ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานแพร่ (แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) โทรศัพท์ 0 5452 1127
http://www.tourismthailand.org/phrae
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ซุ้มประตูวัดมิ่งเมือง ด้านหน้าซุ้มประตูสร้างในลักษณะหลังคาเป็นชั้นๆ มีป้ายมากมายหลายอย่าง วัดมิ่งเมืองและศาลพระหลักเมืองเหมือนอยู่ในอาณาเขตเดียวกันจนรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ศิลปะลักษณะของงานก่อสร้างอุโบสถ และศาลพระหลักเมืองก็คล้ายกันมาก ลานจอดรถอยู่ด้านในแต่จอดได้ไม่มากนัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาสักการะศาลพระหลักเมือง และกราบพระในวัดแล้วก็เดินทางกันต่อ ต้องรอจังหวะรถออกแล้วก็จะมีที่ว่างให้เราได้จอดบ้าง
สิงห์คาบตุง ยืนสง่างามเป็นคู่อยู่เหนือเสาประตูหน้าวัดมิ่งเมือง ที่ปากมีตุงแขวน
ศาลหลักเมืองน่าน จุดนี้มีลานจอดรถอยู่ไม่กว้างมากนักพอหาที่จอดได้ก็เริ่มต้นเก็บภาพศาลพระหลักเมือง ซึ่งอยู่ตรงหน้าอุโบสถวัดมิ่งเมือง (อยู่ขวามือของภาพนี้) ศาลหลักเมืองเป็นศาลาจตุรมุขด้านหน้าพระอุโบสถ เสาหลักเมืองสูงประมาณ 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์มีชื่อ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ศาลหลักเมืองน่าน ประวัติเสาหลักเมืองน่านและศาลหลักเมืองน่าน เสาหลักเมืองน่าน สร้างขึ้นโดยสมเด็จเจ้าฟ้าอัตถะวรปัญโญ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ ๕๗ โปรดให้ฝังเสาหลักเมือง ณ วัดมิ่งเมืองแห่งนี้เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๓๓๓
เดิมมีลักษณะเป็นเสาไม้สักทองขนาดใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๖๐ เซนติเมตร สูงประมาณ ๓ เมตร ทรงกลม หัวเสาเกลาเป็นรูปดอกบัวตูม ตัวเสาฝังลงกับพื้นดินโดยตรงไม่มีศาลครอบ ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๖ ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่กระแสน้ำในแม่น้ำน่าานได้ไหลบ่าทะลักเข้าท่วมถึงตัวเสาหลักเมือง ทำให้เสาหลักเมืองโค่นล้มลงเพราะรากเสาผุกร่อนมากเนื่องจากฝังกับพื้นดินนานกว่าร้อยปี ต่อมาทางวัดมิ่งเมืองพร้อมด้วยคณะศรัทธาชาวบ้านมิ่งเมืองได้ร่วมกันก่อเสาหลักเมืองน่านจำลองด้วยอิฐถือปูนขึ้นในสถานที่เดิม
ถึงปีพุทธศักราช ๒๕๑๔ ดร.สุกิจ จุลละนันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านคนที่ ๒๗ ได้นำราชการพ่อค้าประชาชนน่านทั้งปวง ร่วมกันสร้างเสาหลักเมืองน่านและสร้างศาลทรงไทยจตุรมุขครอบเสาหลักเมืองขึ้นเป็นครั้งแรก โดยได้อาราธนาหลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยคณะ มาเป็นช่างดำเนินการก่อสร้างโดยได้นำเอาศาลหลักเมืองน่านต้นเดิมที่โค่นล้มลงมานั้น มาตกแต่งใหม่และสลักหัวเสาเป็นพรหมสี่หน้า
และในปีพุทธศักราช ๒๕๑๕ ในระหว่างดำเนินการก่อสร้างนั้น ได้รับพระเมตตาจาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) โปรดเสด็จทรงบรรจุต้นท้าวเวสสุวรรณ ๘๔,๐๐๐ องค์ ในหลุมฐานเสาหลักเมือง ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๑๖ ทางจังหวัดน่านได้กราบบังคมทูลอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อเสด็จพระราชดำเนินทรงตั้งเสาหลักเมืองน่าน ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธีตั้งเสาหลักเมืองน่าน เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๑๖ เวลา ๑๒.๐๐ น.
ในปีพุทธศักราช ๒๕๔๑ และ ๒๕๔๒ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โปรดเสด็จสักการะเสาหลักเมืองน่าน ๒ ครั้ง ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๔๘ ศาลหลักเมืองน่านได้ชำรุดทรุดโทรมลง พระครูสิริธรรมภาณี (เสน่ห์ ฐานสิริ) เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง เจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน โดยความเห็นชอบของคณะสงฆ์จังหวัดน่านและทางราชการจึงได้ทำการรื้อถอนศาลหลักเมืองน่านหลังเดิมลง และทางราชการประชาชนชาวน่าน คณะสงฆ์จังหวัดน่าน ได้ร่วมใจกันสร้างศาลหลักเมืองน่านหลังใหม่นี้ขึ้น โดยประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันเสาร์ที่ ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๘ เวลา ๑๔ นาฬิกา ๔๙ นาที ๙ วินาที เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ ในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๕๔๙ และทรงเจริญพรรษาครบ ๘๐ พรรษาในปีพุทธศักราช ๒๕๕๐ โดยนายเสาร์แก้ว เลาดี เป็นผู้ออกแบบและดำเนินการก่อสร้าง การสร้างศาลหลักเมืองน่านหลังนี้ได้สำเร็จลงเมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐ สิ้นค่าก่อสร้างทั้งสิ้นจำนวน ๔,๔๕๔,๗๙๕ บาท
ชาวจังหวัดน่าน ได้กราบบังคมทูลอัญเชิญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเสด็จพระราชดำเนินทรงยกยอดศาลหลักเมืองน่าน ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงยกยอดพุทธประทุมสวมเศียรท้าวมหาพรหมยอดศาลหลักเมืองน่าน เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพัธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตรงกับวันจันทร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๓ ใต้ เดือน ๕ เหนือน่าน เวลา ๐๘.๔๕ นาฬิกา
งานปูนบั้นพญานาคเลื้อยบันไดศาลหลักเมืองน่าน ที่เห็นนี้เพียงบางส่วน ยากที่จะถ่ายทอดออกมาได้หมด ความสวยงามทั้งหมดนี้ไม่ไปไม่รู้จริงๆ ครับ สำหรับวัดมิ่งเมืองนั้นอาจจะไม่ใช่วัดแรกๆ ที่ผู้คนจะนึกถึงถ้าหากถามว่ารู้จักวัดไหนบ้างในจังหวัดน่าน แต่จากความสวยงามที่เห็นนี้ คงทำให้หลายคนอยากจะมาเห็นกับตาและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายต่อไป
ศาลหลักเมืองน่านและอุโบสถวัดมิ่งเมือง เนื่องจากศาลหลักเมืองน่านสร้างอยู่ตรงกับหน้าพระอุโบสถพอดี เมื่อมองมุมนี้จึงเห็นทั้งสองสิ่งนี้ซึ่งมีงานสถาปัตยกรรมปูนปั้นลวดลายวิจิตรบรรจงสวยงามเป็นลักษณะเดียวกัน
นกหัสดีลิงค์บนหลังคาอุโบสถวัดมิ่งเมือง นกหัสดีลิงค์ หัวเป็นช้าง หางเป็นหงส์ สัตว์คู่บารมีกษัตรา ตามประวัติศาสตร์ล้านนา ที่เล่าขานต่อกันมาว่า นกหัสดีลิงค์ เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ มีความพิเศษ คือ มีเพศเพียงดั่งช้าง เป็นนกที่มีหัวเป็นช้าง มีหางเป็นหงส์ มีพละกำลังดั่งช้างเอราวัณ ๓-๕ เชือกรวมกัน ซึ่งเป็นสัตว์คู่บารมีของกษัตรา เจ้าเมืองผู้มีอำนาจบารมีสูง ความเชื่อของชาวล้านนา แต่อดีตกาล นิยมสร้าง ปราสาทนกหัสดีลิงค์ เพื่อบรรจุศพของกษัตริย์เจ้านายฝ่ายเหนือ รวมถึงพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มรณภาพ เพื่อให้พิธีศพสง่างาม สมฐานะบารมี และเป็นการส่งดวงวิญญาณไปสู่ชาติสรวงสวรรค์ชั้นพรหมโลก เทวโลก แต่ในปัจจุบัน ปราสาทนกหัสดีลิงค์ นิยมใช้ในพิธีศพของพระเถระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น * ข้อมูลจากการสร้างนกหัสดีลิงค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพื่อเป็นการแสดงความอาลัยและแสดงความจงรักภักดีถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
พญานาคเลื้อยบันไดอุโบสถวัดมิ่งเมือง ลวดลายงานปูนปั้นที่สวยงามนี้เริ่มเห็นได้ทั้งศาลหลักเมือง และอุโบสถ ซึ่งมีอยู่ทั่วไป เช่นที่เสา หน้าบรรณ ผนัง กรอบประตู หน้าต่าง ฯลฯ เรียกว่าสวยทุกมุมเลยครับ จากมุมกล้องที่ถ่ายออกมาดูเหมือนเสาจะสร้างแบบเสาสอบเอียงเข้าหากันเล็กน้อยบนยอดเสา
พญานาคเลื้อยบันไดอุโบสถวัดมิ่งเมือง
หน้าบรรณหลังคาชั้นแรก แสดงให้เห็นถึงลวดลายละเอียดปราณีตของช่างผู้สร้างได้อย่างชัดเจนและสวยงาม
กรอบประตูอุโบสถวัดมิ่งเมือง ในวันที่เดินทางไปเก็บภาพตรงกับงานอุปสมบท จึงไม่สามารถเข้าไปเก็บภาพภายในมาได้
เสาอุโบสถวัดมิ่งเมือง ถัดจากบันไดทางขึ้นลงด้านหน้าต่อมาจะมีเสาซึ่งมีเทพประจำเสาทุกต้น แต่มีเฉพาะคู่หน้าที่มีพญาครุฑ นั่งบนพญานาคเลื้อยไปจนถึงบันได
เสาอุโบสถวัดมิ่งเมือง ระหว่างเสาแต่ละต้นมีช่องหน้าต่างซึ่งมีงานปูนปั้นสวยงาม
เทพประจำเสาอุโบสถวัดมิ่งเมือง ทั้งสองด้านตามแนวยาวของอุโบสถมีเทพประจำเสาทุกต้น
ช่องหน้าต่างอุโบสถวัดมิ่งเมือง บนช่องหน้าต่างแต่ละช่องเป็นงานปูนปั้น ๑๒ นักษัตร
ปูนปั้น ๑๒ นักษัตร 1 ใน 12 ช่องหน้าต่าง สำหรับทุกบานจะสร้างคล้ายกันแบบนี้ทั้งหมด
พระสยามเทวาธิราช ประดิษฐานอยู่ในซุ้ม ด้านข้างอุโบสถ
อุโบสถวัดมิ่งเมือง จากประตูหลังของวัดมิ่งเมืองเป็นมุมที่จะได้เห็นอุโบสถได้ทั้งหลัง และมีเจดีย์อยู่ด้านข้าง
หน้าบรรณด้านหลังอุโบสถวัดมิ่งเมือง เป็นภาพพระพุทธเจ้าเสด็จจากดาวดึงส์ สวยงามจับตา สำหรับการพาชมวัดมิ่งเมืองและศาลหลักเมืองน่านก็ขอจบไว้เท่านี้ก่อนครับ ขอย้ำว่า ต้องมาเห็นด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าสวยแค่ไหน
"ตอนนี้สีขาวของโบสถ์เริ่มมีฝุ่นจับหนาและคราบของน้ำ จะเห็นเป็นสีหมองหมองเวลาดูใกล้ๆ อีกไม่นานอาจจะมีการบูรณะทำสีใหม่ แล้วก็คงจะขาวสดใสเหมือนเดิม"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-10-31 14:34:50
"วันนี้มีบุญใหญ่ที่วัดมิ่งเมืองหรือที่ชาวบ้านชอบเรียกว่าวัดศรีเงินเพราะเวลาตอนเย็นพอเปิดไฟจะเห็นโบสถ์หลังนี้เป็นสีคล้ายโบสถ์ที่สร้างด้วยเงินหรือสีเงิน"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-10-31 14:32:46
9/10 จาก 2 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ