ต้นดิกเดียมวัดปรางค์

ต้นดิกเดียมวัดปรางค์ ต้นดิกเดียม ต้นไม้อะไรใครรู้ดูประหลาดผิดธรรมชาติ พันธุ์พฤกษาน่าฉงน แค่เห็นเป็นต้นไม้หันหลังให้แดดหันหน้า เข้าวัดก็แปลกเหลือหลายอยู่แล้ว แต่ใครจะเชื่อว่าต้นไม้ ประหลาดต้นนี้เป็นต้นอารมณ์ขัน ใบไม้จะไหวสั่นทุกครั้ง ที่ถูกคนสัมผัส วันเวลาที่แนะนำต้นดิกเดียม สามารถไปชมได้ทุกวัน แต่ไม่ควรไปลูบคลำเนื่องจากในประเทศไทยมีอยู่ต้นเดียว เจ้าอาวาสที่วัดท่านจะลูบให้ดู

การเดินทางจากจังหวัดน่านเดินทางด้วยทางหลวงหมายเลข 1080 และ 1256 สู่อำเภอปัว ก่อนถึงตัวอำเภอเล็กน้อยมีทางแยกซ้ายเข้าสู่วัดปรางค์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของต้นดิกเดียม

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. ภาคเหนือ เขต 2 โทร. 0-5371-7433, 0-5374-4674-5

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานแพร่ (แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) โทรศัพท์ 0 5452 1127
http://www.tourismthailand.org/phrae

แก้ไขล่าสุด 2017-02-09 04:33:48 ผู้ชม 13484

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

หลวงตากับประชาชนจำนวนมากที่มาขอพบ วันนี้หลวงตารูปนี้ได้ต้อนรับแขกนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนหลายสิบคนที่เดินทางกันมาเที่ยวจังหวัดน่านและขอเข้าชมต้นดิกเดียม ต้นไม้ประหลาดที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย ความประหลาดที่ว่ากันว่าเป็นต้นไม้อารมณ์ขัน ใบไม้จะไหวสั่นทุกครั้ง ที่ถูกคนสัมผัส หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า บ้าจี้ วันนี้ทัวร์ออนไทยได้เดินทางมาพิสูจน์ความประหลาดดังกล่าวถึงที่วัดปรางค์ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงก่อนทีมงานของเรามีมากถึง 5 รถตู้ หรือเกือบๆ 50 คน นั่งฟังธรรมบรรยายจากหลวงตาที่ได้ให้ความรู้ด้านพุทธศาสนา และเมตตา ให้พรประชาชนที่มาในวันนี้อยู่ที่กลางลานกว้างหน้าอุโบสถวัดปรางค์ บริเวณที่ต้นดิกเดียมขึ้นอยู่

พิสูจน์ต้นดิกเดียม ประชาชนจำนวนมากที่มาในวันนี้หลายคนพยายามพิสูจน์ความประหลาดของต้นดิกเดียมว่าจะลูบให้ต้นไม้ชนิดนี้เคลื่อนไหวได้หรือไม่ ลักษณะของต้นดิกเดียมที่แปลกอีกอย่างหนึ่งคือมันจะเอนลำต้นไปทางโบสถ์ ทั้งๆ ที่ไม่มีต้นไม้อื่นๆ มาเบียด ซึ่งปกติธรรมชาติของต้นไม้ถ้าถูกต้นไม้อื่นเบียดมันจะเอนลำต้นหลบอย่างช้าๆ แต่ต้นดิกเดียมเป็นต้นไม้ที่ขึ้นอยู่กลางลานกว้างไม่มีต้นไม้อื่นใด แต่ก็ยังเอนลำต้นจนเกือบจะล้มลงอย่างที่เห็น

พิสูจน์ต้นดิกเดียม หลายๆ คน ทุกเพศทุกวัยที่มาวันนี้ต่างก็พยายามลูบคลำเจ้าต้นดิกเดียมบริเวณลำต้นเท่าที่จะเอื้อมไปถึง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนเปลือกไม้ต้นดิกเดียมจะเป็นมันเงาเฉพาะบริเวณที่มีคนไปลูบคลำกันมาก ไม่ว่าจะลูบกันนานเท่าไหร่หรือว่าลูบกันท่าไหน ต้นดิกเดียมต้นนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับ จนหลายคนบอกว่าเฉพาะคนที่มีบุญเท่านั้นที่ลูบต้นดิกเดียมแล้วต้นไม้ขยับได้ ในระหว่างการทดลองก็พยายามสังเกตุใบไม้ของต้นไม้ชนิดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกันเพราะเกรงว่าการขยับอาจจะเกิดขึ้นเพราะแรงลมก็เป็นได้

หลวงตาลูบต้นดิกเดียมขยับ หลังจากที่เวลาผ่านไปร่วมสิบนาที นักท่องเที่ยวและทีมงานทัวร์ออนไทยหลายคนที่พยายามลูบต้นดิกเดียมและไม่มีทีท่าว่าจะขยับอยู่นั้น หลวงตาที่ให้พรนักท่องเที่ยวเสร็จแล้วก็รับนิมนต์จากทีมงานของเราเดินมาลูบต้นดิกเดียมให้ชมเป็นบุญตา ทันทีที่หลวงตาลูบเจ้าต้นดิกเดียมนี้ก็สั่นไหวอย่างแรง ทั้งๆ ที่ต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณนี้ทั้งหมดต่างก็อยู่นิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นที่น่าเชื่อว่าต้นดิกเดียมจะขยับหากผู้ที่มาลูบเป็นผู้มีจิตใจสะอาดผ่องใส หรือถือศิลเป็นสรณ เพราะไม่ว่าคนอื่นๆจะลูบยังไง เจ้าต้นไม้นี้ก็นิ่งเฉยตลอดเวลา อันนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ควรพิสูจน์กันด้วยตัวเองให้เห็นกับตาครับ

หลวงตาวัดปรางค์ เนื่องจากในวันนี้ท่านเจ้าอาวาสวัดปรางค์ติดกิจธุระข้างนอก หลวงตารูปนี้จึงอยู่ต้อนรับนักท่องเที่ยวแทนครับ สนใจอยากพิสูจน์ต้นดิกเดียมอยู่ไม่ไกลจากสามแยกอำเภอปัว มีซอยเข้าซ้ายมือซอยเล็กๆ เขียนว่าต้นดิกเดียม และป้ายที่เขียนว่า วัดปรางค์ หากมาจากตัวเมืองน่านแยกจะอยู่ซ้ายมือ เส้นทางนี้สามารถไปชมต้นชมพูภูคาที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาไม่ไกลจากสามแยกอำเภอปัวมากนัก ดังนั้นหากที่เที่ยวภูคาหรือผ่านมาทางนี้ลองแวะชมต้นดิกเดียมวัดปรางค์ได้ครับ