มสักระยะทางประมาณ 6511 เมตร

สระแก้ว สถานที่ท่องเที่ยวเล็กๆ สำหรับแวะพัก อยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ประมาณ 1704 เมตร เป็นทางผ่านสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังผานาน้อย หรือหากตั้งใจเดินไปผาหล่มสัก (สระอโนดาต) แล้วอยากแวะสระแก้วด้วยระยะทางจากทางแยกทางหลักผาหล่มสักมาที่สระแก้ว 649 เมตร ไปกลับ 1 กิโลเมตรเศษๆ หรือเดินต่อไปยังผานาน้อยแล้วเลี้ยวขวาไปเลียบผาถึงผาหล่มสักก็ได้

น้ำตกวังกวาง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวประเภทหน้าผา ลานพระ สระน้ำ ไปแล้วคราวนี้ก็มาถึงน้ำตกกันบ้าง น้ำตกวังกวางเป็นน้ำตกที่ตกลงจากลานผาหินกว้างหากน้ำมากจะสวย แต่เมื่อมาฤดูหนาวน้ำจะน้อยมากจากลานกางเต็นท์เดินมาน้ำตกวังกวางระยะทาง 735 เมตรแล้วเดินต่อไปยังน้ำตกเพ็ญพบใหม่ได้ ระยะทางประมาณ 1576 เมตร ไม่ผ่านลานพระศรีนครินทร์ ใต้ลานผาหินของน้ำตกมีโพรงขนาดใหญ่เข้าไปได้ บริเวณน้ำตกส่วนใหญ่จะมีทากอาศัยอยู่เพราะความชื้นสูง

น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากผาหินระยะทางจากลานกางเต็นท์ 2564 เมตร ตามเส้นทางลานพระศรีนครินทร์ หรือ 2311 เมตรตามเส้นทางน้ำตกวังกวางระหว่างทางเป็นป่าโปร่งมีสนประปรายบางช่วงเป็นทุ่งโล่งก่อนถึงน้ำตกจะมีลานกว้างๆ ต้นเมเปิลน้ำตกเพ็ญพบใหม่ เป็นจุดสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาภูกระดึงในฤดูหนาว ใบเมเปิลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงตามธรรมชาติ แต่บางครั้งใบที่เปลี่ยนสีแล้วจะร่วงเร็วกว่าที่คิด มีใบใหม่แตกออกมาสีเขียวอ่อนซะแล้ว

น้ำตกโผนพบ อยู่ห่างจากน้ำตกเพ็ญพบใหม่ 558 เมตร จากน้ำตกเพ็ญพบใหม่ทางเดินจะชันเป็นช่วงสั้นๆ แล้วเดินเลียบลำธารไปเป็นน้ำตกที่มีลานหินกว้างใหญ่ มีแอ่งน้ำลงเล่นน้ำได้ มีความร่มรื่นจากเงาต้นไม้ใหญ่

ระหว่างทางไปน้ำตกเพ็ญพบ อยู่ห่างจากน้ำตกโผนพบประมาณ 342 เมตรระหว่างเดินไปน้ำตกเพ็ญพบจะมีลำธารที่ท้องธารเป็นหิน ทำให้น้ำใสมาก มีหลุมแอ่งใหญ่น้อยคล้าย 3000 โบกของจังหวัดอุบลราชธานี เส้นทางช่วงนี้ร่มรื่นมาก

น้ำตกเพ็ญพบ เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลมาจากน้ำตกโผนพบและน้ำตกถ้ำใหญ่มารวมกัน จึงมีน้ำมากกว่าน้ำตกอื่นๆ ลักษณะของน้ำตกเป็นลานหินกว้างมาก สามารถเดินลงไปข้างน้ำตกได้ในฤดูแล้ง

น้ำตกถ้ำใหญ่ เป็นน้ำตกที่ตกลงจากลานหินสูง ห่างจากน้ำตกเพ็ญพบประมาณ 1138 เมตร เส้นทางจากน้ำตกเพ็ญพบมายังน้ำตกถ้ำใหญ่จะเดินเลียบลำธาร ระหว่างทางจะมีต้นเมเปิลอยู่ประปราย ตามทางเดินจึงมีใบเมเปิลสีแดงร่วงอยู่เป็นระยะๆ เส้นทางค่อนข้างร่มรื่นเพราะเดินในป่าค่อนข้างทึบหากเดินมาจากลานกางเต็นท์ น้ำตกธารสวรรค์ระยะทางประมาณ 1399 เมตรทางลงจะเป็นทางลาดชันแต่เดินลงจะง่ายกว่า หากใช้เส้นทางน้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ จนถึงน้ำตกถ้ำใหญ่พอจะเดินกลับจะเป็นทางเดินขึ้น จะลำบากกว่า ที่น้ำตกถ้ำใหญ่มีต้นเมเปิลขึ้นอยู่ มีใบร่วงลงพื้นมากมาย

น้ำตกธารสวรรค์ เป็นน้ำตกสายเล็กๆ มีน้ำน้อย มีต้นเมเปิลหน้าน้ำตกเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว บรรยากาศน้ำตกธารสวรรค์ค่อนข้างร่มรื่น บริเวณเหนือน้ำตกเป็นทางเข้าป่าปิดซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่นำทางเข้าไป

น้ำตกถ้ำสอเหนือ เป็นน้ำตกที่ตกลงจากลานหินกว้างและสูงมากเป็นทางผ่านไปยังผาหล่มสักได้ จึงเป็นที่พักที่ดีมากของนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ระยะทางจากลานกางเต็นท์ 5533 เมตร หลังจากจุดนี้แล้วก็ไม่มีที่พักที่ไหนแล้วต้องเดินไปผาหล่มสักเลย

ป่าปิดภูกระดึง จบการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เดินชมได้ด้วยตัวเองของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงแล้ว จากนี้ไปจะเป็นข้อมูลที่เที่ยวที่เรียกกันว่าป่าปิดนั่นเอง สำหรับในป่าปิดจะเปิดให้เข้าชมได้ตามการพิจารณาของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง โดยมากจะเปิดภูกระดึงก่อนแล้วจึงพิจารณาเรื่องป่าปิด การเดินทางเข้าชมป่าปิด ระยะทางการเดินไป-กลับประมาณ 14 กิโลเมตร เส้นทางแบ่งออกเป็น 3 ช่วงใหญ่ๆ คือช่วงแรกเป็นป่าสน มีต้นสนตลอดทางระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร หลังจากนั้นจะเป็นทุ่งหญ้าป่าโปร่ง อีก 2 กิโลเมตรเศษๆ อีกช่วงหนึ่งคือช่วงเดินป่าล้วนๆ เป็นเส้นทางการเดินป่าที่ลำบาก ขึ้น-ลงตลอดเวลา นักท่องเที่ยวที่สนใจให้ลงชื่อไว้ก่อนเดินทาง 1 วัน และเมื่อถึงวันเดินทางให้มาพพร้อมกันที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเวลา 8.00 น. หลังเคารพธงชาติจะออกเดินทาง ให้เตรียมเสบียงมาให้พร้อม เมื่อเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดของทุ่งหญ้าป่าโปร่งจะพบว่าเราอยู่ตรงติ่งตรงกลางรูปหัวใจในแผนที่ทางอากาศของภูกระดึง ทิวทัศน์ที่นี่สวยงามมาก ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาเป็นติ่งของรูปหัวใจที่ยื่นยาวออกไป เจ้าหน้าที่นำทางจะให้พักที่นี่นานพอสมควรก่อนที่เริ่มเดินช่วงป่า อันดับแรกเป็นทางเดินลงจากหน้าผาที่เรายืนชมวิวอยู่นี้ทางค่อนข้างชัน

เส้นทางเดินเที่ยวป่าปิดภูกระดึง ภาพบางส่วนในการเดินป่าปิดภูกระดึง ภาพซ้ายหลังจากลงจากผาและทางเดินไปยังลำห้วยน้ำตกหงส์ทอง ภาพขวาหลังจากน้ำตกหงส์ทองไปยังน้ำตกขุนพอง เป็นป่าค่อนข้างรกทึบทางเดินช่วงนี้ลำบาก

เหนือน้ำตกหงส์ทอง ภาพลำธารไหลไปยังตัวน้ำตกหงส์ทองค่อนข้างสวยงาม เหนือน้ำตกหงส์ทองก่อนถึงน้ำตกเล็กน้อยจะมีต้นเมเปิลสูงมากต้นหนึ่ง มีใบเปลี่ยนเป็นสีแดงพอดี

น้ำตกหงส์ทอง สวยงามสมชื่อหงส์ทอง แม้ว่าน้ำจะน้อยไปนิดแต่ก็นับว่าสวยงามมากทีเดียว ทีมงานและนักท่องเที่ยวในกลุ่มเดียวกันพักถ่ายรูปที่น้ำตกแห่งนี้นานมากก่อนจะเดินทางไปน้ำตกขุนพอง

น้ำตกขุนพอง น่าเสียดายที่เดินทางมาถึงน้ำตกขุนพองในช่วงเวลาเที่ยง แสงที่มากเกินไปทำให้เราถ่ายภาพน้ำตกลำบาก ต้องหามุมหลบแสง หน้าน้ำตกขุนพองมีต้นเมเปิล ที่เป็นมุมนิยมในการถ่ายภาพน้ำตกขุนพองแห่งนี้มาก แต่ในเดือนธันวาคม เมเปิลต้นนี้กลับไม่เปลี่ยนเป็นสีแดงอยู่ต้นเดียว และยังต้องหลบมุมไม่ให้ย้อนแสงจึงต้องตัดต้นเมเปิลออกไปภาพน้ำตกหงส์ทองและน้ำตกขุนพองยังมีอีกหลายภาพในเว็บบอร์ดของเราที่ //www.touronthai.com/forum/index.php?topic=192.0

เส้นทางกลับจากป่าปิด หลังจากถ่ายรูปน้ำตกขุนพอง นั่งพักกินข้าวเที่ยงด้วยเสบียงที่เตรียมมาแล้วก็เดินกลับ เส้นทางเดินกลับจากน้ำตกขุนพองเป็นทางขึ้นเขาล้วนๆ ขึ้นๆๆๆ และขึ้นชันมาก ทำเอาเหนื่อยมาก จนมาสุดทางชันช่วงแรกเหนือน้ำตกขุนพองนั่นเองหลังจากเดินในป่ากันพอสมควรเราก็ได้เห็นท้องฟ้าซะที นั่งพักที่ลำธารเหนือน้ำตกขุนพองพักใหญ่ๆ ก็เดินทางต่อ เป็นทางกลับขึ้นไปที่หน้าผาตรงที่เราชมวิวติ่งรูปหัวใจของภูกระดึงอยู่ตอนขามาช่วงนี้ก็ชันพอสมควรขาลงมันง่ายๆ พอขาขึ้นมันเหนื่อยไม่ใช่เล่น แล้วจากนั้นก็เดินป่าทางราบเกือบ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ค่าธรรมเนียมการเข้าป่าปิดคนละ 200 บาท น้ำควรจะพกไป 2 ขวดจะพอดีส่วนใหญ่ที่พกไปขวดเดียวจะหมดที่น้ำตกขุนพอง... จบการพาทัวร์ภูกระดึงแบบละเอียดไว้เพียงเท่านี้ครับ