วัดภูเก็ต

 วัดภูเก็ต ตั้งอยู่ที่บ้านเก็ต หมู่ 2 ต.วรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่าน เริ่มที่ชุมชนบ้านเก็ตได้ย้ายถิ่นฐานมาจากแคว้นสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว โดยการนำของหลวงแสนหาญยุทธ และหลวงแสนคำมูล สองผู้นำชุมชนซึ่งเป็นต้นตระกูล "หาญยุทธ และมูลคำ" ของชาวบ้านเก็ตในปัจจุบัน ท่านได้พาลูกบ้านอพยพผ่านแม่น้ำคง, แม่น้ำหลวย ผ่านเข้าประเทศลาวเข้าสู่เมืองปัว จังหวัดน่าน มาตั้งชุมชนลงหลักปักฐานอยู่แถบริมฝั่งแม่น้ำขว้าง ซึ่งเป็นปฏิรูปเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์จวบจนถึงปัจจุบัน

 บ้านเก็ด ตั้งอยู่เยื้องโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ห่างจากตัวอำเภอ 3 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัดน่าน 63 กิโลเมตร เดินทางจากถนนสายกรุงเทพฯ-น่าน-ทุ่งช้าง ถึงอำเภอปัว แล้วกลับรถหน้าโลตัสเลี้ยวซ้ายไปตามถนนโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว

 วัดภูเก็ต ตั้งชื่อตามหมู่บ้านเก็ต แต่เนื่องด้วยเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินสูงซึ่งทางเหนือเรียกว่า "ดอย" หรือ "ภู" จึงตั้งชื่อว่าวัดภูเก็ต หมายถึง วัดที่ตั้งอยู่บนภูบ้านเก็ต วัดภูเก็ตแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูมหัศจรรย์ มีฮวงจุ้ยถูกหลักทักษาพยากรณ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีภูมิประเทศสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดน่าน มีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ จิตรกรรมฝาผนังสามมิติ เป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อแสนปัว หรือหลวงพ่อพุทธเมตตา" องค์ศักดิ์สิทธิ์ ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก เพ่งตรงไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ใต้เชิงดอย เป็นพื้นที่ทำนาของชาวบ้าน เมื่อถึงฤดูหนาวจะเกิดทะเลหมอกสุดแสนประทับใจ ข้างล่างเชิงเขามีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งเป็นน้ำซับ ซึมมาจากใต้ดินไหลรินรวมกัน เป็นลำธารให้ฝูงปลาและสัตว์น้ำอยู่อาศัย เป็นเขตอภัยทาน

 วัดภูเก็ตเป็นวัดที่มีอาคารปฏิบัติธรรมและที่พักที่สมบูรณ์แบบทันสมัยที่สุด เป็นที่รองรับผู้มาปฏิบัติธรรมและมาพักท้ศนศึกษา โดยได้รับการอุปถัมภ์การสร้างจากเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์วัดปากน้ำภาษีเจริญ และ ดร.สนธยา กล่อมเปลี่ยน ได้รับประทานนามว่า อาคารกัมมัฏฐานลอยฟ้า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺญมหาเถร ป.ธ.๙)

 พร้อมกันนี้ ยังมีอาคารที่พักชื่อว่า "ภูเก็ตสนธยา เทมเปิลสเตย์ (Phuket Sonthaya Templestay)" ที่มีความสะดวกสบายทุกอย่าง ห้องน้ำในตัว TV , Wi-Fi , แอร์ ครบทุกห้อง มีวิวที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติดอยภูคาและท้องทุ่งนาเขียวขจีที่อุดมสมบูรณ์ของชาวบ้าน

 วัดภูเก็ตมีการส่งเสริมการทอผ้าไทลื้อของชุมชนซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมาก เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมืองที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์ธรรมชาติ มีร้านจำหน่ายภายในวัดชื่อ "ภูเก็ตผ้าทอ" หมู่บ้านทอผ้าไทลื้อได้รับการคัดเลือกจากกรมศิลปากรให้เป็น 1 ใน 3 หมู่บ้านจัดทอทำตุงตามคติพื้นเมืองของคนไทลื้อ เพื่อตกแต่งอุทิศเป็นพระราชกุศลในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา นับเป็นเกียรติประวัติและพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้


ติดต่อวัดภูเก็ต 084-046 9745 (เจ้าอาวาส)
จองที่พักภูเก็ตสนธยาเทมเปิลสเตย์ 089-552 4503 , 084-046 9745
ติดต่อภูเก็ตผ้าทอ 089-552 4503 , 081-022 6131

ข้อมูลเพิ่มเติม:084-046 9745 (เจ้าอาวาส)
จองภูเก็ตสนธยาเทมเปิลสเตย์ 089-552 4503, 084-046 9745
ติดต่อภูเก็ตผ้าทอ 089-552 4503 , 081-022 6131

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ประตูวัดภูเก็ต สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในเมืองไทย ที่เราๆ ท่านๆ หลายคนยังไม่รู้จักมีอยู่มากมายก่ายกองจริงๆ เลย วัดภูเก็ตแห่งนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญในการเดินทางเก็บภาพที่สวยๆ น่าเที่ยวทั่วประเทศอยู่ตลอดเวลา ก่อนจะเดินทางมาที่น่าน และอำเภอปัว วัดภูเก็ตไม่ได้อยู่ในรายชื่อสถานที่ที่เราจะแวะมาเก็บภาพเลย แต่พอมาถึงปัว แล้วไปกินข้าวกันที่ฟาร์มเห็ดหัวน้ำ เราผ่านแยกทางเข้าวัดภูเก็ตมีป้ายใหญ่ๆ ตรงทางแยก มีรถเลี้ยวเข้าเยอะแยะจนรถติด ทำให้เราสงสัยมากว่าวัดนี้ต้องมีอะไรดีแน่ๆ ทำให้เราเลี้ยวตามเข้ามาดู

จากตลาดตัวเมืองปัว เลี้ยวซ้ายที่จะไปบ่อเกลือ ใช้เวลาไม่กี่นาทีถึงทางแยกวัดภูเก็ต จากนั้นพอเลี้ยวเข้ามาแล้วจะเป็นถนนในหมู่บ้านไม่ไกลนักเราก็มาถึงหน้าวัด มีคนแวะเวียนมาเที่ยววัดแห่งนี้กันเยอะทั้งรถเล็กรถใหญ่ ขนาดทัวร์มาลงได้สบายๆ ทางวัดจัดเตรียมลานจอดรถไว้ให้ทั้งนอกกำแพงและในกำแพง

จากประตูว้ดเดินเข้ามาก้าวแรกก็ประทับใจในความสวยงามของโบสถ์ล้านนาประยุกต์ประดับด้วยกระจกสี ประตูด้านหลังของโบสถ์มีพญานาค 1 คู่ และช้าง 1 คู่

พระพุทธธรรมจักรองค์ที่ 36 ด้านหลังโบสถ์เดินเวียนขวามาหน่อยจะเห็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางปฐมเทศนา โดยมีร่มโพธิ์ใหญ่ขึ้นปกคลุมกันแดดกันฝน เป็นภาพที่น่าเลื่อมใสศรัทธา ประดุจเหมือนได้พบพระพุทธองค์กำลังนั่งแสดงปฐมเทศนาให้เรา

เวียนมาจนถึงด้านหน้าโบสถ์ มีพระพิฆเนศ พระสังกัจจายน์ พระอุปคุต พร้อมเชิงเทียนสำหรับมากราบไหว้ขอพรตามศรัทธา หน้าบันด้านหน้าประดับกระจกสีทั้งหมด ยามเช้าแสงแดดโดนหน้าบันจะเป็นประกายวับวาวสวยงามมาก

หลวงพ่อแสนปัว หรือหลวงพ่อพุทธเมตตา ประดิษฐานเป็นองค์พระประธานของวัดภูเก็ต ในช่วงปีใหม่จะมีการทำบุญใหญ่เราจึงเห็นคนนำแบงค์มาร้อยเป็นตุงแขวนอยู่เต็มด้านในโบสถ์

จุดเทียนสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา เทียนที่จะนำมาจุดที่เชิงเทียนหน้าโบสถ์ จะเห็นว่ามียันต์ และรูปพระพุทธรูปปางต่างๆ ประจำวันเกิด คนที่นี่เชื่อว่าเป็นเทียนสะเดาะเคราะห์ ให้เราจุดเทียนพระประจำวันให้ตรงกับวันเกิดของเรา ก่อนจะถึงช่วงการทำบุญใหญ่เราจะเห็นวัดใหญ่ๆ มีชาวบ้านมาช่วยกันพันเทียนเหล่านี้เพื่อให้เพียงพอสำหรับประชาชนมาจุด

จุดชมวิววัดภูเก็ต จุดเด่นอย่างหนึ่งของวัดที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาเที่ยวชมก็คือระเบียงที่อยู่ด้านหน้าโบสถ์เป็นลานกว้างขวางมาก มีม้านั่งเรียงไว้ให้ถ่ายรูปสวยๆ กับวิวที่อยู่ด้านหน้า เทือกเขาสลับซับซ้อนเป็นเขตอุทยานแห่งชาติภูคา พื้นที่กว้างใหญ่ที่เป็นที่ราบอยู่ระหว่างเขาเล็กๆ ที่ตั้งของวัดภูเก็ต กับเทือกเขาใหญ่ด้านหน้า เป็นพื้นที่สำหรับทำการเกษตร ปลูกข้าว และพืชอื่นๆ ตามฤดู ในฤดูแล้งเราจะเห็นการปลูกผักและข้าวโพดสีเขียวขจีสวยมาก หลายคนที่ไม่ชอบการมาเที่ยวตามวัดพอเห็นภาพวิวนี้ก็เป็นอันอยากจะมาวัดภูเก็ตขึ้นมาทันที

นอกจากทุ่งนาและแปลงผักที่จะทำให้พื้นที่ว่างด้านล่างมีสีสันแล้ว รูปร่างของแปลงแต่ละแปลงที่ไม่ได้เป็นรูปสี่เหลี่ยมทั้งหมด ยังสร้างความสวยงามเหมือนผลงานศิลปะของชาวนาเหล่านี้ด้วย

ให้อาหารปลาลอยฟ้า อีกจุดหนึ่งที่ธรรมชาติรังสรรให้มาอย่างไม่น่าเชื่อ คือลำธารน้ำซับที่ไหลผ่านพื้นที่เชิงเขาหน้าวัดภูเก็ต ได้เป็นสายน้ำหล่อเลี้ยงหลายชีวิตที่นี่ ทางวัดจัดให้เป็นเขตอภัยทาน จึงมีปลาหลายชนิดมาอาศัยอยู่ชุกชุม มีท่อสำหรับเทอาหารปลาลงไปตรงลำธารโดยไม่ต้องเดินลงไปที่ท่าน้ำ เป็นการให้อาหารปลาจากความสูงของตึก 5 ชั้นที่คงมีที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น

รอพระอาทิตย์ขึ้นที่วัดภูเก็ต ไฮไลท์อย่างหนึ่งของวัดนอกเหนือจากการมาทำบุญไหว้พระแล้วก็คือวิวทิวทัศน์ที่สวยงามด้านตะวันออก ระเบียงหน้าโบสถ์ที่หันเข้าหาเทือกเขาสูงดอยภูคา เป็นด้านตะวันออกพอดี ช่วงกลางวันจะได้ภาพสวยของท้องทุ่งในแบบกลางวัน ส่วนตอนเช้า ก็จะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ในหน้าฝนช่วงบ่ายก็จะมีโอกาสได้เห็นรุ้งเกิดขึ้นที่นี่ ทางวัดเปิดห้องพักแบบเทมเปิลสเตย์ไว้ให้บริการ หลายคนที่รู้จักวัดนี้ก็เลือกจะพักที่วัด เพราะเป็นห้องแอร์ มีทีวี น้ำอุ่นและ wi-fi ครบครัน ในราคาแค่ 500 บาทเท่านั้น แม้คนที่ไม่ได้พักที่นี่ก็จะเดินทางมาที่วัดเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นกันจำนวนมาก รวมทั้งเราด้วย หลังจากที่เข้ามาถ่ายรูปในวัดช่วงบ่ายๆ เห็นว่าหน้าวัดเป็นทางที่พระอาทิตย์จะขึ้น ก็มารอตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้า หน้าหนาวพระอาทิตย์ขึ้นช้า ยิ่งขึ้นให้พ้นแนวเทือกเขาภูคาจะสายมาก

เถรกวาดลาน พระภิกษุ สามเณร ตื่นกันตั้งแต่เช้า มากวาดเศษใบไม้ในบริเวณวัดรวมทั้งระเบียงที่อยู่หน้าโบสถ์นี้ด้วย

พระอาทิตย์ขึ้นที่วัดภูเก็ต หลังจากที่เรามาถึงที่วัดภูเก็ตประมาณ 6 โมง เราก็จัดแจงขาตั้งกล้องเลือกมุมสวยๆ แล้วก็รอเวลา จากนั้นแสงยามเช้าก็โผล่ขึ้นมาให้เราได้ชม จากนี้ไปเราก็เก็บภาพกันไปเรื่อยๆ แทบจะไม่ได้คุยกันเพราะไม่อยากพลาดนาทีสำคัญที่สวยงามนี้ เจ้าอาวาสเล่าว่า วันไหนโชคดีพระอาทิตย์จะโผล่ขึ้นมาเป็นดวงกลมๆ สีแดง และมีทะเลหมอกหนากว่าวันนี้ แต่สำหรับเรา ที่เราได้มายืนตรงนี้ สัมผัสกับลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามา โดยมีแสงสวยๆ ตรงหน้าเป็นเพื่อน เราก็ประทับใจสุดๆ แล้ว

ภาพสวยๆ เหล่านี้จะยังคงปรากฏให้เราได้เห็นอีกนานเท่านาน แต่คนไทยจำนวนมากมายคงไม่เคยได้ยินชื่อวัดภูเก็ต และไม่รู้ว่า วัดภูเก็ตมีอะไรดี แต่รู้มั้ยว่า ชาวต่างชาติรู้จักวัดแห่งนี้ และมายืนรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ ใกล้ๆ กับเราเลย หลังจากภาพชุดนี้ออกไปแล้ว คิดว่าต่อไปคนคงจะเต็มระเบียงไปหมดแน่ๆ ^-^

หลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้นสูงแล้ว เราจะพาชมบริเวณอื่นๆ ของวัดที่วันแรกเราไม่ได้เดินกันสักเท่าไหร่ เพราะเรามาช่วงเย็นมากแล้ว ตรงนี้เป็นบริเวณทั้งหมดที่อยู่ด้านหน้าโบสถ์ ระเบียงที่เราไปยืนชมวิวก็คือจุดที่ไกลสุดของภาพ ด้านซ้ายมีหอระฆัง ด้านขวามีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลายอย่าง ทางวัดจัดเตรียม กาแฟ โอวัลติน มาม่า เอาไว้ให้ เติมน้ำร้อนดื่มกินได้ฟรี จะพักที่นี่หรือเดินทางมาจากที่อื่นก็หยิบชงได้ตามสบาย แต่เราๆ คงไม่กินของวัดฟรีๆ หรอกจริงมั้ย ก็ทำบุญตามศรัทธาไป

จากระเบียงชมวิวหน้าโบสถ์ มีบันไดทางเดินลงมาชั้นล่าง ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้น ประกอบไปด้วยศาลาธรรม สำหรับการปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิวิปัสสนา เดินลงไปชั้นล่างอีกก็จะเป็นห้องพักสำหรับนักปฏิบัติธรรม หรือนักท่องเที่ยวจะมาขอพักก็ได้เช่นกัน เป็นห้องพักแบบเทมเปิลสเตย์ Temple - stay ศัพท์คำนี้ได้ยินมาบ้างเหมือนกันแต่ไม่เคยเห็นกับตาขนาดนี้ เทมเปิลสเตย์ นั้นมาทีหลังจากโฮมสเตย์และฟาร์มสเตย์ ซึ่งปกติคงจะมีจำนวนคนน้อยที่จะเลือกพักแบบนี้ เพราะถึงยังไงที่นี่ก็ยังคงเป็นเขตของวัดหลายคนกลัวทำตัวไม่ถูกที่จะมาพักที่วัด ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็เพียงเคารพสถานที่ให้มากๆ เท่านั้นเอง

ศาลาธรรมของวัดภูเก็ต ที่อยู่สูงบนเขา มองออกนอกหน้าต่างก็เห็นเทือกเขา จึงได้นามว่า อาคารกัมมัฏฐานลอยฟ้า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺญมหาเถร ป.ธ.๙)

บันไดนาควัดภูเก็ต เดินลงมาจากอาคารเรื่อยๆ เราก็จะมาอยู่ที่เชิงเขา ปกตินอกจากจะจอดรถไว้ลานจอดรถที่ประตูวัดแล้ว จะขับลงมาจากเขาแล้วเดินขึ้นจากตรงนี้ก็ได้เหมือนกัน แต่คงไม่ค่อยมีคนทำกัน

พอเดินออกมากลางท้องทุ่ง ถึงจะมองกลับไปเห็นวัดภูเก็ตที่เป็นอาคารสูงหลายชั้นได้หมดร่องน้ำที่เราเห็นเป็นคอนกรีต เพื่อการชลประทานมีปลาชุกชมมองเห็นได้แม้จะอยู่บนระเบียง ท่อ PVC ยาวจากบนระเบียงส่งตรงถึงลำธารที่อาศัยของพวกปลา หรือจะลงมายืนให้อาหารที่ริมธารก็ได้เหมือนกัน

เครื่องเงินแบบโบราณ พอสายๆ หน่อยเราก็จะเห็นช่างดุนลายเครื่องเงิน มานั่งทำงานโดยมีค้อนกับลิ่มตอกลงไปบนแผ่นเงินบางๆ ให้เป็นลวดลาย แกจะนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งวัน นักท่องเที่ยวมาเที่ยววัดภูเก็ตมาเห็นก็ซื้อกลับไป แต่งานแบบนี้กว่าจะได้แต่ละชิ้น ค่อนข้างนานเลยละ เราก็ขอจบการนำเที่ยววัดภูเก็ตเอาไว้เท่านี้ก่อน ถ้าได้กลับมาอีกเราจะมาอัพเดตกันใหม่

รีวิว วัดภูเก็ต น่าน

---

 "มันฟินมากที่ได้มาวัดนี้ มากี่ครั้งก็ยังสวย วันนี้วัดภูเก็ตสวยมากเพราะมีร้านกาแฟ ตูบนากาแฟตั้งอยู่
ภาพ www.suriyaporntour.com "

Akkasid Tom Wisesklin
2017-09-27 11:48:59

---

 ""

Akkasid Tom Wisesklin
2016-12-26 08:26:24

---